ปริศนาราณี

5.8

เขียนโดย Richa

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 15.17 น.

  14 ตอน
  1 วิจารณ์
  12.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2561 13.53 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) แม่เฒ่าตาบอด (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

อารียาและไก่โต้งเดินถือถาดข้าวปลาอาหารไปตามถนนคนเดินที่หนาแน่นไปด้วยฝูงชน เหล่านักท่องเที่ยวมากมายตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาร่วมประเพณีพื้นเมืองที่โด่งดังจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวไปแล้ว ความสวยโดดเด่นของอารียาทำให้ทั้งคนพื้นเมืองและเหล่านักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาต้องจ้องมองเธออย่างสงสัย ว่าเธอคือหนึ่งในนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวหรือเป็นดารามาถ่ายทำละครกันแน่

“ทำไมคนเยอะจัง” อารียาเอ่ยขึ้นเมื่อเธอมองเห็นผู้คนมากมายนั่งเรียงรายกันตลอดสองข้างถนน

“พวกนักท่องเที่ยว เขามาทำบุญตักบาตรข้าวเหนียวกันน่ะ จากประเพณีดั้งเดิมที่แตกต่างจนกลายเอกลักษณ์ ประเพณีนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมและร่วมเข้าร่วมปฏิบัติ” ไก่โต้งอธิบาย

“บางคนมาที่นี่เพื่อรับรู้ ดื่มด่ำกับบรรยากาศและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม แต่บางคนก็มาเพื่อถ่ายรูปสวย ๆ ไปอวดบรรดาเพื่อนในเฟสบุ๊คบ้าง อินสตราแกรมบ้าง” ไก่โต้งกล่าวเสริม

“แล้วคุณพาไอร์มาที่นี่ทำไม? ดื่มด่ำกับบรรยากาศและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมหรือถ่ายรูปสวย ๆ ลงเฟสบุ๊คดี” อารียาหันไปถามไก่โต้งอย่างหยอกเย้า

“เอาทั้งสองอย่างเลยแล้วกัน ไอร์สวยตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้ เพื่อนของผมต้องอิจฉาแน่ที่เห็นรูปเราสองคนบนเฟสบุ๊ค” ไก่โต้งพูดจาหยอกเย้าหญิงสาวพร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตกรุ่นไปแล้วหลายปีขึ้นมาถ่ายภาพคู่กับอารียาขณะที่ทั้งคู่กำลังยืนอยู่กลางถนนคนเดิน

ไก่โต้งพาอารียานั่งลงตรงตำแหน่งที่ว่างพอสำหรับพวกเขาทั้งสองคน ระหว่างรอพระภิกษุสงฆ์มารับบิณฑบาตเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปของอารียาในแทบจะทุกอิริยาบถของเธออย่างเพลิดเพลิน มันคือความสุขที่ชายหนุ่มไม่อาจจะหาได้จากหญิงสาวคนใด มีเพียงเธอคนนี้เท่านั้นที่เติมเต็มความสุขที่แท้จริงให้กับเขา

เบื้องหน้าของหญิงสาวคือผู้คนกลุ่มหนึ่งที่เดินรายล้อมแม่เฒ่าวัยชราอายุร่วมร้อยปี หนึ่งหญิงวัยกลางคนกำลังเดินจูงมือแม่เฒ่าผู้ที่คงสายตาพร่ามัว อีกหนึ่งชายถือถาดข้าวปลาอาหารและหญิงชายอีกจำนวนร่วมสิบเดินตามกันมาราวกับว่าเป็นลูกหลานผู้คอยปรนนิบัติหญิงชรายามแก่เฒ่า อารียาจ้องมองไปยังหญิงชราผู้นั้นอย่างสนใจราวกับมีอำนาจวิเศษบางอย่างส่งสัญญาเตือนเธอ

“นั่นคือแม่เฒ่าตาบอด” ไก่โต้งกระซิบบอก

“แม่เฒ่าตาบอดอายุ 110 ปี แต่ร่างกายยังแข็งแรง เดินเหินได้สะดวก และที่ติดตามแม่เฒ่ามาเป็นขบวนนี่คือเหล่าลูกศิษย์” ไก่โต้งยังคงทำหน้าที่มัคคุเทศก์จำเป็นให้หญิงสาวจากแดนไกล

“ลูกศิษย์? หมายถึงนักเรียน นักศึกษานะเหรอ หญิงชราผู้นี้คืออาจารย์ของพวกเขาเหรอ หญิงแก่ตาบอดแบบนี้สอนวิชาอะไร ศึกษาเล่าเรียนจนสามารถสอนคนตาปกติได้เลยเหรอ แล้วทำไมแก่ป่านนี้แล้วถึงยังมีคนคอยติดตามร่ำเรียนอยู่” อารียายิงคำถามชุดใหญ่ เธอรู้สึกแปลกใจกึ่งสงสัยในตัวแม่เฒ่าผู้นี้อย่างหาสาเหตุไม่ได้

“แม่เฒ่าไม่ได้เป็นอาจารย์หรอก แต่ที่มีคนติดสอยห้อยตามเพราะแม่เฒ่าเป็นคนมีญาณวิเศษ

“ญาณวิเศษคืออะไร” อารียาเอ่ยถาม

“ญาณคือความสามารถในการหยั่งรู้ การกำหนดรู้ที่เกิดจากสมาธิ ส่วนใหญ่จะเกิดกับพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติสมาธิ สติและปัญญาอย่างเคร่งครัด แต่บางครั้งก็เกิดกับคนทั่วไปได้ บางคนเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นพรสวรรค์ แต่พ่อของผมเรียกมันว่าเป็นคำสาป

“ญาณวิเศษในความเชื่อของชาวบ้าน คือผู้ที่มีพลังวิเศษสามารถติดต่อกับภูตผีและวิญญาณได้ ผู้ที่มีพลังวิเศษสามารถมองเห็นอดีตและอนาคตของผู้อื่นได้เพียงแค่การสัมผัสตัวบุคคลหรือสิ่งของของบุคคลนั้น ผู้ที่มีพลังวิเศษสามารถหยั่งรู้หรือมองเห็นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปมองไม่เห็น มันคือพลังวิเศษที่คนทั่วไปไม่มี” ไก่โต้งอธิบาย อารียาจ้องไปยังแม่เฒ่าตาบอดกึ่งไม่เชื่อถือนักแต่สิ่งเหนือธรรมชาติก็ได้ประจักษ์แก่สายตาของเธอมาแล้ว หญิงสาวเลือกที่จะไม่ลบหลู่แต่กับอยากรู้มากขึ้น

“แม่เฒ่าผู้นี้ได้รับความสามารถพิเศษนี้มาได้อย่างไร” อารียาเอ่ยถาม สายตาของเธอยังจับจ้องไปยังแม่เฒ่าตาบอดผู้นั้น โดยที่คนรอบข้างของแม่เฒ่าไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะภาพการถูกจ้องมองเป็นเรื่องปกติของพวกเขาเสียแล้ว แม่เฒ่าคือบุคคลที่ทุกคนรู้จักและกลัวเกรง

“ชาวบ้านเขาลือกันว่า ตอนที่แม่เฒ่าเกิดมาก็มีหู ตา จมูก ปาก และมองเห็นเป็นปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป จนกระทั่งแม่เฒ่าอายุได้ 10 ขวบ เกิดพายุหมุนอย่างรุนแรงขึ้น” ไก่โต้งเริ่มเล่าเรื่องราวที่ชาวบ้านเขาเล่าลือกันมาให้หญิงสาวฟัง

“วันนั้นแม่เฒ่าวัย 10 ขวบก็ติดตามพ่อและแม่ไปทำนาตามประสาคนยากคนจน ขณะที่พ่อและแม่กำลังดำนากันอยู่ห่างออกไป แม่เฒ่าก็นั่งเล่นอยู่กลางคันนาเพียงลำพังคนเดียว จับหอยจับปูเล่นตามประสาเด็กน้อย พายุหมุนอย่างแรงก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มันหมุนมาแต่ไกล ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งหนีกันอลหม่าน”

“มีเพียงเด็กน้อยวัย 10 ขวบผู้นั่งเล่นอยู่อย่างไม่รู้ภัยอันตราย พายุหมุนได้พัดผ่านร่างกายของแม่เฒ่าจนตัวลอยขึ้นไปบนฟ้าและพัดเอาร่างนั้นลอยไปไกล พ่อแม่และชาวบ้านช่วยกันออกตามหา คิดว่าแม่เฒ่าต้องตายแล้วแน่ ๆ แต่เปล่า เด็กน้อยวัย 10 ขวบที่ถูกพายุหมุนพัดไปไกล ไม่ได้ตาย แค่นอนแน่นิ่งหายใจเป็นปกติ เพียงแต่ ตาบอดเท่านั้น ”

“จากวันนั้นเป็นต้นมา แม่เฒ่าก็มองไม่เห็นอีกเลย แต่แม่เฒ่าไม่เคยเสียใจเพราะแม้โลกมนุษย์ของแม่เฒ่าจะมืดบอดแต่อีกโลกของแม่เฒ่ากลับสว่างไสว ชาวบ้านเขาลือกันว่าแม่เฒ่าสามารถมองเห็นอดีตและอนาคตของทุกคนได้เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น”

“อำนาจวิเศษที่ได้มา มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ ... มันน่ากลัวกว่าที่ไอร์คิดเอาไว้เสียอีก” อารียารำพึงรำพัน

“ใช่ มันไม่ได้สวยหรู พ่อถึงเรียกสิ่งนี้ว่า คำสาป” ไก่โต้งเอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วย

พระภิกษุสงฆ์เริ่มเดินเท้าออกมาตามทางเดินที่ผู้คนนั่งรอตักบาตรอยู่ อารียาสังเกตเห็นผู้คนยกถาดขึ้นสูงเหนือศีรษะ ปากก็บ่นพึมพำอะไรเบา ๆ เพียงแค่คนคนนั้นได้ยินเท่านั้น หลังจากพึมพำเสร็จก็ยกถาดลงถือไว้แนบอกเตรียมหยิบถวายพระอย่างสำรวม

“ที่ไอร์เห็นนี่ เค้าเรียกว่าตั้งจิตอธิษฐาน” ไก่โต้งอธิบาย “เวลาไอร์อยากได้อะไรสักอย่าง ไอร์ต้องทำความดีแลกและนั่นคือการทำบุญใส่บาตรแบบนี้ มันคือความดีอย่างหนึ่งที่จะช่วยส่งผลให้คำขอที่ไอร์เรียกร้องจากพระผู้เป็นเจ้าได้ผลเร็วขึ้น”

อารียาหัวเราะเบา ๆ ไก่โต้งจ้องมองใบหน้างามนั้นอย่างมีความสุข เขายกถาดขึ้นอธิษฐานบ้าง อารียาไม่รู้ว่าไก่โต้งอธิษฐานอะไรเพราะเขาไม่ได้บ่นพึมพำเหมือนคนอื่น ๆ เขาตั้งจิตอธิษฐานอยู่ในใจเพียงลำพังคนเดียว เขาเท่านั้นที่ได้ยินเสียงอธิษฐานของตัวเอง

ไก่โต้งและอารียาเดินชมวิวกันอยู่บนถนนเลียบริมแม่น้ำโขง ร่างสูงโปร่งของอารียายังคงโดดเด่นเหนือใคร ๆ เธอเดินสวนทางกับผู้คนมากมายและหยุดนิ่งอยู่ตรงจุดชมวิวที่เป็นรูปปั้นพญานาค นักท่องเที่ยวมากมายผลัดกันไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ถูกจัดเอาไว้ให้เพื่อถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นพญานาคที่ดูจิตใจงดงามนั้น

“ไอร์จะถ่ายรูปกับพญานาคด้วยมั้ย เดี๋ยวผมถ่ายให้” ไก่โต้งเอ่ยปากถามเมื่อเห็นอารียาจ้องมองรูปปั้นพญานาคนั้นอย่างไม่วางตา

“ไม่ดีกว่า คนรอคิวเยอะ ไอร์ชอบเดินเล่นเก็บภาพในความทรงจำลงสมองมากกว่า สมองไอร์ใหญ่มีหน่วยความทรงจำเยอะและไอร์ก็ทำดัชนีเอาไว้ เพื่อให้ค้นหาได้ง่าย” อารียาพูดพลางเดินผ่านรูปปั้นนั้นไปอย่างไม่สนใจไยดี  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา