อยู่เพื่อรักเธอ

-

เขียนโดย Sane

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เวลา 10.51 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,447 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560 12.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) แค่เงาจันทร์ในน้ำ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     สายลมเย็นพัดเบาๆ ผ่านลุงวินมอไซค์ที่นั่งรอรับผู้โดยสารอยู่ข้างถนนเพียงพัดผ่านแค่วูปเดียวทำเอาหนาวไปถึงกระดูดใกล้ฟ้าสว่างแล้ว เช้าๆแบบนี้หน้าหนาวมันทรมานดีแท้ลุงวินมอไซค์บ่นแต่เช้าสายตามองไปที่คนที่จะเดินออกมาจากซอยผู้ใช้บริการมอไซค์แกแน่ๆ ร่างหญิงสาวคล้ายคนไร้สติเดินโซเซแทบล้มสภาพผมเผ้ารุงรังสวนชุดนอนบางไม่ใส่แม้แต่รองเท้ารองชุดนอนบางๆชั่งท้าท้ายลมหนาวในยามใกล้เช้าแบบนี้เหลือเกิน "เอ้ยสาวเมาเหล้ารึป่าวว่ะ  ดูคุ้นๆตา"ลุงวินถามเพื่อนวินมอไซค์ด้วยกันที่นั่งรอผู้โดยสารสามสี่คน ไม่นานหญิงสาวก็เดินเข้ามาใกล้ สภาพเธอดูไม่น่าจะเป็นผู้โดยสารก้มหน้าก้มตาบ่นพึมพำคนเดียวค่อยๆใช้มือเกาะมากับรั้งบ้านหลังสุดท้ายทางออกซอย "หนูเอ้ย นั่งวินไหมให้ไปส่งแถวไหนไหม หนูๆ หนูๆ"ลุงวินร้องเรียกย้ำหลายครั้ง ไม่มีการตอบสนองจากหยฺงสาว เธอยังคงก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไปคล้ายว่าที่เดินอยู่นี้เป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาญ ถึงจะเป็นช่วงเวลาใกล้หกโมงแล้วแต่วันนี้ฟ้าก้อยังมืดไฟข้างถนนยังคงสว่าง บรรยากาศถนนวันนี้มันชั่งเงียบ ไม่มีแม้รถผ่านสักคัน "ฉันต้องไปๆ หนี ฉันรับมันไม่ได้ ไปต้องไปจากที่นี้"จันทร์เจ้า หญิงสาว วัย25 ที่เมื่อวานนี้เธอยังคงสวยสง่าแม้จะร่างเล็กเรียวบางแต่ก้อดูน่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว แต่ตอนนี้สภาพไม่ต่างอะไรจากคนบ้าเดินไปตามถนนผมยาวรุงรังใบหน้าสวยตอนนี้เต็มไปด้วยรอยน้ำตา หลังจากหมดสติมาทั้งคืนจันทร์เจ้าก็ได้สติตอนเกือบสว่างและสิ่งแรกที่ทำหลังพื้นคือเดินออกมาจากบ้านฝืนแบกร่างกายที่แทบไม่มีแม้เรียวแรงเดินออกมาทั้งๆที่ไม่ใส่แม้แต่รองเท้าหลายเรื่องที่ได้รับรู้และเกิดขึ้นเมื่อวานมันหนัก หนักจนจิตใจเธอทนรับไม่ไหวสิ่งเดียวที่คิดได้คือเดินหนีต้องไปที่อื่น ความรู้สึกท้อหาทางออกของปัญหาไม่ได้เพิ่มพูน เจ็บแน่นเข้าไปทั้งหัวใจแทบจะไม่อยากหายใจความรู้สึกผิดหวังนี้ไม่อาจหาอะไรมาทดแทนมันได้ การหักหลังจากคนที่รักที่สุดอย่างแฟนและสาวเพื่อนสนิทมันเกินกว่าใจน้อยๆของเธอจะรับมันได้ แบบนี้คงจะเตรียมการณ์กันมานานเป็นหลายเดือนเลยสินะ ทั้งที่บ้านแฟนพ่อแม่เค้าไหนจะคนที่บริษัท ทุกคนเลยสินะทำไมทำกับเธอแบบนี้หญิงสาวยิ่งคิดยิ่งน้อยใจผิดหวังหนักเข้าไปอีก ไม่ไหวแล้วฉันเดินต่อไปไม่ได้แล้วร่างเล็กบางไร้เรี่ยวแรงค่อยทรุดลงนั่งที่ใกล้สะพานข้างถนน เวลานี้ฟ้าก้อยังไม่สว่างสายตายมองลงไปยังน้ำที่เอ่อล้นริมตลิ่งหลอดไฟริมทางถนนข้างสะพานดวงกลมโตส่องสะท้อนลงไปยังน้ำมองดูคล้ายดวงจันทร์มีแสงระยิบระยับ ยิ่งมองน้ำตาก็ยิ่งหลั่งไหลไม่หยุด ชั่งคล้ายกลับตัวเธอเสียจริง จันทร์เจ้าที่เคยลอยอยู่บนฟ้าบัดนี้มันกะลังจะจ่มลงในน้ำแล้ว ทำให้คิดถึงอดีดที่ผ่านมา จันทร์เจ้านางสาวจันทร์ เสน่ห์นภา สาวผู้เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาจากสถานสงเคราห์ ชีวิตวัยเด็กของเธอชั่งเหน็บเหนื่อยเหลือเกินต้องแข่งขันกันตลอดเวลาเพื่อโอกาสของหลายๆอย่างที่ตัวเองขาดหาย สังคมการเลี้ยงแบบร่วมกับคนอื่นร้อยพ่อพันแม่มีปัญหาให้ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดเสมอมันทำให้เธอกลายเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นมากถ้าทำอะไรแล้วจะทุ่มเทแบบสุดๆบ้างครั้งออกจะเจ้ากี้เจ้าการ บงการให้ได้ดั่งใจด้วยช้ำ และมันก็ทำให้เข้ากับเพื่อนที่สถานสงเคราะห์ไม่ได้เลยจันทร์เจ้าเลยต้องเติบโตขึ้นมาแบบไม่มีเพื่อน แต่การตั้งใจเรียนของเธอก็ช่วยผลักดันเธอและลบปมด้อยได้ดีไม่น้อย อย่างน้อยก็มีคนรับเธอเป็นบุตรธรรมสั่งเสียให้จบ ป.ตรีจนสำเร็จ ต่างจากหลายคนที่บ้านสงเคราะห์ ที่ต้องปิดมาได้หลายปีแล้วเพราะมูลนิธิโดนสั่งให้ปิดไปรวมกับอีกที่จังหวัดใกล้เคียง พอคิดมาถึงตอนเรียนมหาลัยหญิงสาวก็เจ็บจิ๊ดขึ้นมาได้แต่ปล่อยให้ร่างนอนมุดตัวลงไปกับพื่นโดยไม่สนว่าจะสกปรกหรือไม่ ขดตัวกอดเข่าน้ำตาเช็ดหัวเข่า"อยากหายไปอยากตายไปเหลือเกิน"เสียงสั่นมาจากปากเบาๆ หลายครั้งแล้วที่เธอนั่งอยู่ที่ข้างสะพานแห่งนี้ ตายตอนนี้ก็คงไม่เป็นภาระใครแม่บุญธรรมก็เสียชีวิตแล้วคงไม่มีใครมาสนใจคนแบบเธอหรอก จากไปของเธฮก็คงเป็นแค่ละอองฝุ่น รู้สึกแย่จริงในยามที่ล้มลงเจ็บช้ำแบบนี้มองหาใครสักคนกลับเจอแต่ความว่างเปล่า ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วที่เธอไม่เคยมีเพื่อนที่สนิทกันจริงๆสักคนหลายคนเข้ามาก็ผ่านไป จนเธอได้มาพบกับ สกาย เพื่อนร่วมคณะทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทั้งคู่สนิทกันจนความรักมันงอกงามตามสูตรรักมหาลัยสวยงาม ดั่งเป็นนิยายความฝันจากคนเก็บตัวก็กลายเป็นคนมีสังคมช่างพูดช่างเจรจา มีไลฟ์สไตล์โด่ดเด่น เธอดูเด่นมากในสังคมของสกายแฟนเธอ ใครเห็นต่างพากันอิจฉาสกายกันทั่วหน้า พ่อแม่สกายเองก็รักและเอ็นดูจันทร์เจ้ามากชีวิตมหาลัยจึงไปด้วยความสุขของหญิงสาวจนเธอตัดสินใจจะฝากชีวิตและอนาคตไว้กับสกายแฟนของเธอ จนถึงแม้ครั้นบริษัทประกันของพ่อสกายมีปัญหาการเงินยอดขายประกันตก เธอก็อาสาออกเงินลงทุนช่วย โดยขายที่ดินพร้อมบ้านแม่บุญธรรม มรดกและทรัพย์สินเพียงชี้นเดียว เปลี่ยนเป็นเงินเอาไปลงทุนช่วยบริษัทพ่อสกาย โดยได้ถือหุ้นสามสิบเปอร์เช็น และเงินที่เหลือบ้างส่วนยังซื้อบ้านหลังสวยให้เธอและสกายไว้เป็นเรือนหออีก มาถึงช่วงก่อนเรียนจบพ่อแฟนป่วยบริษัทประกันก็แย่แต่ไม่เกินความสามรถ จันทร์เจ้า เธอและสกายเข้าไปรับช่วงงานต่อจากพ่อสกายและด้วยความทุ่มเทและมุ่งมั่นของเธอได้สร้างชื่อเสียงให้บริษัทประกันให้กลับมาน่าเชื่อถืออีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นระบบเซลล์ขายประกัน รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบทะลุยอดจาก ประกันชีวิตครบเซ็ต ผลงานไอเดียของจันทร์เจ้า ทำให้บริษัทพื้นตัวกลับมาพยุงตัวเองได้อีกครั้ง

     เรียนจบเข้ามาทำงานบริษัทพ่อแฟนแบบเต็มตัว กับบทบาทผู้บริหาร เธอก็เฉิดฉายสวยสง่าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เป็นที่เคราพของคนในบริษัทเป็นอย่างมากทำงานกับเธอต้องเพอร์เฟคละเอียดหยิบ ผิดกับสกายหลังจากเข้ามาช่วยงานตั้งแต่เรียนมหาลัยอยู่ก็ออกลายเกเร พูดมากกว่าทำ ทำตัวเจ้ายศเจ้าอย่างใช้ของติดหรูออกแนวชอบสังสรรค์เที่ยวกลางคืนอยู่บ่อยครั้ง สามปีมานี้เรื่องงานแทบไม่ได้ช่วยอะไรจันทร์เจ้าเลยจนกลายเป็นเกิดความอิจฉาในตัวจันทร์เจ้าค่อยๆเพิ่มพูขึ้นมาที่ล่ะนิดซึ่งเธอเองก็พอดูออกแต่ด้วยความที่เป็นแฟนกันเธอเลยไม่คิดจะใส่ใจและ เป็นฝ่ายเธอต้องคอยง้อคอยตามเอาใจสกายตลอด สุดท้ายจากการตามใจเธอก็ตัดสินใจผิดครั้งใหญ่เพราะความรักและไว้ใจ นิดา เพื่อนในกลุ่มก๊วนสมัยเรียน มาขอสมัครเป็นเลขาสกายแฟนเธอซึ่งเธอก็รับเข้าทำงานอย่างง่ายเพราะคำขอร้องของสกายแบบไม่ได้เอะใจอะไรเลยเพราะเธอเองก็ถือว่าสนิทสนมกับนิดามากพอๆกัน นิดาเป็นเพื่อนสกายมาตั้งแต่สมัย ม.ปลาย จะว่านิดาก็เป็นเพื่อนหญิงที่สนิทกับเธอที่สุดก็ว่าได้จึงเชื่อได้สนิทใจได้เลยว่าคงไม่มีเรื่องชู้สาวแน่นอน การตัดสินใจวันนั้นทำให้เธอต้องมานอนร้องไห้สะอื้นแบบนี้ โลกนี้ชั่งไม่ยุติธรรมกับเธอเลยเหตุการที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน วันที่ฟ้าตัดสินผลของการเชื่อใจและทำเพื่อคนที่เธอรัก ความจริงมันปรากฎ แผนการฆ่าเธอทั้งเป็นของแฟนเธอและครอบครัวของเขา เมื่อทศเพื่อนในกลุ่มของสกายมาเคาะห้องตอนหัวค่ำ วันนี้สกายไม่ได้มาที่บ้านเธอเขาออกไปสังสรรค์ตามเคย "จันทร์ๆ เปิดประตูให้หน่อย ไอ้สกายมันบอกให้ผมมารอที่บ้านจันทร์"ทศเดินเข้ามาในบ้านท่าทางลุกลี้ลุกลน ยังไม่ทันที่ทศจะนั่งลง เขาก็ตัดสิ้นใจลงมือทำในสิ่งที่ถูกบังคับจากสกายทันที ทศ ปรี่ตัวเข้ามาล็อกจันทร์เจ้าจากข้างหลังโดยที่เธอเองไม่ทันไปตั้งตัวผ้าที่มียาสลบตรงมาที่จมูกทันที่ หญิงสาวตัวเล็กแรงน้อยหมดทางสู้ คล้ายจะหน้ามืดแต่เดชะบุญจังหวะล้มตัวลงก็มีแรงเหวี่ยงตัวหลุดจากการกอดรัดของแขนทศ พอดี เธอไม่รอช้าหญิงสาวรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีเธอตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่จนตัวสั่น ในใจก็คิดหาทางติดต่อสกายให้ได้ ผ่านไปสักพักก็รู้สึกแปลกทำไมทศ เงียบไปไม่มีเสียงหรือการพยามบุกเข้ามาในห้องน้ำเลย ผ่านไปอีกเป็นชั่วโมง ทุกอย่างยังเงียบสงัด เธอจึงค่อยเปิดประตูห้องน้ำมองผ่านช่องเล็กดูข้างนอก ภาพที่เห็นทำเอาจันทร์เจ้า ตกใจร้องชื่อทศออกมาทันที ตอนนี้ทศนั่งคอตกร้องไห้ฟูมฟายคล้ายคนเสียสติมือกำขวดเหล้า หันหน้ามามองเธอแล้ว พูดว่าขอโทษ "ผมขอโทษ จันทร์ ผมขอโทษ ผมมันเลวผมมันไม่มีทางเลือก" ได้ยินแบบนั้นจันทร์เจ้างง เดินออกมาจากห้องน้ำนั่งลงเก้าอี้ ถามย้ำแล้วย้ำอีก อะไรกันๆ ทศก้มหน้าคอตกพูดขึ้น "ผมทำไม่ได้จันทร์ เธอไม่สมควรโดนแบบนี้ ไอ้สกายมันระยำ พ่อแม่มันพวก18มงกฎพวกมันหลอกลวงเธอ"อยู่ๆจันทร์เจ้าก็หน้าชาเหมือนรับรู้ได้ถึงเรื่องร้ายที่กำลังจะรับรู้ แต่ยังตั้งสติพูดด้วยเสียงสั่นเครือ "ทศเล่ามามันเรื่องอะไรกันแน่ เล่ามาให้หมด""ไอ้สกายกับพ่อมันบ้าไปแล้ว มันว่างแผนทำลายจันทร์ โกงหุ้นบริษัทลวงเอาทรัพย์สิ้นทุกอย่างของจันทร์ ชาติชั่วคิดแม้แต่วางแผนบังคับให้ผมมาข่มขืนจันทร์ ใส่ร้ายว่าจันทร์คบชู้ คิดจะให้จันทร์ไม่มีแม้แต่ทางกล้าพวกสู้มันหรือเรียกร้องอะไรทั้งสิ้น"ไม่มีทางนายเอาอะไรมาเล่าเรื่องบ้าบ้ออะไรทศ ไม่มีทาง มันไม่ใช่เรื่องจริง หญิงสาวร้องออกมาสุดเสียงหน้าเธอชาไปทั้งหน้า ตกใจสุดขีด น้ำตาหลั่งไหลออกมาไม่หยุด ก้มหน้าลงกับหมอนเสียงสะอื้นดังขึ้นเลื่อยๆ ทำให้ทศเองรู้สึกสงสารเข้าจับใจ บอกกลับตัวเองซ้ำๆว่าคิดถูกแล้วที่ไม่ลงมือรังแกเธอผู้หญิงตัวคนเดียวที่มาเจอกับความโหดร้ายของคนเห็นแก่ตัวครอบครัวนี้ เสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวที่ยังดังก้องในสถานการณ์อันโหดครั้งนี้ ภาพร่างบางเล็กขดตัวเข้าหากันบนเก้าอี้บ่งบอกได้ถึงความเจ็บปวดใจและผิดหวังมากเพียงใดจากการถูกหักหลังจากคนที่รักทีสุดรวมหัวกัน จะมีคนในโลกนี้สักกี่คนที่จะสามรถรับเรื่องนี้ได้ ถ้าเขาเองไม่ได้เคยล่วงเกินทำให้เธอตกใจไปแล้วเมื่อครู่ เขาเองก็อยากเข้าไปปลอบโยนให้ใกล้กว่านี้ ตอนนี้ทำได้แค่นั่งดูเธอห่างๆแน่นอนเขาต้องบอกทุกเรื่องที่เขารู้ให้เธอรู้ เผื่อมันจะช่วยเธอสู้กับพวกมัน "ทำไม ฉันทำอะไรผิด"เสียงสั่นเครือถามออกมาซ้ำหลายครั้งเหมือนพูดกับตัวเองลอยๆ ทำให้ทศเริ่มตั้งสติเล่าเรื่องเล่าต่างๆออกมา"จันทร์ไม่ผิดหรอกไม่เลยสักนิด พวกมันต่างหากพวกผู้ดีตกอับ ความจริงผมรู้เรื่องมานานแล้วแต่ผมมันคนขี้กลัวไม่กล้าบอกจันทร์จนทุกอย่างมันบานปลายมาขนาดนี้ ช่วงที่จันทร์เข้าทำงานในบริษัทใหม่ๆ เธอเองอาจทำงานยุ่งเลยไม่ทันสังเกตพ่อของสกายไม่ได้ชื่นชมไปทั้งหมดหรอก เขาป่วยเรื้อรังนอนอยู่กับบ้านจิตตกกลัวนั่นโน่นนี่ไปหมดยิ่งเห็นจันทร์ทำงานได้อย่างดียิ่งเกิดความกังวนใจ กับบทบาทจันทร์ในบริษัทเก่งกว่าสกายอย่างชัดเจนอำนาจตัดสิ้นใจมาอยู่กับจันทร์หมด จันทร์อาจไม่เคยคิดถึงข้อนี้ แต่กับคนแก่ที่กะลังจะตายห่วงทรัพย์สินโลภมาก มีเพียงการกำจัดจันทร์เท่านั้นที่มันจะทำให้ลูกชายที่ไม่ได้เรื่องของเขาปลอดภัยจากคนที่เก่งกว่าแม้จันทร์จะเป็นแฟนหรือว่าที่ลูกสะใภ้ก็ตาม นิดาคือคนที่เขาสามรถควบคุมได้ที่เขาเลือกให้มาเป็นเมียลูกชายเขาไอ้สกายมันหลงจนหัวปักหัวปร่ำ จันทร์เธอเลิกกับมันเถอะไอ้สกายมันไม่ใช่คนเดิมที่เธอรักแล้วเที่ยวเสพยา นิดาไปกับมันได้ตามใจมันทุกอย่าง พ่อมันก็ยุยง เธอนะคิดเรื่องกลับมาสู้เถอะนะจันทร์หุ้นเธอก็มีที่บริษัทประกันเพื่อนคนใหญ่คนโตก็มี อย่างเธอต้องชนะได้แน่ ผมรู้ว่าคุณรักไอ้สกายมันมากแต่มันทำถึงขนาดนี้พอเถอะจันทร์เอาคืนพวกมันให้สาสมเถอะ"สู้ เสียงเบาๆที่ออกมาจากผู้หญิงที่ซุกหน้าลงหมอน ร่างเธอยังคงสั่นเครือ"ฉันแพ้แล้วล่ะ ทศ ทุกอย่างมันเป็นแค่วินานภาพลวงตา ทั้งสกายคนที่ฉันรักและเชื่อใจที่สุดมากหลายปี ครอบครัวที่เด็กกำพร้าอย่างฉันใผ่ฝันอยากจะมี บริษัทประกันที่ฉันทำงานด้วยความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในธุระกิจที่จะสร้างอนาตคให้ครอบครัว ฉันทุ่มเทมากเลยนะหลายปีมานี้ทุ่มจนลืมมองคนใกล้ตัวภัยร้ายที่มากับว่าเชื่อใจ หมด หมดทุกอย่างสิ่งที่ฉันคิดว่ามีค่าที่สุดสำหรับฉัน โหดร้ายเหลือเกิน สกายนายเอาคืนทุกอย่างจริงๆ ทุกสิ่งที่นายเคยให้คนอย่างฉันมา ทศเธอรีบไปจากที่นี้ซะเถอะฉันคงเชื่อใจใครในโลกนี้ไม่ได้อีกแล้วแม้แต่เธอ ฉันขออยู่คนเดียว"หญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมองทศเพื่อนแฟนเธอด้วยสายตาที่เหม่อลอย พูดออกมาแบบนี้ก็ทำเอาทศตกใจเหมือนกันแต่เขาก็รู้ดีเวลานี้เธอต้องการอยู่คนเดียวจริงๆถึงมีเขาอยู่ก้อไม่ได้ช่วยอะไรเธอได้เรื่องที่เธอเจอมันร้ายแรงมาก"งั้นผมกลับก่อนนะ""เด่ว ฝากไปบอกสกายเพื่อนของเธอด้วย เขาและนิดารวมทั้งพ่อคงมีความสุขมากสินะกับทรัพย์สินที่ได้ไปทั้งหมดบริษัทประกัน บ้าน รถ ฉันไม่เคยต้องการมันเลยทุกอย่างเป็นชื่อของสกายมาตั้งแต่แรก แล้วทำไมนะฉันให้ได้ทุกอย่างกับพวกเขาเท่าที่ฉันมีแต่ดูสิ่งที่เค้าทำกับฉันสิ ฉันเสียทุกอย่างแม้แต่เพื่อนคนเดียวฉันก็ไม่เหลือชีวิตฉันเติบโตออกจากสถานสงเคราะห์ มาเข้ามหาลัยก็มีแต่พวกเขา เพื่อนก็เพื่อนของเขา ครอบครัวก็ของเขา วันนี้ฉันสูญสิ้นทุกอย่างจริงๆ"จันทร์เจ้าสาวน้อยที่ตอนอดกลั้นความเสียใจไว้ไม่ไหวแล้วลุกขึ้นร้องสุดเสียงระบายความเจ็บปวดที่สูญเสียของที่รักทุกอย่างของเธอหมด พร้อมชี้นิ้วไล่ทศออกจากบ้านให้รีบกลับ ตัวเธอเองไม่โง่พอเข้าใจเรื่องทั้งหมด แต่ตัวเธอเลือกที่จะไม่ยอมรับมันเอง ความสับสนอัดแน่นอยู่ในหัว รู้เพียงตอนนี้ต้องถามความจริงจากปากสกายแฟนของเธอมือที่สั่นพยามกดโทรหาสกายครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่สามรถต่อติดได้น้ำตาแห่งความเสียใจไหลมาไม่หยด แล้วเธอก็ลองโทรอีกเบอร์หนึ่ง เบอร์ นิดา เสียงโทรศัพท์ดัง ติ๊ดยาวแสดงว่าโทรติด "ฮาโลลล ดีค่ะเจ้านายผัวหรืออดีดแฟนกว่า ฮ่าๆ"น้ำเสียงที่พูดออกมา ทั้งดัดจริตทั้งเยาะเย้ย "โดนเข้าแล้วสิท่า ฮ่าๆ สมน้ำหน้าทำเป็นเก่งดีนัก"ตุบ เสียงโทรศัพท์หล่นลงโดนพรมที่พื่น หญิงสาวยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำแต่ถ่อยคำที่ตอบมา มันโหดร้ายเกินไปสำหรับเธอเองในตอนนี้ เข่าอ่อนทรุดลงร้องไห้กับพื้นตอนนี้เธอสุดกลั้นความเจ็บปวดไว้ได้แล้วนอนหมดสภาพร้องไห้อย่างกับคนบ้าคลั่ง เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น ทำเอาเธอสะดุ้งไขว้มาดู เรื่องจริงสินะ หมดแล้วทุกอย่างทุกอย่างชั่งโหดร้ายเหลือเกิน เสียงไลน์ครั้งที่สองดังขึ้นอีกคราวนี้เสียงที่ดังขึ้น เปรียบเสมือนคลื่นพายุในมหาสุมทรซัดเข้าปะทะร่างสาวที่ไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะทรุดตัว วูปดับสลบไปพร้อมกับความเจ็บปวดที่สุดแสนจะบรรยาย ร่างบางที่ไม่มีแรงแม้จะยืน ค่อยๆทรงตัวขึ้นมือน้อยค่อยๆเกาะราวสะพานไม่นานก็สามรถปีนขึ้นมายืนบนลาวสะพานได้ ฟู เสียงถอนลมหายใจยาว บ่งบอกถึงการ ยอมแพ้ต่อทุกอย่าง ของเธอ เหนื่อยเหลือเกินเจ็บปวดเหลือเกิน สายตามองตรงไปยังเงาไฟวงกลมในน้ำ ร่างบางก็กระโดดลงจากสะพาน จบสิ้นกันเสียทีความงดงามที่คล้ายเพียงเงาจันทร์ในน้ำยามค่ำคืน

    ห่างจากสะพานไม่มาชายวัยสามสิบรูปร่างสูงโด่ด ผมยาวรุงรังหนวดเคราเต็มใบหน้า เดินไปมาจ้องแสงหลอดไฟที่สะท้อนลงน้ำ ใช่แน่ๆทุกอย่างบอกเขาว่าตั้งเป็นที่นี้แน่ๆ เงาไฟที่สะท้อนแบบนี้ไม่ผิดแน่เขายืนอยู่ตรงนี้มาหลายชั่วโมงแล้วท่ามกลางอากาศตอนเช้าที่หนาวเน็บ"เฮ้ยนั้นไง"เค้าอุทานออกมาเมื่อสายตามองไปเห็นคนกะลังจะโดดจากสะพานลงสู่แม่น้ำชายหนุ่มวิ่งเต็มสปีคไปที่ริมแม่น้ำกระโดดลงไปช่วยอย่างสุดกะลัง                                            

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา