หอมดิน กลิ่นดาว

9.5

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 เวลา 17.51 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  20.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 17.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) เจ็บปวด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ดาวฤกษ์นั่งจมปรักอยู่กับที่โดยไม่รู้ว่าใช้เวลานานเท่าไร  มารู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่าบ่าไหล่มีเสื้อมาคลุมให้พร้อมกับน้ำเสียงที่ฟังดูแล้วช่างอบอุ่นใจเหลือเกิน

“ดึกแล้วยังไม่ยอมกลับบ้านอีกเหรอฤกษ์?”

เป็นเสียงของหมวดสไนเปอร์ นั้นเองที่ทักทายดาวฤกษ์มาพร้อมกับเสื้อคลุมตัวหนามาห่อไหล่ให้อีกฝ่าย แล้วเขาก็นั่งลงข้างๆดาวฤกษ์ทันที

“อ้าว...เปอร์  มาได้ไง?”

ชายหนุ่มหันไปถาม ดนวัต ทันที  ที่เขานั่งลงข้างๆตัวกับเอง

“พอดีว่าท่านนายกเชิญมาประชุมที่นี้นะ ”

“แล้วนี้ประชุมกันเสร็จแล้วเหรอ?  ทำไมเร็วจัง”

“เร็วอะไรฤกษ์ นี้มันสามทุ่มแล้วนะ    อีกอย่างก็เสร็จตั้งนานแล้ว    เรานั่งมองฤกษ์อยู่นานมากเลยนะ  ก็ไม่เห็นทีท่าว่าฤกษ์จะขยับตัวไปไหน  เลยมาเรียก”

หมวดเปอร์หันมาจ้องหน้า  เภสัชกรหนุ่มต่อหน้าทันที  ตอนนี้มีแสงจันทร์สาดเข้าใบหน้าของอีกฝ่ายทำให้ดูมีเสน่ห์น่าชวนยิ่งนัก

“อ่อ   พอดีเรานั่งคิดอะไรเพลินๆไปหน่อยนะ  จนลืมดูเวลาไปเลย”

“แล้วมานั่งตากลมแบบนี้  ไม่กลัวเป็นหวัดเหรอ?”

“ไม่หรอก   เราโอเค  ไม่ได้อ่อนแอสักหน่อย”

“อืม  เราก็ลืมไปว่ากำลังคุยอยู่กับคุณหมอ   ว้าหน้าแตกเลย”

หมวดหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มเขินๆให้กับอีกฝ่าย  ด้วยท่าทางอายๆ

“โอ้ย  เปอร์ก็พูดเกินไป  แค่นั่งรับลมแค่นี้  ไม่เป็นไรหรอก  อีกอย่างวิวที่นี้ก็สวยดี  พระจันทร์กับท้องน้ำตอนกลางคืน  มันสวยเนาะ”

“อืม  นั้นสิน่ะ  วิวสวยจริงๆ  เหมาะแก่การมารับลมชมวิว  เหมาะที่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอเรา  ฤกษ์ว่ามั้ย?”

“อืม อากาศมันเย็นดี  มองไปข้างหน้าก็เห็นสายน้ำรับกับฉากหลังเป็นภูเขาสวยจริงๆ    ยิ่งมองยิ่มทำให้จิตใจได้คิดอะไรเพลินๆเนาะ  เปอร์ว่ามั้ย”

“เพิ่งรู้ว่า  ฤกษ์  ก็มีมุมแบบนี้กับเขาด้วย?”

หมวดหนุ่มยิ้มเก้อเขินให้อีกฝ่าย  แต่อีกคนกลับมองไปยังเวิ้งน้ำข้างหน้าอย่างใจลอย

“เปอร์  ก็พูดเกินไป  เราก็เหมือนคนปกติทั่วไป  ไม่ได้วิเศษมาจากไหน  แถมตอนนี้ยังเป็นตัวป่วนทำให้คนเขาทะเลาะกันอีก”

“อย่าพูดแบบนั้นสิฤกษ์  ดูพระจันทร์สิ  ออกจะสวย  เราไม่ควรพูดเรื่องที่ไม่สบายใจไม่ใช่เหรอ?”

“อืม  มันก็ใช่เนาะ   เลยพลอยทำให้  เปอร์ไม่สนุกเลย”

“เปล่าน่ะ  เราแค่ไม่อยากให้ฤกษ์ คิดอะไรมากก็เท่านั้น   เวลาฤกษ์ไม่ยิ้ม  มันทำให้โลกนี้ดูหดหู่ขึ้นมาทันทีเลยน่ะ”

“โอ้ย    ....   เกินไปเปล่าเนี้ย   เปอร์นี้ปากหวานจริงๆเลย  มิน่าสาวๆทั้งอำเภอถึงได้หลงใหลได้ปลื้มหมวดเปอร์กันทั่วเมือง”

หมวดหนุ่มพอได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากเภสัชกรหนุ่ม  ทำให้คนแข็งแกร่งอย่างเขาเขินอายไปไม่เป็นเหมือนกัน

“เออ  แล้วนี้ฤกษ์มายังไงเนี้ย?”

ดาวฤกษ์พอได้ยินคำถามนี้  จากปากหมวดหนุ่ม  มันช่างจี้ใจดำของตัวเองเป็นอย่างมาก  ทำให้อารมณ์กำลังจะเข้าสู่สภาวะปกติก็ต้องมาสะดุดอีกครั้ง

“คือ...  คือว่า   เรามากลับพี่ดินนะ”

ดาวฤกษ์ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ  จนทำให้อีกฝ่ายจ้องมองด้วยความไม่เข้าใจ

“อ้าวเหรอ   แต่เราเห็นปลัดเขากลับไปแล้วนะ?”

“อืม   เขาคงรีบกลับไปง้อแฟนนะ”

“มิน่า...คงจะจริง  เพราะหลังจากประชุมเสร็จ  เราก็เห็นปลัดดินรีบบึ่งรถออกไปทันทีเลย   แล้วนี้ฤกษ์จะกลับกับเรามั้ย  เดี๋ยวเราไปส่งที่บ้าน”

เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเริ่มถอดสี  หมวดหนุ่มก็รีบออกปากชวนอีกฝ่ายกลับบ้านทันที

“คงจะต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะเปอร์  เพราะเราไม่ได้เอารถยนต์มา  ยังไงก็ขอติดรถเปอร์กลับบ้านด้วยนะ”

“ด้วยความเต็มใจครับผม”

นายตำรวจหนุ่มตอบรับด้วยใบหน้าที่สดใส  พร้อมรีบยืนขึ้นแล้วทำท่า ทำความเคารพอย่างองอาจ  ทำให้อีกฝ่ายยิ้มออกมาได้บ้างในยามที่ใจอ่อนล้าแบบนี้

จากนั้นนายตำรวจหนุ่มก็ค่อยๆยื่นมือหนาๆของตัวเองส่งไปทางดาวฤกษ์ที่นั่งมองมายังตนเองตอนนี้

“ปะ  เรากลับกันเถอะ  นี้ก็ดึกมากแล้ว”

ดาวฤกษ์มองฝ่ามืออีกฝ่าย พร้อมกับยิ้มให้ด้วยมิตรภาพของคำว่าเพื่อน

“อะไรเนี้ย   แค่นี้ทำไมต้องยื่นไม้ยื่นมือมาให้เราด้วย  เราไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  ลุกขึ้นยืนแค่นี้สบายมาก  ไม่ต้องหรอกเปอร์  ขอบคุณนะ”

“ก็ตำรวจคนนี้   อยากบริการคุณหมอนี้ครับ  ไหนๆคืนนี้เราก็ได้มีโอกาสมานั่งคุยกันสองต่อสองสักที  เราก็อยากทำหน้าที่ให้ฤกษ์ประทับใจบ้าง”

หมวดหนุ่มตัดสินใจพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและจริงใจเป็นที่สุด

“โอ้ยย  เล่นมุขอะไรของนายเนี้ยเปอร์   เราไม่เล่นด้วยหรอก  เดี๋ยวสาวๆทั่วทั้งอำเภอก็ได้เอาเปลือกทุเรียนมาปาร้านขายยาเราพอดี เรายังไม่อยากเจ็บตัวตอนนี้นะ”

ดาวฤกษ์พูดเสร็จก็รีบลุกขึ้นยืนทันที   พร้อมกับยื่นเสื้อคลุมคืนให้อีกฝ่ายทันที

“ขอบคุณนะ  สำหรับเสื้อคลุมไหล่   ปะเราไปกันเถอะ   แล้วรถเปอร์จอดไว้ตรงไหนล่ะ”

ดาวฤกษ์ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายได้พูดได้จาอะไรต่อเลย  หมวดสไนเปอร์ได้แต่ยืนทำหน้าจ๋อยแล้วเดินตามหลังดาวฤกษ์ไปหลังจากที่บอกจุดที่ตัวเขาเองจอดรถยนต์ไว้ตอนมาประชุม  จากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถออกมาจากฝ่ายกั้นน้ำของอำเภอที่จะใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่มุ่งหน้าสู่บ้านของดาวฤกษ์ทันที

“ขอบคุณนะหมวดเปอร์  ที่มาส่ง  เอาไว้วันหลังเดี๋ยวเลี้ยงข้าวน่ะ”

ดาวฤกษ์พูดกับดนวัต  หลังจากที่เขาขับรถมาส่งที่หน้าบ้านแล้ว 

“เอ่อ  ฤกษ์   เราไม่รู้น่ะว่า ฤกษ์ มีเรื่องอะไรไม่สบายใจ  แต่ถ้าฤกษ์อยากระบาย  เราพร้อมที่จะรับฟัง  ฤกษ์มาระบายให้เราฟังได้ทุกเวลาเลยนะ”

“ขอบคุณนะเปอร์   ขอบคุณจริงๆ  เอาไว้เจอกันวันหลัง  เราเข้าบ้านก่อนนะ”

“อืม  โอเค  ฝันดีนะฤกษ์”

หมวดหนุ่มร้องบอกอีกฝ่ายหลังจากที่ดาวฤกษ์ปิดประตูรถยนต์แล้วกำลังจะเดินเข้าประตูรั่วบ้าน

“เช่นกันนะเปอร์  บ่ายบาย”

จากนั้นร้อยตำรวจตรีดนวัต  ไตรติกากรณ์ ก็ขับรถยนต์ส่วนตัวออกจากหน้าบ้านของอีกฝ่ายมุ่งตรงไปยังสถานีตำรวจของอำเภอต่อทันที 

ดาวฤกษ์เดินเข้าไปในบ้านที่ตอนนี้ปิดไฟเกือบหมดทั้งบ้าน  เหลือเพียงไม่กี่ดวงที่ยังเปิดไว้ตรงประตูหน้าบ้าน  เขาตรงเข้าไปในครัวทันทีเพราะตั้งแต่เย็นยังไม่ได้มีอาหารตกถึงท้องเลย  ดาวฤกษ์เปิดตู้เย็นยกน้ำขึ้นมาดื่มแก้คอแห้ง  จากนั้นก็จัดการนั่งทานอาหารที่แม่เตรียมไว้ให้ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอาหาร  แต่เขาก็ไม่สามารถจะกลืนอาหารรสชาติที่แสนจะอร่อยของแม่ลงคอได้เลย มีแต่ดื่มน้ำเปล่าเท่านั้น  คงเป็นเพราะเขายังมีเรื่องให้คิดเกี่ยวกับพี่ชายข้างบ้านคนนั้นอยู่นั้นเอง  ในเมื่อกินอาหารไม่ลงชายหนุ่มจึงตัดสินใจเก็บจานข้าวแล้วขึ้นห้องนอนทันที  เขาจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมจะเข้านอน  แต่ใจเจ้ากรรมกลับสั่งให้เขาต้องชะโงกหน้าไปมองห้องของใครคนหนึ่ง ใครคนนั้นที่ใช้คำพูดรุนแรงกับเขาเหลือเกิน  ห้องนอนของภูดินอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านตัวเขาเอง  ป่านนี้ภูดินจะเคลียร์ปัญหากับแฟนได้สำเร็จหรือไม่  ยืนมองห้องของอีกฝ่ายเห็นไฟห้องนั้นปิดอยู่  อยู่ๆน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลรินออกมาเสียดื้อๆ  ตอนนี้จิตใจของเขาช่างสับสนเสียจริง  ไม่เข้าใจอารมณ์ตัวเองเหมือนกันว่าเป็นยังไงกันแน่   แต่แล้วเขาก็ต้องรีบเช็ดน้ำตาออกจากสองแก้มตัวเองเพราะเขาได้ยินเสียงคนเดินขึ้นชั้นสองของตัวบ้านมายังห้องนอนของเขา  ทำให้เขาต้องหันไปมองทางประตูห้องทันที  และแล้วประตูห้องเขาก็เปิดออกพร้อมกับร่างของภูดิน  นั้นเอง

“พี่ดิน????”

ดาวฤกษ์อุทานออกมาด้วยความตกใจ  เพราะไม่คิดว่าจะเป็นอีกฝ่ายที่เปิดประตูห้องเข้ามา

“สะใจฤกษ์แล้วใช่มั้ย  ที่ทำให้ชีวิตของพี่พังแล้ว”

“พี่ดิน    พี่ดินฟังฤกษ์ก่อนนะ  คะคือว่า  มันไม่ใช่อย่างที่พี่ดินเข้าใจน่ะ”

“อย่าเลย  อย่ามาแก้ตัว  พี่ไม่ชอบคนแก้ตัว”

“พี่ดิน   ฤกษ์ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะ  ฤกษ์ไม่ได้บอกพี่จีน่าเลยว่าเราไปด้วยกัน  ฤกษ์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า  พี่จีน่าเขามาที่ฝ่ายกั้นน้ำ”

“ไม่ตั้งใจเหรอ?  ถ้าไม่ตั้งใจแล้ว  มันจะเป็นแบบนี้มั้ย  พี่ถาม  ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไหม?”

“คือ  ฤกษ์    ฤกษ์  ก็ไม่คิดว่า   มันจะเป็นแบบนี้”

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีหน่อยเลย   กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง”

ภูดินพูดพร้อมกับเดินย่างสามขุมตรงเข้ามาหาอีกฝ่ายทันที  ทำให้ดาวฤกษ์ต้องรีบถอยไปอยู่อีกฝั่งของห้องทันที

“จะหนีไปไหน  ทีแบบนี้ทำเป็นกลัวเหรอ?  ทำไมไม่เก่งให้มันตลอดเลยล่ะฤกษ์”

“ไม่นะพี่ดิน  พี่ดินจะทำอะไร?”

“เก่งให้มันตลอด  เก่งให้มันเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าแม่พี่สิ”

“พี่ดิน???”

“จะหนีไปไหนฤกษ์”

ภูดินพูดพร้อมกับใช้มือจับตัวของอีกฝ่ายไว้  แล้วกระชากร่างบางเข้ามาหาตัวเขาทันที  เมื่อร่างของดาวฤกษ์ปะทะเข้ากับอกหนาของปลัดหนุ่ม  ทำให้ดาวฤกษ์รู้ทันทีว่าในร่างกายของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยแฮลกอฮอล์

“นี้พี่ดินเมาเหรอ?”

ดาวฤกษ์กลั้นใจถามออกไป  ทั้งๆที่ใจยังคงหวาดกลัวอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด

“ทำไม?  กลัวพี่เหรอ?”

“พี่ดิน....”

“พี่จะบอกให้นะว่า  พี่ไม่ได้หน้ากลัวเหมือนใครบางคนแถวนี้หรอก”

“พี่ดินเมามากแล้ว   ฤกษ์ว่าเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลังได้ไหม?”

“ไม่”

“พี่ดิน  นี้มันก็ดึกมากแล้วนะ”

“ทำไม  ดึกๆสิยิ่งดี   ดึกๆแบบนี้พี่ชอบ”

ภูดินพูดพร้อมกระชากตัวดาวฤกษ์เข้ามากอดไว้แนบชิดกับลำตัวของเขาอย่างเหนียวแน่นทันที

“พี่ดิน   ฤกษ์ว่าพี่เมามากแล้วนะ”

“ทำไม?  มองหน้าพี่สิฤกษ์”

ดาวฤกษ์พยายามเอียงใบหน้าอันขาวนวลนั้น ให้หลบไปอีกด้าน

“พี่ดิน  ปล่อยฤกษ์เถอะ อย่าทำแบบนี้เลย  ฤกษ์ขอร้อง”

“พี่บอกให้มองหน้าพี่ไง  ทำไมเอาแต่หลบหน้าพี่ละ  คนเก่ง  ของคุณแม่หายไปไหนแล้ว”

“พี่ดินเมามากแล้วน่ะ  ปล่อยฤกษ์เถอะ”

“ พี่ไม่ได้เมา  พี่มีสติครบทุกอย่าง”

“พี่ดิน  ปล่อยฤกษ์เถอะ  ฤกษ์เจ็บนะ”

“เจ็บเหรอ  คนไม่มีหัวใจอย่างฤกษ์  รู้จักคำว่าเจ็บด้วยเหรอ”

เสียงของภูดินตะคอกใส่ดาวฤกษ์ทันที  ตอนนี้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว

“พี่ดิน.....”

ดาวฤกษ์ร้องออกมาอย่างเจ็บปวด  ที่ได้ฟังคำพูดของคนที่อยู่ตรงหน้า  คนที่เขาคิดว่าเป็นคนที่แสนดี  เป็นพี่ชายที่น่ารัก

“พี่สิต้องเป็นฝ่ายเจ็บ   เจ็บเพราะฝีมือของฤกษ์ไง  สะใจฤกษ์แล้วใช่มั้ย”

“พี่ดิน  ถ้าฤกษ์ทำให้พี่ดินเสียใจ   ฤกษ์ขอโทษ   ตอนนี้ปล่อยฤกษ์เถอะ  ฤกษ์กลัวนะพี่ดิน”

ดาวฤกษ์ร้องขออ้อนวอนอีกฝ่ายให้เลิกใช้วงแขนรัดตัวเขาอย่างแน่นจนจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วตอนนี้

“ไม่ ....  พี่จะทำให้ฤกษ์ได้รู้จักคำว่าเจ็บปวดมันเป็นยังไง”

สิ้นเสียงของภูดิน  เขาก็ใช้ฝ่ามือใหญ่ของตัวเองประกบใบหน้าเรียวขาวของดาวฤกษ์เข้ามาหน้าใบหน้าเข้มๆของตัวเองพร้อมกับใช้ปากบดขยี้ปากอีกฝ่ายให้เปิดออกอย่างชำนาญ  ภูดินใช้ลิ้นตวัดหาความหวานจากอีกฝ่าย  แต่การกระทำของเขาช่างรุนแรงและป่าเถื่อนเสียจริง  เมื่ออีกฝ่ายไม่ประสีประสาเรื่องแบบนี้พร้อมทั้งถูกแรงของปลัดหนุ่มบังคับให้ต้องเปิดปากรับเอารสหวานจากอีกฝ่ายทันที  ภูดินบดขยี้ปากของอีกฝ่ายจนพอใจแล้วเขาก็ผลักร่างบางนั้นล้มลงไปบนเตียงนอนทันที

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา