มนต์ดำ อาถรรพ์ อารมณ์

 

 

เครดิตภาพจาก  https://pixabay.com

 

 

 

“ กริ้ง กริ้ง กริ้ง ”

          

      เสียงโทรศัพท์บ้านทรงโบราณดังอย่างต่อเนื่อง เวลาผ่านไปไม่นาน สาวสวยวัยประมาณ 30 เศษก็เดินเข้ามา ร่างอวบอึ๋มถูกซ่อนอยู่ในเดรสแดงรัดรูป เผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอันสมบูรณ์ชนิดที่แม้แต่สาวรุ่นยังต้องอาย ใบหน้าเรียวยาวแลโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับของคนแต่งหน้าจัด จังหวะก้าวที่รวดเร็ว ทำให้ผมหยักศกซึ่งดัดเป็นรอนสะบัดไปมา เมื่อสาวสวยยกหูโทรศัพท์ เธอก็รับสายด้วยกระแสเสียงที่ดูเนือยๆ

 

“ บ้านทรงศิริ คุณนายศรีสมรพูด ”

         

 

        ปลายสายดูจะอึ้งๆ สังเกตได้จากความเงียบที่ติดตามมา แต่ใบ้ได้ไม่นาน เสียงนุ่มๆของชายหนุ่มก็ดังขึ้น

 

“ อ้อ พี่ศรีสมรเองหรือครับ ผม นัทนะครับ วันนี้พี่เป็นยังไงบ้าง ”

         

 

        แม้ไม่รู้ว่าปลายสายเป็นใคร แต่ก็คาดเดาได้ไม่ยากว่าคนผู้นี้น่าจะสนิทสนมกับคุณนายสาว เพราะทันทีที่ได้ยินเสียงของหนุ่มปริศนา สาวสวยวัยสะคราญก็เริ่มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ท่าทางเขินอาย ปากก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หวานใสอันไม่เข้ากับภาพลักษณ์เปรี้ยวจี๊ดเลยซักนิด

 

“ สบายดีจ๋า นัทล่ะ สบายดีมั้ย เอ่อ….ว่าแต่วันนี้มาหาพี่ได้หรือเปล่า พี่คิดถึงเธอมากนะ เราไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์แล้ว ”

 

“ อะ…เอ่อ วันนี้ผมคงไปหาพี่ไม่ได้ พอดีนัดกับเพื่อนเอาไว้น่ะครับ ” ปลายสายตอบตะกุกตะกัก กระแสเสียงส่อเค้าเกรงใจอย่างชัดเจน

 

“ เหรอ เฮ้อ….ไม่เป็นไร พี่เข้าใจเธอ ” สาวใหญ่ผู้ทรงเสน่ห์ถอนหายใจเบาๆ ท่าทางดูห่อเหี่ยวและเศร้าซึม

 

“ อะ…..เอ่อ ที่ผมโทรมา เพราะมีเรื่องอยากให้พี่ช่วย ” เสียงของชายหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นพินอบพิเทาและแฝงแววเว้าวอนอยู่ในที

 

“ เข้าใจแล้ว คราวนี้นัทจะเอาเงินเท่าไหร่ ” สาวใหญ่ดักคอเเบบคนที่รู้เท่าทัน เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว

 

“ อ่อ เอ่อ คราวนี้ขอไม่เยอะครับ แค่สามหมื่นเท่านั้น ” ปลายสายตอบกลับ ถ้อยวาจาดูเกรงอกเกรงใจ

 

“ โอเค แล้วพี่จะโอนให้ ” สาวใหญ่วัยสะคราญตกลงแบบไม่ต้องคิด บ่งบอกถึงฐานะการเงินของเธอได้เป็นอย่างดี

 

“ โอ้ โอ้ โอ้ ขอบคุณมากครับ รู้มั้ยว่าผมรักพี่ที่สุดในโลกเลย ไว้วันหลัง จะเข้าไปหา ” เสียงหนุ่มที่ปลายสายดูเริงร่า อันไม่ต่างจากกุมภีล์ที่ได้แหวกว่ายกลางสายชล

 

“ อ่า ได้จ้ะ ว่าแต่….เธอจะมาหาพี่วันไหน…” สาวใหญ่วัยสะคราญถามกลับ แต่ยังพูดไม่จบประโยค ปลายสายก็ถูกตัด

 

“ ตู้ด…….. ”

         

 

        เธอวางหูด้วยอาการหงอยเหงา ครู่หนึ่ง ก็หย่อนเรือนร่างอวบอัดลงบนโซฟาหนังราคาแพง ดวงตาเรียวยาวเหม่อมองไปรอบห้องโถงอย่างเลื่อนลอย

        

 

        ภายในห้องกว้างที่หรูหราประดับไปด้วยเครื่องเรือนราคาแพง ไม่ว่าจะเป็นตู้ไม้สักแท้ชั้นดี โต๊ะยาวฝังมุกลายหงส์เงินหรือรูปปั้นมังกรทองขนาดเท่าตัวคน แต่ทุกสิ่งไม่สามารถทำให้หัวใจเปลี่ยวร้างของสาวสวยกลับมาสดชื่น ทว่า เธอก็เศร้าได้ไม่นาน เพราะไอโฟน 15 ที่ตั้งอยู่ข้างกายเริ่มดังกังวาน

 

“ ติ้ง ติ้ง ติ้ง ”

        

 

       หญิงสาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ใจคาดหวังให้แฟนหนุ่มต่างวัยโทรมา แต่เมื่อรู้ว่าบุคคลที่อยู่ในสายก็คือ…ซิ้ม ผู้เป็นเพื่อนสาว เธอก็กระแทกเสียงใส่ด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว

 

“ ไง ยัยซิ้ม โทรมามีอะไรวะ ”

 

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฟังจากน้ำเสียง คาดว่าผัวหนุ่มของแกยังไม่มาหา ใช่มั้ยล่ะ ” หญิงสาวที่ปลายสาวหัวเราะร่า สำเนียงเย้ยหยัน บ่งบอกถึงความสนิทสนม

 

“ เออ แล้วถ้าแกคิดจะโทรมาล้อเลียน ก็ไสหัวกลับไป ” คุณนายศรีสมรเริ่มอาละวาด

 

“ ฮั่นแน่ เริ่มเกเรอีกแล้ว นี่คือข้อแนะนำนะ ชั้นว่าไอ้ผัวเด็กเฮงซวยนั่น ไม่ได้รักจริงหรอก มันรักแค่เงินของแกเท่านั้นแหละ เลิกไปเถอะน่า ” ซิ้มกล่าวเตือนด้วยความหวังดี ทว่าคุณนายสาวสุดเซ็กซี่กลับปฏิเสธเสียงแข็ง

 

“ ไม่จริง นัทรักชั้น เขาบอกรักทุกวัน แกมันเป็นแค่คนนอก จะไปรู้อะไร ”

          

 

       ปลายสายนิ่งเงียบไปอึดใจ คุณนายสาวแสนสวยสาบานว่า……ได้ยินเสียงถอนหายใจแผ่วเบาอย่างชัดเจน แต่ไม่ทันได้ตีความนัย เธอก็ได้ยินเสียงใสๆของเพื่อนสาว

 

“ เอาล่ะ ต่อไปชั้นจะไม่เตือนอีก ว่าแต่เรื่องที่เราคุยกันครั้งที่แล้ว แกตัดสินใจได้หรือยัง! ”

            

 

       คุณนายศรีสมรใช้เวลานึกอยู่ไม่นาน จึงจดจำได้ว่าสิ่งที่เพื่อนสาวกำลังสื่อคืออะไร เธอเบ้หน้าเล็กน้อย ก่อนตอบกลับด้วยเสียงที่สั่นเทา

 

“ เรื่องทำเสน่ห์กับอาจารย์ไสยศาสตร์ที่แกเเนะนำน่ะหรือ ชั้นคิดแล้ว ไม่เอาดีกว่า น่ากลัวว่ะ ”

 

“ น่ากลัวอะไรวะ! บอกชั้นหน่อยดิ ” เพื่อนสาวท้วงติงด้วยเสียงที่แข็งขึ้น

 

“ ถ้าเข้าพิธี ชั้นก็ต้องอยู่กับอาจารย์นั่นแค่สองต่อสอง เลยกลัวว่า….” สาวใหญ่ทรงเสน่ห์ตอบติดขัด แม้ว่าเธอจะดูเปรี้ยวจี๊ดจนเข็ดฟัน แต่ก็ไม่กร้านโลกจนเกินไป ลึกๆก็ยังมีความอายตามธรรมชาติของเพศ

 

“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ” ปลายสายหัวเราะจนสุดเสียง คล้ายขบขำอย่างหนักหน่วง จนคุณนายสาวเริ่มหงุดหงิด

 

“ แกหัวเราะบ้าอะไรวะ ”

 

“ ฮะๆ โทษที คือ….พอดีขำว่ะ ตกลงที่ไม่ไปหาอาจารย์คนนี้ เพราะกลัวว่าเขาจะปล้ำแก ใช่มั้ย ”

 

“ เออ ดิ แล้วยังมีเรื่องอะไรให้ต้องกลัวอีกล่ะ ” คุณนายสายสมรนึกอายจนใบหน้าเนียนๆเริ่มแดงซ่าน

 

“ เหอๆ งั้นแกก็สบายใจได้เลย เพราะจิตใจของอาจารย์นั้นสูงส่ง ท่านไม่มีทางทำอะไรแบบนี้เด็ดขาด ” ซิ้มร้องบอกเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า

 

“ เหอๆ ถึงแกจะว่าอย่างนั้น แต่ชั้นก็ยังกลัวอยู่ดี ” คุณนายสาวหัวเราะแห้งๆ

 

“ คนที่ผ่านการมีผัวมาแล้วถึงสามคนอย่างแกน่ะหรือนึกกลัว ขำว่ะ ทำเป็นเด็กสาวที่ไม่เคยมีสัมพันธ์สวาทไปได้ ฮะ ฮะ ฮะ ” สาวปลายสายยิ่งหัวเราะหนักขึ้น

 

“ ไอ้บ้า ถึงชั้นมีผัวมาแล้วสามคน แต่ก็ไม่เคยมีผัวพร้อมกันหรือฟรีเซ็กส์กับคนแปลกหน้านะโว้ย ถ้าต้องไปเสี่ยงกับการถูกปล้ำ จะรู้สึกกลัว มันก็ไม่แปลกอะไรเลย ” คุณนายสาวเถียงกลับ พร้อมส่ายหน้าไปมา ท่าทางหวาดหวั่น

 

“ อืม……น่าคิด ถึงอาจารย์คนนี้จะมีชื่อเสียงด้านคุณธรรม แต่ก็ยังเป็นผู้ชายอยู่ดี การที่ต้องอยู่กับเขาสองต่อสองในห้องทำพิธี มันคงเป็นเรื่องที่ชวนกระอักกระอ่วน แต่มั่นใจเต็มร้อย ถ้าแกเข้าพิธี จะได้นัทกลับมาอย่างแน่นอน ” สาวซิ้มกล่าวยืนยันด้วยเสียงที่หนักแน่น

 

“ นี่แกพูดจริงหรือเปล่า ” คุณนายสาวร้องถามเสียงหลง ดวงตาเบิกโพลง คล้ายเห็นความหวังอยู่รำไร

 

“ ใช่ เวทอาคมของอาจารย์ท่านนี้ขลังยิ่งนัก ชั้นเอาหัวเป็นประกันเลย ” สาวซิ้มรับคำหนักแน่น

      

 

       ใบหน้างามของคุณนายสาวเริ่มงองุ้ม เป็นนัยว่ากำลังใช้ความคิด เธอนึกสงสัยว่าเพื่อนซี้เอาความมั่นใจขนาดนี้มาจากไหน แต่ความปรารถนาที่จะได้คนรักกลับคืนมา มันรุนแรงยิ่งกว่า สาวสวยจึงตอบกลับอย่างเด็ดเดี่ยว

 

“ ตกลง ไปกันวันนี้เลย ซิ้ม ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2