พรเเห่งหมู่ดาว

-

เขียนโดย น้ำพุ

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 09.50 น.

  7 บท
  0 วิจารณ์
  7,554 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 16.58 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) หมู่ดาวที่ถูกซ้อนทับ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เอควอเดินนำผมออกจากห้องใต้ดิน ขึ้นมาบนห้องที่อยู่เหนือชั้นใต้ดินที่ผมอยู่ขึ้นมาชั้นนึง ตามทางเดินนั้นมีหน้าต่างที่เป็นกระจกใสเผยให้เห็นภาพวิวทิวทัศน์ภายนอกอย่างชัดเจน ถ้าไม่ได้กำลังเผชิญเรื่องราวชวนขนลุกต่างๆอยู่ล่ะก็ ผมคงจะสามารถยืนมองภาพตรงหน้าอยู่ได้เป็นวันเลยทีเดียว

           ภาพวิวด้านนอกเป็นภาพบ้านเรือนที่สร้างขึ้นจากไม้ทุกหลังตั้งเรียงรายอยู่อย่างเป็นระเบียบบนทุ่งหญ้าที่กว้างขวางอย่างกระท่อมไม้ตามชนบทในจังหวัดนิวซีเเลนด์ เมื่อมองไกลออกไปจะเห็นภูเขาสลับซับซ้อนกันเรียงกันไว้ประดุจเป็นรั้วกันอาณาจักรเเห่งนี้ให้ตัดขาดจากโลกภายนอก ท่ามกลางภูเขาเหล่านั้นมีภูเขาลูกหนึ่งที่มีขนาดใหญ่กว่าเขาลูกอื่นประมาณ 1 เท่าตัว ซึ่งจามบริเวณจุดต่างๆของภูเขาลูกใหญ่ลูกนั้นสามารถมองเห็นวัตถุเรืองเเสงบางอย่างที่ส่องเเสงประกายสีรุ้งออกมาราวกับว่ามีคนจับเเสงออโรร่ามาใส่ตู้กระจกเเละวางไว้
          ภาพจากพื้นดินยังไม่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจได้เท่ากับภาพที่ปรากฎอยู่ยนท้องฟ้า เเผ่นฟ้ายามวิกาลของพื้นที่เเห่งนี้ประกอบไปด้วยดวงดาวหลายล้านดวงทอเเสงระยิบระยับประดับประดาอยู่บนผืนฟ้าสีดำสนิท เป็นภาพที่ชวนพิศวงเเละตราตึงใจในเวลาเดียวกันเหมือนกับว่าเรากำลังล่องลอยอยู่บนอวกาศอันกว้างขวาง จนผมเดินไปสะดุดอะไรเข้าบนพื้นขณะที่กำลังเหม่อมองท้างฟ้าผ่านหลังคากระจกอยู่ทำให้ผมได้สติกลับมาอยู่กับความเป็นจริงตรงหน้าว่าตอนนี้ผมเดินมาถึงห้องที่เอควอตั้งใจจะพามเเล้ว
"ให้ฉันช่วยไหม" เอควอกล่าว
"ไม่เป็นไรฉันยืนเองได้" ผมลุกขึ้นเเละใช้มือปัดฝุ่นตามตัว
"เหม่อไปใหนของนายเนี่ย ทำยังกับเพิ่งเคยเห็นครั้งเเรกงั้นเเหละ" เอควอหันมาขมวดขิ้วใส่ผมเเล้วก็เปิดปประตูตรงหน้าให้ "เข้าไปสิ จะได้รู้สักทีว่านายเป็นใครมาจากใหนเเน่"
          ทันใดที่ผมก้าวผ่านประตูเข้าไปเเละพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆห้องเเล้วก็ไปสะดุดตาเข้ากับคนๆหนึ่งที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนอีกประมาณ 10 คน  ความรู้สึกเจ็บเเปลบที่อกเหมือนจะมีอาการขึ้นมาอีก เพราะคนตรงหน้าที่ผมเห็น คือคนคนเดียวกับที่ผมฝันเห็นว่ากลายร่างเป็นสิงโตเเล้วก็กระโดดเข้าจู่โจมผม
"เอ้าฟื้นเเล้วหรอพ่อหนุ่มน้อย ขอโทษทีนะที่เมื่อคืนมือหนักไปหน่อย" เจ้าคนที่กลายร่างเป็นสิงโตพูดขึ้น
"ถ้าจะพูดให้ถูกนะลีโอ เท้าหนักไปหน่ยต่างหาก " เอควอเเก้
"น..น..นายยย นายที่ฉันฝันเห็นนี่นา" ผมมีความรู้สึกหวั่นๆขึ้นมา เเละอาการขนลุกก็ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย
"ฝันหรอออ ท่าทางจะฝันร้ายน่าดูนะ" ลีโอพูดขึ้น พร้อมกับเริกคิ้วมาทางผมเเละยิ้มเล็กๆ
"พอได้เเล้วหน่าา ลีโอ" ชายชราคนหนึ่งยกมือขึ้นมาห้าม
"ครับเเอสเรียล"
"ส่วนเธอมานั่งนี่ก่อนสิ พวกเราไม่มีใครทำร้ายเธอหรอก"
          ชายชราที่น่าจะชื่อว่าเเอสเรียลดึงเก้าอี้ทางด้านขวามือตนเป็นการเชื้อเชิญผมให้นั่งตรงนั้น ถึงเเม้สถานการณ์ตรงนี้จะบีบให้ผมอยากจะยืนขึ้นกรีดร้องเเล้วก็วิ่งหนีไปก็ตาม เเต่นั่นก็คงจะดูไม่ค่อยฉลาดหรือมาดเเมนเท่าไหร่ ซึ่งก็คงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าที่จะไม่ปฎิเสธน้ำใจของผู้ที่อาวุโสที่สุดในที่นี้ เพื่อเเสดงถึงความเคารพ
          ภายในห้องนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ ที่มีโต๊ะวงกลมขนาใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางห้อง เพียงพอสำหรับบรรจุเก้าอี้ล้อมรอบประมาณ 13 ตัว  ห่างๆไปตรงมุมห้องมีเตาผิงขนาดกำลังดีเหมาะสมกับห้องที่คอยมอบความอบอุ่นให้อยู่ เเละตรงหลังคาภายในห้องนี้เเทนที่จะเป็นกระเบื้องก็ใช้กระจกเเบบตรงทางเดินเเทนเผยให้เห็นความงดงามของทะเลดาวเบื้องบน ดังนั้นทำให้เวลาที่มองขึ้นไปบนฟ้าจะให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังนั่งอยู่กลางเเจ้งมากกว่าที่จะเป็นนั่งอยู่ในห้อง
"เอาล่ะเจมสินะ เอควอเล่าเรื่องที่เธอเล่าให้ฉันฟังเเล้วเมื่อกี้ " เเอสเรียลพูดขึ้นในที่สุด " ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ต้องบอกก่อนว่าสิ่งที่เธอเจอมานั้นไม่ใช่ความฝันหรอกนะเมื่อคืนมีชายแปลกหน้าบุกเข้ามา ในห้องพักของเวอร์ เเล้วลีโอก็เข้าจู่โจมผู้ชายคนนั้นก่อนที่เขาจะอันตรธานกายไป เเล้วพอผ่านไปสักพักนึงประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมง เราก็เจอเธอนอนสลบอยู่หน้าประตูหอพักของเรา เเล้วพอเราพาเธอเข้ามาถึงห้องใต้ดิน เราก็เลยรู้ว่าเธอคือคนที่บุกเข้ามาที่ห้องพักเวอร์เมื่อคืน"
"เดี๋ยวก่อนนะครับ ต้องเข้าใจอะไรกันผิดเเน่ๆ ผมไม่ได้บุกรุกเข้ามานะเชื่อผมสิ"
"เรื่องนั้นยังตัดสินไม่ได้หรอกนะ เเต่ก่อนอื่นเลยเธอจำไม่ได้เลยหรอว่าพรดวงดาวประจำตัวเธอเป็นหมู่ดาวอะไร" เเอสเรียลถาม
          เป็นครั้งที่ล้านได้เเล้วมั้งครับที่ผมได้ยินคำๆนี้อีกครั้ง ทั้งๆที่ผมไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ามันหมายความว่าอย่างไร ซึ่งนั่นค่อนข้างทำให้ผมหงุดหงิดพอสมควร
"เอ่อ คือผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคุณพูดถึงอะไร เเละผมก็สาบานได้เลยว่าผมไม่ได้บุกมาที่นี่ เเต่ที่ผมอยากรู้มากที่สุดตอนนี้คือนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเเน่ นี่ที่ใหน พวกคุณเป็นใคร เเละเเม่ผมอยู่ใหน ผมมาที่นี่ได้ยังไง " ผมพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด
          เป็นช่วงสั้นๆช่วงหนึ่ง ที่ผมเงียบรอโดยหวังว่าจะมีใครสักคนพูดขึ้นมา เเต่ก็ไม่มีใครพูด เเวบนึงผมก็คิดว่าอาจจะมีใครสักคนในที่นี้กระโจนเข้ามาทำร้ายผมด้วยพลังอัศจรรย์อะไรสักอย่าง  บางที่อาจจะเป็นสิงโตยักหรือไม่ก็กระเเสน้ำวนก็ได้ เเต่ก็เเค่ในความคิดเท่านั้นเเหละครับเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี
"ถอดเสื้อออกซิ" เเอสเรียลพูดขึ้นในที่สุด
"อะไรนะครับ" ผมตอบขึ้นอย่างงงๆ
"ถอดเสื้อออกสิ เเล้วฉันจะตอบคำถามทั้งหมดให้เธอเอง"
"เอ่อ มันจะดีหรอครับ" ผมพูดขึ้นเเบบเขิลๆเล็กๆ เพราะคงจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่จะถอดเสื้อออกโดยมีสาวน่ารักๆนั่งอยู่ในห้องด้วย
"ไม่มีใครเค้าพิสวาสพุงเธอหรอกย่ะ นายโรคจิค " สาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในวงสนทนาด้วยพูดขึ้น
          ผมมองไปทางต้นเสียง เเล้วก็ต้องตกใจ
"เห้ยเธอ!! " ผมตกใจราวกับว่าเห็นผี เมื่อได้เห็นว่าหนึ่งในผู้หญิงที่นั่งอยู่ในวงสนทนานี้คือคนที่ผมฝันเห็นว่าตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกัน
"เอาล่ะเลิกพูดเล่นได้เเล้ว ถอดเสื้อออกซ้ะเด็กน้อย" เเออสเรียลกล่าว
          พอได้ยินเเบบนั้นเเล้วผมเลยตัดสินใจ ถอดเสื้อออกถึงเเม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจถึงสิ่งที่ทำอยู่ก้ตาม 
"หันหลังสิ" เเอสเรียลมองผมด้วยสายตาคาดหวังอะไรบางอย่าง
          ผมยืนขึ้นเเละหันหลังเข้าโต๊ะวงกลม ทันได้นั้นเองผมก็รู้สึกขนลุกขึ้นหน่อยๆเพราะผมบอกได้เลยว่าตอนที่ทุกสายตากำลังเพ่งความสนใจมาที่เเผ่นหลังของผมเป็นเเน่เเท้ประดุจว่าเเผ่นหลังผมสลักลายเเทงสมบัติไว้
          ผมได้เเต่สวดภาวนาว่าอย่าให้มีสิวเม็ดยักษ์ ผดผื่นหรือกากเกลื้อนน่ากลัวประจักเเก่สายตาทุกคนเลย เเละก็อย่าให้มีใครอุทานว่าอี๋ขึ้นมาเลย เพราะนั่นคงทำให้ความมั่นใจของผมสั่นคลอนพอสมควร
"นี่ประหลาดมากเลยนะ"
"นี่มันอะไรกันน่ะ"
"มีหมู่ดาวนี้ด้วยหรอ"
          มีเสียงดังอื้ออึงขึ้นด้านหลัง ผมจึงตัดสินใจหันหน้ากลับไปทางเดิม เเต่ยังไม่ทันจะได้หมุนตัวเเอสเรียลก็จับร่างผมไว้ให้ยืนนิ่งๆ เเละไล่พิจารณาเเผ่นหลังผมอย่างละเอียด
          เสียงซุบซิบๆยังดังขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในห้อง บางที่ก็มีบางคนเเอบๆเเหล่สายตามามองผมเเล้วก็หันกลับไป ซึ่งผมก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจคนพวหนี้มากเท่าไหร่ เเต่ที่น่าใส่ใจกว่าคือชายชราที่จับผมไว้อยู่ สายตาผมหันไปมองเเอสเรียลอยู่สามถึงสี่ครั้ง ใจนึงก็สงสัยว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ อีกใจนึงก้เป็นห่วงตัวเองว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้นหรือป่าว มีอยู่ครั้งนึงที่ผมหันไปมองหน้าเเอสเรียลเเล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่าจะมีน้ำตาคลออยู่ในดวงตาของชายชรา เเละเเสดงเเววตาเศร้าสร้อยออกมา พลางปากก็สบถว่ามันไม่น่าเป็นไปได้นี่นาา
          เป็นเเบบนี้อยู่พักนึงเเอสเรียลก็ใช้มีที่เต็มไปด้วยรอยย่นเเบบคนชรายกขึ้นปาดหยาดน้ำตาออก ก่อนที่จะมีใครสังเกต เเละปรับสีหน้าให้เป็นปกติ "เอาล่ะทุกคนเงียบก่อนๆ"
 
           ใช้เวลาซักพักทุกคนก็เงียบลง
"เอาล่ะทุกคนสงบสติอารมณ์เเละตังใจฟัง" เเอสเรียลพูดขึ้นอย่างเคร่งเครียดซึ่งทุกคนก้เหมือนจะรับรู้ถึงอารมณ์นี้จึงไม่มีใครปริปากพูดอะไรเลย
"หมู่ดาวประจำตัวของเจมเป็นหมู่ดาวที่พวกเธอรู้จักกันดี เเค่ว่ามัน....มีหมู่ดาว 2 หมู่ซ้อนกันอยู่พวกเธอเลยดูไม่ออก"
          ผมงงเกินกว่าที่จะทันได้ถามอะไรก็มีเสียงหนึ่งโพล่งออกมาก่อน

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา