Spy NOOB ภารกิจร้ายสายลับปลอม

-

เขียนโดย หัวใจวาย

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.47 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,807 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561 11.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เฮ้! เพื่อนเก่าที่แสนดี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   “หนะ..ไหนมึงทวนอีกทีซิ” ผมเอ่ยขึ้นหลังจากฟังมันพูดจบ โดยพยายามส่งยิ้มอย่างใจเย็นไปให้มันด้วย “สรุปว่า….”

   “มึงอย่าให้กูพูดซ้ำได้มะ? กูรู้ว่ามึงเข้าใจ” มันตอบกลับมาพลางจ้องหน้าผมเขม็ง “มึงต้องช่วย” มันสั่ง ผมจึงหุบยิ้มและถอนหายใจแรงๆ

   “แต่กูไม่ว่า…” ผมกำลังจะเถียง มีก็เหตุผลที่ผมไม่พร้อมรับงาน แต่มันก็ยกมือขึ้นห้ามทันที ผมจึงได้แต่กำหมัดใต้โต๊ะและถอนหายใจอย่างหงุดหงิด

 

   มึงกลายเป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองเต็มตัวไปแล้วซินะ?

 

   “กูเคยช่วยมึงตอนสอบ กูไม่ได้ทวงบุญคุณนะ แต่...” มันจ้องผมเขม็งอีกครั้งและเอานิ้วชี้ที่ปากมอมๆ ของตัวเอง “กูเคยช่วยมึงตอนสอบ! ” คำพูดเน้นๆ ช้าๆ ค่อยๆ หลุดออกมาจากปากแสนมอมของมัน

 

 

   มึงคงไม่รู้ตัวซินะ… คำพูดสั้นๆ ของมึงนี่ขุดเอาความหลังย้อนกลับไปถึงเจ็ดปีขึ้นมาเลยนะมึง

ความทรงจำสี่ปีที่เรียนด้วยกันและอีกสามปีที่ห่างหายกันไปเริ่มกลับมาหลอกหลอน

 

 

   ผมนั่งระงับอารมณ์ด้วยการดูดน้ำเมล่อนปั่นไปเรื่อยๆ ผมไม่สะดวกที่จะทำงานในตอนนี้ ความเครียดจากการเรียนมาตลอดสิบกว่าปีมันยังสะสมอยู่ ผมจึงอยากอยู่บ้านเฉยๆ และหาเรื่องเที่ยวไปก่อน ตราบใดที่พี่ชายคนโตไม่มาบังคับผม ผมก็จะใช้ชีวิตไปแบบนี้แหละ

   แต่… งานแบบนี้ ไม่ใช่ว่าแค่อยากทำจะได้ทำหรอกนะ มันต้องมีดวงเฮงด้วยและตอนนี้ดวงเฮงของผมมันก็เริ่มทำงานแล้วซะด้วย

 

   “ยังไงก็ต้องเป็นกูเหรอวะ?” ผมถามมันพลางเก็บอารมณ์หงุดหงิดไว้ในใจ

   “ก็มึงไม่มีงานทำ กูก็เลยอยากช่วยไง” มันตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มชวนโมโห ขาผมถึงกับสั่นเลยทีเดียว

   ใครบอกมึงว่ากูไม่มีงานทำ กูแค่’ ไม่อยากทำงาน’ โว้ย!

 

   ผมไม่เคยต้องตกอยู่ในภาวะจำยอมแบบนี้มาก่อนตลอดสามปีที่นอนกลิ้งกลุกๆ อยู่กับบ้าน ไอ้เพื่อนปากมอมคนนี้ก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่มันโทรมาหาผมเมื่อเช้านี้นั้นเป็นการทำลายแผนเที่ยวรอบโลกของผมเลยทีเดียว

T – T

 

 

   “เอาวางไว้ตรงนั้นเลยครับ” ผมชี้นิ้วไปที่ว่างหลังห้องและบอกกับอดุลย์ ผู้เก่งกาจไปเสียทุกเรื่อง “ขอบคุณนะครับ อับดุล”

   เมื่อใช้งานเขาเสร็จผมก็โบกมือไล่เขาออกไปตามธรรมเนียมของผม แต่ก็ไม่สำเร็จหรอก อดุลย์จะตามติดผมไปทุกที่ตามคำสั่งของพ่อและพี่ชายทั้งสี่ แม้ตอนนี้จะอยู่ในห้องนอนก็ตาม ที่เขาทำมากที่สุดก็แค่กระเถิบไปยืนห่างๆ

   “คุณหนูจะทำอะไรครับ?” อดุลย์ถามและมองห่างเป็นห่วงอยู่ใกล้ๆ

   “ผมจะปาลูกดอกเลือกประเทศน่ะ” ผมตอบเขาไปและเดินไปหาสิ่งประดิษฐ์ของผม ไม่ซิ จริงๆ แล้วต้องบอกว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ของอดุลย์ เพราะเขาทำให้ผมตั้งแต่เมื่อวาน

   ผมยืนยิ้มให้กับจานวงกลมแบนขาดเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งเมตรที่มีจุดหมุนยึดกับขาตั้งที่แข็งแรง ผมเริ่มเขียนชื่อประเทศต่างๆ ลงในช่องแฉกๆ ขาวสลับดำที่อดุลย์ขีดไว้ให้

   “อียิปต์ เขียนยังไงหว่า?” ผมพึมพำกับตัวเองดังๆ จนหลุดไปเข้าหูของอดุลย์

   “Egypt สะกดแบบนี้ครับ” อดุลย์ตอบกลับมา “คุณหนูแน่ใจนะว่าลูกดอกจะไม่กระเด้งกลับมาโดนตัวเอง?”

 

   “ขอบคุณสำหรับคำศัพท์นะครับอับดุล” ผมขอบคุณเขาและหันหลังให้ชายรุ่นพ่อทันที ชายคนนี้ไม่เคยไว้ใจผมเลย เขาชอบทำหน้าเครียดและกังวลเสมอ ผมถอนหายใจและส่ายหน้า หากอดุลย์มีใบหน้ายิ้มแย้มบ้าง โลกคงน่าอยู่ขึ้นเยอะ

 

   รายชื่อประเทศทั้งสามสิบสองประเทศที่ผมเลือกถูกบรรจุลงไปในแผ่นวงกลมแล้วทั้งหมด อดลุย์หมุนแผ่นกลมนั้นจนเร็วจี๋ ผมกำลังจะปาลูกดอกลูกแรกอยู่พอดี ตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามา ผมมองหน้าจอแล้วก็เห็นตัวอักษรโชว์ว่า

 

   T.M.

   อืม… คุ้นๆ แฮะ อ้อ! มันนั่นเอง นี่มันยังไม่เปลี่ยนเบอร์อีกเหรอไงวะ?

 

 

   ผมนึกถึงภาพของเพื่อนสมัยมหา’ ลัย เจ้าของตัวอักษรย่อ T.M. มันตัวแห้งๆ ใส่แว่น หน้าตาเรียบร้อย พูดน้อยและเบาๆ มีสมองระดับอัจฉริยะ ทำคะแนนสอบได้ดีทุกวิชา นิสัยก็ดี สุภาพ แต่ทั้งหมดถูกกลบทับด้วยสเตตัสสุดท้ายที่ทำให้มันมีเพื่อนน้อยมาก นั่งคือ มันจน จนมากถึงขนาดที่เพื่อนๆ ชวนกันไปกินยาดองหรือเหล้าถูกๆ หลังมหา’ ลัย มันยังไปด้วยไม่ได้เลย เหตุผลก็เพราะต้องเก็บตังค์ไว้ซื้อข้าวเย็นกิน

   นั่นก็เลยเป็นเหตุผลให้ผมไม่กล้าแสดงความร่ำรวยต่อหน้ามันและทำตัวสมถะตลอดเวลาที่อยู่ที่มหา’ ลัย ไม่ใช่กลัวว่ามันจะเกลียดหรอกนะ ผมไม่สนใจอยุ่แล้ว แต่พอเห็นมันชอบนั่งห่างๆ อยู่คนเดียวแล้วก็หงุดหงิด ผมจึงต้องแกล้งทำเป็นว่าผมเองก็ไม่ค่อยมีตังค์และไม่สุงสิงกับคนที่ชอบปาร์ตี้ยาดอง ผมก็แค่อยากจะคุยกับมันอย่างสบายใจก็เท่านั้น

   แต่กลายเป็นว่ามันเชื่อว่าผมจนจริงๆ ประกอบกับความฉลาดที่มีน้อยของผม ยิ่งทำให้มันเชื่อว่าผมไม่มีหนังสือหนังหาให้อ่านมากนัก มันจึงคอยช่วยเหลือผมตลอด ไม่ว่าจะการบ้านหรือรายงาน ถึงขนาดแอบบอกคำตอบในห้องสอบ มันก็ทำและก็ทำตลอดสี่ปี

 

 

   ผมคว้าโทรศัพท์และกระโดดไปนั่งบนเตียงก่อนจะกดรับและกรอกเสียงลงไป

   “ว่าไง?” ผมรับโทรศัพท์ด้วยเสียงเบื่อๆ ส่วนหนึ่งเป็นการแสดง อีกส่วนหนึ่งมาจากอารมณ์ที่โดนขัดจังหวะ

   “กูเอง ธีไง มึงมีงานทำหรือยังวะ?” มันส่งเสียงกลับมาอย่างสดใส ผมรู้สึกได้เลยว่าเพื่อนผมเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร แต่…

   คำถามของมันชวนหงุดหงิดชะมัด ฟังเหมือนผมเป็นคนไร้อนาคตที่เป็นภาระให้เพื่อนต้องคอยห่วง ผมเลิกคบเพื่อนไปเจ็ดคนเพราะโดนถามแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าไอ้เจ็ดคนนั้นจะถามทำไมเพราะพอถามเสร็จมันก็เปลี่ยนเรื่อง

   ไอ้ธีมันกำลังจะกลายเป็นรายที่แปด

 

   “ยัง!” ผมตอบกลับไปพลางสะกดอารมณ์ ซึ่งทำได้ยากเต็มที การได้นอนอยู่บ้านยาวๆ สามปีในฐานะลูกชายคนเล็กของตระกูลร่ำรวยล้นฟ้า ทำให้ผมกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองนิดหน่อย

   “กูก็คิดว่าเป็นแบบนั้นแหละ” มันตอบกลับมาอย่างสดใสเหมือนเดิม “มาคุยกันหน่อยมะ?”

 

 

   ได้! คุยเสร็จ มึงจะกลายเป็นรายที่แปด คอยดู!

T – T

 

 

   “ลีลาว่ะมึง” มันตำหนิผมและเริ่มแสดงอาการก้าวร้าวด้วยการยกศอกขึ้นวางบนโต๊ะและใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ แต่ถี่รัว

   อีคิวต่ำนะมึง ไอ้หน้าแก่!

 

   ผมมองหน้ามัน ทั้งๆ ที่ผมเองก็หงุดหงิดมากเพราะแผนเที่ยวของผมหยุดชะงัก แต่ผมก็ไม่คิดจะว่าอะไรมันซักคำ แต่ดูมัน แค่ผมตอบช้า มันก็บ่นผมแล้ว ผมที่ไม่เคยโดนใครบ่นมาตลอดสามปีจึงทนพฤติกรรมของมันไม่ได้

 

   “กูทบทวนอยู่โว้ย ไอ้สมองกลวง!” ผมด่ามันออกไปแต่ก็ต้องมานั่งถอนหายใจและกุมขมับ ผมรู้สึกเศร้าที่พบความจริงว่าคนที่ผมกำลังด่าว่าสมองกลวงมันฉลาดกว่าผมมาก แถมฉลาดมาตลอด

   “มึงรู้ใช่มะว่างานสปายมันเสี่ยง?” ผมถามมัน ซึ่งมันก็พยักหน้าหงิกๆ ของมันรับ

   “เออ!”

   “แล้วมึงมาจ้างกูเนี่ยนะ มึงเอาสมองไปทิ้งแล้วเหรอไงวะ?” ผมถามมันกลับด้วยความสงสัย “กูไม่มีสกิลอะไรที่เกี่ยวกับการสืบสวนซักอย่าง”

 

   แม้รูปลักษณ์ภายนอกของเพื่อนผมจะดูดีขึ้นมากๆ ๆ ไม่ว่าจะเป็นทรงผมที่ตัดเรียบร้อย หนวดเคราที่เข้มขึ้น (จนดูเหมือนปากมอม ซึ่งก็มอมจริงๆ ) รูปร่างสมส่วนจนเกือบจะกลายเป็นบักถึกเพราะออกกำลังสม่ำเสมอ (อันนี้รู้เพราะส่องมาจากเฟซของมัน) พูดจาฉะฉานสมเป็นอาจารย์ แต่ไม่น่าเชื่อว่าสมองมันจะหดลงจนคิดอะไรตื้นๆ

 

   “ไม่ต้องใช้สกง สกิลอะไรเลย” มันเถียงกลับด้วยตากลมโตหลังแว่นตากรอบเหลี่ยม มันยักไหล่สูงจนดูน่าเตะ “มึงแค่แทรกซึมและหาข้อมูลมาบอกพี่กู แค่นั้น! ต่อให้โง่ก็ทำได้ เชื่อกู!”

 

   ผมสรุปได้แล้วละว่า เพื่อนผมโตขึ้น หล่อขึ้น เก่งขึ้น เป็นอาจารย์สอนเด็กช่างที่จัดการเด็กได้อยู่หมัด และคงจะมีอะไรอีกหลายอย่างที่มันทำได้ดี แต่… ทักษะการแสดงออกโคตรห่วยแถมทักษะโน้มน้าวคนอื่นก็อยู่ในระดับวิกฤติ… มาก

 

 

   “แล้วกูจะได้กี่บาท” ผมเลิกสนใจการโน้มน้าวของมันและหันมาสนใจตัวเลขค่าตอบแทน

   “เดือนละหกพัน” มันตอบและยิ้ม

   อืม… ต่อให้กูโง่ กูยังรู้เลยว่ามันต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำซะอีก ผมแค่นึกในใจไม่ได้พูดออกไป

 

 

 

   ผมเดินจ้ำอ้าวออกมาจากห้องอาหาร เงินหกพันเนี่ยนะ? คิดเป็นศูนย์จุด… อืม! เอาเหอะ! ผมไม่สนใจเลขหยุมหยิม คิดแล้วมันต่ำกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ของเงินที่ผมใช้ต่อเดือนซะอีก ผมไม่เสี่ยงเด็ดขาด

 

 

   ผมกำลังจะอ้อมไปทางหลังร้านที่เป็นมุมของห้องน้ำ แต่ก็โดนมันรั้งแขนไว้ซะก่อน

 

 

   “ช่วยกูหน่อยดิ” มันรั้งผมเข้าหาตัวมันได้อย่างง่ายดาย ผมรู้สึกทึ่งมาก ถ้าเป็นเมื่อหกเจ็ดปีที่แล้ว แค่ปัดเศษยางลบมันยังบ่นเหนื่อยเลย “นะ นะ”

 

 

   มันยืนเอาไหล่พิงผนังห้องน้ำและมองผมด้วยใบหน้ากวนๆ ตาสีเข้มที่มองผ่านแว่นมาดูสดใส แม้ใบหน้าจะมีริ้วรอยขึ้นมากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ดูดีขึ้นมาก

ผมเพิ่งรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าอีกไม่กี่ปี พวกเราก็จะสามสิบกันแล้ว

 

 

   กลิ่นหอมคุ้นจมูกเลยอ้อยอิ่งอยู่เบื้องหน้าผม มันคือกลิ่นโคโลญจน์จากตัวไอ้ธีที่ผมเคยได้กลิ่นตลอดสี่ปี ปัจจุบันมันก็ยังคงใช้อยู่

 

   ภาพความทรงจำเก่าๆ ถูกขุดขึ้นมาโดยอัตโนมติเพราะได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยและประทับใจ ผมว่าหลายคนก็เคยเป็น มันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา

   ไอ้ธีวางมือที่ไหล่ผมและใช้นิ้วโป้งแตะและไล้เบาๆ ที่คอ ก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าใกล้ ผมรู้ว่ามันไม่กล้าหรอก มันแค่ต้องการจะขู่

   “ว่าไง?”

   “ก็ได้วะ” ผมตอบไปและหมุนตัวหนีทันที “เดี๋ยวกูจะโทรมาคุยทีหลังนะ”

 

 

   กูยอมเพราะเงินหกพันหรอกนะ ไม่ใช่เพราะโคโลญจน์ ไม่ใช่เพราะตัวมึงหอมและไม่ใช่เพราะมึงเป็นเพื่อนที่แสนดี (ที่เริ่มรู้จักใช้ภาษากายที่เซ็กซี่มาข่มขู่) เข้าใจไว้ด้วย



 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา