Seven Sins

-

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 17.24 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,153 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 02.47 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ปาบที่1ความเย่อหยิ่ง(2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               "เอิ่ม..หรือว่าคุณจะเป็นลูกค้าคนใหม่ของผมงั้นหรอ แล้วคุณมาที่บ้านของผมได้   ยังไงครับ แต่ชั่งมันเถอะเรามาเริ่มงานกันเลยดีกว่า "

          เสียงทุ้มกระซิบข้างหู มือหนาลูบไร้ไปทั่วร่างของชายแปลกหน้าที่ตนคิดว่าเป็นลูกค้า

               “ อย่ามาถูกตัวข้านะ เจ้ามนุษย์ชั้นต่ำ ”

               อีเมอร์สันรีบสะบัดตัวหนี แล้วหันมาว่าต่อ นัยน์ตาสีเลือดสว่างวาบ

               “ เจ้าก็แค่อาหารว่างของข้าเท่านั้น อย่ามาถือวิสาสะจับตัวข้า ”

          ชายหนุ่มหยุดชะงัก คิดในใจว่า ‘นี่มันเรื่องอะไรกัน ตกลงชายคนนี้ไม่ใช่ลูกค้าของเขาอย่านั้นหรอ แล้วมาหาเขาได้ยังไง’ คำถามมากมายเต็มหัวของเขาไปหมด ทางด้านชายแปลกหน้าก็ทำสีหน้าโกรธจัด เหมือนคนตรงหน้าจะตั้งสติได้ก่อน แววตาแดงเดือดเมื่อครู่ตอนนี้กลับมาเย็นชาและเป็นประกายอีกครั้ง เขามองหน้าชายหนุ่มแล้วจึงเผยรอยยิ้มที่เหนือกว่า

               “ เจ้าน่ะมีค่ามากกว่าที่ข้าจะมากินทิ้งคว้าง ”

          นิ้วเรียวจับปลายคางของชายหนุ่มกดลง(เนื่องจากอีเมอร์สันเตี้ยกว่า*นิดหน่อย) ในขณะที่เขายังทำหน้ามึนงง ชายแปลกหน้ายื่นมือมาจับมือทั้งสองข้างของเขา พรึบ!!ปีกสีดำขนาดใหญ่สยายออก

          วูฟ!! เสียงลมดูด

               เพียงพริบตาเดียวทั้งสองก็มาอยู่ในสถานที่ใหม่ เตียงนอนสี่เสาทำด้วยไม้ชั้นดี ผ้าม่านสีเลือดนก ในห้องตกแต่งด้วยความเข้มของสีแดงและดำ ชายหนุ่มยังไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหนำซ้ำยังมึนหัวกับการหายตัวมาเมื่อครู่ ร่างการเซถลาไปบนเตียงกว้าง พออาการเริ่มดีขึ้นก็ตั้งคำถากับชายตรงหน้า

               “ที่นี่ที่ไหนแล้วคุณเป็นใคร ต้องการอะไรจากผม ถ้าเป็นเงินทองละก็ผมมีแต่ตัวเท่านั้นแหละ คุณจะเอามันไปก็ได้นะ ชีวิตผมมันไม่มีค่าอะไร ทุกวันนี้ก็ทำงานเป็นโฮสแทบจะไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำตาม แค่ทำแล้วได้เงินใช้ไปวันๆและมีชีวิตอยู่รอดก็พอ ”

          ชายหนุ่มพูดไปพลางน้ำตาคลอๆเหมือนจะตัดพ้อชีวิต แววตาของเขาไม่ได้จะขอให้ไว้ชีวิตเพียงแต่อยากละบายเท่านั้น สิ่งที่คิดอยู่ในใจเขายกมันออกมาไว้ข้างนอกแล้ว อีเมอร์สันมอง ปกติเขาจะสมเพชมนุษย์อยู่เสมอแต่กับชายคนนี้มันมีความสงสารปนออกมาในแววตาขของเขา “เขาสงสารมนุษย์คนนี้จริงๆหรอ” เขาไม่ปล่อยให้ความคิดนั้นอยู่ในหัวนานนัก รีบไล่มันออกไปแล้วกล่าวตอบว่า

               “ ข้าจะตอบคำถามของเจ้า ที่ละคำถาม ที่นี่น่ะคือบ้านของข้าและที่เจ้านั่งอยู่ก็เป็นเตียงของข้า”

          พอได้ยินคำนั้นชายหนุ่มสปริงตัวขึ้นจากเตียงทันที แต่ไม่นานก็เซล้มลงไปที่เดิม อีเมอร์สันแอบยิ้ม แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตนยิ้มทำไม เขาสะบันความคิดที่ว่าชายตรงหน้า‘น่ารักดี’ออกไป

               “ ที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่เพราะเจ้าคือ ‘อาหาร’ของข้า”

          ชายหนุ่มเบิกตากว้าง ชายตรงหน้าเห็นอย่างนั้นยิ่งได้ใจ เขาแสยะยิ้มออกมา จู่ๆชายหนุ่มก็พูดด้วยแววตาที่มีความหวังว่า

               “ อย่างนี้ผมก็ขออะไรคุณได้น่ะสิ เพราะคุณจะกินผมใช่ไหมละ ก็เหมือนหมูที่ก่อนจะถูกเชือดก็ต้องขุนอาหารให้มันใช่ไหมละครับ” เขายิ้มแต่ดวงตาไม่ได้แสดงออกแบบนั้นเลย                “ผมขออะไรคุณอย่างนึงได้ไหมครับ”

               “ได้สิ อะไรละ” อีเมอร์สันพูดแบบนั้นเพราะไม่ว่าจะอะไร เขาก็หามาให้ได้ทั้งนั้น เขายิ้ม

               “ช่วยทำให้มันสงบที” ชายหนุ่มพูดจบก็มองไปที่เป้ากางเกงของตน ขณะนี้สิ่งที่อยู่ในนั้นกำลังตื่นตัวอยู่ อีเมอร์สันหน้าแดงไปถึงหู

               “ละ..แล้วจะให้ฉันทำยังไงละ” เขาทำตัวไม่ถูก

               “ไม่ได้หรอครับแต่คุณบอกผมว่า ผมขออะไรก็ได้ ผมก็แค่อยากจะเอาออกก่อนตายน่ะครับ ไหนๆผมก็จะ…”

               “หยุดพล่ามสักที ได้!! เจ้าชอบผู้หญิงแบบไหนละข้าจะได้เรียกมาให้”

               “ผมอยากให้คุณทำให้”

               “ห้ะ!!” อีเมอร์สันโกรธจัด

          เขาทำหน้าหงอยเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ

               “ก็ไหนๆคุณก็จะกินผมอยู่แล้ว ไม่ลองชิมดูก่อนละครับว่าผมอร่อยไหม ถ้าไม่อร่อยคุณจะเอาไปทิ้งที่ไหนก็ได้” ชายหนุ่มอ้อน

               มันก็จริงที่ควรจะลองชิมก่อนแต่มันจะรู้รสของวิญญาณได้จริงหรอ อีเมอร์สันคิด

 

          ‘นิ้วเรียวค่อยๆปลดกางเกงชายหนุ่มออก ปึ๊ง!! แก่นกายแข็งดีดตัวออกมาทันที เขาบรรจงกอบกุมแท่งเอ็นไว้ในมือแล้วรูดขึ้นลงช้าๆ เริ่มเร็วขึ้นตามจังหวะ

               “เดี๋ยวครับ คุณอมเป็นไหม”

               “อะไรนะ เจ้าจะเรื่องมากเกินไปแล้ว”

               “ก็ดูคุณทำเข้าสิ กี่ชาติผมจะเสร็จครับ คุณไม่อยากกินผมเร็วๆหรอ ทำให้ผมเสร็จสักทีสิครับ อมมันซะ” พูดจบก็ยิ้ม

          อีเมอร์สันทำหน้ามุ่ยเหมือนจะไม่ทำแต่ก็ ค่อยๆใช้ปลายลิ้นเลียรอยต่อของลูกตุ้มไล่ขึ้นไปจนถึงปลายหัว ริมฝีปากจ่ออยู่ด้านบนแล้วค่อยกลืนกินแท่งร้อนอย่างช้า ๆ โดยเม้มริมฝีปาก รูดไปมาจนทั่ว ดูด และรูดเข้าไปในปากในเวลาเดียวกัน อีเมอร์สันไม่ได้อมลึกจึงทำให้มันผลุบเข้าผลุบออก แล้วเร่งความเร็วเป็นระยะ ชายหนุ่มเสียวซ่านสุดๆจนเผลอจับหัวของชายตรงหน้ากดลง                

               “อัก..อะ…แค่กๆ” อีเมอร์สันสำลักน้ำรัก นัยตาหวานเยิ้ม

               ชายหนุ่มจับใบหน้าของชายที่อยู่ตรงหว่างขาขึ้นมาประกบริมฝีปาก ลิ้นร้อนแทรกซอนไปตามไรฟัน ควานหารสหวานอย่างไม่ลดละ

          ตอนนี้ร่างของทั้งสองเปลือยปล่าวตั้งแต่เมื่อไร่ก็ไม่รู้ มือหนาลูบไร้ไปทั่วกายของร่างที่อยู่ด้านใต้ อีเมอร์สันไม่เหลือสติอยู่แล้วเขาถูกชายหนุ่มที่ทับอยู่ดึงสติไปจนหมด เรี่ยวแรงที่เคยมีหายไปหมด ชายหนุ่มเริ่มดูดดุนไปทั่วร่าง ทิ้งรอยสีกุหลาบไว้ ลากยาวามาถึงความเป็นชายของอีเมอร์สันเข้าใช้ปากครอบครองทันทีโดยไม่ฟังคำท้วงของชายด้านล่าง

                              .

                              .

 

               “ ฮ่า…อา…จะเสร็…..อะ”

               “ผมไม่ให้คุณเสร็จง่ายๆหรอกครับ”

          ชายหนุ่มยิ้ม จับขาทั้งสองข้างของอีเมอร์สันยกขึ้นแล้วเริ่มใช้ปลายลิ้นโลมเลียช่องทางหลังจนเปียกชุ่ม นิ้วหนาชอนไชเข้าไปในโพรงปากหยอกล้อกับลิ้นร้อนก่อนจะกลับลงมาซอดใส่ที่ช่องทางรัก

               “อ๊ะ!!..จะ…เจ็บนะ…ซี๊ด…อึก!!”

               “เสียงหวานจังครับ”

          เขาค่อยขยับนิ้วเข้าออกอย่างช้า พอเริ่มเข้าที่เขาก็เพิ่มนิ้วเข้าไปเลื่อยๆจนเข้าไปได้ทั้งสามนิ้ว

               “ผมจะเปลี่ยนเป็นของผมแล้วนะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็จ่อแท่งร้อนไว้ที่ปลายทางเข้า

               “ดะ…เดี๋ยวจะเจ็บไหม”

               “เชื่อใจผมสิครับ ผมไม่ทำให้คุณเจ็บหรอกครับ ไมต้องห่วงนะ ทำตัวตามสบายครับ”

               “อ๊ะ…อา...อึก…อื้อ”

               “ไม่ต้องกลั่นหรอกครับ ปล่อยมาสิครับ” เขาขยับเอวเร็วขึ้น อีเมอร์สันเองก็ส่ายสะโพกรับตามจังวะที่ชายหนุ่มสร้างขึ้น ถึงจะอายในเสียงที่เปล่งออกมาแต่มันรู้สึกดีเกินจะหยุดสิ่งที่ทำอยู่ ตอนนี้เขาไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น สมองมันว่างปล่าวไปหมด เห็นเพียงแต่ภาพรางๆของชายตรงหน้า'

ค่ำคืนที่เหน็บหนาว

               “อยากเข้าห้องน้ำจัง..” ชายหนุ่มเหลือบมองชายที่นอนหนุนแขนของเขาอยู่ มือหนาลูบเส้นผมสีน้ำเงินเหลือบดำอย่างเบามือ เส้นผมนุ่มสะยายไปตามมือ เขาเลิกเล่นแล้วพยายามดึงแขนของตัวเองกลับมาโดนไม่ให้คนที่หลับอยู่ตื่น

 

ชายหนุ่มเดินมาตามทางเพราะห้องของอีเมอร์สันไม่มีห้องน้ำ

               “แปลกจัง ห้องก็ใหญ่ แต่ต้องเดินมาเข้าห้องน้ำข้างล่าง เฮ้อ แล้วห้องน้ำมันอยู่ที่ไหนเนี้ย” ชายหนุ่มบ่นกับตัวเองแล้วเดินมาเลื่อยๆ

               “ อ้าว หลังบ้านหรอ คนในบ้านนี้เขาเดินหลงกันบ้างไหมนะ”

          เขามาโผ่ลที่ประตูหลังของคฤหาสน์เป็นแปลงกุหลาบ เดินไปตามทางหินอ่อนที่ปูทอดไปถึงศาลาหินสีครามตรงกลางสวน เขาเดินดูดอกกุหลาบในสวนเลื่อยๆ

               “เอ๊ะ กุหลาบสีสดจัง สดไปรึปล่าวนะ เหมือนมีใครเอาสีมาทาเลย” เขายื่นมือทำท่าจะจับ

               “หยุด!!” เสียงร้องทักดังขึ้น

          ชายหนุ่มหันไปทางต้นเสียง ชายแปลกหน้าสองคนยืนอยู่ที่ประตู คนหนึ่งรูปร่างผอมบางลักษณะคล้ายกับชายที่เขาพึ่งมีอะไรด้วย และอีกคนสูงกว่ายืนอยู่ด้านหลังรอยยิ้มของเขาสยองชอบกล

               “ ดอกไม้พวกนั้นเจ้ามองได้อย่างเดียว ถ้าแตะต้องเจ้าก็จะกลายไปเป็นดอกกุหลาบนั้นก่อนที่เจ้าจะรู้ว่าทำไมมันถึงได้เป็นสีแดงสดขนาดนี้” ชายผมยาวพูด

               “ ทำไมผมถึงจะไปเป็นดอกกุหลาบละครับ และทำไมมันถึงได้เป็นสีแดงสดขนาดนี้ครับ”

               “ หึๆ เจ้าเด็กนี้ไม่ได้เป็นแค่ วิญญาณที่บริสุทธิ์อย่างเดียว ยังซื่อบื้ออีกด้วย 555”           ชายผมยาวหัวเราะร่า แล้วเดินผ่านเขาไป ร่างโปร่งก็เดิมตามต้อยๆ ชายหนุ่มมนึกขึ้นว่าตัวเองกำลังหาห้องน้ำอยู่ จึงเอ่ยถามว่า

               “เอ่อออ ไม่ทราบว่าห้องน้ำไปทางไหนหรอครับ”

               “ไม่มีหรอกครับของพวกนั้น” ร่างโปร่งในชุดพ่อบ้านพูดขึ้น คำตอบทำให้ชายหนุ่ตกใจไปชั่วขณะ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาไม่ใช่มนุษยธรรมดาของแบบนั้นก็ไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาอยากเข้าห้องน้ำมากๆ

               “แต่ถ้าคุณอยากจะปล่อยจริงๆก็เป็นในสวนดอกไฮเดรนเยีย ด้านหน้าคฤหาสน์ก็ได้ครับ”

               “ห้องน้ำอยู่ด้านหน้าหรอครับ” ชายหนุ่มพูดน้ำเสียงดีใจ

               “ไม่มีหรอกครับ ของเสียที่คุณจะปล่อยออกมาเป็นน้ำใช่ไหมละครับ งั้นก็ไปลดน้ำให้มันสักหน่อยก็น่าจะดีนะครับ” ร่างโปร่งยิ้มปิดท้าย

          ชายหนุ่มเดินลัดด้านข้างมาหน้าของคฤหาสน์เพื่อไป ลดน้ำต้นไม้!!

 

ณ สวนไฮเดรนเยีย

               “ เอาจริงหรอเนี้ย!!” ชายหนุ่มมองพุ่มไฮเดรนเยียสลับกับเป้าของตน (***ไฮเดรนเยียเป็นไม้พุ่มสูง 60 -70 ซม.) “เอาก็เอา ตรงนี้แหละ” เขารูดซิปกางเกงลง งัดลูกชายออกมาแล้วปล่อยสิ่งที่อัดอั้นไว้จนหมด 

 

 


                           

                    เขียนทั้งวันได้แค่เนี้ย

                    ยังไงก็ฝากด้วยนะ

                    เรื่องใหม่อ่านสบายๆกำลังมา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา