สามี...ท่านมียางอายบ้างหรือไม่!

7.0

เขียนโดย สาวเพ้อฝัน

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.17 น.

  9 ตอน
  0 วิจารณ์
  10.07K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) ประสาน4.1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ประสาน

 

“ข้าบอกให้ท่านหยุด"

“ข้าหยุดไม่ได้นี่นา น้องหญิงเจ้านี่ช่างแปลกคนยิ่งนักมีภรรยาบ้านใดบ้างไม่ต้องการให้สามีแสดงความรักสนิทเสน่หาต่อตัวเอง”ฝ่ามือกร้านยังคงเล่นซุกซนอยู่บนต้นขา ในขณะที่นางเอื้อมมือลงไปเพื่อจะหยุดการกระทำของเขา

“ใครเป็นภรรยาท่านกัน อย่ามาทำเป็นปัญญาอ่อนสมองทึ่มไปหน่อยเลย ท่านกับข้าเขียนหนังสือสัญญาอะไรกันไว้ท่านก็รู้ดี” แกล้งทำปัญญาอ่อนเหรอจะใช้วิธีนี้กับเธอเหรอเลิกคิดได้เลย

“แต่ข้ายังไม่ให้เจ้าเริ่มงานนี่นา จำได้ไหมนั่นเป็นข้อแม้ในสัญญาของเรานะ อีกอย่างถึงยังไงตอนนี้เจ้าก็แต่งงานกับข้าแล้วอยู่ดีมิใช่หรือ น้องหญิงคงไม่อยากเป็นภรรยาที่ถูกทิ้งให้เฝ้าเรือนหอคนเดียวหรอกนะ?”

เขายกฝ่ามือผละออกจากต้นขาของนางก่อนจะลูบไล้ใบหน้านวลดวงน้อย สบเข้าไปนัยน์ตานาง แววตาและรอยยิ้มที่ปรากฎอยู่บนใบหน้าล้วนแฝงไว้ด้วยความคิดที่ไม่สัตย์ซื่อ

“ไม่ใช่ภรรยาทุกคนที่จะคิดเช่นนั้น อย่างน้อยๆหนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่ข้า!”นางพลิกใบหน้าหลบฝ่ามือของเขา “อีกอย่างข้ายอมเฝ้าหออยู่เดียวดายอย่างสบายใจ ดีกว่ามีคนประเภทท่านอยู่ข้างกายซะอีก”

เธอหันกลับมาสบตากับเขาก่อนตอบคำถาม เมื่อเขาได้ยินดังนั้นแววตาเขาก็หรี่ลงในขณะที่บนใบหน้าปรากฎรอยยิ้มมีเลศนัย

“จริงหรือ ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะเชิญชวนข้าทำไมแบบนี้ทุกเช้า นี่มิใช่ว่าน้องหญิงมีความต้องการมากผิดปกติหรอกหรือ?”เขายิ้มยียวนใส่นาง ในขณะที่มือของเขาก็คว้าเอาปอยผมของนางมาม้วนเล่นไว้

“เชิญชวนบ้านท่านสิ" อย่างนายนี่นะฉันจะเกิดอารมณ์ พิศวาสด้วย ขอโทษเถอะสเปคฉันน่ะฝรั่งย่ะฉันชอบของนอก ชายจีนอย่างนายเลิกหลงตัวเองไปได้เลย หมดสิทธิ์ย่ะ!

“น้องหญิงจะอายไปใยอย่างไรข้าก็ไม่ถือสาเจ้าหรอกหากเจ้าต้องการแต่ถ้าเจ้ายังอายเจ้าจะถือซะว่าข้าเป็นฝ่ายต้องการเอง อย่างนี้เจ้าจะได้สบายใจแล้วไม่รู้สึกผิดต่อตนเองดีหรือไม่เล่า?”

“นี่ท่าน ข้าไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อยนะ อย่าเอาสิ่งที่ตัวท่านเองเป็นคนคิดมายัดเยียดให้คนอื่นสิ"

“แล้วถ้าข้าคิดแบบนั้นจริงจะเป็นอันใดเล่าเพราะสุดท้ายเจ้าก็ยังเป็นภรรยาข้าอยู่ดี อีกอย่างข้าน่ะเข้าใจดีว่าการที่เจ้าจะหลงข้าพิศวาสข้านั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกสามีเจ้าทั้งรูปงาม สกุลก็ดี ค้าขายก็เป็นเลิศ วางตัวดีวาจาดีใครเห็นก็รู้สึกอยากที่จะมีไมตรีด้วยซ้ำยังเอาใจใส่ภรรยาเป็นอย่างยิ่งแล้วเช่นนี้จะไม่ให้เจ้าหลงรักข้าได้อย่างไรจริงไหม?”เขาอธิบายข้อดีของตัวเองซะยืดยาว ช่างเป็นคำพูดที่เลื่อนลอยที่สุดในชีวิตที่นางเคยได้ยินจริงๆ พูดจบก็ยิ้มตาหยีๆใส่นาง

“เฮอะ เกิดมาข้ายังไม่เคยเจอใครหลงตัวเองได้เท่าท่านเลยจริงๆ”

“ข้าเองก็ไม่เคยเจอภรรยาบ้านไหนเป็นแบบเจ้าเช่นกันในเมื่อเป็นเช่นนี้เจ้าไม่คิดว่าเราสองคนเหมาะสมกันดีหรือราวกับกิ่งทองใบหยก ข้าว่าการที่เราสองคนแต่งงานกันได้นับว่าเป็นชะตาฟ้าลิขิตอย่างแท้จริงนับว่าน้องหญิงทำบุญมาดียิ่งนักถึงได้แต่งกับชายอกสามศอกเช่นข้า”

 เขาพูดในขณะที่มืออีกข้างก็เลื่อนเข้าไปในสาปเสื้อของนาง หึกิ่งทองใบหยก ชะตาฟ้าลิขิตเหรอ ตลกมาก ทั้งๆที่เขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองแต่งงานกับฉันเพราะอะไรแท้ๆ

“ท่านเอามือท่านออกไปเดี๋ยวนี้นะ”

นางรัวหมัดเล็กๆทุบใส่เขา แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกสะเทือนอะไรเลยซ้ำยังไม่ฟังที่นางพูดยังล้วงเข้าไปในสาปเสื้อลึกขึ้นก่อนจะทาบมือไปกับเนินเนื้อหยุ่นนุ่มของนางผ่านเสื้อตัวในที่แสนบางนั้นไว้เต็มมือก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจแล้วกล่าวกับนางต่อว่า

“น้องหญิงข้าว่าของเจ้ามันออกจะเล็กกะทัดรัดเกินไปแล้วกระมัง แต่ไม่เป็นไรนะสามีเจ้าใจกว้างเรื่องแค่นี้ข้าไม่ถือสาหรอก ต่อไปนี้ข้าจะขุนเจ้าให้อวบขึ้นสักนิดก็แล้วกันจะได้จับแล้วรู้สึกได้บ้างว่าเต็มไม้เต็มมือข้า “เขายิ้มกล่าวอย่างยียวนในขณะที่มือซึ่งทาบอยู่บนหน้าอกของนางก็ออกแรงบีบน้อยๆทีสองทีเพื่อเป็นการย้ำเตือน

“ กรี๊ดด! ท่านๆคนหน้าไม่อายเอามือท่านออกไปนะ” นางพยายามยกขาที่ถูกหนีบไว้ขึ้นมาก่อนจะเตะเปะป่ายใส่ตัวเขา “ ใครอนุญาตให้ท่านมาแตะต้องของๆข้ามิทราบหะ ยังมีหน้ามาตำหนิของๆข้าอีก หน้าของท่านมันทำด้วยอะไรกันนะมันถึงได้หนาขนาดนี้ แล้วนั่นอีกท่านมีสิทธิ์อะไรจะมาถือสาของๆข้า ข้าจะบอกให้นะคำๆนั้นข้าควรจะเป็นฝ่ายพูดเองเสียมากกว่า”

“เจ้าหมายความว่าอะไร”เขาหรี่ตาลงกล่าวถาม

“เฮอะ ของๆท่านมีเท่านี้ยังมีน้ำหน้ามาว่าข้าอีก ข้าจะบอกท่านไว้อย่างนะดีกว่าท่านมากกว่านี้ข้าก็เคยเห็นมาแล้ว อย่ามาหลงตัวเองหน่อยเลยข้าไม่รู้สึกพิศวาสท่านสักนิด อย่างท่านมีอยู่แค่นี้อย่ามาเรียกชายอกสามศอกหน่อยเลย หึ"

นางจ้องหน้าเขาด้วยแววตาเย้ยหยันมุมปากเล็กๆที่ยิ้มเยาะนั่นก่อนกล่าวด้วยวาจาที่ไม่ว่าสามีหรือชายใดได้ยินล้วนต้องมีอาการเดียวกับเขาทั้งนั้น หน้าดำคร่ำเครียดและยังต้องหัวเสียกับคำพูดของนาง นี่นางกล้าพูดกับข้าแบบนี้เหรอกล้ามากนะ

“หึ เจ้ากล้าพูดเช่นนี้กับสามีข้าคิดว่าเจ้าช่างไม่ฉลาดเสียเลยนะน้องหญิง"เขากระตุกมุมปากบางแววตาที่เต็มไปด้วยโทสะและความทะนงตัวอย่างไม่ลดราวาศอก ชวนให้ไม่ว่าใครได้เห็นก็สะท้านทั้งนั้น

 

      แย่แล้วฉันทำไมโง่แบบนี้นะดันเอาน้ำมันไปราดรดกองไฟซะแล้วสิ ทำยังไงดีฮือ~

 

“ที่น้องหญิงพูดแบบนี้คงเพราะไม่ได้ลองลิ้มรสข้าเสียทีไม่เป็นไรสามีจะเปลี่ยนความคิดของภรรยาเอง"เขาหรี่ตาที่แฝงไปด้วยรัศมีของความอันตรายลงพูดจบก็ใช้มือคว้าจับผ้ารัดเอวของนางก่อนจะกระชากอย่างแรง

“กรี๊ดด! ทะ…ท่าน…อื้อๆ"

 เสียงที่ขาดวิ่นหายไปของนางถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปากบางซึ่งบดขยี้กลีบปากอิ่มน้อยๆนั้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะปรานีใดๆทั้งสิ้น ในขณะที่มือของนางก็ทุบเข้ากับแผ่นอกของเขาเป็นเชิงประท้วงก่อนที่จะถูกรวบมือทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะด้วยฝ่ามือกร้านหนาเพียงข้างเดียว

         นางหายใจไม่ออก ลมหายใจติดขัดจนรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ลมหายใจของเขาอบอวลอยู่รอบตัวนางและเรียวลิ้นที่ถูกส่งผ่านกลีบปากนางนั้นไล้เลียอยู่เนิ่นนานไม่ยอมผละจากไป

        ความหวานจากการลิ้มรสกลีบปากน้อยๆนั่นทำให้อารมณ์ของเขาเริ่มพุ่งทะยานขึ้นมาและไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ในขณะที่มืออีกข้างก็คว้าจับเนินเนื้อนุ่มผ่านเสื้อตัวบางโดยแรงราวกับว่าต้องการบีบเค้นบางสิ่งให้ออกมาจากตัวนาง

เขาผละริมฝีปากออกมาอย่างยากลำบาก ก่อนจะกล่าว

“ดูเจ้าสิปากบอกไม่ชอบแต่สีหน้าของเจ้ามันไม่ได้บอกกับข้าเช่นนั้นสักนิด"แววตาของนางดูเลื่อนลอยในขณะที่ลมหายใจหอบถี่ขึ้นเพราะต้องการตักตวงเอาอากาศเข้าสู่ร่างกาย

เมื่อเริ่มหายใจได้ดีขึ้นแววตาของนางก็เต็มไปด้วยโทสะซึ่งคุกรุ่นที่รอเวลาปะทุเต็มทีนางเริ่มรวบรวมสติสัมปชัญญะทั้งหมดที่ตนมีเอาไว้ก่อนจะตะวาดเสียงด่าเขาออกไป

“ท่านทำบ้าอะไร หยุดนะท่านลืมเรื่องสัญญาแล้วรึไง"

“ข้าไม่ได้ทำบ้าอันใด แต่กำลังทำสิ่งที่ควรทำในคืนเข้าหอคืนก่อนอย่างไรสัญญาอะไรข้าไม่สนทั้งนั้นยังไงซะมันก็แค่กระดาษเพียงแผ่นเดียว"

“ท่าน! คนไร้สัจจะท่านคิดจะกลืนคำพูดตัวเองคืนไปรึอย่างไร"นางโมโหกระวนกระวายกับคำพูดของเขาจนหน้าออกสีไปหมด มือที่ยังถูกรวบเอาไว้พยายามออกแรงขัดขืนในขณะที่ริมฝีปากก็ยังสบถด่าเขา

“ท่านมันน่าไม่อาย ไม่ใช่ลูกผู้ชายคนแบบท่านอย่างมากก็เป็นแค่เจ้าลูกเต่า"

“น้องหญิงนี่เจ้าอายถึงขนาดนี้เลยหรือถึงกลับต้องแสดงการต่อต้านข้าขนาดนี้ แต่ข้าขอเตือนเจ้าหน่อยว่าเอาแค่พอเป็นพิธีเยอะเกินไปมันจะไม่ดีรู้หรือไม่"

เขายิ้มเจ้าเล่ห์ รู้สึกว่าตนเองยังไม่พอใจกับการเล่นซนบนเนินเนื้อของนางผ่านเสื้อผ้าเขากระชากเสื้อผ้าของนางออกนั่นทำให้นางยิ่งตื่นตระหนกลนลาน สายตาเบิกโพลงกว้างและแววตาเต็มไปโทสะ โกรธ!ตอนนี้นางโกรธมาก

“ท่านกล้า!”

“ทำไมข้าจะไม่กล้าล่ะ? เจ้าอย่าลืมว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในสถานะอะไร"

 

'ฉันโมโหแล้วนะความอดทนมันต่ำสุดแล้วด้วย'

 

เสื้อผ้าถูกเขากระชากจนแทบไม่เหลือสภาพที่สมบูรณ์ถูกทิ้งลงไปกองกับพื้นข้างเตียงจนตอนนี้บนร่างกายของนางเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีม่วงอ่อนลายปักดอกโบตั๋นกับกางเกงชั้นในตัวสั้นเท่านั้นเอง

 เรือนร่างขาวผุดผาดผิวพรรณเรียบลื่นต้นขาขาวเรียวยาวสวยหน้าอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจของนางทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาของเขา สายตาที่จับจ้องยังดวงหน้าของนางแฝงแววอันตรายที่ทำให้นางสะท้านไปทั้งกายเขาเลื่อนฝ่ามือลงไปยังเบื้องล่างนั่นก่อนจะล้วงเข้าไปยังในกางเกงชั้นในของนางเพื่อเล่นซุกซนเย้าแหย่กับความเป็นหญิงของนาง นางสะท้านเฮือก

 

โอ้ยนายจะเอาแบบนี้ใช่ไหม ได้ฉันจะเล่นกับนายเอง

 

ฝ่ามือของเขาไล้วนอยู่บนนั้นนานสองนานก่อนที่นิ้วมือจะเล่นซนกับของๆนาง การเล้าโลมอย่าง อุกฉกรรจ์นิ้วมือของเขาที่เขี่ยเล่นไปมาอยู่บนความเป็นหญิงนั่นทำให้สีหน้าของนางเริ่มเปลี่ยนไป บนใบหน้าที่แสดงความปราถนาตามธรรมชาติของร่างกายกับแววตาเย้ายวนเลื่อนลอยทำให้เขาอดที่จะกระตุกมุมปากยิ้มอย่างพอใจและชื่นชมในผลงานของตนเองเสียไม่ได้

“ดูแล้วน้องหญิงคงจะไม่ได้รังเกียจจริงๆแล้ว ซ้ำยังดูเจ้าเองจะชื่นชอบมันมากด้วย”เขาโน้มใบหน้าลงกระซิบกระซาบข้างหูนางก่อนที่จะงับใบหูบางเบาๆแม้กระทั่งเรียวลิ้นของเขายังไล้เลียกับติ่งหูของนาง

ความเสียวซ่านนั่นพาให้นางสะท้านเฮือกแต่สติของนางยังไม่ได้หายไปหมดนางแค่กำลังรอเวลาเท่านั้น!

“ท่านพี่ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ท่านอย่าแกล้งข้าเช่นนี้อีกเลยนะ”เขาได้ยินนางพูดเช่นนั่นก็ยิ่งกระหยิ่มใจมากขึ้นก่อนจะกล่าวเร้านางอย่างหยาบโลน

“ทนอะไรไม่ไหวหรือ ข้าแกล้งอะไรเจ้าหรือคนงามดูหน้าตาท่าทางตอนนี้ของเจ้าสิ ข้าเห็นแล้วอยากจะ…”เขาพูดจบก็เริ่มถอดเสื้อผ้าตนเอง ในขณะที่มืออีกข้างก็ปลดปล่อยพันธนาการที่แขนของนางก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดเอี๊ยมตัวบางและกางเกงตัวน้อยของนาง และเอื้อมมือไปปลดผ้าม่านเคียงลงมาปิดบังเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

บนเตียงเขาและนางอยู่ในสภาพที่เปลือยเปล่า ไม่มีผ้าปิดเนื้อเเม้สักชิ้นเขาจับความปราถนาที่ตั้งชันนั่นขึ้นมาไล้วนกับความเป็นหญิงอย่างหยาบโลนกล่าวถามนางด้วยน้ำเสียงแหบพร่าซึ่งเกิดจากความปราถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นจากการเล้าโลมหญิงสาว

“เจ้าต้องการมันหรือไม่?”สีหน้าของเขาที่แสดงอยู่บนใบหน้านั่นช่างดูไม่ต่างจากคนที่อยู่เบื้องล่างเลยสักนิด `จริงหรือ?'

“ข้าต้องการมันท่านพี่เร็วเข้าสิ"นางหยัดมุมปากตอบเขากลับไป

“ให้ข้าจะช่วยเจ้าเอง อยู่นิ่งๆอย่าเกร็งนะคนดี"เข้าโน้มตัวจุมพิตระหว่างคิ้วของนางเป็นการปลอบประโลม โดยที่ไม่รู้สึกสายตาเย้ยหยันเจ้าเล่ห์ของคนใต้ร่างเลยสักนิด

“แต่ว่าท่านพี่ข้ากลัวเจ็บจริงๆ ขอข้าทำเองนะเจ้าคะ"

“หืมเจ้าจะทำเองอย่านั้นหรือ? ได้สิข้าไม่ถืออยู่แล้ว”

เขาประหลาดใจ แต่ก็ยังยิ้มกล่าวตอบนางอย่างไม่ลังเลด้วยความสนอกสนใจ เขาแทบจะอดทนรอช่วงเวลาต่อไปไม่ไหว โดยไม่รู้เลยว่านางคิดจะทำสิ่งที่เขาจะไม่มีวันลืมในการเข้าหอครั้งแรกกับภรรยาของตัวเอง

“ท่านพี่"เสียงหวานๆที่ดังออกมาจากริมฝีปากเล็กๆแดงเรื่อชวนให้ลิ้มลองนั่นทำให้เขายิ่งตั้งใจจดจ่อกับภรรยาคนงามเบื้องหน้าโดยไม่รู้เลยว่านางได้เอื้อมมือไปขว้าจับความปราถนาที่ตั้งชันซึ่งประกาศความเป็นชายของตนไว้อย่างเต็มมือ เขาครางอย่างพึงพอใจในลำคอในขณะที่มือนางเลื่อนขึ้นลงตามความยาวที่เกินมารตราฐานของผู้ชายปล้องลำที่ขยายตัวอยู่ใต้ฝ่ามือนางพาให้เขาเคลิ้มและหลวมตัวไปกับช่วงเวลาแห่งความหฤหรรษ์ก่อนที่มันจะกลายเป็นความเจ็บปวดที่ทำให้เขาต้องจำไปทั้งชีวิต

“โอ้ย! จะ..เจ้า….เจ้าผู้หญิงบ้านั่นเจ้าทำอะไรหะ โอ้ยๆ"

“ท่านชอบไม่ใช่หรือเห็นๆอยู่ว่าเคลิบเคลิ้มเชียวแหละ ฮ่าๆคนอย่างท่านมันต้องเจอแบบนี้ เจ็บไหมล่ะแต่ข้าจะไม่ปล่อยมือหรอกนะ อย่างท่านมันต้องหักทิ้งซะ จะได้ไม่ต้องมีไว้ทำเรื่องบัดซบแบบนี้กับข้าอีก"

สะใจนัก สมน้ำหน้าจะเอาให้ใช้การไม่ได้เลยคอยดูสิ นางบีบเจ้าสิ่งนั้นแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ความโมโหและโทสะที่กักเก็บมานานรอเวลาที่จะได้ระเบิดออกมา ทำให้นางยิ่งออกแรงมากขึ้น นั่นยิ่งทำให้คนตรงหน้ายิ่งมีสีหน้าเขียวคล้ำไปด้วยความเจ็บปวดแต่เขาก็ไม่กล้าขยับออกเพราะกลัวเจ้าน้องชายร่วมชะตากรรมทั้งชีวิตของเขาคนนี้ต้องมีอันเป็นไปซะก่อน

“น้องหญิงเจ้าปล่อยข้าก่อนเถอะนะข้าขอร้อง"เขาอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงน่าเวทนา แรงกายตกไปตามความเจ็บปวดที่แล่นมาจากเบื้องล่าง

“ขอร้องเหรอ งั้นท่านก็ร้องเลยสิไม่ต้องขอแล้วข้าไม่ห้ามท่านร้อง ร้องสิ"นางบีบแรงขึ้นอีกในขณะที่น้ำเสียงก็แข็งกร้าวมากขึ้น ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสะใจที่ได้เห็นเขาทุรนทุรายเจียนคลั่งแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรกับนางด้วยเพราะห่วงน้องชายที่ยังคงอยู่ในอุ้งมือน้อยๆนั่นเท่าชีวิต

“ข้าขอร้องเจ้าแหละจริงๆนะปล่อยมือเถอะ ข้าเจ็บ…เจ็บมาก"เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“เวลาข้าขออะไรท่านท่านเคยฟังข้าบ้างไหมหะ?”นางขยี้แรงมือลงไปอีก

“ข้าขอโทษ ปล่อยข้าเถอะ"ตอนนี้เขาเจ็บจนจุกไปแล้ว

หึทีอย่างนี้มาทำเป็นสำนึกผิด ให้ตายฉันก็ไม่ปล่อยหรอกเหอะ เลิกฝันไปได้เลย

“เจ็บให้ตายไปเลย ข้าจะหักของท่านทิ้งซะ"

“ยะ…อย่าๆอย่านะอย่า ข้าขอโทษ หากว่าเจ้าปล่อยข้า ข้าจะทำตามที่เจ้าพูดทุกอย่างเลย จริงๆนะ”เขารีบร้อนกล่าวห้ามนางเอาไว้ก่อนยื่นขอเสนอให้เพื่อเพิ่มโอกาสรอดของน้องชายตัวเองด้วย

“เฮอะ คนอย่างท่านข้าจะเชื่อได้อย่างไรก่อนหน้าข้าท้วงเรื่องหนังสือสัญญา ท่านตอบข้าว่าอะไรจำได้หรือไม่ เจ้าลูกเต่า เจ้าลูกสุนัข เจ้ามันลูกสุนัข”

“ไม่ๆน้องหญิงเจ้าปล่อยมือเถิด ข้าจะรักษาคำพูดรอบนี้จริงๆข้าขอละนะปล่อยข้าไปเถิด ไม่ว่าอะไรข้าล้วนทำตามเจ้าทั้งนั้น ทุกอย่างเลย"

“ทุกอย่างจริงๆนะ"

“จริงๆจริงแท้แน่นอน"เมื่อเห็นว่านางมีทีท่าลังเลจะเปลี่ยนใจปล่อยมือเขาก็รีบกล่าวเสริม

“ก็ได้” นางหยุดบีบเจ้าน้องชายของเขาก่อนปล่อยมือออกมา

 

ให้ตายสิคนประเภทนี้ฉันจะเชื่อได้ไหมเนี่ย!

 

เขารอนางปล่อยมือออกรอจนแน่ใจว่าน้องชายร่วมชีวิตปลอดภัยดีแล้วก็รีบดีดตัวหยิบกางเกงที่ถูกทิ้งลงกับพื้นขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ ไม่เปิดช่องว่างระหว่างนางกับน้องชายอีก นางเอกก็รีบคว้าผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเอง อี๋ รังเกียจ แอวะๆนี่ฉันพูดคำแบบนั้นไปได้ยังไงเนี่ยต้องการท่านพี่เสียงหวานๆนั่นอีก เธอสะพรึงตัวเองจริงๆที่อดทนรอได้ขนาดนั่นก่อนจะคิดถึงเรื่องน่าโมโหอีกเรื่องขึ้นมา ฝ่ามือหยาบคายนั่นอีก คิดแล้วก็ให้โมโหอีกแล้ว เธอค้อนเขาด้วยสีหน้าและแววตาของความรังเกียจ เขามองนางด้วยสีหน้าของคนที่พึ่งถูกทรมานมาหมาดจนกระทั่งรอดตาย เวลาสะสางบัญชีก็มาถึงแล้ว

“ภรรยาบ้านใดเป็นแบบเจ้ามั่งหะคิดจะฆ่าตัดตอนน้องชายของสามีเจ้ารึไง ทำแบบนี้เจ้าจะไม่เสียดายรึไรหะอีกหน่อยไม่มีมันเวลาเจ้าต้องการขึ้นมาจริงๆเจ้าจะทำอย่างไรหะ แม่ตัวดี! นังหญิงบ้า นังมาร” เขาเอื้อมมือไปคว้าจับข้อมือของนางที่ยึดกับผ้าห่มคลุมกายไว้โดยแรง

“นี่โอ้ยเจ็บ เอามือท่านออกไปนะท่านบอกกับข้าว่าอะไรหะ ข้าว่าแล้วคนแบบท่านไม่มีหรอกสัจจะน่ะ เจ้าลูกสุนัข"นางเองก็โมโหเช่นกัน ไม่น่าเลยนางไม่ควรปล่อยมือจริงๆนางควรจะหักมันทิ้งซะให้สมใจจริงๆ แต่ตอนนี้คิดจะเสียใจก็สายไปแล้ว

“เรื่องนั้นมันอีกเรื่องแต่เรื่องนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า"

“เฮอะ ท่านจะทำอะไร ฆ่าข้า ตัดมือข้า ทำร้ายข้าแบบไหน? ข้าไม่กลัวทั้งนั้นแหละ หึ ท่านไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก ข้ารู้ดี!”สิ่งที่นางย้ำทำให้เขาเกิดความรู้สึกประหลาดใจอะไรที่นางมั่นใจขนาดนั้น

“ข้าไม่ทำถึงขั้นนั้นหรอก"

“เฮอะ แน่นอนถ้าข้าตาย ใครจะพาท่านไปหาของสิ่งนั้นกันล่ะ จริงไหม?”เธอสวนขึ้นด้วยน้ำเสียงชิชะ

“ของสิ่งนั้น เจ้ารู้อะไร? บอกข้ามา เดี๋ยวนี้"เขาเปลี่ยนมือมาบีบคางนางไว้โดยแรงทันที

“โอ้ย ข้าเจ็บนะ"นางร้อง

“เจ้ารู้อะไรบอกข้ามา ไหนเจ้าบอกกับข้าว่าเจ้าจำอะไรไม่ได้ไม่ใช่รึยังไง”

“ข้าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นแหละ แต่ที่ข้ารู้ก็เพราะพวกท่านไม่ใช่รึยังไง"เธอดิ้นรนยกมือคว้าข้อมือของเขาข้างที่ใช้บีบคางของนาง

“พวกข้า?”

“ท่านกับหูเม่ยอย่างไร ท่านคิดไม่ถึงละสิว่าข้าจะได้ยิน” นางพูดจบเขาก็ตัวแข็งค้างไปในขณะที่มือซึ่งออกแรงบีบนางก็เบาลงจนกลายเป็นจับไว้เฉยๆแทน

“เจ้าได้ยิน เจ้ารู้?”

“หึ ท่านคงคิดไม่ถึงละสิ ทำไมข้ารู้เเล้วมันเป็นยังไง แต่ข้าก็รู้แค่เพียงว่าที่ท่านแต่งงานกับข้าเพราะต้องการตามหาของแต่ข้าไม่รู้หรอกว่าท่านต้องการอะไร ขอข้าบอกกับท่านไว้ตรงนี้เลยนะว่าสิ่งที่ท่านตามหาอยู่ ข้า-ไม่-มี”

         นางย้ำเสียงดังฟังชัด ในขณะที่เขาเองก็ปล่อยมือจากนางแล้ว อยู่ๆทั้งห้องก็มีแต่ความเงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่นั่งหยัดกายบนเตียงอยู่ข้างหลังม่านโปร่งบาง เขาไม่พูด นางเองก็ไม่พูด ทั้งสองสบตากันราวกับกำลังใช้คำพูดผ่านสายตา นัยน์ตาของเขาเปลี่ยมไปด้วยความประหลาดใจด้วยกะทันหันไม่นึกว่านางจะรู้ไม่คิดว่านางจะได้ยินสิ่งที่เขาพูด นางเองก็เต็มไปด้วยความกระหยิ่มใจหมายใจให้เขารับรู้ว่านางเองก็ไม่ได้โง่และจะไม่ยอมให้เขาหลอกใช้นางแน่นอนแต่ความเงียบก็ทลายลงเนื่องจากนางเป็นฝ่ายเอ่ยคุยกับเขาก่อน

“ท่านอย่าคิดว่าจะหลอกข้าได้ไปตลอด ข้าไม่ซื่อไม่โง่อย่างที่ท่านคิด แต่ข้าขอย้ำนะว่าข้าจำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ก่อนหน้านี้ข้าเป็นใครทำอะไรข้าไม่รู้ทั้งนั้น และขอบอกท่านไว้อีกอย่างว่าข้าต้องการให้ท่านบอกทุกเรื่องให้ข้ารับรู้เองซะดีกว่า เพราะถ้าหากข้ารู้สาเหตุที่แท้จริงเมื่อไหร่อย่าหวังเลยเพียงนิดเดียวข้าก็จะไม่ยุ่งและไม่ช่วยอะไรท่านทั้งนั้น"นางพูดจบก็หอบหายใจถี่กระชั้นขึ้น ทุกคำที่คิดว่านางอยากพูดและสมควรพูดนางก็พูดหมดแล้วคงทำได้เพียงแค่รอคำตอบจากเขาเท่านั้นเอง

“ในเมื่อเจ้ารู้แล้ว ข้าก็จะไม่ปิดบังเจ้าอีก แต่ข้าขอถามเจ้าก่อนว่าทำไมเจ้าต้องกลับเรือนแม่สื่อถ้าของสิ่งนั้นไม่ได้อยู่กับเจ้าและเจ้าไม่รู้ที่ซ่อนของมัน ตอนเจ้าแต่งเข้ามาข้าให้คนหาดูแล้วก็ไม่มีถ้าไม่ได้อยู่กับตัวเจ้าเจ้าก็ต้องเก็บไว้ในที่ๆเจ้าจากมาสิ"

“ท่านไม่คิดบ้างเหรอว่า ว่าข้าอาจจะซ่อนไว้ที่อื่น?”งี่เง่าสิ้นดี

“ไม่มีทางหรอกข้าส่งคนจับตาดูเจ้าตลอดเวลาตั้งแต่ได้รับข่าวคราวจากสกุลฉีของสิ่งนั้นแล้วพวกเราจับตาดูเจ้ามานานหลายปีแล้วก่อนหน้าเราตั้งใจจะทำการเงียบๆแต่เป็นเจ้าเองที่เคลื่อนไหวใกล้ชิดสนิทสนมกับองค์ชายสาม"

“องค์ชายสาม?”องค์ชายสามไหนนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ฉันทำอะไรไว้ เขาต้องการอะไรฉันงงไปหมดแล้วนะ

“ใช่ พวกข้าจึงวางแผนลวงให้เจ้าตกหลุมพรางแต่งงานกับข้าอย่างไรล่ะ”

“ท่านควรจะเล่าให้ข้าฟังได้แล้ว ทุกๆเรื่องเลย เพราะท่านเริ่มจะทำให้ข้าสับสนเกินไปแล้ว"

“เช่นนั้นเจ้าควรบอกข้าว่าจะไปทำอะไรที่เรือนหมื่นบุปผา”เขาย้อน สิ่งนี้ทำให้นางต้องขบคิดอย่างหนักนางควรจะบอกทุกเรื่องราวกับเขาไหม เขาจะเชื่อไหมจะหาว่านางเป็นบ้าไหมนางสับสนกระวนกระวายไปหมดแล้วไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นยังไง

“ถ้าข้าบอกท่านท่านจะหาว่าข้าบ้าหรือไม่”

“แล้วทำไมเจ้าไม่ลองบอกกับข้าก่อนละ"เขาย้อนถามนางอีกครั้ง นัยน์ตาฉายชัดถึงความไม่พอใจที่นางยังมีเรื่องปิดบังในขณะที่เขาเองกำลังจะเปิดอกคุยกับนาง

“ได้อย่างนั้นข้าจะเล่าให้ท่านฟัง ท่านเองก็ควรจะบอกทุกอย่างกับข้าด้วยตกลงไหมนี่คือสิ่งที่ข้าจะขอท่านเพียงเรื่องเดียว เราต้องไม่มีเรื่องปิดบังกัน"

      เธอย้ำชัดๆถึงคำขอของตัวเอง สายตาจ้องไปยังเบื้องหน้าสบนัยน์ตาเขาด้วยความหนักแน่นก่อนจะได้ยินเสียงเขาตอบกลับมาว่า

"ตกลง"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา