MAYA มายา

7.3

เขียนโดย โชฒิกากราณ์

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 16.50 น.

  23 chapter
  0 วิจารณ์
  39.04K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 18.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) เงาอดีตที่พลาดพลั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

               

               เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกคนตัวบางให้ตื่นจากฝันในอดีต ความฝันที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่เธอรู้สึกถึงมันได้ รันลณีคว้าโทรศัพท์ที่โชว์หน้าชื่อของบุคคลที่เธอรัก ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มอีกครั้งอย่างหมดแรง รู้สึกล้าที่หัว แต่มันกลับเบาโล่งเมื่อบางอย่างที่ฝังอยู่ในความทรงจำได้ออกไป เธอรับรู้ถึงเรื่องราวที่ลืมเลือนไปอีกครั้ง เธอรู้แน่ชัดว่าตัวเองเป็นใคร และชัดเจนว่าสุดฝันคือเพื่อน เพื่อนรักของกันและกัน

              รันลณีเริ่มจำมันได้หลังจากพบกับจีน่า ไม้เบื่อไม้เมาของเธอตั้งแต่วัยเด็ก หลังจากที่เธอหลับไปในรถเพราะหัวของเธอกำลังจะระเบิดออก และมันชัดเจนขึ้นจนรู้ว่าไม่ใช่ความฝัน หลังจากตื่นขึ้นในห้องที่ไม่ใช่บ้านของตัวเอง

              หญิงสาวเด้งตัวลุกขึ้น ดื่มน้ำตามด้วยยาเม็ดสีขาวอย่างเป็นกิจวัต หากแต่เธอชะงักมือลงก่อนที่จะหย่อนยาเม็ดเล็กนั้นเข้าไปในปาก เธอเลือกที่วางมันลงบนโต๊ะ เมื่อความรู้สึกแปลกไปเกิดขึ้น

 

               กอดกันหน่อยสิรัน ดีใจจังที่เธอกลับมา

               ดีใจ ที่ได้เจอเธออีกครั้งนะ มาญา

 

              ตูด… ตูด…

 

              “รันจำได้แล้วนะ แม่” เสียงเรียบถูกกรอกลงไปหลังจากคนที่พยายามโทรหาเธอรับสาย อันที่จริงเธอจำมันไม่ได้ทั้งหมดหรอก

              มันมีบางช่วงที่เธอไม่สามารถจดจำมันได้จริงๆ นอกจากผู้เป็นแม่ของเธอเพียงคนเดียวที่รู้

 

              “รัน” แทนคุณเอ่ยปากทักคนตัวบางที่ตื่นแล้ว

 

              “มาญา”

 

              “…”

 

              “เป็นรันเอง ทุกอย่าง มันเกิดขึ้นเพราะ มาญาเอง”

             

 

 

 

            -Back Than-

 

              “เป็นแกใช่ไหม”

              “นี่ ทำไมต้องคิดว่าเป็นฉันตลอดเลยวะมาญา แกเคยเชื่ออะไรในตัวฉันบ้างไหม”

              “เคยเชื่อ แต่ก็เริ่มไม่อยากจะเชื่อแล้วตั้งแต่สองคนนั้นมันเลิกกันอ่ะ”

              “เลิกกันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันวะ”

              “เอาโทรศัพท์แกมา”

              “ไม่!”

              “เอามันมาให้ฉันดู ถ้าแกไม่มีความลับอะไรกับฉันฝัน”

              “ไม่ โอ๊ย ไอ้ญา เอาคืนมานะ” สุดฝันยื้อแย่งคนตรงหน้าอย่างสุดกำลัง แต่ก็ไม่ทันอีกคนที่ไวกว่า สุดฝันออกแรงวิ่งตามในทันทีที่รันลณีได้มือถือของเธอและวิ่งไป เรื่องราวที่เริ่มรุนแรงขึ้นเกิดจากความสัมพันธ์ที่แปรเปลี่ยนไประหว่างแม็กและฟ้าใส ฟ้าใสเล่าว่ามีข้อความของคนที่ไม่รู้จักส่งมาหาเธอก่อนวันสอบกลางภาค และมันทำให้เธอเสียสมาธิและเริ่มหวาดระแวงแฟนหนุ่มของเธอ แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องเป็นหัวข้อใหญ่ในกลุ่มที่ต้องช่วยกันแก้ไข และหาว่าใครคือคนที่ปั่นสถานการณ์จนทำให้ทั้งสองต้องเลิกกันท่ามกลางความกดดันของการสอบที่ไม่ควรเกิดขึ้นในช่วงนั้น

              และมีเพียงคนเดียวที่มาญาเริ่มสงสัย เมื่อสังเกตสุดฝัน คนที่เธออยู่ด้วยเกือบจะตลอดเวลา เพื่อนรักมีความลับบางอย่างอยู่ในโทรศัพท์เครื่องนั้น เธอพกติดตัวไปตลอดไม่ว่าจะไปที่ไหน ทั้งๆ ที่สุดฝัน ไม่ใช่คนประเภทที่ติดโทรศัพท์ มาญารู้ดี และก็รู้ดีอีกว่าเจ้าหล่อนเปลี่ยนไปเมื่อเริ่มตีตัวออกห่างจากเพื่อนในกลุ่ม และเธอรู้ว่าสุดฝันไม่มีทางเลิกรักอศวัตได้เช่นกัน

              มาญาหยุดวิ่งมองหาเพื่อนของตัวเองที่กำลังวิ่งมาทางนี้ พยายามปลดล็อกโทรศัพท์ที่ตัวเองจำได้ ก่อนที่เจ้าของโทรศัพท์จะมาถึง เธอจึงเริ่มตระหนักเมื่อรหัสผ่านไม่ถูกต้อง ซึ่งแสดงว่าเจ้าของได้เปลี่ยนรหัสผ่านไปแล้ว สุดฝันกำลังปกปิดบางสิ่งกับเธอหรือใครก็ตามอยู่ อย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ ความคิดแล่นออกไปเมื่อถูกเจ้าของแย่งไปจากมือ สุดฝันหายใจหอบถี่ๆ เมื่อวิ่งขึ้นมายังทางเดินโครงเหล็กเพื่อตามรันลณี อาคารกรองน้ำที่อยู่ทางด้านหลังของมหาวิทยาลัย เป็นที่ที่ไม่มีคนพรุ่งพล่านมากนัก ปรกติแล้วจะมีเพียงผู้ดูแลระบบน้ำประปาของมหาวิทยาลัยอยู่เพียงสองสามคนเท่านั้น แต่วันนี้กลับไร้ผู้คนและเงียบอย่างน่ากลัว

 

              “ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ” มาญาเอ่ยปากขึ้นสีหน้าที่ผิดหวังทำเอาคนตรงหน้าใจหล่นวูบ สมองที่วิตกและกังวลเริ่มแสดงออกทางคำพูดอย่างชะล่าใจ

              “มันไม่ได้มากมายอะไรนี่ ก็แค่อยากลองใจว่าฟ้ามันจะรักแม็กจริงๆ หรือเปล่า ก็เห็นแล้วว่าไม่”

              “ฝัน!!!” มาญาเริ่มโกรธ ไม่อยากให้มันเป็นจริงอย่างที่คิด แต่มันก็เป็นไปแล้วเมื่อคนตรงหน้าสารภาพออกมาโดยไม่ทันคิดอะไรเพราะความลนลานที่มีอยู่ ถ้าเธอมีสติสักนิดก็จะตระหนักได้ว่ารหัสผ่านของโทรศัพท์ที่เธอเปลี่ยนไม่มีใครรู้นอกจากเธอเอง

              “เอ่อ จะว่าอะไรก็ว่ามา จะด่าอะไรฉันก็ด่ามา แต่ทำไปแล้วจะให้ทำไงเล่า! แกจะให้ฉันไปสรภาพกับฟ้าใสกับแม็กกับทุกคนให้เกลียดกันไปเลยไหมล่ะ” สุดฝันตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง

              “อยากให้ทำแบบนั้นจริงๆ หรอ ได้” มาญาพูดเสียงเรียบ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อมองใบหน้าของเพื่อนรัก ความรักทำคนเปลี่ยนไป เป็นอะไรก็ตามได้อย่างน่ากลัวจริงๆ สินะ

              “แต่แกต้องสรภาพกับฉันมาก่อน ทั้งหมดเลย” สุดฝันยกยิ้มไม่มองคนตรงหน้าเพื่อเลี่ยงความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจ

              “ฉันบอกชอบแม็กแล้วนะ แม็กบอกว่ามันยังเร็วไปในตอนนี้ถ้าจะคบกัน เห็นไหม ยังไงแม็กก็ชอบฉัน”

              “มันไม่ได้ชอบแก เลิกละรานคนอื่นได้แล้วสุดฝัน! แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”

              “ชอบสิ ถ้าไม่ชอบก็ต้องบอกว่าไม่ชอบไปแล้วสิ”

              “อย่าหลอกตัวเองได้ไหม ถ้าชอบแกมันก็คบกับแกไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่แกออกปากบอกมัน หรือตั้งแต่มันเลิกกับฟ้าไปแล้ว แต่นี่มันเห็นแกเป็นเพื่อนไง มันไม่มีวันชอบแก มันไม่มีวันชอบแกถ้ามันรู้ว่าแกทำร้ายคนที่มันรัก”

              “…”

              “แกมันแย่ที่สุดเลย”

              “ญา… นี่ฉันเป็นเพื่อนแกนะ”

              “ก็ถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่ ก็ไม่อยากจะเป็นแล้ววะ” มาญารู้สึกเหมือนวูบลงกับพื้นเมื่อพูดจบประโยคนั้นที่ค่อนข้างกระทบกับจิตใจของคนตรงหน้า ความรู้สึกโกรธปะปนกับความรู้สึกถึงการกระทำที่ไม่ถูกต้องของคนตรงหน้า เธอแค่อยากจะเปลี่ยนให้มันถูกต้อง เธอแค่อยากให้เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น เธอแค่อยากให้สุดฝันกลับมาเป็นคนเดิม เพื่อนที่น่ารักและคิดบวกอยู่เสมอนั้น มันหายไปเมื่อถูกแทนด้วยอีกด้านที่ดำมืดของมนุษย์

               “แกโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรอ” สุดฝันน้ำตาไหลลงข้ามแก้ม ซึ่งไม่ต่างกับคนตรงหน้าสักเท่าไหร่

               “ฮึก…”

               “แกจะเกลียดฉันไหม ถ้าฉันยังเก็บแหวนของแม็กไว้อยู่”

               “ฉันจะเอาคืนแม็กจริงๆ นะ… หลังจากที่เราคบกันแล้ว…”

 

               เพี๊ยะ!!!

               เสียงสะอื้นดังขึ้นระงบตัดกับความเงียบในบริเวณรอบๆ สุดฝันหันหน้าไปตามแรงที่ลงมาเมื่อฝ่ามือของเพื่อนรักฟาดเข้าที่หน้าอย่างจังเมื่อสรภาพออกไป

               ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คงจบลง ณ ตรงนี้…

 

               “แม็กไม่ได้รักแก ไม่มีวันที่มันจะเปลี่ยนใจไปจากฟ้า”

               “ก็จะได้รู้… ว่ามันจะไม่เปลี่ยนใจได้ไหม”

               “แม็กไม่ได้รักแก ถ้ามันรู้เรื่องทั้งหมด”

               “…”

               “หรืออาจจะเกลียดแกไปเลยก็ได้ฝัน” มาญาหันตัวกลับ กำมือแน่นเพื่อปกปิดมือที่สั่นนั้น เสียใจที่ยั้งอารมณ์ไม่อยู่จนทำร้ายเพื่อนรัก โกรธที่ไม่สามารถเรียกสติและความถูกต้องจากคนตรงหน้าได้ เสียงรองเท้ากระทบกับแผ่นเหล็กที่ปูนั้นเสียงดัง สุดฝันรั้งเธอไว้ไม่ให้ไปไหน

               

               “ไม่เอา แกอย่าบอกแม็กนะ ขอร้อง ฉันขอร้องมาญา ขอร้อง ฮือๆ”

               “งั้นแกต้องสัญญากับฉัน สัญญากับตัวแกเอง ว่าจะไม่ทำเรื่องเลวๆ แบบนี้ สัญญาสิ พูดออกมา” สุดฝันพยักหน้ารัวๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม

 

               “ฉันจะรับไม่ได้จริงๆ ถ้าแกทำแบบนั้นอีก ไม่ว่ากับใคร”

               “ขอโทษ ขอโทษจริงๆ”

               “และอย่าพยายาม รักใครด้วยวิธีแบบนี้อีก” มาญาดึงแขนที่แกะนั้นออก เดินลงบันไดเหล็กสูงที่พาดผ่านบ่อน้ำหลายๆ บ่อเพื่อทำเป็นประปาของมหาวิทยาลัยนั้น โทรศัพท์กดหยุดเครื่องบันทึกเสียงที่เธอแอบบันทึกมันไว้ก่อนที่สุดฝันจะมาถึง มันจะเป็นประโยชน์ในอนาคตเมื่อเธอผิดสัญญา มันจะเป็นเครื่องเตือนใจและคำขู่อย่างดี มันจะถูกเก็บไว้เป็นความลับโดยที่ไม่มีใครรู้นอกจากเธอ และไม่ใช่เพื่อทำร้ายใคร

               

               ถ้าสุดฝันทำได้ เธอจะลบมันทิ้งไปในทันที

               

               เพื่อตัวแกเองนะฝัน… ฉันจะช่วยแกเอง…

 

               ข้อความถูกตอบกลับผู้เป็นแม่ที่ว่าเธออยู่ที่ไหนและกำลังไปหาเมื่อมารดารอคอยอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว รันลณีตัดสินใจโทรหามารดาเมื่อรู้สึกไม่สบายใจ หากแต่ยังไม่ทันที่จะกดโทรออก โทรศัพท์ในมือก็ถูกแย่งไปในทันที สุดฝันใช้กำลังที่มีกำโทรศัพท์เครื่องนั้นแน่น รู้สึกโกรธเมื่อรู้ว่ามาญาบันทึกเสียงไว้โดยบังเอิญ

               ไม่สิ โดยฟ้าดินเป็นใจ ให้เธอรู้ว่าเพื่อนคนนี้กำลังจะหักหลังเธอ!

 

               “เอาคืนมาฝัน”

               “คืนให้แกเอาเรื่องที่เราคุยกันไปให้คนอื่นฟังหรอ”

              “คิดงั้นหรอ งั้นก็ลบไปเลย ยังไงถ้าฉันจะบอก ฉันก็บอกได้โดยไม่ต้องใช้มัน” ด้วยความโมโหที่มี ทำให้มาญาพูดออกไปโดยไม่ทันคิดถึงจิตใจคนที่อยู่ตรงหน้า

              “แกบอกว่าจะไม่บอกใคร แล้วแกอัดเสียงไว้ทำไม แกจะหักหลังฉะ… กรี๊ด!!”

              “ฝัน!!!!” มาญาดึงร่างนั้นขึ้นมาเมื่อสุดฝันถอยหลังลนลานอย่างไม่ระวัง เกือบหล่นลงบ่อน้ำไหลที่อยู่ด้านล่าง สุดฝันทิ้งน้ำหนักตัวเองลงกับร่างบางที่คว้าเธอได้ แต่เหมือนที่เสาหลักที่เธอยืดไว้จะเล็กเกินไป เมื่อมาญาเซถอยหลังไปอีกฝั่ง

              ด้านที่ไม่มีแผงเหล็กกั้น

 

               กรี๊ด!!!!!!!

 

              เสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อร่างทั้งสองดิ่งลงกลางอากาศ มือทั้งสองขาดออกจากกันก่อนที่ร่างจะตกลงไป ฝาพลาสติกแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยแรงกระแทกบวกกับความสูงที่ร่วงลงมา

 

               ตูม!!!

 

               สองร่างดิ่งลงในของเหลวที่ต่างกัน

 

               มาญาพาตัวเองพ้นขอบน้ำ แสบตาจนเกือบลืมไม่ขึ้น หญิงสาวร้องของความช่วยเหลือแต่ก็ดังก้องแค่ภายในถังใบใหญ่ที่หล่นลงมาเท่านั้น อากาศข้างในมีน้อยมากจนรู้สึกได้เมื่ออยู่ในถังน้ำที่ไร้ออกซิเจน เมฆใสลอยเด่นอยู่ด้านบนเมื่อมองขึ้นไป มันไม่มีทางออกจากถังสีขาวขุ่นใบนี้ได้เมื่อภายในมีแต่ของเหลวที่ไร้สิ่งยึดเหนี่ยว

 

               เพราะเธอเองที่ทำให้ตัวเองมาพบกับจุดจบที่น่าเศร้า

 

               เพราะเธอเอง ที่พาเพื่อนของเธอมาพบเจอกับความตายที่ทรมาน

 

               มาญามองเห็นฝั่งตรงข้ามเธอ ร่างที่เลือนรางเหมือนเงาที่อยู่ในกระจกทึบกำลังดิ้นทุรนทุรายอย่างทุกข์ทรมาน ก่อนที่ร่างของเธอเองจะจมดิ่งลงสู่ด้านล่างอย่างรู้ดีว่า

               ปาฏิหาริย์ของความรักเท่านั้น ที่จะพาเธอให้พ้นจากความตายที่กำลังมาเยือนนี้

 

               อีกร่างจมอยู่ในของเหลวที่ต่างกันไป แต่รู้สึกทรมาน เจ็บปวด และรู้สึกถึงความตายมากกว่า เมื่อเนื้อหนังเริ่มพอง ยุ่ยออก และกัดเซาะเข้าถึงกระดูก สุดฝันดิ้นทุรนทุรายพยายามตะเกียกตะกายพาตัวเองขึ้นไปบนผิวน้ำ แต่ก็ทำไม่ได้ ทำไมเธอต้องมาพบกับจุดจบเช่นนี้ หรือนี่คือการบาปของเธอ

               มันยุติธรรมแล้วใช่ไหมกับสิ่งที่เธอควรได้รับ เพียงเพราะหัวใจที่บริสุทธิ์แปดเปื้อนเพราะความรัก ความรักที่พบเจอก่อนใครต่อใคร ที่คนอื่นคิดว่าผู้หญิงคนนั้นถูกต้องและเหมาะสม และเธอเป็นผู้ผิด

 

               หรือเธอโง่เอง ที่เลือกจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ…

               เธอรู้จักกับเขามาก่อน และเธอรักเขาตั้งแต่วัยเยาว์

               เด็กที่ยังไม่รู้จักความรักดีพอ แต่ก็เติบโตมาด้วยความรักที่มีแต่เขา

 

               ‘สัญญานะ ว่าจะแต่งงานกับแม็กคนเดียว’

 

               ‘อื้อ สัญญา’

 

               ภาพเด็กอายุเจ็ดขวบเกี่ยวก้อยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เด็กหญิงจะย้ายตามครอบครัวเข้ากรุงเทพ รักที่เธอผูกพันนำพาให้เธอพบกับเขาในอีกเจ็ดปีต่อมา

 

               ‘แม็กจำเราได้’

 

               ‘ใครจะไปลืม ยัยหน้าม้าเต่อ แถมยังขี้แงได้ลง’

 

               ‘ขอจองไว้ก่อนได้ไหม’

 

               ‘ห๊ะ’

 

               ‘จองฝันก่อนผู้ชายทั้งโลกเลย ห้ามมีแฟนนะ ฝันมีเราได้คนเดียว’

 

               แหวนที่ถูกเขียนด้วยปากกาสีน้ำเงินวาดลงบนนิ้วนางข้าวซ้ายของเด็กสาว หัวใจที่บริสุทธิ์ได้ฝังลึกว่าต้องเป็นเขาเพียงคนเดียว ก่อนทั้งสองจะถูกแยกกันอีกครั้ง และถูกลิขิตให้พบกันโดยที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป

 

               โดยที่เธอยังคงจำเขาได้ และหัวใจที่ยังคงเป็นเขา

 

               โดยที่เขาจำเธอได้ แต่หัวใจแปรเปลี่ยนไปเป็นคนอื่น

 

               เขาเคยพูดเสมอว่าเธอยังคงเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับเขา และเขาไม่เคยลืมเธอ

 

               ‘คิดถึงตอนเด็กๆ เหมือนกันเนอะ’

 

               ‘แกยังจำมันได้’

               

               ‘จำได้ตลอดแหละ ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง’

 

               ‘อยู่กันแบบนี้ไปนานๆ นะ’

 

               ‘แก เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลยนะฝัน ยัยขี้แยเอ้ย’ มือหนายีผมสวยนั้นจนยุ่งยู่ยี่ รอยยิ้มอบอุ่นแล้วจริงใจถูกมอบให้เธออย่างเสมอ

 

               ร่างนั้นดิ่งลงน้ำอย่างแน่นิ่งไป เสี้ยวหนึ่งก่อนที่สมองและหัวใจกำลังจะหยุดเต้นเธอขอเพียงว่า…

               ปาฏิหาริย์ของความยุติธรรมที่เธอได้รับเท่านั้น จะพาเธอให้พ้นจากความตายที่กำลังมาเยือน

               และความน้อยใจถูกสะสมจนกลายเป็นความโกรธแค้นที่ฝังลงลึกอยู่อีกด้านหนึ่งของจิตใจ จะนำพาเธอให้หายจากการทรมานนี้

 

 

               ‘ถ้าแกเป็นเมดูซ่า แกจะเลือกทำลายทุกคนไหม หลังจากที่ถูกสาป’ มือบางวางหนังสือเล่มใหญ่ลงบนโต๊ะ หลังจากอ่านจบเป็นครั้งที่สองของเดือนนี้ ‘แม่มดแห่งกอร์กอน’ ถูกจัดให้เป็นนิทานปรัมปราที่เธอและเพื่อนชอบ เธอซื้อมันเก็บไว้เมื่อเจอที่งานหนังสือแห่งชาติเมื่อนานมาแล้ว เมื่อจำมันได้ว่าเธอเคยอ่านมันตอนเด็กๆ มันถูกหยิบขึ้นมาในหลายๆ ครั้งเมื่อเจ้าตัวรู้สึกเบื่อ

               ‘ก็ถ้าเป็นนางเอกให้คนอื่นจดจำไม่ได้ ก็คงต้องร้ายให้คนอื่นจำนั่นแหละ’ เสียงใสพูดขึ้นก่อนที่เสียงหัวเราะของคนหมู่มากจะตามมาเมื่อคนเหล่านั้นคิดว่าเธอคิดอะไรแบบนี้เป็นด้วยหรือ

               เป็นสิ… จะมีใครที่จะคิดดีได้ตลอดชีวิต ตลอดเวลา ในเมื่อเธอคือมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีทั้งด้านดีและชั่ว…

 

               ‘เพราะถูกทำให้ร้าย ก็คงต้องร้ายให้สุด’

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา