บุรุษวิปริต สตรีวิปลาส

7.3

เขียนโดย DontAddMe

วันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 10.03 น.

  9 บท
  0 วิจารณ์
  9,212 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 17.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) อย่ายุแหย่สตรีวิปลาส

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทเรียนที่ ๓    อย่ายุแหย่สตรีวิปลาส

 

 

 

 

บุตรอันดับหกของบารอนที่นอนหลับเป็นตายต้องตื่นขึ้นมาหนักใจอีกครั้ง เมื่อนึกถึงเงื่อนไขการรักษาทุนการศึกษาของตน 

 

 

หากเทียบกันแล้วสำหรับเด็กที่วัยไม่ถึงเกณฑ์ทำงานและยังไม่จบการศึกษานั้น การทำคะแนนสอบยุ่งยากน้อยกว่าการหาเงินชดใช้หนี้เป็นอย่างมาก แต่ปัญหาหลักคือจะทำอย่างไรไม่ให้องค์รัชทายาทเขม่นจนชักดาบขึ้นตัดหัวเสียเดี๋ยวนั้น

 

 

หลังจากคิดหนักหัวแทบระเบิดอยู่หลายวันหนทางเดียวที่บุตรคนที่หกคิดได้คือหารทำให้องค์รัชทายาทได้ผลการเรียนอันดับหนึ่งร่วมกัน

 

 

ไม่มีกฎบัญญัติห้ามไว้เสียหน่อยว่าอันดับหนึ่งต้องมีเพียงคนเดียว ขอเพียงมีคะแนนเท่ากัน และสูงกว่าคนอื่นทั้งหมด เพียงเท่านี้คอน้อยๆของเขาก็ปลอดภัย

 

 

จริงอยู่ที่นอกจากองค์ชายแล้วยังมีนักเรียนคนอื่นที่มีเบื้องหลังทรงอิทธิพล หากบุตรคนสุดท้องของบารอนบ้านนอกมีผลการเรียนข้ามหน้าข้ามตาพวกเขา คาดว่าไม่พ้นเดือนนี้คงมีนักฆ่าจากทุกตระกูลมาเล่นเป่ายิงฉุบกันเพื่อจะได้เป็นผู้ลงดาบปริดชีพเขาเป็นแน่

 

 

การจะทำให้ทุกคนในชั้นปีมีคะแนนเท่ากันหมดเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นไปได้บุตรบารอนคงไม่ทำเนื่องจากมันยุ่งยากจนเกินไป 

 

 

หนทางที่ง่ายกว่านั้นยังมีอยู่...นั่นคือการยืมเงาคนอื่นคุ้มหัวตน

 

 

บุตรคนสุดท้องของบารอนต้องตีสนิทกับองค์ชายรัชทายาท

 

 

 

 

***

 

 

 

 

“จริงอ่ะ!? นั่นนะน่ะเหตุผลเจ้า!?”

 

 

“แล้วยังจะให้มีเหตุใดอื่นอีก? เรื่องคอขาดบาดตายที่มีคอน้อยๆของข้าเป็นเดิมพันยังไม่ร้ายแรงพอใจเจ้าอีกหรือ?”

 

 

“มะ- ไม่ใช่อย่างนั้น- คือ- โอ๊ย! เจ้า! อย่างน้อยถ้าตีสนิทเพื่อมุบมิมตังค์เพื่อนก็ยังพอว่า!”

 

 

“ข้ามิได้บูชาทองเช่นเจ้า”

 

 

“เงินซื้อได้ทุกอย่างยกเว้นความสุข แต่อย่างน้อยนอนในเบนซ์ก็สบายกว่าใต้ทางด่วนละกัน”

 

 

“เบ็น - ซ? ทาง-ด่วน?”

 

 

บางครั้งบุตรบารอนก็ตั้งข้อสันนิจฐานว่าเขากำลังสื่อสารคนละภาษากับครูใหญ่แห่งนอร์ทฟอเรส

 

 

ศัพท์แสลงแปลกหูที่นางมักพูดออกมายามเผลอไผล เมื่อเขาตั้งคำถามนางก็มักเฉไฉกลบเกลื่อนอยู่เรื่อยไป อย่างเช่นตอนนี้ที่นางทำเป็นไม่ได้ยินเขาแล้วมุดหน้าลงใต้ผิวน้ำ ความจริงบุตรคนที่หกก็ไม่ได้ใส่ใจละลาบละล้วงข้อมูลส่วนตัวของนางนัก แต่หากไม่ทำทีทักไปนางจะพูดจาเพ้อเจ้อต่อไม่จบสิ้น เขาคร้านที่จะพยายามถอดความคำพูดนาง

 

 

บุตรคนที่หกนับเวลาในใจ เขาอยากรู้นักว่าครั้งนี้สตรีเอกแห่งสถาบันจะทนอยู่ใต้น้ำได้เสียกี่อึดใจ ระหว่างความร้อนกับความอับอาย ส่ิงใดที่นางให้ความสำคัญมากกว่ากัน

 

 

[ซ่า!]

 

 

‘เร็วกว่าครั้งก่อน ดูท่าครานี้ความร้อนจะชนะ’

 

 

น้ำกระเซ็นออกนอกขอบสระเมื่อครูใหญ่คนเก่งผุดจากใต้ผิวน้ำ 

 

 

นางไม่รู้หรือว่าหลายปีมานี้ผู้อาศัยอยู่ห้องด้านล่างเดือดร้อนเรื่องน้ำซึมจากเพดานมากแค่ไหน?

 

 

นางเป็นอาจารย์ใหญ่ แน่นอนว่านางรู้ 

 

 

แต่เพราะนางเป็นอาจารย์ใหญ่ นางจึงไม่แคร์แม้เศษเสี้ยวความคิด

 

 

บุตรคนที่หกมองร่างเปลือยเปล่าของอาจารย์ที่แหวกว่ายในอ่าง-ไม่สิ-สระอาบน้ำของเขา ผิวนางแดงก่ำจากความร้อนและการละเล่นกล้ันหายใจใต้น้ำเฉกเช่นเด็กน้อย 

 

 

แต่ที่แดงกว่าผิวกายคือนัยน์ตานางที่จับจ้องมาทางเขา 

 

 

ดูท่าในสมองอันแสนวิปลาสของนางคงเห็นการที่เขาจับผิดเป็นการกล่ันแกล้งเป็นแน่

 

 

บุตรคนสุดท้องผู้ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากได้แต่ถอนหายใจก่อนจะลุกจากเก้าอี้นวมตัวโปรดไปหยิบกระเป๋าหนังใบเก่งข้ึน เขาแกล้งทำทีเป็นไม่เห็นสายตาที่จับจ้องกระเป๋าดั่งสัตว์ล่าเนื้อหิวโหยของสตรีบางคน แต่นัยตานางหรี่แสงลงเมื่อเขาเลือกที่จะไม่เปิดมัน เพียงแต่หยิบกลับมายังเก้าอี้นวมและวางมันไว้บนตักโดยหันข้างที่แงมเปิดเล็กน้อยไปยังสตรีในสระ

 

 

อาจารย์เอกแห่งสถาบันทำหน้านิ้วค้ิวขมวดเหมือนกำลังชั่งตวงใจตน ก่อนจะพ่ายแพ้ต่อความอยากรู้และผุดลุกออกจากสระน้ำร้อน

 

 

นางทำทีเป็นไม่เห็นผ้าเช็ดตัวนับสิบที่บุตรบารอนนำมาวางไว้รอบขอบสระ ก่อนพาร่างเปียกปอนของตนไปหยุดตรงหน้าลูกศิษย์คนเก่ง ทิ้งรอยน้ำเป็นทางยาวเปลอะเปื้อนพ้ืนหินขัดและพรมขนสัตว์ ก่อนวางบ้ันท้ายกว้างของนางบนที่พาดแขนเก้าอี้เบียดเส้ือผ้าศิษย์หนุ่มให้เปียกไปด้วย

 

 

บุตรบารอนมองการ ‘เอาคืน’ ที่ไม่เข้ากับวัยของอาจารย์ด้วยความปล่อยวาง เขาที่ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากต้องการทำกระบวนการที่เรียกว่า ‘การง้อ’ ให้เสร็จสิ้นเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยไว้นานเกินไป มันไม่จบเพียงเครื่องเรือนเปียกน้ำเป็นแน่

 

 

สายตาลูกศิษย์เลื่อนผ่านต้นขาอ่อนที่พาดทับขาของเขา ผ่านหน้าอกเปลือยเปล่าที่แนบชิดติดสัมผัสได้ ผ่านคอระหงที่มีหยดน้ำไหลไม่หยุดหย่อน และผ่านใบหน้าชมพูอ่อนฝาดเลือดของนาง มาหยุดอยู่ที่ขมับด้านซ้ายที่นางตัดผมสั้นติดหนังศรีษะ ขัดกับเส้นผมที่เหลือซึ่งนางปล่อยยาวเปียกแนบถึงต้นคอ

 

 

นางเรียกมันว่าทรง ‘อัน-เด้อ-คัด’

 

 

นางว่ามันดู ‘จ๊าบ’ เป็นวัยรุ่นดี

 

 

บุตรคนที่หกของบารอนไม่เคยเห็นดรุณีช้ันสูงคนใดที่กล้าตัดผมสั้นกุดหัวเช่นนาง กระทั้งลูกสาวชาวนายังรักเส้นผมยาวสลวยของตนย่ิงชีพ

 

 

เขาไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะไฟไหม้เส้นผมนางในครานั้นที่ทำให้นางเกิดจิตวิปลาส หรือนางวิปลาสอยู่ก่อนแล้วเพียงแค่ต้องการข้ออ้างปลงผมตนเองกันแน่

 

 

แต่สิ่งที่ปฏิเศษไม่ได้ คืออาจารย์ใหญ่แห่งนอร์ทฟอเรสคนนี้ เป็นสตรีวิปลาสอย่างแท้จริง

 

 

บุตรบารอนสลัคความคิดไร้สาระของตนออกจากหัวเมื่อเห็นสายตาร้อนแรงที่แทบฉีกกระชากกระเป๋าหนังใบเก่งของเขาโดยไม่ใช้มือ เขาคร้านไปสั่งตัดกระเป๋าใบใหม่จึงรีบใช้มือหยิบล้วงเอาของขวัญที่เตรียมมาสังเวยแด่นาง

 

 

มันเป็นอัญมณีสีแดงเลือดขนาดเท่ากำปั้น จรัสเหลี่ยมตัดส่องประกายสะท้อนหยอกล้อกับแสงเทียน เขาไม่่แน่ใจว่าราคาซื้อขายตามท้องตลาดของมันคือเท่าไร เนื่องจากเขาได้รับมันเป็นค่าตอบแทนจากการสอนพิเศษให้แก่บุตรีท่านวิสเคานต์แห่งเวสเมานต์เท่น

 

 

เมื่อเขานึกย้อนไปถึงบุตรีผู้นั้นแล้ว เขาอดขนลุกซู่โดยสัญชาติญานมิได้ เขายกมือขึ้นลูบไล้ศรีษะตนที่เคยมีผมดกหนา แต่บัดนี้กลับมีสภาพที่ครูใหญ่แห่งนอร์ฟอเรสเรียกว่า ‘สะ-กิน-เฮด’ จากการทึ้งผมตนเอง

 

 

การสอนอ่านเขียนให้บุตรีผู้นั้นเพียงไม่กี่เดือนกลับเป็นประสบการณ์ที่ใกล้เคียงเขียงประหารที่สุดที่เขาเคยสัมผัส เมื่อคิดทบทวนดูแล้วทำไมเขาถึงรู้สึกว่าบุตรีผู้นั้นช่างคล้ายคลึงกับสตรีบางคนแถวนี้ยิ่งนัก

 

 

“ท่านอาจารย์ขอรับ! ศิษย์มันไม่รักดี! ศิษย์วิ่งฝึกซ้อมรอบคฤหาสน์จนสลบเป็นเหตุให้มาเรียนสาย ท่านอาจารย์ได้โปรดใช้ไม้พลองท่อนนี้ฟาดหลังข้าน้อยให้สมความผิดด้วยเถิด!”

 

 

“เฮ่ย!!เดีี๋ยววว!!คุณหนู ท่านลุกขึ้นมาก่อน! ไม่!! ไม่!! ไม่!! อย่าเอาหน้าผากท่านโขกพื้นเช่นนั้น! ถ้าท่านเคานต์เห็นท่านเป็นรอยถลอก หัวข้าหลุดจากบ่าแน่! คุณหหหหนู!!!!!!”

 

 

คนเดียวว่าแย่แล้ว การมีสตรีวิปลาสผุดเพิ่มมาอีกคน...เขาไม่อยากจินตนาการถึงอนาคตของอาณาจักรนี้จริงๆ

 

 

 

 

บุตรบารอนละความคิดจากสตรีวิปลาสหมายเลขสองและหันความสนใจกลับมายังสตรีวิปลาสหมายเลขหนึ่งผู้นั่งเบียดชิดอยู่ข้างกายแทน

 

 

จากสายตาส่องประกายของนางแล้ว สามารถคาดเดาได้ไม่ยากว่าค่าจ้างก้อนนีี้ของเขาคงมีราคาค่างวดพอประมาณ แม้เขาไม่คิดว่ามันจะคุ้มค่ากับสุขภาพจิตที่บอบช้ำและเส้นผมที่สูญหายของเขาก็ตาม

 

 

นางฉกชิงก้อนมณีจากมือเขาก่อนนำไปลูบไล้อย่างสิเน่หา หากนางกินมันได้นางคงยัดทั้งก้อนเข้าปากภายในคำเดียวเป็นแน่

 

 

บุตรคนที่หกของบารอน ผู้ไม่ชอบเรื่องยุ่งยากถอนหายใจอย่างโล่งอก 

 

 

เขาได้รับบทเรียนเมื่อนานมาแล้ว ว่ายามสตรีวิปลาสอารมณ์ดีนั้นยุ่งยากน้อยกว่ายามสตรีวิปลาส ‘งอน’ เป็นอย่างมาก

 

 

 

 

***

 

 

 

 

หากถามคนร้อยคนว่าความรักฉันท์หนุ่มสาวระหว่างศิษย์กับอาจารย์เหมาะสมไหม? 

 

 

ร้อยทั้งร้อยย่อมตอบว่าไม่เหมาะสม

 

 

 

 

หากถามคนร้อยคนว่า คู่รักที่ฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่าเกือบยี่สิบปีนั้นเหมาะสมไหม? 

 

 

ร้อยทั้งร้อยย่อมตอบว่าไม่เหมาะสม

 

 

 

 

หากถามคนร้อยคนว่า สายสัมพันธ์ชู้รักที่เริ่มในระหว่างที่ฝ่ายชายยังไม่บรรลุนิติภาวะนั้นเหมาะสมไหม? 

 

 

ร้อยทั้งร้อยย่อมตอบว่าไม่เหมาะสม

 

 

 

 

หากถามคนร้อยคนว่าการที่ผู้ใหญ่สองคนอยู่กินกันบนชั้นบนสุดของหอพักนักเรียนโดยไม่จ่ายเงินสักแดงเดียวนั้นเหมาะสมไหม? 

 

 

ร้อยทั้งร้อยย่อมตอบว่าไม่เหมาะสม

 

 

 

 

แต่หากบอกคนร้อยคนว่าบุคคลทั้งสองที่พูดถึงคืออาจารย์ใหญ่และอดีตนักเรียนทุนผู้โด่งดังแห่งโรงเรียนหลวงนอร์ทฟอเรส

 

 

 

 

ร้อยทั้งร้อยย่อมตัดลิ้นตนทิ้งเพื่อลงโทษปากพล่อยๆของพวกเขา

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา