Heart Project : ปริศนาความทรงจำ

10.0

เขียนโดย PnPn

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561 เวลา 23.40 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 23.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่12

                “ข้างหลัง!!!”เอมที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนออกไป เมื่อเห็นว่าอาร์มเมอร์ด้วงที่ถอดเกราะหนาออกไปมามาอยู่ด้านหลงของดรีมกับชิต

                ทันใดนั้นเองก็เกิดแสงที่เท้าของดรีมกับชิต แสงที่เท้ากลายเป็นอักขระผนึกมามัดตัวอาร์มเมอร์ด้วงทั้งสอง

                “นี่สินะที่เรียกว่าประสบการณ์” ดรีมพูดออกมาหลังเห็นว่าอาร์มเมอร์สองตัวนี้ติดกับดักเข้าให้แล้ว

                แต่ว่า... “คลาย” เสียงที่ออกมาจากอาร์มเมอร์ด้วงทั้งสองทำให้อักขระที่มัดตัวหายไป แต่สร้างความตะลึงให้กับ ดรีมและชิตแทนซึ่งดรีมกับชิตก็ทำได้แค่ถอยออกมาและไปรวมกลุ่มกับเอม

                “ตู้มมม” เสียงระเบิดดังออกมา และจุดต้นกำเนิดเสียงก็คืออุปกรณ์เจาะพื้นที่พวกอาร์มเมอร์ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ทำให้ เอม ชิต ดรีมตกใจเพราะทั้งสามลืมไปเลยว่าพวกนี้กำลังเจาะพื้นอยู่(ให้มันได้อย่างนี้สิน่า...)        

                หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นหลังฝุ่นจางหายไป

                อาร์มเมอร์ทั้งสองตัวเห็นดังนั้นจึงรีบไปที่หลุมนั้นด้วยความเร็วสูง ทำให้เอมที่เห็นจึงปล่อยสายฟ้ากางเป็นม่านพลังแต่ก็ช้าไป ผลคือมีอาร์มเมอร์หนึ่งตัวลงไปในหลุมนั่นได้ ส่วนอีกตัวติดอยู่ที่ม่านสายฟ้าที่กางอยู่

                เอมดึงอาร์มเมอร์ที่ติดม่านสายฟ้าอยู่ออกมาจากปากหลุม

                อาร์มเมอร์ที่ลงไม่ทันกระเด็นออกมาหางจากปากหลุมพอสมควร

                ทางเอม ชิต ดรีมเองก็พยายามจะลงหลุมตามอาร์มเมอร์ตัวที่ลงหลุมไป แต่ก็ถูกอาร์มเมอร์ที่ลงไม่ทันขัดขวางไว้ และก็ยื้อกันไปมาทำให้ไม่มีใครลงหลุมตามอาร์มเมอร์ตัวแรกไปได้

                ทั้งนี้ทางฝั่งอาร์มเมอร์เองใช้โอกาสนี้ถ่วงเวลาให้อาร์เมอร์ตัวที่ลงไปก่อนถึงเป้าหมายได้ก่อน

                ขณะที่พวกเอมกับอาร์มเมอร์กำลังชุลมุนกัน อยู่ๆอาร์มเมอร์ก็เหมือนโดนอะไรบางอย่างทำให้ถูกผลักกระเด็นออกไปไกลจากปากหลุมอีกครั้ง

                ส่วนคนที่ผลักออกไปไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือ นาเดีย

                “เล่นอะไรกันเนี่ย มันดู...เลอะเทอะไปหน่อยไหม” นาเดียมองไปที่หลุม “รีบไปได้แล้ว ทางนี้ฉันจะรับมือไว้ให้”

                “ขอบใจน้า” จากนั้นพวกเอมก็กระโดดลงหลุมไป ก่อนที่นาเดียจะใช้เวทย์ของเธอยกดินมาปิดปากหลุม

                ภายในโพลงใต้สนามฝึก

                “นาเดีย จะเป็นอะไรไหมนะ” ดรีมพูดออกมาขณะที่กำลังวิ่งตามอาร์มเมอร์ที่ลงหลุมมาก่อน

                “ดูจากพลังสุดโหดของเธอแล้ว คงไม่น่าจะเป็นไรหรอกมั้ง” ชิตตอบกลับ

                ขณะที่เอมกำลังคุยกับพี่ศร แล้วก็ได้ความว่าของที่พวกอาร์มเมอร์ต้องการนั้นเป็นตัวไว้ควบคุมอะไรบางอย่าง รวมถึงพี่ศรก็ได้ส่งแผนที่มาด้วยเพราะตั้งแต่ที่พวกเอมลงมาที่ใต้สนามฝึกนี้เส้นทางก็คดเคียวราวกับเขาวงกตรวมถึงมีอุปกรณ์ต่างๆวางอยู่ทุกที่ทั่วไปหมด (ย้ำว่าวางเกลื่อนจริงๆ)

                ในที่สุดก็ตามมาถึงห้องโถงห้องหนึ่งที่มองดูน่าจะเป็นห้องวิจัยและสร้างอุปกรณ์ทั่วไปแต่เมื่อดูจากสภาพมันดูใหม่กว่าที่พวกเอมคิดไว้ทั้งที่ใต้สนามก็ไม่น่ามีใครลงมานานแล้วแต่กลับดูสะอาดกว่าที่คิด

                ในที่สุดเอม ชิต ดรีมก็เจอกับอาร์มเมอร์ที่กำลังไล่ตาม

                อาร์มเมอร์ตัวนั้นกำลังพังตู้กระจกแล้วก็กวาดของที่อยู่ในตู้กระจกจำนวนสิบกว่าชิ้นใส่กระเป๋าที่อยู่แถวนั้น ของที่พวกอาร์เมอร์ต้องการมีรูปร่างทรงกระบอกสีเทาขนาดพอเหมาะมือ

                อาร์มเมอร์ตัวนั้นรู้ตัวตัวแล้วว่าพวกเอมได้หาตัวเจอแล้วจึงรีบวิ่งหนีออกไปทันที

                เอม ชิต ดรีมจึงต้องวิ่งตามไปอีกครั้ง

                เอมพยายามใช้สายฟ้ายิงไปที่อาร์มเมอร์ที่กำลังหนี รวมถึงดรีมเองก็ใช้ปืนยิงสกัดไว้แต่ก็โจมตีไม่โดน

                จนในที่สุด อาร์มเมอร์ด้วงตัวนั้นกิ่งฝ่าประตูออกมาจากใต้สนามฝึกได้

                บริเวณที่อาร์มเมอร์ขึ้นมาคือภายนอกของสนามฝึก เป็นห้องเก็บของขนาดเล็กที่มีทางเข้าไปยังชั้นใต้ดินของสนามฝึก ส่วนสาเหตุที่พวกอาร์มเมอร์ต้องลงทุนเจาะพื้นของสนามฝึกเพราะทางเข้าทางออกของชั้นใต้ดินก็มีทางห้องเก็บของขนาดเล็กภายนอกสนามฝึกเท่านั้น ทั้งนี้ถ้าประตูของห้องนี้ถูกเปิดออกสัญญาณเตือนก็ดังแล้วเผลอๆอาจถูกกั้นทางออก (แต่ถึงลงทุนเจาะพื้นนี่อะน๊ะ)

                แต่ภายในเวลาอันสั้นพวกของเอมก็ตามอาร์มเมอร์ตัวนั้นมาทันและก็ไปล้อมอาร์มเมอร์ไว้ ทำทให้อาร์มเมอร์ด้วงไม่มีทางเลือกจำต้องสู้กับพวกของเอม

                “ส่งกระเป๋านั่นมา” ดรีมตะโกนออกไป

                “นี่ดรีมพูดไปก็เท่านั้น ทางนั้นไม่ส่งมาหรอก” ชิตแทรกออกมา

                “ของแบบนี้ต้องชิงกลับมาเท่านั้น” เอมพูดต่อ

                ทางด้านอาร์มเมอร์ด้วงเองเมื่อไม่มีทางให้หนีก็พุ่งเข้าโจมตีทันที โดยเล็งไปทีดรีมก่อน อาร์มเมอร์ด้วงกระแทกไปที่ดรีมหวังเปิดช่องหนี แต่เอมได่เปลี่ยนเกราะแขนเป็นรูปแบบน้ำแข็งแล้วสร้างกำแพงน้ำแข็งมากันทางไว้แล้วชิดก็พุ่งเข้าไปโจมตีระยะใกล้

                ชิตพยายามฟันไปหลายครั้งแต่ก็ฟันไม่โดนเลย เนื่องจากความเร็วของอาร์มเมอร์ด้วงหลังถอดเกราะหนาออกนั้นก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

                เอมที่เห็นดังนั้นจึงมาร่วมด้วยแต่ก็ทำอะไรอาร์มเมอร์ด้วงนั่นไม่ได้เลย

                หลังจากผ่านไปสักพัก ดูเหมือนว่าอาร์มเมอร์ด้วงตัวนั้นจะลืมดรีมไปสนิทเลย

                ขณะที่อาร์มเมอร์ด้วงที่เอาแต่หลบดาบของชิตกับหมัดของเอมอยู่นั้น อยู่ก็มีแสงเป็นวงเวทย์ที่เท้าของอาร์มเมอร์แล้วก็เป็นโซ่แสงมามัดตัวของอาร์มเมอร์ตัวนั้นทำให้ขยับไปไหนมาได้

                ‘Grater light imprison’ เวทย์สายผนึกของดรีมที่ต้องเสียเวลาชาร์ตอยู่นานก็ใช้ได้สำเร็จ

                เหอออออ เสียงถอนหายใจออกมาจากคนทั้งสามที่หยุดอาร์มเมอร์ตัวนี้ได้

                ขั้นต่อไปก็คงต้องส่งต่อให้ศาสตราจารย์กับพี่นักวิจัยไปสืบสวนต่อเอง

                ด้วยความสงสัย เอมจึงไปหยิบของในการเป๋าที่อาร์มเมอร์ตัวนั้นขโมยมา ที่...เอมดูกี่ทีกี่ทีก็ไม่เข้าใจว่าไอพวกนี้จะเอาขยะชิ้นนี้ไปทำอะไร

                ส่วนทางชิตกับดรีมก็พยายามถามเหตุที่ต้องมาบุกศูนย์วิจัยนี้กับอาร์มเมอร์ด้วงที่ตอนนี้ถูกโซ่เวทย์มนต์มัดไว้กับของที่ขโมยออกมาว่าจะเอาไปทำอะไร แต่อาร์มเมอร์ตัวนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย

                หลังจากที่เอม ชิต ดรีม พยามยามหาเหตุผลของอุปกรณ์ชิ้นดังกล่าวกับการใช้งานแต่ก็ไม่ได้เรื่องอะไรมากนัก โดยเบื้องต้นไออุปกรณ์ชิ้นนี้มีไว้ใช้กับชุดสูทสำหรับปฏิบัติการณ์รุ่นก่อน(ก่อนจะมาใช้แหวนนั่นหละ) เห็นว่าจะช่วยเร่งการใช้พลังให้มากขึ้นแต่ผลที่ได้คือร่างกายผู้ใช้จะเหนื่อยล้าทันทีและควบคุมพลังที่ใช้ออกมาไม่ได้ ผลคือขยะดีๆนี่เอง

                “ของแบบนี้ขืนใช้ไปก็มีแต่ภาระเปล่าๆ ขยะชัดๆ” เอมถึงกับสบถออกมาหลังอ่านบันทึกการทดสอบของสิ่งนี้

                “ดรีมนายลองใช้ดูไหมเห็นว่ามันช่วยเรื่องพลัง” ชิตโยนอุปกรณ์นี้ใช้ดรีมหลังอ่านคู่มือการใช้ (แกล้งกันแบบนี้ก็ได้หรอ)

                ดรีมรับอุปกรณ์นั้นมาแล้วเสียบไปที่เข็มขัดของชุดสูท ทางชิตเองก็ใช้การมองคลื่นที่แผ่ออกมาจากตัวของดรีตรวจสอบการใช้งาน

                ผลคือหลังจากที่ดรีมใช้อุปกรณ์นี้ไปได้ไม่ถึงห้านาทีก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นทันที

                สิ่งที่ชิตเห็นก็คือคลื่นของมานาเวทย์กับพลังส่วนอื่นๆก็สูงขึ้นทันทีเมื่อเริ่มใช้งานแต่คลื่นของพลังชีวิตกลับลดฮวบทันที นับว่าเป็นของที่ดูดพลังชีวิตโดยแท้ (ขยะดีๆนี่เอง)

                ทั้งนี้เอม ชิต ดรีมก็คงต้องนั่งเฝ้าอาร์มเมอร์ตัวนั้นต่อไป

                ส่วนทางด้านนิสากับคุณซิลเวอร์ก็หยุดการขโมยได้เช่นกัน ทั้งนี้ไม่ขอเล่ารายละเอียดแล้วกันเอาเป็นว่าพวกอาร์มเมอร์ที่ปะทะกับนิสากับคุณซิลเวอร์ไม่รอดสักราย ส่วนของที่พวกมันจะขโมยก็เป็นของแบบเดียวกันกับทางนี้ทำให้เบาะแสกับพวกอาร์มเมอร์ไม่คืบหน้าเท่าไรนัก

                ทางด้านนาเดียหลังจากที่กลบหลุมทางเข้าและรับมือกับอาร์มเมอร์ด้วงอีกตัว และสามารถกำจัดลงได้ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งพอพวกเอมรู้ว่านาเดียใช้เวลากับอาร์มเมอร์ด้วงตัวนั้นนานก็คิดว่านาเดียคงรับมืออย่างยากลำบาก แต่ที่ไหนได้เธอเสียเวลาไปกับการค่อยๆเชือดอาร์มเมอร์ด้วงตัวนั้นนานไปหน่อย......(เชื่อเถอะถ้าให้อธิบายก็คงเป็นฉาก 18+ แหงๆๆ)

                ตัดกลับมาที่พวกของเอมที่นั่งเฝ้าอาร์มเมอร์ด้วงที่จับไว้ได้อยู่ ซึ่งตอนนั้นไวท์ก็เดินมาพอดีโดยจะพาอาร์มเมอร์ตัวนี้ไปสอบสวน(เข้าห้องเชือด การันตีbyนาเดีย)

                “ไวท์ ทางนี้ๆ” เอมทักไวท์ก่อนทั้นที่ที่เห็น

                “ตัวนี้นะหรอ” ไวท์มองดูตัวที่จับมาได้ “แล้วของที่พวกมันจะขโมยละ”

                “อ่ะ นี่” ชิตส่งกระเป๋าที่ใส่อุปกรณ์ทรงกระบอกไว้ไปให้ไวท์

                ไวท์มองดูอุปกรณ์ที่พวกอาร์มเมอร์จะขโมย แล้วก็พูดออกมาพร้อมแสดงสีหน้าเซ็ง “ขยะนี่นะหรอ”  

                แต่แล้วไม่ทันที่ชิตจะส่งกระเป๋าไปให้ไวท์ดี ก็มีใยมาเกี่ยวกระเป๋าแล้วก็ถูกดึงออกจากมือของชิต ซึ่งจังหวะนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจ

                กระเป๋าใบนั้นตอนนี้ได้ลอบไปอยู่ในมือของคนที่เอมกับชิตคุ้นหน้าคุ้นตาพอสมควร

                ““ยัยป้าแมงมุม!”” เอมกับชิตมองไปทางกระเป๋าที่ลอยไปพร้อมกับพูดออกมา

                หญิงสวมชุดคล้ายแมงมุมสีดำรายสีแดงยืนอยู่บนเสาไฟเธอคืออาร์มเมอร์แมงมุมที่เอมกับชิตเจอตอนเหตุการณ์เขต 15

                “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ สาวหัวร้อนกับหนุ่มซึน”อาร์มเมอร์แมงมุมกล่าวทักทาย

                เอมไม่รอช้าเธอเรียกสิงโตน้ำแข็งพุงไปหมายขย่ำอาร์มเมอร์แมงมุม แต่ก็ถูกหยุดไว้โดยอาร์มเมอร์แมงมุมใช้อุปกรณ์ทรงกระบอกเสียบไปที่สนับมือของเธอเกิดเป็นบาเรียมาป้องกันตัวเอง จากนั้นร่างของสิงโตน้ำแข็งก็สลายหายไปทันที

                “เกิดอะไรขึ้น” เอมตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

                “ดับร้อนหน่อย สาวหัวร้อน” อาร์มเมอร์แมงมุมยิ้มมุมปาก จากนั้นเธอหมุนไปที่อุปกรณ์ที่แขนเกิดเป็นพลังน้ำแข็งพ่นลงไปที่พวกของเอมที่ยืนอยู่รวมถึงอาร์มเมอร์ด้วงที่โดนมัดอยู่ก็ถูกแช่แข็งทันทีขณะที่เอม ชิต ดรีม และไวท์หลับทัน

                เมื่อตั้งหลักได้ดรีมเลยสวนกลับด้วยการยิงปืนพลังเวทย์เข้าไป แต่ก็ถูกกันด้วยบาเรียแล้วก็ถูกดูดพลังเข้าไปที่อุปกรณ์ทรงกระบอกที่ข้อแขนของอาร์มเมอร์แมงมุม แล้วอาร์มเมอร์แมงมุมก็ใช้พลังที่ดูดมาปล่อยสวน

                ตูม!! เสียงระเบิดดังขึ้น

                กำแพงแสงขนาดใหญ่ถูกกางขึ้นป้องกันการสวนกลับไว้ได้ซึ่งคนที่สร้างกำแพงแสงขึ้นมาก็คือไวท์

                จากนั้นกำแพงแสงที่ถูกกางออกมาก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นแท่งโปร่งแสงปลายแหลมหลายอัน แล้วแท่งเหล่านั้นก็พุ่งไปยังอาร์มเมอร์แมงมุม

                อาร์มเมอร์แมงมุมก็สร้างบาเรียแบบเดิมมากันไว้ซึ่งสามารถกันไว้ได้หมด แต่ก็ต้องกระเด็นตกลงมาจากเสาไฟ ตอนนั้นเองสนับแขนที่ติดอุปกรณ์ทรงกระบอกไว้ก็เกิดระเบิดขึ้น ทำให้อาร์มเมอร์แมงมุมได้รับบาดเจ็บที่แขน

                “ทำไม??” อาร์มเมอร์แมงมุมพูดขึ้นด้วยความสงสัยพร้อมแสงสีหน้าเหวี่ยง “ชิ....”

                อาร์มเมอร์แมงมุมถอดอุปกรณ์ทรงกระบอกออกจากสนับแขนที่พัง แล้วเขวี้ยงลงบนพื้น จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นทันทีทำให้ฝุ้นคลุ้งไปทั่ว

                เมื่อควันจางลง อาร์มเมอร์กับอุปกรณ์ที่ขโมยมาได้หายไป รวมถึงอาร์เมอร์ด้วงที่ถูกแช่แข็งก็หายไปด้วย

                “หนีไปได้อีกแล้วสินะ” ชิตพูดออกมา

 

คืนวันนั้น

                หลังจากประชุมสรุปเหตุการณ์ในวันนี้ก็ได้ความว่า อุปกรณ์ที่พวกอาร์มเมอร์ขโมยไปสามารถดูดซับพลังได้แล้วยังสะท้องพลังออกไปรวมถึง สารมารถเปลี่ยนพลังที่ดูดมาไปเป็นมานาเวทย์ ส่วนสาเหตุที่ของชิ้นนี้ถูกจัดเป็นขยะก็เพราะว่ามันเก็บพลังที่ดูดมาไว้นานไม่ได้และถ้าเปิดใช้งานมันก็จะดูดพลังทันที ก็ถ้าไม่มีพลังอะไรให้ดูดมันก็จะดูดพลังชีวิตแทน

                ดูเหมือนว่าพวกอาร์มเมอร์จะรู้ถึงวิธีการใช้เป็นอย่างดี แต่ว่าสิ่งที่พวกมันไม่รู้คืออุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่นัก ประมาณว่าถ้าใช้งานมันหนักเกินไปมันจะระเบิดทันที แต่สิ่งที่พวกอาร์มเมอร์ไม่รู้ก็คือพวกวัสดุที่ประกอบขึ้นมานั้นหาได้แบบตามมีตามเกิด (ของเกรดห่วยนั่นเอง...สมแล้วที่มันเป็น ขยะ )

                อีกอย่างตอนที่สร้างอุปกรณ์ชิ้นนี้ขึ้นมาก็เพราะศาสตราจารย์ พี่ศรและคุณซิลเวอร์ว่างจากการพัฒนาชุดสูทเลยมาทำอะไรที่เสริมชุดสูท แต่พอมีโปรเจ็คอื่นเข้ามาก็เลยไม่มาพัฒนาอุปกรณ์ชิ้นนี้ต่อ

                ณ ชั้นด่านฟ้าของหอพักราวเที่ยงคืน หญิงสาวยืนมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืนกับแสงดาวระยิบระยับสวยงาม

                “เอม มีอะไรหรอ?” ชิตถูกเอมเรียกไปหา

                “ตอนนั้นนายเห็นอะไร”

                “สีดำ สีดำชวนสยองแปลกๆ”

                “ใช่จริงๆด้วย เป็นเขาจริงๆ”

                “แล้วจะเอาไงต่อ”

                “ก็ต้อง....ทำตามใจต้องการละนะ” หญิงสาวยิ้มแล้วมองไปที่ชายหนุ่ม

                ชายหนุ่มมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ‘หวังว่าจะไม่มีอะไรเลวร้ายก็แล้วกัน’

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา