สยบรักเมียบำเรอ

7.2

เขียนโดย Phaky

วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.23 น.

  41 ตอน
  3 วิจารณ์
  35.77K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 13.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) อาชาวิน แมคคานน์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียน

บทนำ : อาชาวิน แมคคานน์

“จะออกไปข้างนอกอีกแล้วเหรอ อาชา”

“ครับแด๊ด ตามประสาหนุ่มโสดไงครับ”

ชายหนุ่มที่ถูกเรียกตัวไว้ขณะที่กำลังคว้ากุญแจรถซุปเปอร์คาร์แบรนด์ดังสัญชาติอังกฤษอย่างจากัวร์สีดำเพื่อเตรียมออกไปท่องราตรีหันมาตอบรับบิดาด้วยท่าทางอารมณ์ดีแล้วขยิบตาให้บิดาอย่างผู้ชายรู้กัน

อาชาวิน แมคคานน์ หนุ่มโสดวัยสามสิบปี เจ้าของนัยน์ตาคมหวาน คิ้วเข้มดกหนาขับใบหน้าให้ยิ่งคมคาย พร้อมด้วยจมูกโด่งเป็นสันได้รูปสวยตามประสาลูกครึ่งสายเลือดไทย-อังกฤษ และเคราเขียวครึ้มที่ได้รับการตกแต่งไม่ให้รกรุงรังช่วยทำให้ใบหน้าของอาชาวินยิ่งดูคมเข้มมีเสน่ห์เร้าใจ อีกทั้งรูปร่างของชายหนุ่มยังสูงเพรียว ช่วงไหล่กว้างแข็งแรง อกแน่นหนั่นน่าซบ หน้าท้องมีลอนซิกแพ็คขึ้นเป็นก้อนเรียงตัวสวยงามตามประสาคนทำงานหนักและออกกำลังกายเป็นประจำรับกับสะโพกสอบจนเป็นรูปตัววีชัดเจน ถอดเสื้อโชว์หุ่นล่ำๆคราใดสาวๆที่เห็นถึงกับเคลิบเคลิ้มมองตามกันตาละห้อย ความสมบูรณ์พร้อมที่รับเอาแต่ส่วนดีของบิดามารดามาได้อย่างลงตัว ส่งผลให้อาชาวินนั้นหล่อเหลาโดดเด่นจนเป็นที่จับจ้องของสาวน้อยสาวใหญ่มากมาย แต่ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีก็ยังไม่มีผู้หญิงคนไหนจะสามารถกุมหัวใจของอาชาวินไว้ได้สักคน จนคุณอัลเฟรดผู้เป็นบิดาได้แต่ถอดถอนใจที่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีโอกาสได้อุ้มหลานเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ

“แล้วเมื่อไรจะเลิกเป็นหนุ่มโสดลอยไปลอยมาอย่างนี้สักทีล่ะเจ้าลูกชาย”

อัลเฟรดหนุ่มใหญ่วัยหกสิบปีที่นั่งดูข่าวสารจากโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นหันมาถามลูกชายด้วยภาษาไทยชัดแจ๋ว แม้จะเป็นหนุ่มอังกฤษแท้โดยกำเนิดแต่ด้วยความที่มีภรรยาสุดที่รักเป็นคนไทย อัลเฟรดจึงตัดสินใจย้ายถิ่นฐานตามดวงหทัยผู้เป็นภรรยามาอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีบ้านเกิดของภรรรยา ยอมทิ้งกิจการโรงแรมหกดาวที่อังกฤษให้น้องชายดูแลแทนเหลือไว้เพียงหุ้นส่วนจำนวนหนึ่งที่น้องชายบังคับให้รับไว้ แล้วมาจับจอมจับเสียมทำไร่สับปะรด สวนเงาะ ลองกอง และทุเรียนผลไม้ขึ้นชื่อของอำเภอนาสาร

แม้ว่าภรรยาจะเสียชีวิตหลังจากมีลูกด้วยกันเพียงห้าปี อัลเฟรดก็ไม่คิดพาอาชาวินกลับไปอยู่ที่อังกฤษ เพราะรู้ว่าดวงหทัยรักผืนดินที่เป็นมรดกตกทอดจากครอบครัวมาก อัลเฟรดจึงเลือกใช้ชีวิตที่เมืองไทยต่อไปและทำความฝันของภรรยาให้เป็นจริงนั่นคือการขยายไร่ให้เติบโตสุดลูกหูลูกตา จนตอนนี้มีเนื้อที่กว่าพันไร่ในความครอบครองของตระกูลแมคคานน์ และตั้งชื่อไร่ว่า ‘ไร่ดวงหทัย’ ตามชื่อของสตรีที่เขารักสุดหัวใจ

แต่ด้วยความที่ยังรักและผูกพันกับงานโรงแรมที่ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่กำเนิด อัลเฟรดจึงสร้างโรงแรมกึ่งๆโฮมสเตย์แต่ภายในเพรียบพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกบนเนื้อที่บางส่วนที่ยังว่างเปล่าของไร่ดวงหทัยไว้บริการนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติและวิถีการดำรงชีวิตของคนพื้นเมือง ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากจนต้องขยายจำนวนห้องพักให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้าที่มีเข้ามาหนาแน่นตลอดทั้งปี และตอนนี้ก็เป็นอาชาวินที่เข้ามาดูแลกิจการทั้งที่ไร่และที่โรงแรมแทนบิดาที่เริ่มชราไปตามวัย แถมอาชาวินยังเก่งกาจ ลูกชายของอัลเฟรดพัฒนาสวนผลไม้ของไร่ดวงหทัยให้มีคุณภาพดี สามารถส่งขายได้ราคาทั้งในและต่างประเทศ ในแต่ละปีไร่ดวงหทัยจึงมีกำไรเฉพาะการขายผลไม้หลายสิบล้านบาท

“โถ่แด๊ดครับ ผมเพิ่งอายุสามสิบเอง แด๊ดจะรีบให้ผมมีเมียได้ยังไง ผมยังใช้ชีวิตหนุ่มโสดไม่คุ้มเลยนะครับ”

หนุ่มหล่อที่เตรียมเดินออกจากบ้านหลังโตหมุนตัวกลับเข้ามาแล้วเดินตรงเข้าไปหาบิดาที่นั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ พร้อมกับทิ้งตัวนั่งยองๆด้วยปลายเท้าตรงหน้าท่าน พลางจับสองมือเหี่ยวย่นสีน้ำผึ้งอมแดดของบิดาขึ้นมาลูบศีรษะตัวเองแล้วถูศีรษะกับมือของท่านอย่างออดอ้อนแบบที่ชอบทำมาตั้งแต่เด็ก เพราะอาชาวินรู้ดีว่าหากเขาทำเช่นนี้ทีไร บิดาจะยอมโอนอ่อนตามใจเขาทุกทีไม่เคยพลาด ด้วยความที่มารดาเสียไปตั้งแต่อาชาวินอายุแค่ห้าขวบ อัลเฟรดจึงรักและตามใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ไม่เคยขัดใจเลยสักครั้ง แม้กระทั่งตีเบาๆสักแปะให้ระคายผิวก็ไม่เคยทำ

“อาชา แกก็รู้ว่าแด๊ดอยากอุ้มหลาน”

“แด๊ดครับ ผมยังไม่เจอแม่ของลูกเลยนี่นา แล้วจะทำหลานให้แด๊ดอุ้มได้ยังไงล่ะครับ”

“แกจะเจอลูกสะใภ้ดีๆของแด๊ดได้ไงล่ะ ก็ไอ้ที่ที่แกชอบไปน่ะมันดีนักนี่”

“แด๊ด…”

อาชาวินทำหน้าเจื่อนๆเถียงไม่ออกเมื่อถูกบิดาตอกกลับมาเช่นนั้นแถมยังส่งค้อนให้เขาอีกครั้งจนหน้าคว่ำ มันจริงอย่างที่บิดาประชดประชัน เพราะสถานที่ที่เขาไปส่วนใหญ่ก็หลีกหนีไม่พ้นแหล่งอโคจรยามค่ำคืนที่เหล่านักท่องราตรีจะมาดื่มเหล้าเคล้านารีกันให้สุดเหวี่ยง ไม่มีผูกมัด ไม่มีการเรียกร้อง เมื่อต่างฝ่ายต่างได้รับความสุขก็แยกย้ายทางใครทางมัน นั่นคือวิถีปฏิบัติของปีศาจราตรีเช่นเขา

 และแน่นอนว่าคนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของอัลเฟรดจะต้องเป็นกุลสตรีที่ดีพร้อมเหมือนภรรยาผู้ล่วงลับ เช่นเดียวกับอาชาวินที่คิดว่าแม่ของลูกจะต้องไม่ใช่แม่ดอกไม้หลากสีลีลาร้อนแรงเจนจัดที่เขาพบเจออยู่ทุกค่ำคืนนั่นแน่ๆ ไม่ได้คาดหวังว่าภรรยาของเขาจะต้องเป็นสาวพรหมจรรย์บริสุทธิ์ผุดผ่องดั่งดอกไม้แรกแย้ม เพราะหากต้องการเช่นนั้นคงต้องไปดักรอหน้าโรงเรียนตีตราจองกันตั้งแต่อายุสิบเอ็ดสิบสองโน้น ซึ่งเขายังไม่มีโปรเจ็คจะเข้าไปนั่งตบยุงในคุกด้วยข้อพรากผู้เยาว์เสียด้วย ขอแค่ผู้หญิงคนนั้นไม่ทำตัวเหลวแหลกมั่วไม่เลือกจนเกินไปและมีจิตใจดีเหมือนมารดาเขาก็ยอมรับได้

แต่ปัญหาคือ…ใครกันล่ะที่จะทำให้เขารู้สึกอยากหยุดชีวิตหนุ่มโสดจอมเสเพลอย่างที่เป็นอยู่ได้สักที เพราะไม่ว่าจะมีสตรีสาวสวยมากมายละลานตาเข้ามาผูกสัมพันธ์ เขาก็ไม่เคยรู้สึกพิเศษกับใครเลยสักคน อย่างดีก็แค่อยากกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันบนเตียงพอให้หายอยาก แต่พอบทรักสุขสมจบลง ความรู้สึกกระหายใคร่อยากของเขาก็ดับลงเช่นกัน โครงการมีลูกอย่างที่อัลเฟรดต้องการจึงยังไม่ได้เริ่มลงมือ

“แล้วแต่แกนะ ถ้าคิดว่ายังไม่ถึงเวลาแด๊ดก็จะไม่เร่ง เอาที่แกสบายใจ”

“โถ่แด๊ด อย่างอนผมสิครับ”

อาชาวินทำหน้ายุ่งชักนั่งไม่ติดเมื่อเห็นแววตาผิดหวังของบิดาที่เหลือบมองหน้าเขาแว่บหนึ่ง

“แด๊ดเปล่างอน ก็แค่พยายามปลงให้ได้ว่าหลานปู่คงยังไม่มาเกิดเร็วๆนี้…ก็แค่นั้น”

“แด๊ดคร๊าบ เอาอย่างนี้ ผมสัญญาว่าจะพยายามมองหาว่าที่ลูกสะใภ้ของตระกูลแมคคานน์ให้มากขึ้น ถ้าเจอคนไหนถูกใจผมจะพุ่งเข้าใส่แล้วพามาให้แด๊ดดูตัวเลยดีไหมครับ”

“พูดจริงหรือแค่หลอกให้คนแก่สบายใจ”

อัลเฟรดที่นั่งหันข้างให้ลูกชายคล้ายกำลังงอนเหลือบหางตามามองอาชาวินที่นั่งมองเขาด้วยสายตาแน่วแน่จริงจัง ก่อนเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยทั้งที่ในใจกำลังเบ่งบานมีความสุขเพราะสัญชาตญาณบางอย่างบอกเขาว่าครั้งนี้อาชาวินพูดมาจากใจ และที่สำคัญกว่านั้นคืออัลเฟรดรู้สึกว่าการรอคอยที่แสนยาวนานของเขาใกล้จะเป็นความจริงเข้ามาเรื่อยๆ

“พูดจริงสิครับแด๊ด ถ้ามีโอกาสได้เจอผู้หญิงคนนั้นผมจะไม่ปล่อยให้โอกาสสูญเปล่าจะจับปล้ำทำเมียตีตราจองเสกเด็กเข้าท้องเลย พูดจริง”

“งั้นนัดวันเสาร์นี้ที่บ้านท่านนายอำเภอ….”

ได้ยินคำยืนยันหนักแน่นจากปากของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ดวงตาสีเทาที่เคยเหี่ยวเฉาดูเหงาๆของอัลเฟรดก็เริ่มมีประกายแห่งความหวังเรืองรองให้เห็น แต่ประกายวิบวับที่ว่ากลับมีอายุสั้นนัก เมื่ออัลเฟรดเกริ่นเรื่องนัดหมายดูตัวลูกสาวลูกชายที่ท่านนายอำเภอเคยคุยๆไว้ตอนเจอกันที่งานเลี้ยงเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ยังไม่ทันจะพูดจนจบประโยค อาชาวินก็ปล่อยมือเขาแล้วทิ้งตัวนั่งลงกับพื้นพลางกระถดตัวหนีห่างระยะสองช่วงแขน จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาไม่แพ้อัลเฟรดตอนหนุ่มๆก็รีบส่ายหวือยืนยันคำตอบว่าเจ้าลูกชายที่เพิ่งรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะนั้นไม่มีทางไปร่วมรับประทานอาหารตามที่ท่านนายอำเภอเอ่ยชวนแน่นอน

“แต่โอกาสนี้ผมคงต้องขอสละสิทธิ์ครับแด๊ด”

เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะไปกินข้าวหรือเขาจะถูกลูกสาวจอมแอ๊บของนายอำเภอกินแทนอาหารกันแน่

“ทำไมล่ะ ไปให้ท่านเห็นหน้าสักหน่อยก็ได้ จะได้ไม่เสียมารยาทด้วย ท่านอุตส่าห์เชิญแล้ว ชอบไม่ชอบค่อยว่ากันตามหลัง ไหนบอกว่าถ้ามีโอกาสแล้วแกจะไม่ปล่อยทิ้งไง ยังไม่ทันไรเลย ผิดคำพูดกับแด๊ดซะแล้ว”

“ผมเป็นผู้ชายเอาผู้หญิงมาพูดในทางเสียหายคงไม่เหมาะ แต่ผมขอบอกกับแด๊ดไว้ตรงนี้เลยครับว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางที่ผมจะเอามาเป็นแม่ของลูกแน่นอน” สงสารลูกถ้าต้องมีแม่แบบนั้น

อาชาวินยืนยันกับอัลเฟรดด้วยแววตาและคำพูดชัดเจนหนักแน่น ซึ่งอัลเฟรดเองรู้จักนิสัยลูกชายคนนี้ดีว่าถ้าบอกว่า ‘ไม่’ จะให้พยายามเกลี้ยกล่อมหรือบังคับอย่างไรอาชาวินก็จะไม่ยอมทำตามเด็ดขาด ที่สำคัญลูกชายเขาเกลียดการถูกบังคับมากถึงมากที่สุด หากลองได้ถูกบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่ต้องการแล้วล่ะก็ รับรองเลยว่าจะได้เห็นความร้ายกาจขั้นสุดของเจ้าตัวแสบมากกว่าท่าทางออดอ้อนอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้แน่

ขณะเดียวกัน อาชาวินก็กำลังทำท่าขนลุกขนพองเมื่อในสมองประมวลภาพที่เคยเห็นเมื่อเดือนก่อน ตอนนั้นเขาไปเที่ยวที่ผับตามปกติ และก็เป็นเรื่องปกติเหมือนกันที่หนุ่มหล่ออย่างเขาจะมีสาวสวยคอยส่งสายตาเชิญชวนมาให้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีลูกสาวของนายอำเภอรวมอยู่ด้วย แต่บังเอิญว่าวันนั้นเขามีนัดกับเพื่อนเลยไม่ได้ตอบรับคำชวนของสาวๆคนไหน หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมง จังหวะที่เขาลุกไปเข้าห้องน้ำ เขาก็ทันเห็นว่าลูกสาวของนายอำเภอที่เพิ่งจะส่งสายตาเชิญชวนหวานหยดย้อยให้เขากำลังกอดจูบอยู่กับผู้ชายตรงมุมหลังร้านถัดจากห้องน้ำไม่มากอย่างดุเดือด ที่สำคัญคือเจ้าหล่อนควงผู้ชายถึงสาม อีกสองคนที่ไม่ได้จูบปากก็ลูบคลำเนื้อตัวบีบเคล้นกันสนุกสนาน  เห็นอย่างนั้นเขาก็รีบเข้าไปทำธุระแล้วรีบเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะไม่คิดจะมองภาพอุบาทว์ตรงนั้นให้เสียสายตา

“แต่ว่าท่านออกปากเชิญมาแล้วนะ”

“นะครับแด๊ด ผมไม่อยากไปจริงๆ”

อาชาวินดีดตัวขึ้นมานั่งยองๆอยู่ตรงหน้าบิดาแล้วจับมือท่านมาวางไว้บนศีรษะอีกครั้ง พลางส่งสายตาวิงวอนให้ท่านเห็นใจ บอกตามตรงว่าเขาคงรำคาญจนเข้าขั้นหงุดหงิดหากต้องไปเจอกับลูกสาวของนายอำเภอที่ชอบทำตัวแอ๊บเป็นสาวน้อยใสซื่อในเวลากลางวันที่เขาเคยเห็นผ่านๆ เพราะเกรงว่านอกจากสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคาดหวังไว้จะไม่เป็นผล ดีไม่ดีเขาอาจกลั้นอารมณ์หงุดหงิดไม่อยู่แล้วเผลอแสดงความขยะแขยงออกมาทางสายตาหรือพลั้งปากพูด แล้วมันจะทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวเขากับนายอำเภอมองหน้ากันไม่ติดซะเปล่าๆ

“เฮ้อ…ตามใจ ก็แกไม่อยากไปแล้วแด๊ดจะไปบังคับอะไรได้ล่ะ”

สุดท้ายก็ลงเอยเหมือนเดิมคืออัลเฟรดได้แต่ถอดถอนหายใจเหนื่อยหน่ายที่ความหวังไม่เป็นผลสำเร็จ จะว่าไปเขาก็แทบไม่เคยบังคับอาชาวินเลยด้วยซ้ำ พอลูกชายหัวแก้วหัวแหวนร้องขอแบบไหนเขาก็ยอมตามใจทุกทีไป ก็ตามใจมาตั้งแต่เล็กๆจะให้มาบังคับกันตอนนี้ก็คงไม่ทัน อีกอย่างลูกชายเขาคงรู้อะไรมาแน่ๆ ไม่อย่างนั้นไม่ปฏิเสธเสียงแข็งขนาดนั้นหรอก เพราะลูกสาวของนายอำเภอน่ะสวยระดับนางงามเลยทีเดียว

“ขอบคุณครับแด๊ดที่เข้าใจ งั้นผมไปก่อนนะครับ เดี๋ยวสาวสวยๆจะถูกคนอื่นคว้าไปซะก่อน”

ได้รับการตามใจจากบิดาอีกครั้งอาชาวินก็ยิ้มร่าเป็นเด็กน้อยได้ของเล่นแล้วเอ่ยขอบคุณอัลเฟรดเป็นการใหญ่ที่ไม่บังคับในสิ่งที่เขาไม่อยากทำ จากนั้นร่างสูงก็ดีดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วหมุนตัวหันหลังเตรียมพร้อมสำหรับออกล่าเหยื่อสาวแสนสวยในผับ ทว่าเสียงของบิดากลับเบรกท่อนขายาวๆของอาชาวินไว้ซะก่อน

“ไปเถอะ อย่ากลับดึกนักล่ะพรุ่งนี้มีงานเช้า แล้วถ้าเมาก็อย่าขับรถ โทรมาเดี๋ยวแด๊ดให้คนไปรับ”

“ขอบคุณครับ แด๊ดก็อย่านอนดึกนะครับเดี๋ยวไม่สบาย เข้านอนได้เลยไม่ต้องรอผม”

อาชาวินเดินกลับมาแล้วโน้มตัวลงสวมกอดบิดาที่รักและห่วงใยเขาเสมอ พลางคิดว่าลูกชายบ้านอื่นที่อายุเท่าเขาคงไม่ค่อยได้แสดงความรักกับผู้เป็นพ่ออย่างที่เขาทำสักเท่าไร แต่เพราะมีกันแค่สองคนพ่อลูก อัลเฟรดจึงมักสวมกอดเขาเอาไว้เหมือนต้องการทดแทนความอบอุ่นจากแม่ที่ขาดหายไปไม่ว่าเขาจะตัวโตแค่ไหน อ้อมกอดนี้ทำให้รู้ว่าพ่อรักเขามากและนั่นก็เป็นความเคยชิน เขาไม่เคยนึกอายที่จะสวมกอดท่านกลับคืนให้พ่อรู้ว่าเขาก็รักพ่อมากเช่นเดียวกัน เพราะอ้อมแขนอบอุ่นจากผู้ชายอายุหกสิบปีคนนี้แหละที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาด้วยความรักอย่างแท้จริง บิดาทุ่มเททำให้เขาทุกอย่าง แม้ว่าเขาจะไม่มีแม่แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกขาด เพราะความรักของพ่อคนนี้สามารถเติมเต็มทุกความรู้สึกได้อย่างน่าอัศจรรย์

*****************************************************************************************

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา