Spy NOOB ภารกิจร้ายสายลับปลอม

-

เขียนโดย หัวใจวาย

วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 10.47 น.

  4 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,806 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2561 11.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) กระฉูด เลือดสายลับสูบฉีด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   หลายคนอาจจะอยากรู้ว่า เหตุการณ์มันเป็นไงมาไง ผมถึงไปนอนอยู่ที่ฟูกคนอื่นได้ ผมจะเขียนทิ้งไว้ในบันทึกสายลับของผมละกัน

 

   ช่วงบ่ายของวันแรกที่ผมเพิ่งย้ายเข้ามา หลังจากที่ไอ้เพื่อนตัวแสบกลับไป ผมก็นอนกลิ้งกลุกๆ ตามสไตล์ของผม ถึงแม้ผมจะระเห็จออกจากคฤหาสน์มาแล้ว แต่งานของผมก็ยังไม่เริ่มจนกว่าจะได้เจอนายจ้างที่แสนน่ารักของผมในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ตามที่ผมบอกกับไอ้ธีไว้

   ผมไม่มีอารมณ์แม้แต่จะจัดของ เพราะอุณหภูมิห้องที่สูงจนตับแล่บ ผมจึงทิ้งกล่องและลังไว้อยู่ที่มุมห้องตามเดิม ก่อนจะตัดสินใจจะไปเดินหาข้อมูลเล่นซะหน่อย เพราะเลือดสายสืบมันสูบฉีดขึ้นมาบ้างแล้ว

 

   ผมอยู่ชั้นสอง เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างจะเห็นลานโล่งหน้าบ้าน เนื่องจากห้องผมอยู่ตรงมุมฉากของตัวแอล ทำให้ผมมองเห็นหน้าต่างห้องอื่นๆ ที่อยู่อีกด้านของตัวแอลด้วย ห้องที่อยู่ใกล้สุดเปิดค้างไว้แต่ไร้เงาคน ผมจึงเดาเอาว่าเจ้าของห้องน่าจะหลับ

   ผมเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อกล้ามตัวใหญ่ที่คอเว้าลึกจนถึงลิ้นปี่ ไม่ต้องพูดถึงช่องแขนเลย มันเว้าลงไปถึงเอว ผมไม่ได้กะจะเปิดเผยร่างกายตัวเองหรอกนะ แต่ผมไม่เคยอยู่บ้านที่ไม่มีแอร์มาก่อน ดังนั้นเสื้อผ้าของผมก็ควรระบายอากาศได้ดีกว่าปกตินิดนึง

   ผมหยิบกางเกงขาสามส่วนสีกรมท่าหลวมๆ มาสวมและเดินออกจากห้องพลางมองไปยังโถงทางเดินกว้างที่เงียบเหงาและมืดครึ้มของชั้นสอง ก่อนจะเดินลงมายังชั้นหนึ่ง ตรงไปสุดทางจะเป็นห้องน้ำรวมที่ผมเห็นครั้งแรก ผมยอมรับเลยว่ามันเหมาะจะจัดรายการล่าท้าผีซะจริงๆ เพราะมันทั้งมืด ทั้งอับชื้นและวังเวงมากๆ แม้อยู่ในเวลากลางวัน

   ผมเดินเลี้ยวออกมาหน้าบ้าน จุดที่ผมประทับใจที่สุดของที่นี่คือ สวนหย่อมเล็กๆ ที่เจ้าของบ้านเช่าจัดไว้หน้าบ้าน ผมจึงเดินไปนั่งเล่นที่ม้าหินตัวหนึ่ง พลางใช้มือเขี่ยใบไม้ออกจากตารางหมากฮอตบนพื้นโต๊ะ

   ผมนั่งปล่อยตัวให้รับลมเย็นที่พัดมาบ่อยๆ พร้อมฝุ่นควันจากมอ’ ไซค์ของเจ้าเด็กวัยรุ่นที่ไร้กาละเทศะ มันเป็นโมเมนต์ที่คฤหาสน์ของพ่อไม่สามารถจัดให้ผมได้

 

   “หืม?” เสียงดุๆ ดังขึ้นด้านหลังผม ผมจึงเอนหลังกับพนักพิงและเงยหน้าไปมองจนสุดระยะที่คอผมจะยืดไปได้ “มาใหม่ใช่ไหม เราน่ะ?” ผมเห็นผู้ชายตัวใหญ่กล้ามโตกำลังก้าวเข้ามา ผมจึงเก็บคอและหันไปมองตามปกติ

   นายจันทร์หนวดเขี้ยวมีรูปลักษณ์อย่างไร ชายคนนี้ก็เป็นแบบนั้นเลย ทั้งหน้าที่ดุร้าย หนวดเรียวยาว กล้ามสวยเป็นมัด ผิวคล้ำเข้ม ถ้าเขาถือดาบซะหน่อย ผมจะถ่ายรูปและอัพขึ้นไอจีทันทีเลยว่าผมหลุดมาอยู่ที่บางระจัน แต่เพื่อนๆ คงไม่เชื่อหรอก เพราะชายคนนี้ยังนุ่งโสร่งยาว ไม่เหมือนนายจันทร์ในบางระจันซะทีเดียว

   “ใช่ฮะ ผมเพิ่งมาจากสระบุรี” ผมตอบเขากลับไปพร้อมกับส่งยิ้มที่คิดว่าสวยที่สุดไปด้วย “ผมชื่อต่อครับ”

   “ลุงชื่อเมฆ” เขาเรียกตัวเองว่าลุง ช่างเป็นคำที่น่ารักจริงๆ เขาเดินเข้ามาช้าๆ เหมือนกับกลัวพฤติกรรมของผม “ทำงานอะไรล่ะเรา?” เขาเดินมาหยุดใกล้ๆ ในมือของเขามีถุงดำอยู่สองสามใบ คงกำลังจะเอาไปทิ้งแน่ๆ

   “ผมเขียนหนังสือน่ะฮะ” ผมตอบและยิ้ม

   “นักข่าวเรอะ?” เขาถามกลับทันที ท่าทางมีพิรุธชัดเจนไปนะลุง

   “ป่าวฮะ หนังสือเด็ก พวกนิยาย นิทานน่ะ” ผมเฉไฉไปเรื่อยตามที่สมองของผมจะคิดได้

 

   ลุงเมฆพยักหน้าและเดินไปทิ้งขยะ ก่อนจะเดินกลับมาที่ม้าหินข้างๆ เขาถกโสร่งขึ้นสูงก่อนจะนั่งลง

   “อากาศร้อนเนอะ” เขาบ่นพลางกระพือผ้าโสร่งตรงหว่างขา กางเกงในสีเข้มที่ห้อยย้อยอยู่หว่างขาโผล่ออกมาโชว์ขนาดให้เห็นวับๆ แวมๆ ก่อนที่ลุงเมฆจะปล่อยผ้าทิ้งลงบนหน้าตักและเอามือลูบไล้เหงื่อตามร่างกายออก

 

   ผมโดนยั่วอยู่ป่าวนี่ย?

   ผมคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย ผู้ชายดีดีที่ไหนจะมานั่งเปิดโสร่งและโชว์กางเกงในของตัวเองให้เด็กหนุ่มน่ารักที่เพิ่งเจอกันดูแบบนี้

   “แฟนไปไหนแล้วล่ะ?” ลุงเมฆถามผมต่อหลังจากจัดการกับร่างกายตัวเองเสร็จ “เมื่อกี๊เห็นว่ามาด้วยกัน”

   การที่ลุงเมฆพูดแบบนี้ แสดงว่าการมาของผมอยู่ในสายตาของคนแถวนี้ เป็นไปได้ว่าคนแถวนี้จะโฟกัสเด็กใหม่ที่เพิ่งย้ายมาพอสมควร ไอ้ธีรู้เรื่องนี้ไหมนะ?

   “ไม่ใช่แฟนหรอกฮะ ผมอยู่คนเดียว” ผมตอบและยิ้ม ผมต้องวางฟอร์มไว้ก่อน หากผมทำอะไรมากไป เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมทอดสะพาน ผมจับคอเสื้อกระพือเบาๆ ช้าๆ ทำให้ช่องคอและช่องแขนขยายมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว “เพื่อนที่ช่วยหาบ้านให้น่ะฮะ มันกลับไปแล้ว”

   “อ้อ ลุงก็อยู่คนเดียว” เขาพูดขึ้นมาเองเฉยๆ ระดับสายตาของเขาก้มต่ำลงบริเวณหน้าอกของผม เขารั้งผ้าโสร่งขึ้นลงเหมือนอยากจะโชว์ท่อนขาอวบใหญ่แข็งแรงให้ผมเห็น ซึ่งบอกเลยว่ามันอวบใหญ่มาก “ลุงไม่มีเมีย”

 

   อื้ม! มาละ สะพานของลุงเมฆ อย่างน้อยผมก็บริหารเสน่ห์ได้ดี

   “อยู่คนเดียวก็อิสระดีนะฮะ” ผมพยายามต่อบทสนทนาไปเรื่อยๆ เผื่อลุงเมฆจะต่อสะพานมาหาผมอีก “ผมเพิ่งจะมีโอกาสได้อยู่คนเดียว คืนนี้คืนแรก”

   “ก็อิสระ แต่นอนคนเดียวมันเหงาอะดิ” ลุงเมฆพูดเรื่อยๆ “ต้องหาคนนอนคุยด้วย” เขาพูดโดยทำเป็นไม่สนใจผมแต่มือของเขารวบโสร่งที่หน้าตักทั้งหมดไปขยุ้มไว้ กางเกงในสีเข้มจึงเผยออกมาเต็มตา มันอัดแน่นแทบปริอยู่หว่างขาที่เต็มไปด้วยขน...สี...ดำ

 

   โอย! สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กทอดจากฝั่งลุงเมฆตรงมาหานายต่อตระกูลเต็มๆ

   ใช่มะ?

   ผมไม่ค่อยถนัดกับการพูดคุยแบบนี้ ที่ผ่านมาผมมักจะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเพื่อนๆ หรือคนรู้จักทันทีที่ถูกบุกประชิด แต่การที่ต้องมานั่งพูดทำความรู้จัก แถมยังเป็นคำพูดกำกวม สองแง่สองง่ามแบบนี้ ผมคิดตามไม่ค่อยทัน แต่อาการของลุงเมฆนั้นไม่ต้องเสียเวลาแปลเลย คุยต่ออีกพักคงไม่ทำให้ลุงเมฆเสียอารมณ์หรอกมั้ง

   “เอ่อ… ลุงเมฆทำงานอะไรฮะ วันนี้หยุดเหรอ?” ผมพยายามระงับใจที่กำลังเต้นแรงด้วยการเปลี่ยนประเด็น การถามเรื่องหน้าที่การงานกับผู้ใหญ่มันเหมาะสมไหมหว่า?

   “ลุงเป็นยาม เดือนนี้อยู่กะดึก วันนี้คิดว่าจะลาน่ะ” เขาตอบและมองหน้าผมด้วยใบหน้าดุๆ ผมจินตนาการได้ทันทีว่าลุงเมฆในชุดยูนิฟอร์มจะมีลักษณะอย่างไร

 

   ผมเคยเข้าไปอ่านกระทู้ของชมรมเก้งกวางหลายๆ บอร์ด ผมจำได้ว่า อาชีพ รปภ. คือหนึ่งในหลายๆ อาชีพที่มักจะโดนตามล่า ด้วยความที่เป็นคนในเครื่องแบบและให้กลิ่นอายของดิบเถื่อน อาชีพนี้จึงติด Top5 ได้ไม่ยาก

แถมผมเองก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับคนในอาชีพนี้ มันจึงน่าสนุก

 

   “คืนนี้มีธุระเหรอฮะ? ถึงต้องลา” ผมถามลุงเมฆกลับและรอคอยคำตอบ

   “คิดว่าจะป่วย...” ลุงเมฆบอกและยิ้ม เป็นการยิ้มครั้งแรกของเขาที่มีฤทธิ์โน้มน้าวให้เกิดการเสียตัว เอ้ย! เสียการควบคุมตัวเองสูงมาก

   ใบหน้าดุของลุงเมฆกำลังจ้องผมเขม็ง เขาแค่หยียดยิ้มมุมปากเท่านั้น หนวดเรียวงามยังคงรูปสวย ตาข้างซ้ายหรี่ปรือลงจนตีนกาเล็กๆ โผล่ขึ้นมาในขณะที่ตาข้างขวาดูกลมสดใส เรือนผมมีเข้มที่มีสีขาวแซมประปรายให้ความรู้สึกถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่พร้อมจะปกป้องดูแล

   นายต่อตระกูลคิดหนักแล้ว แม้จะเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ แต่นี่แค่คืนแรกจะปล่อยตัวเลยเชียวรึ?

 

   “มีแบบนี้ด้วย...” ผมหัวเราะเบาๆ “...คิดว่าจะป่วย อาการเป็นไงฮะ? ผมไม่เคยเป็น”

   ลุงเมฆขยับและเบี่ยงตัวมาทางผม เขาแยกขาออกกว้าง ทำให้เป้าของเขามีพื้นที่สำหรับการพองตัวขึ้นอีกมันมีทั้งส่วนที่ห้อยย้อยเป็นลูกกลมและส่วนที่ดุนดันขึ้นจนรั้งกางเกงขึ้นเป็นรูปหัวและเงี่ยง มันทำมุมเหมาะแก่การจับตามองมาก ลุงเมฆหุบขาเข้าออกช้าๆ ทำให้กางเกงในถูกบีบอัดและเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ

   “อาการก็ปวดเมื่อยตัวธรรมดาๆ นี่แหละ สาเหตุน่าจะมาจากเจอของถูกใจและอยากจะเอา…” ลุงเมฆหยุดเว้นระยะตรงคำที่ทำให้ผมเสียววาบ ก่อนจะพูดต่อจนจบ “...ไปไว้ในห้องนอน”

 

   โอย! สะพานคอนกรีตเสริมเหล็กที่ลุงเมฆทอดมา พุ่งตรงไปยังห้องนอนแล้ว

   “อาการร้ายกาจกว่าที่คิดนะลุง” ผมหัวเราะกลบเกลื่อน เป้าหมายของลุงเมฆชัดเจนมากว่าเขาอยากได้ แถมผมก็โดนเสน่ห์ลุงคนนี้ไปเต็มๆ

   “สงสารมั้ย? ลุงอาการหนัก อยากให้ต่อไปช่วยลุงหน่อย” เขายืนหน้ามาใกล้และยิ้ม “ขอเด้าที”

   นั่นคือความสื่งที่ผมได้ยินเป็นคำสุดท้าย กว่าผมจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผมกำลังนอนอยู่บนฟูกสีเท๊าเทาและตอบข้อความของไอ้ธีกลับไป หลังจากนั้นผมก็โดนลุงเมฆรุกฆาตด้วยกระบองยาวเกือบสองชั่วโมง

T – T

 

   “อืออ อื๊ออ อืออ ลุงเมฆครั… อุ๊...” ผมยืนอยู่ข้างบานหน้าต่างในห้องลุงเมฆด้วยขาซ้ายที่สั่นเกือบจะล้ม มือสองข้างจับยึดบานหน้าต่างแน่นเพื่อพยุงร่างเอาไว้อีกแรง แต่ที่ยังยืนอยู่ได้ ทั้งหมดก็เพราะลุงเมฆยึดและยกขาขวาของผมไว้จนลอยต่างหาก ผมจึงยังประคองตัวเองอยู่ได้ไม่ล้ม

   แต่ตัวผมก็โยกส่ายอย่างรุนแรงตามแรงกระแทกที่ลุงเมฆทำใส่ผม ก้นผมกระเพื่อมทุกครั้งที่เกิดเสียง ตั้บ ถี่รัว ช่องทางรักเล็กแคบถูกกระบองยาวที่แข็งเป๊กตรงหว่างขาของลุงเมฆสอดใส่จนจุกแน่น

   “โอย อูววว โอวววว” ลุงเมฆครางหอบหนักแข่งกับผม เขายืนอยู่ด้านหลังผม แขนซ้ายบีบกำก้นผม ส่วนแขนขวาคล้องขาผมขึ้นสูงและกระหน่ำสะโพกใส่ผมจนตัวเองเหนื่อยหอบ แต่ถึงจะหอบ สะโพกของลุงเมฆก็ยังไม่หยุดทำงาน มันโยกเข้าออกอย่างกับเครื่องจักร ทั้งแรง ถี่ และเร็ว จนผมตัวโยกคลอนและส่งแรงไปถึงผนังห้องอีกด้วย

 

   ลุงเมฆพักอยู่ชั้นสองเหมือนผม อยู่ห้องท้ายสุดของตัวแอล ซึ่งเป็นด้านที่อยุ่เหนือห้องน้ำรวม จากของห้องลุงเมฆจะเห็นหน้าบ้านชัดเจน ผมไม่แปลกใจหากเขาจะเห็นทุกคนที่เดินเข้าออกหน้าบ้าน

 

   “อูว อูว จะเสร็จแล้วครับต่อ” ลุงเมฆครางห้วนสั้น “ลุงจะเสร็จแล้ว” เขาพูดต่ออีกครั้งก่อนจะดึงกระบองยาวออกจากตัวผมและรูดถุงยางออกอย่างรวดเร็ว

   ผมหันไปมอง เห็นลุงเมฆกดก้นผมลงเล็กน้อยและสาวว่าวตัวยาวบนก้นผม พักเดียวเขาก็ยิงผมด้วยกระสุนลูกปรายที่ทิ้งร่องรอยขาวหนึบไปทั่วก้นและแผ่นหลัง

   “ขาว เนียน เอามัน ลุงหลงแล้วนะเนี่ย” ลุงเมฆรัดตัวผมและกระซิบบอกเบาๆ ก่อนจะจูบหนักๆ เนิ่นนาน

   มันก็แน่นอนอยู่แล้ว ผมมาจากสระบุรี ที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อนุ่ม นมดี กะหรี่ดัง นี่ฮะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา