มุกร้อยพันใจ

10.0

เขียนโดย bavaree

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 20.12 น.

  3 ตอน
  2 วิจารณ์
  4,293 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2560 20.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอนที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ครืด…ครืด…ครืด…ครืด….

คืนนี้เป็นคืนที่สามแล้วที่ดาวฤกษ์ได้ยินเสียงนี้เวียนอยู่รอบเตียง!!!

มันจะเริ่มจากตรงกลางปลายเตียงในเวลาตีหนึ่งสามสิบแปดนาที…เวลาเดิม…และตำแหน่งเดียวกันทุกคืน! จากนั้นเสียงครืดหนักๆเหมือนใครเอาของแข็งลากไปกับพื้นเป็นจังหวะๆ ค่อยๆวนไปทางด้านขวาของเตียงช้าๆ จนมาติดผนัง มันจะหายไปชั่วครู่ ก่อนจะเริ่มใหม่อีกครั้งโดยลากยาว……ครืดดดดดดดดดดดด…เป็นจังหวะเดียว เสียงนั้นดังอยู่เหนือหัวเขาลากยาวจากหัวเตียงด้านหนึ่งไปยังหัวเตียงอีกด้าน ก่อนที่มันจะค่อยๆวนไปทางซ้ายของเตียงจนกลับไปที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง และอีกสักครู่มันก็จะวนไปตามทิศทางเดิมอีกครั้งจนครบรอบ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งแสงแรกแห่งรุ่งอรุณเริ่มต้น เสียงนั้นก็จะค่อยๆ เบาลงๆ และจางหายไปพร้อมกับแสงตะวันอันเจิดจ้าและความคึกคักยามเช้าของเมืองกรุง

คืนแรกที่เขาได้ยินมัน…เป็นคืนแรกที่เขากลับมาจากเที่ยวเกาะแสงงาม คืนนั้นเขายังไม่แน่ใจว่ามันเป็นเสียงจริงหรือฝันไปเพราะเขาเหนื่อยมาก หลับไปตั้งแต่หัวค่ำ จนกระทั่งกลางดึกเขาได้ยินมัน แต่มันยังเลือนลาง เขาอยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้ยินมันเป็นจังหวะๆ แต่เสียงนั้นไม่คมชัดและไม่สม่ำเสมอเหมือนเวลาฟังวิทยุที่บ้านต่างจังหวัด สถานีวิทยุส่งคลื่นมาได้เป็นระยะๆ ขาดๆหายๆเป็นช่วงๆ บางครั้งก็ได้ยินชัดเจนดี แต่อีกครั้งกลับเหมือนว่าเสียงอยู่ไกล ไกล ออกไป บางครั้งก็เหมือนมีคลื่นซ่าๆรบกวน แล้วเขาก็ต้องโยกเสาอากาศหรือถือวิทยุเดินไปมาเพื่อหาตำแหน่งที่รับคลื่นได้คมชัดที่สุด เช้านั้นเขาตื่นสายกว่าปกติ นึกถึงเสียงแปลกๆเมื่อคืน แล้วก็ปัดมันออกไปจากความคิดอย่างรวดเร็วเพราะต้องกระเด้งตัวให้ไปทำงานทัน

แล้วดาวฤกษ์ก็ไม่ได้นึกถึงมันอีกทั้งวัน เขาไปทำงาน ตกเย็นก็ไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้ๆคอนโดตามปกติ ทานข้าวเย็น อาบน้ำ นอนเล่นเฟซบุ๊คบนเตียง อัพเดทความเคลื่อนไหวของเพื่อนๆในอินสตราแกรมนิดหน่อย ก่อนค่อยๆผล็อยหลับไป แล้ว…เขาก็ได้ยินมันอีกครั้ง! คราวนี้ได้ยินมันชัดเจนมากกกก มากจนเขาตื่น!...ใช่เขาตื่น! ไม่ได้ครึ่งหลับครึ่งตื่นเหมือนคืนแรก คืนนี้เขามีสติการรับรู้ดี เสียงครืด..ครืด..ยังคงเป็นจังหวะๆ เขาลืมตาขึ้นมาในความมืดใต้ความนุ่มของผ้านวมผืนใหญ่ที่ปิดหน้าปิดหัวอยู่พอดี มือถือคู่ใจคาอยู่บนอก คงเล่นมือถือจนหลับไปตามเคย เขาค่อยๆยกมือขวาอย่างช้าๆ ระมัดระวัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องระวังอะไร แต่สัญชาตญาณมันสำเหนียกถึงความผิดปกติ ความน่ากลัว และอันตราย! พลิกมือถือขึ้นมาดู เวลา 01.38 …. อ่า…ลมเย็นๆ พร้อมกลิ่นเค็มๆ เหนียวๆของไอทะเลพัดโชยเข้ามาใต้ผ้าห่มเหมือนที่เขารู้สึกยามนอนเล่นรับลมทะเลริมหาดที่เกาะแสงงาม มันไม่ใช่ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศแน่ๆ! เขาขนลุกซู่ หัวใจเต้นแรง นอนนิ่งๆลืมตาโพลงอยู่ในความมืดใต้ผ้าห่ม ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์อันแปลกประหลาดปนสยองในคืนนี้ดี

เขาได้แต่นอนนิ่งอกสั่นขวัญแขวนอยู่อย่างนั้น เหงื่อไหลซึมตามขมับ แผ่นหลัง แม้ว่าจะเปิดแอร์เย็นฉ่ำ 20 องศาเป็นประจำอยู่ทุกคืน นอกจากเสียง..ครืด..ครืด..ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องไปยาวนานราวกับจะไม่มีอะไรหรือใครหยุดมันได้ เขาก็ไม่เห็นความผิดปกติอย่างอื่น แต่อย่างว่าล่ะ…เขาไม่เห็นอะไรเลยนอกเหนือจากลวดลายผ้านวมที่คลุมตัวอยู่! จนกระทั่งแสงแรกแห่งอรุณรุ่งเวียนกลับมาอีกครั้ง เสียงสุดหลอนนั้นก็ค่อยเบาลง เบาลง จนเงียบหายไป เขารออีกเกือบนับชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่ามันหยุดแล้วจริงๆ จึงค่อยๆเอามือเปิดผ้านวมขึ้นอย่างช้าๆ หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนค่อยๆปรับสายตาเข้ากับแสงเรืองรองที่ทอลอดผ่านหน้าต่างบานใหญ่ในห้องนอน

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม!

ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมก่อนเขาหลับไป ทีวีจอแบนเครื่องเล็กยังคงแขวนไว้บนผนังปลายเตียง เอกสารและหนังสือต่างๆยังคงวางกองทิ้งบนโต๊ะทำงานข้างหัวเตียง เขาขยับแขนขาด้วยความเมื่อยขบเพราะเป็นเวลาหลายชั่วโมงทีเดียวที่ได้แต่นอนนิ่งๆไม่กล้าขยับตัว ลุกขึ้นมานั่ง เขายังรู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นแรง ก่อนกวาดสายตามองพื้นข้างเตียงรอบด้านช้าๆ….เหมือนเดิม มันยังคงเป็นพื้นลามิเนตลายไม้อย่างเดิม ไม่มีร่องรอยขีดข่วนหรือร่องรอยที่บ่งว่ามีการใช้ของแข็งลากครูดไปกับพื้นจนได้ยินเสียง…ครืด..ครืด..

แล้วสิ่งที่เขาได้ยินมันคืออะไร?

ดาวฤกษ์เอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง ก่อนค่อยๆหย่อนเท้าทีละข้างลงบนพื้นช้าๆ เบาๆ ราวกับว่าหากเท้าเขาแตะพื้นแล้วพื้นตรงหน้านี้จะยุบทะลุไปยังห้องด้านล่าง เขาค่อยๆวางเท้าลงช้าๆ จนเต็มฝ่าเท้า ทีละข้าง ให้แน่ใจว่าพื้นไม่ยุบหรือไม่มีอะไรมาดึงขาได้อย่างที่ระแวง ก่อนค่อยๆยืดตัวขึ้นยืนอย่างช้าๆ เอาเท้าเคาะพื้นสลับไปมาอยู่สองสามครั้ง กระโดดไปมากระทืบเท้าแรงๆอยู่อีกสองสามครั้งจนแน่ใจ ก่อนเดินไปรอบๆเตียงช้าๆจนมาหยุดที่หัวเตียงอีกด้าน เขาเอามือไปแตะหัวเตียงทีละน้อยๆ ก่อนค่อยๆไล้มือจากหัวเตียงด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง

ทุกอย่างยังเหมือนเดิม!

แล้วสิ่งที่เขาสัมผัสได้เมื่อคืนมันคืออะไร?

เขาสลัดศีรษะไปมาสองสามที ไม่ใช่แก้ง่วงเพราะโสตประสาทยังตื่นตัวเต็มที่ แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเขาตื่นอยู่จริงๆ ไม่ได้ฝันไป เขาเดินไปที่ปลายเตียงหยิบรีโมททีวีที่อยู่บนตู้สีดำเตี้ยๆวางติดผนังห้องอีกด้านสำหรับวางของกระจุกกระจิก ใกล้ๆกันมีเปลือกหอยสีนวลขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือที่เขาเก็บได้และเอามาเป็นที่ระลึกจากเกาะแสงงาม แดดยามเช้าที่ทอลอดหน้าต่างห้องนอนเข้ามาตกกระทบเปลือกหอยในมุมที่พอดี ทำให้มันดูสว่างเหมือนมีแสงเรืองรองออกมารอบๆตัวมัน

‘เออ เวลาโดนแสงสว่าง มันก็ดูมีออร่าดีแฮะ’

เขานึกในใจก่อนกดปุ่มเปิด ทีวีที่แขวนบนผนังเหนือตู้เตี้ยนั้นก็วาบขึ้น รายการคุยข่าวยอดนิยมยามเช้าตรู่ยังมีตามปกติ เขากวาดตามองไปรอบห้องเล็กๆอีกครั้ง เหตุการณ์ในเช้านี้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เขาได้แต่เริ่มกิจวัตรประจำวันอย่างงงๆ

“เฮ้ย…เป็นไรวะไอซัน ดูง่วงชิบ เมื่อคืนไปทำไรมา” ไอต๋องเพื่อนที่นั่งทำงานโต๊ะติดกันทักขึ้นในยามบ่ายพร้อมชะโงกหน้ามาหาผม…ทำหน้ามีเลศนัย

‘เวลานี้ปกติก็ง่วงอยู่แล้วป่ะวะ แล้วยิ่งเมื่อคืนไม่ได้นอน ตาเลยจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่’

“เออ .. ง่วงชิบหาย แม่งไม่ได้นอนเลยทั้งคืน” ดาวฤกษ์หรือซันตอบเสร็จก็ยกกาแฟดำแก้วที่สองของวันดื่มอีกอึก

“ไปทำไรมา…บอกมาซะดีๆ” ต๋องลดเสียงต่ำ ตาจ้องที่เพื่อนสนิทอย่างกรุ้มกริ่ม

“เฮ้อ.. เรื่องมันยาวว่ะ” เขากำลังชั่งใจว่าจะเล่าให้มันฟังดีหรือไม่ดี

“โห…ยาวทั้งคืนเลยหรอ” ต๋องทำเสียงดัง ตาโต จนพี่อรโต๊ะใกล้ๆหันมามอง

“อะไร ยาวๆ และทั้งคืนจ้ะน้องต๋อง น้องซัน” พี่อร..รุ่นพี่สุดเก๋าในแผนกส่งเสียงหวานข้ามโต๊ะมาพร้อมกระพริบตาปริบๆบ่งบอกความอยากรู้สุดๆ

“เอ่อ..ไม่มีไรฮะพี่ อย่าไปสนไอต๋องมันเลย ไร้สาระน่ะพี่” เขาตื่นตัวขึ้นมาฉับพลัน

“แหมม.. มึง มีของเด็ดๆละเก็บเงียบเชียวนะ” ไอต๋องชักไปกันใหญ่ล่ะ

“เออ ไม่มีไรเว้ย…กู…กู…แค่ดูซีรีส์เกาหลีน่ะ”

จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้เล่าให้ต๋องฟังอยู่ดี

เขาเปิดประตูห้อง ชะโงกเข้าไปมองด้านใน ทุกอย่างก็ยังเละเทะเหมือนเดิม เหมือนก่อนออกไปทำงาน ก่อนเอื้อมมือไปกดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตู เขากวาดตามองไปทั่วห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก่อนก้าวเข้าห้องและปิดประตู

เขาเก็บรองเท้าไว้ในตู้รองเท้าที่อยู่ข้างประตูด้านขวา เดินไปมุมครัวเล็กๆที่อยู่ข้างประตูด้านซ้าย วางกระเป๋าและห่อข้าวที่ซื้อมาจากร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำอย่างส่งๆไว้บนโต๊ะสี่เหลี่ยมขนาดสองที่นั่งที่อยู่ถัดไปจากมุมครัว เปิดตู้เย็นหยิบโค้กกระป๋องที่แช่ไว้เย็นฉ่ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่เพื่อเรียกความสดชื่น

‘เหนื่อยชิบหายวันนี้ ง่วงด้วย’

เขาเดินไปที่โซฟาขนาดสองที่นั่งตัวเดียวในห้อง วางโค้กกระป๋องไว้บนโต๊ะเล็กหน้าโซฟา เอนหลังพิงโซฟายกขาสองข้างขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะเล็กนั้น หลับตาไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

‘ง่วง’

เป็นความรู้สึกในเย็นวันนี้ เหนื่อย ง่วง จนไม่มีแรงจะไปวิ่งที่สวนสาธารณะใกล้ๆตามเคย

'คืนนี้มันจะมาอีกไหมวะ’

ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมา

‘เออ…มันจะมาอีกไหมวะ’ เขาลืมตาโพลงขึ้นมองเพดานทันที ความง่วงงุนหายไปฉับพลัน

‘จะเอาไงดี?’

ดาวฤกษ์ถามตัวเองในใจ กลัวไหม?…กลัวดิวะ มันไม่ใช่ปรากฎการณ์ธรรมชาติแน่นอน แต่อยากรู้ไหม?…ก็อยากรู้ จะปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ทุกคืนๆไปเรื่อยๆ ก็คงไม่ไหว จิตของเขาไม่แข็งพอ ว่าแต่ตอนนี้จิตของเขาแข็งพอจะรู้แล้วหรอ?

เขาได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาบนโซฟาตัวนั้น ในที่สุดผมก็ตัดสินใจได้

‘เอาวะ เป็นไงเป็นกัน ต้องรู้ให้ได้ว่ามันคืออะไร!!’

ตัดสินใจได้เขาก็ลุกขึ้นมาเปิดไฟทุกดวงในห้องให้สว่างไสว ทานข้าวเย็นให้อิ่มเต็มที่ อาบน้ำให้สดชื่นปลอดโปร่ง เปิดม่านหน้าต่างให้สุด ก่อนล้มตัวลงนอนในผ้านวมผืนใหญ่อุ่นสบาย

22.00 น. ยังลืมตาอยู่

เขาตะแคงตัวไปทางด้านหน้าต่างห้อง จ้องมองออกไปไกลในสีดำของฟากฟ้าเมืองกรุงยามนี้ พระจันทร์ดวงกลมโตแจ่มกระจ่าง…คืนนี้..พระจันทร์เต็มดวง

‘พระจันทร์เต็มดวงในท้องฟ้าเมืองกรุงก็สวยเหมือนกันแฮะ’

เขาจ้องมองพระจันทร์ดวงนั้นก่อนค่อยๆผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ครืด…..ครืด…..

เสียงผิดธรรมชาติปลุกเขาขึ้นมาจากภวังค์หลับใหล เขาลืมตาขึ้นมาพบกับความมืด เขาแน่ใจว่าเขาเปิดไฟไว้ทั้งห้องก่อนผล็อยหลับไป

‘มันมาจริงๆ คืนนี้มันมาจริง’

ครืด….ครืด…..

สายตาของเขายังตกกระทบกับพระจันทร์กลมโตดวงเติมแต่มันลอยสูงขึ้นไปกว่าเดิม

ครืด…ครืด…ครืด…..

เสียงหลอนปริศนายังวนเวียนอยู่ที่ด้านปลายเตียง ลมเย็นพร้อมกลิ่นไอทะเลพัดมาวูบหนึ่ง เขารู้สึกได้แม้อยู่ในผ้านวมผืนโต หายใจไม่ทั่วท้อง ขนลุกชันจากปลายเท้าไล่ตามกระดูกสันหลังมาจนถึงต้นคอ ตัวเกร็งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ความคิดภายในใจต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง

จะปล่อยไป..หรือจะหันไปพิสูจน์??

ครืด….ครืด…..

เสียงประหลาดยังคงอย่างต่อเนื่องราวกับท้าทายความอยากรู้อยากเห็นของเขา คราวนี้เขาได้ยินมันชัดมากขึ้น ใกล้มากขึ้นๆๆ ความกลัวและความอดทนมาจนถึงขีดสุด ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว เป็นไงเป็นกัน!

ตัดสินใจได้ดังนั้นเขาก็หันหน้าขวับกลับไปยังด้านปลายตียง พร้อมผุดตัวขึ้นมาอยู่ท่านั่งในทันที เบิกตาโพลงเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ปลายตียงด้วยความตกตะลึงสุดขีด!

                                            

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา