เงารักปมอดีต

-

เขียนโดย ดอกไม้หอม

วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 13.53 น.

  6 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,614 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 13.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เบาะแส แห่ง การหายไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เช้าวันต่อมาหลังจากที่พิมพ์หายตัวไป

ตำรวจเข้ามาตรวจค้นสถานที่ ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านถูกคนร้ายทำลาย สอบถามจากคนงานทุกคนก็ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ภายในห้องโฮมเธียเตอร์พบร่องรอยการต่อสู้ บริเวณทางเดินพบคราบเลือด ไม่พบลายนิ้วมือแฝง คาดว่าคนร้ายปิดบังโดยการใส่ถุงมือ ขณะที่ตำรวจกำลังตรวจค้นภายในบริเวณบ้าน นวลจันทร์ สาวใช้ได้อาศัยจังหวะหลบผู้คน เข้ามาบริเวณสวนหญ้าหน้าบ้าน เพื่อหาสิ่งของบางอย่าง

“อยู่ไหนแล้วนะ จำได้ว่าตกอยู่แถวนี้” หล่อนบ่นขึ้นเบาๆหลังจากหาของอยู่สักพักแล้ว

“กำลังหาอะไรอยู่ครับ” เสียงนายตำรวจหนุ่มดังเข้ามา ทำเอานวลจันทร์สะดุ้ง

“เปล่าๆค่ะ แค่ของตกนิดหน่อย ของไม่สำคัญอะไรค่ะ” นวลจันทร์พูดไม่ทันจบก็จะก้าวเดินหนีออกไป

“ของนั้น คือไอ้นี่หรือเปล่าครับ” ตำรวจหนุ่มพูด พลางชูโทรศัพท์มือถือชุ่มน้ำให้นวลจันทร์ดู

พอเห็นโทรศัพท์มือถือนวลจันทร์หน้าซีดเผือด เป็นเรื่องแล้วไหมละ

นวลจันทร์ เด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ พี่เลี้ยงน้องพุต บุคลิกดูซื่อๆ ขี้กลัว ไม่ค่อยที่จะสู้คน แต่เรื่องผู้ชายหล่อนไม่เคยถอย ใครมาจีบก็คบกับเขาไปเสียทุกคน แม้แต่แฟนของชาวบ้านก็ยังเคยมี

“ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆนะคะคุณตำรวจ คืนนั้นฉันไม่สบายนอนหลับตั้งแต่ตอนค่ำ มาตื่นตอนคุณต้นมาเรียกนั้นแหละค่ะ”

“คุณแน่ใจนะว่าคุณไม่รู้ไม่เห็นอะไร แล้วทำไมถึงมีภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นคุณออกมาจากห้องในเวลาไล่เลี่ยกับที่คุณพิมพ์หายตัวไปละ” ตำรวจเข่นถาม

“ฉันไม่รู้จริงๆค่ะ ฉันแค่ออกมา...” พูดไว้แค่นั้นนวลก็เงียบไป

“แล้วผู้ชายที่ออกจากห้องมาก่อนคุณ เขาเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ” ตำรวจเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านพักคนงาน เห็นชายคนหนึ่งเดินออกมาจากห้องของนวล สักพักนวลก็วิ่งตามออกมา

“นั้นมัน นายเมฆ คนงานที่พึงลาออกไปนี่ เขามาหานวลทำไม” ต้นถามนวลเมื่อเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด

“พี่เมฆเข้ามาคุยธุระกับนวลค่ะ”

“แล้วทำไมนวลต้องโกหกทุกคนว่าป่วยด้วย” ต้นเข่นถามเมื่อสังเกตุว่านวลมีเรื่องปิดบังอยู่

“นวลไม่ได้โกหกค่ะ นวลไม่สบายจริงๆนะคะ” นวลตอบแต่ยังก้มหน้าไม่กล้าสบตา

ปัง! เสียงคุณต้น ตบโต๊ะ นวลสะดุ้งสุดตัว พูดด้วยน้ำเสียงลนลาน

“นวลๆไม่อยากให้ใครรู้ว่า นวลกับพี่เมฆมีอะไรกัน นวลนัดพี่เมฆมาเจอที่นี่ นวลไม่อยากให้ใครรู้ว่านวลเป็นชู้กับพี่เมฆ นวลกลัวป้าแวว เมียพี่เมฆจะมาตบ” นวลพูดพลางร้องให้พลาง ต้องยอมรับความจริงหมดหนทางจะปกปิดแล้ว

“แล้วโทรศัพท์มือถือนี้ละของใคร ทำไมไปตกอยู่ตรงนั้น แล้วทำไมต้องทำลับๆล่อๆเวลาไปหาด้วย” ตำรวจถามนวลช้าๆ แต่สายตาจ้องเขม่นเพื่อหาความจริงในคำตอบ

“โทรศัพท์ของพี่เมฆค่ะ”

“พี่เมฆลืมไว้ที่ห้อง นวลก็เลยรีบวิ่งจะเอาไปให้ แล้วมีสายเมียพี่เมฆโทรมา นวลตกใจ เลยทำโทรศัพท์ตก พอดีตรงนั้นมันมืดและฝนก็ตกหนัก นวลหาเท่าไรก็หาไม่เจอก็เลยกะว่าจะมาหาตอนเช้าใหม่”

“แค่หาโทรศัพท์ทำไมต้องมีลับลมคมในด้วย” นายตำรวจยังคงซักถามต่อ

“คือ มันมีคลิปของนวลกับพี่เมฆอยู่ นวลกลัวใครมาเจอเข้า”

นี่แหละนวล ขี้กลัว แต่ก็ยอมเสี่ยงเพื่อให้ได้ผู้ชาย สุดท้ายก็หวาดระแวงเอง

“แล้วนายเมฆละ” ต้นสอบถามถึงนายเมฆ

“ตอนที่นวลไปถึง ก็ไม่เจอพี่เมฆแล้วค่ะ นวลก็ไม่รู้ว่าพี่เมฆออกไปทางไหน”

“นวลกับพี่เมฆไม่ได้เป็นคนทำร้ายคุณพิมพ์จริงๆนะคะ” นวลยืนยันเสียงแข็งว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง

ได้ฟังดังนั้น ทั้งต้นและตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อนวลจันทร์ แต่ที่นี่ๆนายเมฆอาจมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้

“นั้นก็ต้องเรียกนายเมฆมาสอบปากคำเพิ่ม ว่ามีส่วนรู้เห็นอะไรหรือเปล่า” ตำรวจหันไปพูดกับต้น

ที่สถานีตำรวจ หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ กว่าจะตามตัวนายเมฆมาให้ปากคำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ

นายเมฆกำลังโวยวายนวลจันทร์ ที่ลากเอาเขาไปเกี่ยวข้องกับคดีด้วย

“อะไรของคุณตำรวจนี่ ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น แล้วจับผมมาทำไม” นายเมฆยังคงโวยวายไม่หยุด

“ใจเย็นครับ ทางเราแค่ขอสอบปากคำ ยังไม่ได้จับคุณครับ” ตำรวจสุดแสนจะรำคาญในความกร่างของเมฆ

“เพราะแก คนเดียวเลยอีนวล พากูไปเกี่ยวข้องด้วย” นายเมฆหันไปต่อว่านวลจันทร์ที่พาดพิงถึงเขา

“ใช่ เพราะแกคนเดียว ที่มายุ่งกับผัวกู” เสียงทรงพลังของสาวใหญ่วัย 40 ปลายๆ ที่พึ่งเดินเข้ามาที่โรงพักทำเอาโรงพักแทบแตก แถมยังตรงเข้ามาจะตบ นวลจันทร์อีก คนนี่คือ ป้าแวว เมียนายเมฆ คนที่นวลจันทร์กลัว แต่ก็ยังลักลอบเป็นชู้กับผัวเขาอีก

“หนอย...เป็นชู้กับผัวกูยังไม่พอจะพาผัวกูเข้าตารางอีกนะมึง อยากโดนดีมากใช่ไหม” พูดพลางเอามือชี้หน้านวลจันทร์พลาง

ทุกคนในโรงพักพากันส่ายหน้า ต้องมาดูศึกแย่งผู้กัน โดยเฉพาะต้นไม่รู้วันนี้จะได้เรื่องอะไรหรือเปล่า

                พลันสายตาต้นก็เหลือบไปเห็นสายสร้อยข้อมือของป้าแววเข้า มันเหมือนของ พิมพ์ มาก

“อะไรของคุณนี่ มาจับฉันทำไม” ป้าแววโวยวาย เมื่อคุณต้นจับมือเพื่อดูสร้อยข้อมือที่ป้าแววใส่อยู่

“นี่คุณไปได้สร้อยเส้นนี้มาจากไหน”

“พี่เมฆ ผัวฉันซื้อให้สิ สวยใช่ไหมละ” สาวใหญ่ทำท่าระริกระรี่เหมือนสาวรุ่น ดูแล้วน่าหมั่นไส้

“แต่นี่มันสร้อยของพิมพ์ คุณตำรวจ ผมว่า ต้องสอบปากคำนายเมฆอย่างละเอียดแล้วละ” ต้นหันไปพูดกับตำรวจเจ้าของคดี พร้อมกับหันมามองนายเมฆ ที่ทำหน้าตาลุกลี้ลุกลนอยู่

นายเมฆ ชายหนุ่ม วัย 20 ปลายๆ เป็นสามีป้าแวว เจ้าของแผงผักในตลาด ที่ต้องแต่งงานอยู่กินกับป้าแววก็เพราะต้องการเงิน แต่นายเมฆก็ยังเจ้าชู้ไม่เลิก ชอบลักเล็กขโมยน้อย ทำงานกับต้นไม่ทันไรก็ลาออก

“ว่าไงนายเมฆ สร้อยเส้นนี้นายได้มาอย่างไง” ตำรวจสอบถามนายเมฆ หลังจากไล่สาวน้อยสาวใหญ่กลับบ้านไปแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงมีเรื่องตบตีกันจนไม่ได้สอบสวนนายเมฆ

“ผมซื้อมาสิคุณตำรวจ สร้อยแบบนี้มีขายออกเกลื่อนไป” นายเมฆพูดจบ พลางชายตาไปมองคุณต้นที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง

“สร้อยมีขายเกลื่อนแน่ แต่สร้อยที่มีจี้หยกสลักรูป ดอกพุด มีเส้นเดียวในโลก” ต้นปี่เข้ามาพร้อมยื่นสร้อยข้อมือให้นายเมฆดู

สร้อยเส้นนี้ ต้นสั่งทำเป็นพิเศษ ในวันที่น้องพุตคลอด จี้หยกรูปดอกพุด อยู่บนสร้อยข้อมือของพิมพ์ ของน้องพุตเป็นจี้หยกที่สร้อยข้อเท้า ส่วนของต้นเป็นสร้อยคอ

“ว่าไงบอกความจริงมาได้หรือยัง” เสียงตำรวจเจ้าของคดีถามนายเมฆ

วันเกิดเหตุ นายเมฆรีบวิ่งออกมาจากห้องของนวล ลัดเลาะไปตามสวนหลังบ้าน พลันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งขากระเผลกๆออกมาจากภายในบ้าน ผู้หญิงคนนั้นวิ่งตัดไปทางประตูรั้วหลังบ้าน แล้วสะดุดล้มลงก่อนลุกขึ้นเปิดประตูรั้วออกจากบ้านไป นายเมฆรีบวิ่งตามไป ก็เจอสร้อยข้อมือของผู้หญิงคนนั้นตกอยู่ จึงเก็บมาให้ป้าแววเพื่อเอาใจเมีย

“เรื่องที่ผมเล่าเป็นความจริงนะครับคุณตำรวจ ผมเก็บได้จริงๆและก็ไม่ได้ทำร้ายคุณพิมพ์ด้วย” นายเมฆเล่าเรื่องราวที่ตนเองเห็นในคืนวันเกิดเหตุ

“แล้วนายเจอใคร อยู่กับคุณพิมพ์อีกไหม” ต้นเป็นคนถามนายเมฆ

“ผมไม่เห็นใครอยู่กับคุณพิมพ์ครับ”

“แต่ตอนผมขับรถออกไป ผมเห็นรถตู้จอดอยู่ตรงทางโค้งก่อนถึงประตูรั้วบ้าน”

“ไม่รู้รถคันนั้นจะเกี่ยวกับคุณพิมพ์หรือเปล่า แต่สักพักรถนั้นก็ขับออกไป แล้วก็ไม่เห็นคุณพิมพ์อยู่บริเวณนั้นแล้ว” นายเมฆเล่าเหตุการณ์ที่เห็น

“แล้วนายจำยี่ห้อ ลักษณะ หรือทะเบียนรถได้ไหม” ตำรวจสอบถามนายเมฆหลังจากได้ข้อมูลใหม่

“โฮ่..เห็นจะทันสังเกตุครับ ตรงนั้นมืดก็มืด แถมฝนยังตกหนักอีก” นายเมฆปฎิเสธว่าจำรถตู้นั้นไม่ได้

“ออ... แต่ผมจำได้ว่า ข้างรถตู้ติด สติ๊กเกอร์ ของมูลนิธิ อะไรสักอย่างนี้ละ”

“มูลนิธิอะไรละ” เสียงต้นและตำรวจถามพร้อมกัน

“ผมจำไม่ได้ มูลนิธิอะไรพวกคุณก็ไปสืบกันเอาเองละกัน ผมรู้อะไรผมก็บอกไปหมดละ” นายเมฆตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเพราะเริ่มรำคาญ

รถตู้ของมูลนิธิอย่างนั้นหรือ อย่างน้อยข้อมูลนี้ก็พอเป็นเบาะแสในการตามหาตัวพิมพ์ได้บ้าง ว่าแต่มันเป็นมูลนิธิอะไรกันที่พาตัวพิมพ์ไป.

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา