หอมดิน กลิ่นดาว

9.5

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 17.51 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  20.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 17.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) หึง?หรือเปล่า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“พี่ดิน.....อืมมมม  อย่า”

“อ่า”

“ตัวฤกษ์หอมจัง”

“อ่า  พอ  พะพอได้แล้วพี่ดินอ่า ซีสส”

“อืม หอมจังครับฤกษ์”

“พะพี่ดิน โอ้ยอ่า อึ้มมม”

ดาวฤกษ์ร้องครางออกมาเบาๆด้วยฤทธิ์การไซ้ซอกคอของปลัดดิน  มือของภูดินก็ไม่เคยจะหยุดนิ่งได้เลย  เขาสำรวจทั่วทั้งเรื่อนร่างของอีกฝ่ายอย่าชำนาญและเบามือ  ขณะที่ทั้งสองกำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่นั้น  ประตูร้านขายยาก็ถูกผลักเข้ามาจากด้านนอกของร้าน

“ฤกษ์   อยู่ไหมครับ?”

เสียงทุ่มๆของแขกผู้มาใหม่ร้องหาเจ้าของร้านยาทันที ที่โผล่พ้นขอบประตูย่างก้าวเข้ามาภายในร้าน  แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงัดไปทันที  เมื่อสายตาไปเพ่งตรงจุดที่ภูดินกำลังโอบกอดตัวของดาวฤกษ์ที่เคาเตอร์จ่ายยา

“เออะ  ขะขอโทษครับ  ฤกษ์อยู่ไหมครับ”

หลังจากได้ยินเสียงผู้ที่มาเยือน  ร่างทั้งสองก็ต้องผลักออกจากกันโดยเร็ว  ภูดินออกอาการเสียอารมณ์เป็นอย่างมากที่อยู่ๆก็มีคนมาขัดจังหวะของตัวเอง  ภูดินค่อยๆหันกลับมามองยังต้นเสียงนั้นทันทีพร้อมด้วยสายตาที่เคืองโกรธเป็นอย่างมาก

“อ้าว?   ผู้หมวดนั้นเอง  นึกว่าใครที่ไหนเสียอีก     มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ”

“เอ่อ  คะคือว่า   พอดีจะมาชวนฤกษ์ไปทานข้าวเย็นเสียหน่อยนะครับ  แล้วนี้ฤกษ์เก็บของเสร็จแล้วใช่มั้ย?”

ผู้หมวดสไนเปอร์รีบตอบคำถามออกไปหลังจากที่ตั้งสติได้แล้ว  เขาพยายามคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  เพราะไม่คาดคิดว่าจะเข้ามาเห็นภาพบาดตาบาดใจอะไรแบบนี้  แต่ก็แค่กอดกันเฉยๆผู้หมวดหนุ่มยังมีสติพอที่จะปลอดใจตัวเองอีกครั้ง

“ฤกษ์   เย็นนี้ว่างมั้ย  เรามาชวนไปทานข้าวครับ”

จากนั้นผู้หมวดหนุ่มก็รีบยิ่งคำถามไปหาเจ้าของร้านยาทันที  พร้อมรอฟังคำตอบอย่างลุ้นตัวโกงเลยทีเดียว  แต่ด้วยอาการของดาวฤกษ์ยังเก้อกังๆอยู่นั้น  ผู้หมวดก็ไม่รอช้ารีบยิ่งคำชวนเข้าไปอีกรอบทันที

“ฤกษ์  เรามารับไปทานข้าวเย็นนะ”

“ปะ  เปอร์  มาชวนเราไปทานข้าวเหรอ?”

ดาวฤกษ์ตั้งสติได้  ก็รีบตอบคำถามของผู้หมวดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ดูจะสั่นเอาการอยู่เหมือนกัน

“อืม    พอดีเราเห็นร้านบุฟเฟ่ต์เปิดใหม่ มีซีฟู้ดด้วย  เลยกะมาชวนฤกษ์ไปลองชิมเสียหน่อย”

“ซีฟู้ดเหรอ   กำลังอยากกินปูอยู่พอดีเลย”

พอได้ยินคำว่าชีฟู้ด  อารมณ์ที่กระดากอายเมื่อสักครู่ของดาวฤกษ์ก็มะลายหายไปจนหมดสิ้น  เหลือไว้แต่ความหิวกระหายขึ้นมาแทนที่

“นั้นสิ  เราได้ยินคนในโรงพักที่เขาพาแฟนไปกินมา  เห็นบอกว่า  ปูนี้ สดๆตัวใหญ่ๆเลยนะ”

“อุ้ยพูดซะให้เห็นภาพเลย    เราหิวขึ้นมาทันทีเลยอะเปอร์”

“นอกจากปูทะเลแล้ว  ยังมีหมึกตัวใหญ่ๆ กุ้งสดๆ หอยใหม่ๆจากทะเลเลยนะฤกษ์”

“อุ้ย   สดๆใหม่ๆจากทะเลเลยหรอ   น่าสนมากๆเลย  หิวๆ”

“ใช่  น่าสนมากๆเลย  เขาบอกว่ารสชาติเหมือนยกทะเลมาไว้ข้างหน้าเลยนะฤกษ์”

“จริงอะ  โอ้ยย  แค่ได้ยินก็ฟินแล้ว  ถ้าได้ชิมขึ้นมาจริงๆคงเว่อร์วังอลังการแน่ๆเลย”

“อืม  งั้นเราไปกันเลยดีมั้ย    รีบไปตอนนี้ คนยังไม่เยอะ  ถ้าขืนช้ามีหวังอด  คนเต็มร้านก่อนพอดีเลย”

“ดะได้สิ   เรากำลังจะปิดร้านอยู่พอดีเลย”

“เดี๋ยว”

ยังไม่ทันที่ดาวฤกษ์จะก้าวขาออกจากเคาเตอร์จ่ายยา  ก็มีเสียงดุเข้มๆของปลัดหนุ่มดังขึ้นเสียก่อน

“ใครอนุญาตให้ฤกษ์ไปไม่ทราบ”

ภูดินยิงคำถามออกไปทันที  แต่เขากลับจ้องมองผู้มาเยือนแทนด้วยสาตาที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย

“อ้าว?  ทำไมต้องมีคนอนุญาตด้วยละพี่ดิน   ฤกษ์โตแล้ว    อีกอย่างฤกษ์ก็แค่ไปทานข้าวกับเปอร์เอง  ไม่เห็นจะมีอะไรนี้”

“ฤกษ์ความจำสั้นเหรอ  ก็พี่มารับเรากลับไปทานข้าวที่บ้านพร้อมกันอยู่นี้  แล้วฤกษ์จะไปกับคนอื่นได้ยังไงกัน?”

ปลัดหนุ่มเน้นเสียงคำว่าคนอื่นอย่างชัดเจน  พร้อมสายหางตาตวัดไปยังผู้หมวดทันที พร้อมกับร้อยยิ้มที่มุมปากแบบผู้มีชัยเหนือกว่า

“คนอื่นที่ไหน   เปอร์เป็นเพื่อนฤกษ์   เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วพี่ดิน”

“ไม่ใช่คนในครอบครัว  พี่ถือว่าเป็นคนอื่น   แล้วอีกอย่าง  คนนอกจะสำคัญเท่ากับคนในครอบครัวได้ยังไงกัน   .....  จริงมั้ยครับ  หมวดเปอร์”

ภูดินยังไม่ยอมที่จะปล่อยให้ดาวฤกษ์ได้ไปทานข้าวกับนายตำรวจหนุ่มอยู่นั้นเอง  เขาจึงแขวะหมวดสไนเปอร์อย่างจงใจให้รู้สึกถึงสถานะของตัวเอง  พร้อมเกทับถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับครอบครัวดาวฤกษ์ทันที

“ผมกับฤกษ์เรารู้จักกันมานาน  แล้วอีกอย่างผมก็เข้าออกบ้านฤกษ์ตลอดอีกทั้งแม่ของฤกษ์ก็รู้จักผมดี  ผมจึงไม่ถือว่าตัวเองเป็นคนนอกครับคุณปลัด”

หมวดหนุ่มก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน  ยังคงส่งคำพูดที่เชือดเฉือนพร้อมกับสายตาที่มุ่งมั่นและท้าทายมายังปลัดดินอย่างไม่เกรงกลัวอะไรเลย

“อืม  เหรอครับ   ผมก็เพิ่งรู้  ไม่เห็นฤกษ์เล่าให้ฟังเลย  แถมน้ามลก็ไม่เคยพูดเรื่องราวของหมวดให้ฟังเลย  สงสัยจะไม่ใช่คนสนิทจริงๆเหมือนผมเสียแล้วสิครับ”

ภูดินพูดพร้อมกับก้าวเท้าเข้ามาใกล้กับดาวฤกษ์ทันที  พร้อมกับใช้วงแขนกว้างๆไปโอบไหล่ของดาวฤกษ์มากอดไว้หลวมๆทันที

“โอ้ยพี่ดิน  จะอะไรอีกอะ   นี้ฤกษ์ชักอยากจะไปลองชิมซีฟู้ดแล้วนะ  ถ้าพี่ดินไม่พอใจ  ก็ไปด้วยกันนี้ล่ะ  ไปหลายๆคนสนุกดี  พี่ดินไปด้วยได้ไหมเปอร์?”

ดาวฤกษ์หันไปถามผู้หมวดหนุ่มทันที

“ได้สิ  เราสบายอยู่แล้ว  ว่าแต่คุณปลัดจะไปกับเราเหรอฤกษ์?”

“ไม่”

ปลัดหนุ่มตอบออกมาทันทีด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วดุดันเอาการเลยทีเดียว

“นั้นไง  เราว่าแล้ว  อย่างคุณปลัดเขาไม่ไปกับเราหรอก ดูท่าทางคุณปลัดออกจะเป็นหนุ่มชาวกรุงแบบนี้ คงไม่ชอบไปนั่งร้อนๆใกล้ๆกับเตาเผาหรอก     ฮึฮึ งั้นเราไปกันเถอะ  จะได้ไม่เสียเวลา”

“ที่บอกว่าไม่   ผมหมายถึงไม่อนุญาตให้ฤกษ์ไปกับคุณต่างหากละ  คุณปลัด”

“อ้าวพี่ดิน?”

เมื่อได้ยินคำสั่งห้ามของภูดิน  เล่นเอาดาวฤกษ์ถึงกับหน้างอเป็นจวักขึ้นมาทันที

“ไม่ต้องพูดมากแล้วฤกษ์  ถ้าอยากกินซีฟู้ด  เดี๋ยวพี่พาเราไปกินเอง  วันนี้ยังไงฤกษ์ต้องกลับบ้านไปทานข้าวพร้อมกับพี่  คุณพ่อคุณแม่  อีกอย่างน้ามลก็รอทานข้าวอยู่ด้วย”

“แต่ฤกษ์ไม่ได้นัดกับแม่นะพี่ดิน?”

ดาวฤกษ์ยังไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจที่จะไปลองชิมร้านซีฟู้ดเปิดใหม่อย่างที่สไนเปอร์กล่าวอ้างมา

“ก็พี่บอกฤกษ์อยู่นี้ไงล่ะ  ว่าน้ามล  แล้วพ่อกับแม่พี่ก็รอเราด้วย”

“แต่ว่าฤกษ์   อยากกินอาหารทะเลนะพี่ดิน”

“ก็พี่บอกแล้วไงว่า  ถ้าอยากกิน  วันหลังจะพาไปกินเอง  แต่ไม่ใช่วันนี้”

“ทำไมเมื่อเช้า  ไม่เห็นแม่พูดอะไรเลย   อีกอย่างฤกษ์ก็จำได้ว่าวันนี้ไม่ได้มีโอกาสอะไรสำคัญสักหน่อย  ทำไมต้องไปทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันด้วยละพี่ดิน?”

ดาวฤกษ์เกิดสงสัยขึ้นมา ว่าทำไมแม่ถึงต้องรอทานข้าวพร้อมกับเขา

“ถ้าฤกษ์ไม่เชื่อพี่  จะลองโทรไปถามน้ามลมั้ยละ  ว่าตอนนี้น้ามลกำลังรอเราสองคนกลับไปทานข้าวด้วย”

ปลัดหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาพร้อมกับทำท่าจะโทรศัพท์ไปยังบุคคลที่เขาอ้างถึงเมื่อสักครู่นี้

“เอ่อ  เออ  ก็ได้พี่ดิน  กลับก็กลับ”

ดาวฤกษ์จำใจต้องเชื่อคำพูดของอีกฝ่ายเมื่อเห็นว่าเขาเอาจริงขึ้นมาปลัดหนุ่ม

“เปอร์  เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ  วันนี้เราคงไปทานข้าวกับเปอร์ไม่ได้แล้ว  ขอโทษด้วย  อุตส่าห์มาชวนแท้ๆ”

ดาวฤกษ์หันไปบอกผู้หมวดหนุ่มทันที  เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของปลัดดินที่จะโทรไปหาแม่ของตัวเอง  จึงยอมกลับบ้านแต่โดยดี

“ไม่เป็นไร  เราเข้าใจ  งั้นฤกษ์กลับไปทานข้าวกับแม่เถอะ  เดี๋ยวเราค่อยไปวันหลังกันก็ได้”

“ขอบคุณนะเปอร์   เดี๋ยววันหลังเราค่อยนัดกันอีกทีแล้วกันเนาะ”

“ได้สิ  งั้นเราไม่กวนเวลาปิดร้านของฤกษ์ล่ะ   ขอตัวกลับก่อนนะฤกษ์   ผมไปละครับคุณปลัด”

ผู้หมวดหนุ่มกล่าวลาเภสัชกรแล้วเขาก็หันไปบอกกับปลัดหนุ่มที่ยืนกันท่าเขาไว้ก่อนหน้านั้น ด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ากำลังควบคุมอารมณ์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ครับ  โชคดี  ....เอ่อ  ผู้หมวดครับ  ถ้าไม่มีใครไปทานเป็นเพื่อน  เดี๋ยวผมแนะนำสาวๆที่อำเภอให้สักคนเอามั้ยครับ”

เมื่อเห็นท่าทีของผู้หมวดหนุ่มไม่สบอารมณ์  ภูดินก็ไม่รอช้ารีบเติมเชื่อเพลิงเข้าใส่อีกทันที

“ไม่ต้องหรอกครับ   ผมจะรอไปทานกับฤกษ์ก็พอ”

ผู้หมวดตอบกลับมาทันทีด้วยน้ำเสียงที่ห้วน  จากนั้นผู้หมวดหนุ่มก็กลับตัวหันหลังก้าวออกจากร้านขายยาของดาวฤกษ์ทันทีอย่างไม่รอช้า

“ไอ้ไก่อ่อนเอ้ย  เล่นกับใครไม่เล่น  มาเล่นกับคนอย่างปลัดดิน   รู้จักเราน้อยไปเสียแล้ว”

ภูดินพูดกับตัวเองลอยๆ  หลังจากที่ดาวฤกษ์กำลังเดินไปปิดประตูร้านเพื่อจะได้กลับบ้านนั้นเอง

“ฤกษ์ไม่ต้องหรอก  เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

ภูดินเดินไม่ถึงสามก้าวก็ถึงประตูหน้าร้าน  ซึ้งดาวฤกษ์กำลังจะดึงบานเลื่อนลงมา  ขณะนั้นเอง  มือของชายหนุ่มก็ไปจับเข้ากับหลังมือของดาวฤกษ์อย่างตั้งใจทันที

“พี่บอกแล้วไง  ว่าจะทำเอง  ดื้อจังเรา”

ปลัดหนุ่มพูดพร้อมกับส่งสายตามายังดาวฤกษ์ทันที  เป็นผลให้อีกฝ่ายถึงกับเกิดอาการเขินอายเอาเสียดื้อๆ

“มะไม่  เป็นไร   ฤกษ์ทำเองได้”

“เดี๋ยวพี่ช่วย   ฤกษ์เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว  ให้พี่ทำเถอะ”

“งั้นพี่ดินก็ปล่อยมือฤกษ์สิครับ”

“อ้าวเหรอ   ขอโทษ    แต่ไม่ปล่อยได้ไหมอะ   พี่ยังอยากจับมือเราอยู่แบบนี้”

“ไหนพี่ดินว่าจะช่วย  นี้มันแกล้งกันเห็นๆนะ”

“แกล้งที่ไหน   พี่พูดจริง”

“บ้าแล้วพี่ดิน”

“อารมณ์พี่ยังค้างอยู่เลย  เรามาต่อกันอีกรอบนะ”

ตุบ!!

“โอ้ยยย  ทำอะไรเนี้ยฤกษ์  พี่เจ็บนะ”

**เป็นอะไรใจเอ๋ยใจ

 

ตั้งแต่วันที่เห็นหน้า

 

และคำว่ารักที่ได้ยินมา

 

อีกสายตาสื่อความห่วงใย

 

ใจเจ้าเอยก็เลยไหวหวั่น

 

สั่นสะท้านถึงข้างใน

 

ใจยังไม่เคยไม่เคยมีใคร

 

เขินแทบตายอ๊ายอายจัง

 

สั่นทุกครั้งที่นั่งเคียง

 

สบตายิ่งพาใจหลงทาง

 

รักจริงๆไหมจ๊ะ

 

หรือเพียงหลอกให้หวัง

 

อุ๊ยแย่จังเราเป็นอะไร

 

อุ๊ยแย่จังเราเป็นอะไร

 

ใจที่เขินเดินไม่ตรงทาง

 

อยากมีหวังสมตั้งใจ

 

รักจริงๆเถิดนะ

 

อย่าเพียงแค่ฝันไป

 

เพี้ยงขอใจเธอรักจริง

 

สั่นทุกครั้งที่นั่งเคียง

 

สบตายิ่งพาใจหลงทาง

 

รักจริงๆไหมจ๊ะ

 

หรือเพียงหลอกให้หวัง

 

อุ๊ยแย่จังเราเป็นอะไร

 

ใจที่เขินเดินไม่ตรงทาง

 

อยากมีหวังสมตั้งใจ

 

รักจริงๆเถิดนะ

 

อย่าเพียงแค่ฝันไป

 

เพี้ยงขอใจเธอรักจริง

 

เพี้ยงขอใจเธอรักจริง

 

โอมเพี้ยง

 

ขอใจเธอรักจริง**

****  เพลงเขิน  บัว  บัณฑิตา***

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา