We Destiny life เพราะชีวิตถูกขีดเส้น

-

เขียนโดย stllengym

วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.20 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,863 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 09.56 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) The Last day of us วันสุดท้ายของสองเรา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

The Last day of us

3

 

        > so stop time right here in the moonlight cause I dont ever wanna close my eye <

                (มาหยุดเวลาไว้ใต้แสงของดวงจันทร์นี้กันเถอะ เพราะฉันไม่อยากจะหลับตาลงเลย)

 

 

    นับจากวันนั้นชนาก็เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องตลอดเวลา ไม่ว่าใครจะไปเรียกก็ไม่ยอมออกมาพบ ทั้งยั่งสั่งห้ามไม่ให้ใครมาวุ่นวายกับเขาในช่วงนี้ จะมีก็แต่ภาริชเท่านั้นที่พอจะเข้าไปหาได้บ้าง ทางด้านของอัคคีราห์ อัคคี วงศ์วรเวศน์วันนี้แล้วสินะที่เขาจะกลับมายังสวิตเซอร์แลนด์ บ้านเกิดที่เขาจากไปนานเป็นเวลากว่า 6 ปี 

"นานเท่าไหร่ แล้วนะที่ฉันไม่ได้กลับบ้าน" อัคคีพูดพรางมองผ่านออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์คันหรูที่ภาริช ผู้เป็นพี่ชายได้เตรียมพร้อมให้กลับเขาโดยมีคนขับรถเป็นคนขับให้

 

****กริ๊งงงง กริ๊งงงง****

 

" สวัสดีครับ พี่วิน " ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นจากภวังค์ความคิดแล้วจึงขวักโทรศัพท์ขึ้นพร้อมเห็นว่าเป็นพี่ชาย จึงกดรับแต่โดยดี

"แกอยู่ไหนแล้วอัคคี" ภานิชถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย

"อีกไม่นานคงถึงบ้านแล้วครับ พี่วินมีอะไรหรือปล่าวครับ??" อัคคีถามผู้เป็นพี่ชายด้วยน้ำเสียงสงสัย เมื่อไม่นานมานี้เขาเพิ่งว่างสายจากพี่ชายไปไม่นานไหงโทรมาอีก

" เจ้าชนาขับรถออกไปเมื่อสักครู่ พี่เกรงว่าอาจจะเป็นอันตรายได้พักหลังใกล้วันแต่งงานมันยิ่งดื่มหนักขึ้นเรื่อยๆพี่ไม่ไว้ใจมันเลย " ภาริชพูดด้วยน้ำเสียงแสดงความห่วงใยผู้เป็นน้องชาย

" ไปที่ไหน ? แล้วทำไมพี่ไม่ไปกับเขาด้วย " อัคคีถามผู้เป็นพี่ชายอย่างร้อนใจ

"พี่ต้องไปเจรจาธุรกิจอสังหาที่เจ้าชนามันไม่ยอมไปเมื่ออาทิตย์ก่อนแต่พี่พอจะรู้ว่าชนามันจะไปไหน อีก 3 วัน พิธีแต่งงานก็จะเกิดขึ้นแล้ว"

"ที่ไหนครับ??"

"คฤหาสน์ตะกูลไรวานา พี่เดาว่ามันต้องไปหาไอริน แน่ๆๆ เดี่ยวพี่ส่งโลเคชั่นให้ แกรีบเอาของสัมภาระที่แกหอบมาไปเก็บที่คอนโดของแก แล้วรีบตามชนาไป อย่าลืมโทรรายงานพี่ด้วยล่ะ" ภาริชผู้เป็นพี่ชายพูดพรางกดส่งโลเคชั่นไปยังผู้เป็นน้องชาย

 

"ไอริน ! อย่างนั้นหรอ หึหึ สงสัยจะรีบไปเข้าหอก่อนวันแต่งรึไงชนาเอ้ยยย" อัคคีพูดพรางหัวเราะนึกขำผู้เป็นพี่ชายในใจก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปยังคอนโดของเขาที่ซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนไปเรียนต่อที่เมืองนอก โดยจะมีพนักงานทำความสะอาดเข้าไปดูแลทุกอาทิตย์หรือบ้างครั้ง ชนา ผู้เป็นพี่ก็จะเข้ามาอยู่ ทันทีที่เก็บของเสร็จ อัคคีก็สั่งให้คนขับรถนับรถกลับไปยังคฤหาสน์ ส่วนตนจะใช้รถยนต์ส่วนตัว ที่ถูกจอดเรียงรายมากมายมูลค่ารวมมากกว่า ร้อยล้าน

   ทันทีที่ขับรถออกมาจากคอนโด อัคคีก็รีบกดรหัสที่เชื่อมต่อกับจีพีเอสที่หน้าจอบนแผงควบคุมที่ติดตั้งไว้ภายในรถคันหรูทันที เพราะรถทุกครั้งในครอบครัวของเขาใช้งานจะติดตั้งเครื่องติดตามเอาไว้ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถรู้ได้ว่ารถคันดังกล่าวอยู่ตรงจุดไหน ซึ่งตอนนี้บนแผงที่แสดงตำแหน่งที่ระบุว่า รถของชนากำลังเคลื่อนตัวไปใกล้กับคฤหาสน์ของตะกูลไรวานา นั่นเอง

"คงคิดจะไปหายัยนั่น จริงๆสินะ" อัคคีคิดอย่างพาลๆ ไม่เข้าใจพี่ชายของตนเหมือนกันว่า ทำไมถึงต้องรีบไปหายัยไอรินอะไรนั้น ทั้งๆที่อีกแค่ 3 วันก็ถึงวันแต่งงานแล้ว แน่นอนว่างานแต่งงานของผู้เป็นพี่ชายคือสาเหตุหลักที่ทำให้เขาต้องกลับมาสวิตเซอร์แลนด์ในครั้งนี้ งานแต่งงานที่เขาก็รู้ดีว่ามันการแต่งงานเพื่อธุรกิจ ส่วนจะรักกันหรือไม่นั้น ไม่มีใครที่ไหนมาสนใจหรอก

  ในระหว่างที่คิดเช่นนั้น อัคคีก็มุ่งหน้าตรงไปยังคฤหาสน์หลังงาม ชายหนุ่มตรงไปยังเป้าหมายที่แสดงอยู่บนหน้าจอแสดงตำแหน่งทันที และเมื่อไปถึงเขาก็พบกับรถของชนาจอดอยู่ที่นี่จริงๆ ชายหนุ่มจึงไม่รีรอที่จะก้าวลงจากรถแต่ก็ต้องหยุดชงักเมื่อ คฤหาสน์หลังนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งติดกับหน้าถนนใหญ่มีรถสัญจรไปมามากมายทำให้เขาไม่สามารถข้ามไปยังฝั่งตัวคฤหาสน์ได้

  แต่จากระดับสายตาที่เขาสามารถมองเห็น อัคคีแน่ใจว่า ทั้งสามคนหนึ่งในนั้นคือชนา และผู้หญิงท่าทางมาดมั่นที่ยืนอยู่ข้างกันกับชนาคงเป็นไอริน และอีกคน ที่ดูเรียบร้อยแต่ก็ดูสง่าในเวลาเดียวกัน คงจะเป็นใครซักคนในตะกูลไรวานา ทั้งสามกำลังมีปากเสียงกันอยู่แน่ๆ ซึ่ง

 ทว่าชายหนุ่มจะข้ามฝั่งไปหาช้าเกินไป เพราะ ผู้หญิงมาดมั่นคนนั้นผลักชนาไปจนสุดแรงแล้วรีบวิ่งออกมาโดยมีชนาและผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยสวยสง่าคนนั้นวิ่งตามไปติดๆ ในจังหวะที่ไอรินกำลังวิ่งข้ามถนนเพื่อไปยังอีกตึกหนึ่ง ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว รถคันนั้นพยายามที่จะบีบแตรไล่แล้ว แต่ด้วยความที่หญิงสาววิ่งข้ามถนนมาอย่างกระชันชิด ทำให้รถดังกล่าวบีบแตรไม่ทัน

"ระวังงงง!!" ชนาผู้เป็นพี่ชายและหญิงที่ที่ดูสวยสง่าตะโกนออกไปพร้อมกันอย่างสุดเสียง แต่เมื่อประเมินจากสถานการณ์แล้วชายหนุ่มแน่ใจว่ามันคงไม่ทันการณ์

  ทางด้านของไอริน หญิงสาวตกอยู่ในความตื่นตะหนกสุดขีด คิดว่ารถคงชนตนแล้วแน่ แต่แล้วแรงผลักที่มาจากด้านหลังก็ทำให้เธอพ้นจากรัศมีของรถอย่างฉิวเฉียด

 

******โครมมมมมมมมมมมม*****

  แรงปะทะของรถที่ชนเข้ากับสองร่างอย่างสุดแรง ทำให้ทั้งคู่อลินดาและชนากระเด็นไปตรงจุดที่อัคคีผูเป็นน้องชายของชนายื่นอยู่  ไอรินกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจสุดขีด ที่เห็นสภาพของทั้งคู่ ก่อนที่จะรีบตั้งสติเพื่อเข้าไปดูอาการของทั้งสอง พร้อมกันกับอัคคีที่วิ่งตรงเข้ามาดูด้วยความร้อนรน

"ชนานายอย่าเป็นอะไปนะ " อัคคีพร่ำเรียกชื่อพี่ชายของตยใน

"พี่ดา พี่ดา ได้ยินรินไหม พี่ดาฟื้นขึ้นมาสิ พี่ดา" หญิงสาวพร่ำเรียกชื่อผู้เป็นพี่สาวของตนไม่ต่างอะไรกันกับอัคคี

ในขณะที่ผู้คนเริ่มเข้ามามุ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถยนต์บนท้องถนนต่างชงักตัวลดความเร็วลง อัคคีและไอรินทั้งสองต่างตั้งสติกับภาพที่เห็นตรงหน้า พร้อมตะโดนเรียกให้ผู้คนช่าวย

 

   หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองถูกส่งตัวไปยังห้องฉุกเฉิน โดยมีอัคคีและไอรินตามไปดูอาการอย่างใกล้ชิดไม่ห่าง  ทั้งคู่แทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะรู้สึกเป็นห่วงอาการของทั้งสองไม่น้อย

"หยุดไปมาซักทีได้มั๊ย!!" อัคคีที่นั่งกุมมืออยู่อย่างเคร่งครัดเอ่ยด้วยน้ำเสียงตึงเครียด ชายหนุ่มพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วที่จะไม่อาละวาดในตอนนี้

  ไอรินหยุดเดิน แล้วหลบมุมไปนั่งยังมุมเงียบๆคนเดียวพร้อมภาวนาขอพรต่อพระเจ้าว่าขอให้ทั้งสองไม่เป็นอะไร ต้องปลอดภัย เพราะถ้าทั้งสองเกิดเป็นอะไรไปขึ้นมา เธอจะต้องเกียดตัวเองมากแน่ๆที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

  3 ชั่วโมงผ่านไป ทั้งอัคคีและไอรินต่างไม่มีคำพูดใดเอื้อนเอยแก่กัน ทั้งคู่เพียงนั่งประจำจุดของตนอยู่เงียบๆ ทันใดนั้นประตูห้องฉุดเฉินก็ถูกเปิดออก

"เป็นอย่างไรบ้างครับ คุณหมอ???"

"พี่สาวฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ???"

 ทั้งอัคคีและไอรินต่างกรูเข้ามาหาหมอประจำห้องฉุกเฉินพร้อมกันด้วยความร้อนรน อยากฟังอาการของทั้งสองคนว่าเป็นอย่างไรบ้าง

จากนั้นหมอก็แจ้งว่าผู้ได้รับบาดเจ็บทั้องสองต้องผ่าตัดโดยด่วน เพราะมีอาการเลือดคั่งในสมอง

พอได้ฟังแบบนั้น ไอริน ถึงกับเข่าทรุดแทบจะยืนขึ้นไม่ไหว จนต้องใช้มือยันผนังที่อยู่ใกล้ๆตัวเธอเอาไว้จากนั้นก็เริ่มมีหยดน้ำตาไหลออกมา ไอรินพยายามควบคุมตัวเองทั้งๆที่กลัวและรู้สึกผิดเกิดเหตุกราณ์อันเลวร้ายที่เกิดขึ้น

"จะร้องไห้ให้ได้อะไรขึ้นมา ห่ะ?"อัคคีหันไปมองเจ้าของใบหน้านวลที่ตอนนี้มีคราบน้ำตาเปรอะเปื่อนเต็มไปหมด

"ฉันเสียใจ ฉัน......."ไอรินพูดด้วยน้ำเสียงปนความสะอื้น ก่อนจะฟุบหน้าลงบนฝ่ามือแล้วร้องไห้ความหวาดกลัวบางอย่างแล่นเข้ามาในใจอย่างห้ามไม่ได้

 

"เกิดอะไรขึ้น" ภาริชวิ่งตรงเข้ามายังบริเวณกน้าห้องฉุกเฉินอย่างตื่นตะหนกหลังจากที่ก่อนหน้านี้อัคคีผู้เป็นน้องชายโทรศัพท์ติดต่อไปยังภาวินด้วยความร้อนรน

"อ้าวว น้องริน ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะครับ" ภาริชเหลือบสายตาไปเห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากตนมากนั่งใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาทำให้ภาวินนึกสงสัย

"เอ่ออ พอดีว่า....."หญิงสาวไม่รู้จะอธิบายเหตุกราณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไรจึงทำได้เพียงแต่อัมอึ้งเท้านั้น

"ก็จะอะไรได้ล่ะครับ ถ้ายัยนี่ไม่ใช่ต้นเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด"อัคคีพูพรางจ้องมองหน้าของหญิงสาวตรงหน้าอย่างอาฆาต

"หมายความว่ายังไงอัคคี พี่ไม่เข้าใจ" ภาริชหันไปถามผู้เป็นน้องชายอย่างนึกสงสัย

"ชั่งมันเถอะครับ เดี่ยวทุกอย่างก็ถูเปิดเผยเอง" อัคคีพูดพรางก้าวเท้าออกไปยังเก้าอีตัวที่ใกล้กับห้องผ่าตัดที่สุด ไอรินไม่ได้พูดอะไรต่อเอาแต่กมเอามือปิดหน้าปาดน้ำตา ภาวนาให้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้นส่วนภาริชก็ขออกตัวไปจัดแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด

"ซับเหงื่อซักหน่อยไหมคะ" ทันทีที่อัคคีเหงยหน้าขึ้นหลังจากที่เขาเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่ก็ได้มีใครบางคนยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้ ชายหนุ่มมองเห็นไอรินยืนตาบวมอยู่ด้านหน้า ทว่าเขาไม่ต้องการรับไมตรีใดๆจากเธอ อัคคีจึงปัดมือบางออกอย่างสุดแรง

"ไม่ต้องมาทำดีกับฉัน เพราะฉันไม่มีวันหลงมารยาของเธอเหมือนพี่ชายของฉันหรอกนะ จำใส่สมองของคุณเอาไว้เลยนะ ไอริน คุณมันน่าขยะแขยงต่อให้คุณทุกข์ทรมานปางตาย ผมก็ไม่มีวันเห็นใจคุณ"

"ทำไมคุณต้องมองฉันในแง่เลยขนาดนั้น ฉันมันเลวมากเลยใช่ไหม" ไอรินรู้ดีว่าตนเองมีส่วนผิดที่ทำให้ลินลดาและชนาประสบอุบัติเหตุ แต่เธฮเองก็เสียใจและร้อนรนไม่ต่างจากเขา

"ใช่ คนอย่างเธอมันเลว สุดท้ายพี่ชายของฉันก็ต้องมาโชคร้ายเพราะเธอ เพราะเธอคนเดียว"พอสิ้นคำนั้น อัคคีก็ผละไปยืนรออยู่หน้าห้องผ่าตัด ส่วนไอรินก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากหลบไปนั่งตรงมุมเงียบๆมุมเดิมของเธอ

 

หลังจากการผ่าตัดผ่านไปได้ประมาณห้าชัวโมง หมอก็ออกมาแจ้งข่าวร้ายบางอย่างกับอัคคี จนทำให้เขาแทบระงับสติอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่ได้แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงอาการอะไรออกมามากนักเนื่องจากมีหมอยืนอยู่ด้วย

.

.

.

.

.

#อัคคีปรากฏตัวขึ้น ชนาและลินลดาก็จากไป ฮืออออออออ

**ว่าแต่พี่ชนาไปทำอะไรที่คฤหาสน์ไรวานากันนะ แล้วทำไมไอรินต้องวิ่งออกมาด้วยล่ะ งือออออ เก็บเป็นความลับก่อนจ้าาา

*คอมเม็นต์เป็นกำลังใจให้ไรต์กันหน่อยน้าาาา

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา