วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ

-

เขียนโดย Hermione001

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.

  20 ตอน
  1 วิจารณ์
  15.91K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ตอนนี้นายกำลังทำร้ายฉันอยู่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

7:45 น. @ คอนโดTrust5
"คุณโกอึนบี" ฉันตกใจมากที่เห็นเธอมาอยู่ที่หน้าคอนโด จึงรีบเข้าไปทักทายเธอ "สวัสดีค่ะ"
"คุณคือ" เธอมองหน้าฉันแบบงงๆ
"อ่อ ฉันเป็นผู้จัดการของยองวอนค่ะ ชื่อว่าพโย.." เดี๋ยวนะ ฉันจะพูดว่าพโยซารังไม่ได้ โอ๊ยย เขาทำให้ฉันติดปากกับพโยซารังแล้วสิ "เอออ ชื่อซารังค่ะ"
"อ้อ!จำได้แล้ว ฉันเคยเห็นคุณวันที่ถ่ายรายการกับTrust5" เธอยิ้มให้ฉันด้วยรอยยิ้มแสนสวยและมีเสน่ห์ของเธอ
"คุณมาหาใครหรอคะ" เธอต้องมาหาพวกเขาแน่ๆถึงได้มาอยู่ที่นี่ แต่ถึงขนาดรู้ที่อยู่แบบนี้แถมมาหาแบบไม่ต้องนัดคงจะไม่ใช่แค่รู้จักกับTrust5 เฉยๆแล้วแหละ
"ฉันมาหาพี่ยองวอนค่ะ พอดีฉันจำรหัสเข้าคอนโดเขาไม่ได้แล้ว" ห้ะ! รู้รหัสเข้าห้องด้วย นี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ
"งั้นเดี๋ยวฉันจัดการเองค่ะ" เธอขยับถอยหลังให้ฉันเข้าไปกดรหัส
ติ้ด ติ้ด ติ้ด ตื้อดือดือ ไม่นานประตูก็ปลดล็อค
"รีบเข้าไปเถอะค่ะ เดี๋ยวคนอื่นจะเห็น" เพราะเธอเป็นคนดังและสวยมากถ้ามีคนอื่นมาเห็นเธอยืนอยู่ตรงหน้าห้องของTrust5 อาจจะทำให้มีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นได้ ฉันเลยต้องรีบให้เธอเข้าไปในห้องก่อน
"ซารังเพื่อนรัก ได้ซื้อขนมมาให้หรือป่าว" ฮยอนจุนที่นั่งเล่นเกมส์อยู่กับซีโน่ถามฉัน นายช่วยหันกลับมามองก่อนได้ไหมเนี้ยฮยอนจุน โกอึนบีมองหน้าฉันคงแปลกใจที่ฮยอนจุนเรียกฉันว่าซารังเพื่อนรัก
"เอ่อออ ฮยอนจุน ซีโน่" ฉันเรียกพวกเขาที่เอาแต่จ้องจอทีวีเล่นเกมส์กันอย่างเมามันส์
"หึ้ ว่าไง" ซีโน่ที่หันมาทางฉันเปลี่ยนสีหน้าอารมณ์ดีเป็นสีหน้าของความตกใจทันทีที่เห็นคุณโกอึนบียืนอยู่ข้างหลัง
"อึนบี" ซีโน่พูดชื่อของเธอขึ้นมา
"นายจะพูดถึงอึนบีทำไมอีก เดี๋ยวพี่...” ฮยอนจุนทำเสียงเซ็งและหันมาดุซีโน่ทันที "อึนบี มาได้ไงเนี่ย?" ในที่สุดก็รู้สึกตัวสักทีน่ะ
"สวัสดีฮยอนจุนเพื่อนรัก ซีโน่เพื่อนรัก" เขาทักทายซีโน่กับฮยอนจุนด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง แต่มันดูเป็นกันเองมากกว่าที่เจอกันวันถ่ายรายการเยอะเลย
"มาทำไม?" คราวนี้เป็นซีโน่ถามขึ้นมาบ้างพร้อมกับมองขึ้นไปที่ชั้น2ด้วยสายตาที่ดูเป็นกังวลมาก เหมือนกลัวว่าคนบนชั้น2จะมาเห็นเข้าว่าคุณอึนบีมาที่นี่
"ฉันมาหาพวกนายไง ไม่ได้มาที่นี่ตั้งนานดูเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ" เธอตอบคำถามซีโน่พร้อมกับเดินตรงไปที่โซฟา
"เจ้าสองแสบ พวกนายเอาเสื้อฉันไปใส่อีกแล้วใช่ไหม" เสียงยองวอนที่ตะโกนมาจากชั้นสอง เขาเดินออกมายืนอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องซึ่งถ้ามองจากตรงนั้นจะเห็นทุกคนที่ยืนอยู่ และแน่นอนว่าเขาก็ต้องเห็นว่ามีแขกมาด้วย
"ใครพาเธอเข้ามา?" เสียงของเขาเปลี่ยนไปทันทีทำให้พี่ซองมินกับพี่จุนโฮที่น่าจะนั่งเล่นอยู่ในห้องด้วยกันเดินออกมายืนอยู่ข้างๆยองวอน "ฉันถามว่าใครให้เธอเข้ามาที่นี่!!!" ฉันตกใจจนของที่มือแทบจะล่วงลงพื้น อยู่ดีๆเขาก็ตะคอกออกมาเสียงลั่นห้องไปหมด ทุกคนต่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูกโดยเฉพาะฉันที่ถึงแม้จะเจอความเกรี้ยวกราดของยองวอนมาเยอะ แต่ตอนนี้เขาเหมือนอสูรร้ายร่างสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุด
"เอ่อออ คือฉันให้คุณอึนบีเข้ามาเพราะ..." ฉันยังอธิบายไม่ทันจบยองวอนก็ตะคอกสวนขึ้นมาอีกครั้ง
"เธอเป็นเจ้าของห้องหรอ? นึกอยากจะให้ใครเข้ามาก็ได้หรอ?" นี่ฉันทำผิดอีกแล้วหรอ ทำไมฉันต้องกลายเป็นคนผิดตลอดเลย
"เงียบทำไม? จะทำอะไรตามใจตัวเองไปถึงไหน!" เขายังเสียงดังใส่ฉันไม่หยุด ตอนนี้บรรยากาศมันแย่มากๆๆๆ ทุกคนยืนเงียบไม่มีใครกล้าพูดหรือสบตายองวอนสักคนยกเว้นฉัน “ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ไงฉันถึงไม่อยากให้อยู่ที่นี่"
"ใจเย็นน่ายองวอน ซารังไม่ได้ทำอะไรผิดนะ นายจะตะคอกเธอทำไม" พี่จุนโฮที่ยืนอยู่ข้างๆพูดขึ้นมา ใช่แล้วเขาเอาความโกรธที่โกรธคนอื่นมาลงที่ฉันอีกแล้ว
"ทำไมจะไม่ผิด? เธอพาคนนอกเข้ามาโดยไม่ถามสักคำนี่คือไม่ผิดหรอ?" แล้วมันจำเป็นต้องตะคอกฉันเหมือนหมูเหมือนหมาขนาดนี้ไหม
"ฉันเป็นคนขอให้เธอพาเข้ามาเอง อย่าว่าเธอเลยค่ะพี่" หึ! ก็ดูสนิทสนมกันดีนี่แล้วจะมาหงุดหงิดใส่ฉันทำไม
"ก่อนที่นายจะมาตะคอกใส่ฉันแบบนี้ เคยฟังเหตุผลของฉันบ้างไหม?" ฉันก็เริ่มโกรธบ้างแล้วนะ "ถ้ามีคนอื่นมาเห็นว่าคุณอึนบีมายืนรอพวกนายอยู่หน้าคอนโดซึ่งไม่รู้ว่ารอใครอยู่ นายก็รู้ว่าอะไรจะตามมา" ฉันพยายามควบคุมอารมณ์และเริ่มอธิบายเหตุผลของฉันให้เขาฟัง
"ซารัง ขึ้นมาข้างบนก่อนเถอะ" พี่ซองมินเรียกให้ฉันขึ้นไปข้างบน คงไม่อยากให้เราทะเลาะกันอีก
ฉันเดินไปวางขนมที่ฮยอนจุนกับซีโน่ฝากซื้อไว้ที่โซฟาแล้วเดินขึ้นไปหาพี่ซองมินทันที
ฮยอนจุนกับซีโน่ก็เหมือนจะรู้หน้าที่ดี พวกเขาเดินตามมาข้างๆ ซีโน่เอามือคล้องคอของฉัน "ไม่เป็นไรนเ" เขาพูดกับฉันเป็นภาษาไทย ฉันรู้สึกอายที่ยองวอนตะคอกใส่ฉันอย่างกับหมูกับหมาต่อหน้าคนอื่น แต่ก็ยังโชคดีที่มีTrust5 คนอื่นๆอยู่ที่นี่ด้วยในวันนี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ
เราทุกคนเดินเข้าไปในห้องของฉัน ตอนนี้ข้างนอกเหลือแค่ยองวอนกับคุณอึนบี ฉันโมโหจนลืมคิดทุกอย่าง ไม่แม้แต่จะมองหน้าของเขาด้วยซ้ำ หลังจากที่ไม่ได้ทำตัวร้ายๆใส่ฉันมานานจนคิดว่าอสูรร้ายมันจะหายไปแล้วแต่แล้วอยู่ๆมันก็กลับมา ต้องโดนกัดอีกสักข้างไหมนะถึงจะหายขาดไหนๆก็ชอบเรียกฉันว่าลูกหมาอยู่แล้วนี่ หงุดหงิดชะมัดเลย
"เธอโกรธเขาหรอ" พี่จุนโฮถามขึ้นมาทันทีที่เราเข้ามาในห้อง
"ค่ะ แล้วก็ไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไร ทำไมต้องมาตะคอกฉันต่อหน้าคนอื่นด้วยหรือเห็นฉันเป็นแค่ผู้จัดการโง่ๆคนหนึ่ง นิสัยที่คิดว่าจะทำอะไรกับฉันก็ได้มันกลับมาอีกแล้วหรอ?" ฉันตอบพี่จุนโฮด้วยความหงุดหงิด
"ไม่ใช่เพราะเธอเป็นผู้จัดการโง่ๆหรอก ฉันกับฮยอนจุนก็เคยโดนตะคอกใส่แบบนั้นเหมือนกัน" ซีโน่เดินมานั่งข้างๆฉัน "อย่าคิดมากไปเลย เธอก็น่าจะรู้จักนิสัยพี่ยองวอนดีนี่นา"
"ฉันรู้จักแค่สิ่งที่เขาอยากให้รู้จัก ฉันไม่สามารถรู้ทุกอย่างของเขาได้หรอก" บางครั้งก็สับสนระหว่างความนุ่มนวลที่แสนอบอุ่น กับความเกรี้ยวกราดที่แสนน่ากลัวของยองวอน "แล้วพวกพี่ไม่คิดว่าฉันควรจะรู้เรื่องนี้บ้างหรอ" ฉันหันไปถามพี่ซองมินที่เอาแต่นั่งนิ่งจ้องหน้าฉันตั้งแต่เข้ามา
"พวกพี่ก็อยากบอกเธอ แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของยองวอนก็อย่างที่เธอพูด เธอควรจะรู้เพราะเขาอยากให้รู้" นี่คือคำตอบที่ได้จากพี่ซองมิน แต่ก็จริงของเขา ถ้าพี่ซองมินพูดแต่ยองวอนไม่ได้อยากให้ฉันรู้ เขาจะทะเลาะกันเปล่าๆ
ปึ้ง!!!
เสียงปิดประตูดังลั่นหลังจากที่เงียบมาเกือบครึ่งชั่วโมงได้ ฉันกับทุกคนหันมามองหน้ากันทันที
"อึนบีคงกลับไปแล้ว" ฮยอนจุนพูดขึ้นมา
"เธอกลับไปแล้วจริงๆ" ซีโน่เดินไปเปิดประตูพร้อมกับชะโงกหน้าออกไปข้างนอก
พวกเราพากันเดินออกมาจากห้องลงไปที่ชั้นล่าง ทุกคนดูไม่ตกใจหรือมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด แต่กลับทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนพวกเขาเห็นเรื่องแบบนี้จนชินตา แต่ฉันไม่ได้เคยเจอแบบนี้เหมือนพวกเขาน่ะ เห้อ!

ฉันนั่งอยู่หน้าทีวีกับทุกคนมาทั้งวันแล้ว เกือบจะ8ชั่วโมงได้แล้วมั้ง ยองวอนก็ยังไม่ออกมาจากห้องเลย
"ฉันว่าเรื่องนี้ฉันควรรู้นะ และทุกคนก็ควรตอบ" ฉันตัดสินใจพูดขึ้นมาหลังจากอึดอัดกับเรื่องเมื่อเช้ามาทั้งวัน "ยองวอนเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่คุณอึนบีมาเลยหรอ? นี่เขายังไม่ออกมาจากห้องตั้งแต่เมื่อเช้า ข้าวที่ซื้อมาก็ไม่ออกมากิน" ฉันรัวคำถามใส่พวกเขาที่นั่งอยู่ข้างๆทันที
"เขาก็เป็นแบบนี้แหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงหายนานสุดก็แค่อาทิตย์เดียว" อาทิตย์เดียว! คำตอบของพี่จุนโฮค่อนข้างทำฉันตกใจ เขาอยู่ในห้องแบบนั้น1อาทิตย์เนี้ยนะ
"แต่ตอนนั้นเขายังเด็ก ตอนนี้เขาโตขึ้นเยอะแล้วนานสุดของตอนนี้ก็น่าจะแค่2วัน" 2วันก็ดูลดไปเยอะนะคะพี่ซองมิน แต่ตอนนี้ฉันอดทนไม่ไหวอีกแล้วแม้แต่นาทีเดียว ต้องไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง ฉันควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้เวลาทำงานฉันต้องทำตัวยังไง แล้วถ้าเธอมาที่นี่อีกต้องทำยังไง แล้วเขาก็จะอยู่แต่ในห้องแบบนั้นไม่ได้แฟนคลับอันดับ1อย่างฉันไม่ยอมแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันจึงลุกจากโซฟาและเดินขึ้นบันไดเพื่อไปที่ห้องของยองวอนทันที
"เธอจะไปไหน?" ซีโน่ถามขึ้นมาทำให้ฉันต้องหันมาตอบเขา
"ฉันก็จะขึ้นไปคุยกับยองวอนน่ะสิ"
"แต่เราไม่เคยเข้าไปในห้องตอนเขาเป็นแบบนี้มาก่อนนะ" ฮยอนจุนช่วยเสริม
"แต่ตอนนี้ฉันจะทำ เขาจะอยู่แต่ในห้องแบบนั้นไม่ได้"
"แล้วถ้าพี่ยองวอนยิ่งโกรธแล้วตะคอกใส่เธออีกล่ะ" ซีโน่พูดด้วยท่าทีที่เป็นห่วง ไม่ต้องห่วงนะซีโน่เพื่อนรัก
"ฉันจะกัดเขา คราวนี้จะกัดไม่ปล่อยเลย” ฉันไม่ได้ขู่นะ จะทำจริงๆด้วย
"แล้วอย่าให้รู้นะว่าที่เขาป่วยบ่อยๆเป็นเพราะชอบทำแบบนี้ หึ" ฉันสะบัดหน้าหนีด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่แฟนคลับทุกคนเป็นห่วงแต่เขากลับทำอะไรไม่ห่วงตัวเองเลย

ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องของยองวอน ห้องไม่ได้ล็อคฉันจึงเปิดเข้าไปทันทีเพราะคิดว่าถ้าเคาะประตูเขาคงไม่เปิดให้แน่ๆ
ภาพที่ฉันเห็นเมื่อเข้าไปในห้องมันทำให้ความรู้สึกของแฟนคลับอย่างฉันแย่มากๆ เขานั่งเหม่ออยู่ที่ระเบียงทั้งที่ตอนนี้อากาศหนาวมาก ยองวอนไม่แม้แต่จะหันมามองว่าใครเดินเข้ามา ทำไมถึงได้ทำตัวเหมือนคนอกหักแบบนี้นะ นายคือพโยยองวอนทำไมปล่อยให้ตัวเองมาอยู่ในสภาพนี้เพราะเจอกับผู้หญิงคนเดียว
ฉันเดินไปหยิบผ้าห่มที่วางอยู่บนเตียงเอามาคลุมให้เขาทันที และนั่งลงข้างๆ ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไร ความโกรธที่เขาตะคอกใส่ต่อหน้าคนอื่นตอนนี้กลับลืมมันไปจนหมด
ฉันหยิบโทรศัพท์และหูฟังออกมาจากกระเป๋ากางเกงมันเป็นสิ่งที่ฉันขาดไม่ได้และพกมันไปทุกที่ การใส่หูฟังและเปิดเพลงที่ชอบดังๆ จนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างมันช่วยให้ฉันดีขึ้นได้จริงๆในทุกเรื่องแย่ๆที่ฉันต้องเจอ ตอนนี้แค่คิดว่าเขาคงอาจจะดีขึ้นบ้าง ฉันเปิดเพลงโปรดของตัวเอง พร้อมกับเอาหูฟังข้างหนึ่งใส่ที่หูของเขาส่วนอีกข้างก็ใส่ที่หูของฉัน
ยองวอนไม่แม้แต่จะหันมามองว่าฉันกำลังทำอะไร แต่ทำเพียงแค่นั่งนิ่งๆและปล่อยให้ฉันทำตามใจตัวเองไปเรื่อยๆ

"ขอบคุณสำหรับสิ่งที่เธอให้ ฉันจะรับไว้และดูแลมันอย่างดี
ขอโทษที่ตอบแทนเธอได้แค่นี้แต่สัญญาว่าจากนี้ฉันจะพยายาม"

"เพลงนี้เป็นเพลงที่พวกนายช่วยกันแต่งเพื่อขอบคุณแฟนคลับตอนปี2016 รู้ไหมแฟนคลับชอบมากเลยนะ ฉันเองก็ชอบมากๆเหมือนกัน ช่วงนั้นพวกนายกำลังดังขึ้นเรื่อยๆและเริ่มได้รางวัลในรายการต่างๆ" ฉันเริ่มพูดสิ่งที่คิดออกมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาที่มีปัญหาถึงชอบพูดเรื่องเก่าๆของพวกเขาตลอด "ฉันเคยนั่งรอดูงานประกาศรางวัลของพวกนายจนถึงตี1จนโดนแม่ว่าเลยแหละ แต่ว่ามันคุ้มมากๆเพราะวันนั้นพวกนายได้รางวัลกลุ่มศิลปินดาวรุ่งของปี2016 เย้ๆๆๆ" ฉันจำได้ดีเลย วันนั้นเกือบจะกรี๊ดออกมาเลยถ้าไม่ได้ติดว่าทั้งบ้านมีฉันแค่คนเดียวยังไม่นอน ยองวอนเหมือนจะเริ่มสนใจสิ่งที่ฉันพูดเพราะในที่สุดเขาก็หันมามองหน้าของฉันจนได้
"ความจำดีจังเลยน่ะ คุณแฟนคลับอันดับ1" ในที่สุดยองวอนก็พูดกับฉันแล้ว เย้ๆ
"แน่นอน ก็ฉันเป็นแฟนคลับอันดับ1นี่" ฉันยิ้มให้ยองวอน ตอนนี้เขาจ้องหน้าของฉันนิ่งเหมือนคนที่กำลังคิดอะไรอยู่มากมายในหัว
"เธอไม่โกรธฉันหรอ" หึ! ฉันไม่ใช่ก้อนหินนะที่จะไม่โกรธ
"โกรธสิ นายตะคอกใส่ฉันเพราะนายโกรธคนอื่นเป็นครั้งที่2แล้ว ฉันน่าจะเขียนลงไปในสัญญาด้วย ห้ามพโยยองวอนตะคอกใส่พโยซารังเพราะเขาโกรธคนอื่นมา แล้วก็เรียกค่าปรับแพงๆ ป่านนี้รวยไปแล้ว" ฉันทำเสียงประชดประชันใส่ยองวอนที่ตอนนี้กำลังนั่งหัวเราะกับสิ่งที่ฉันพูด
"55555 เธอก็เคยตะคอกใส่ฉันเพราะโกรธคนอื่น" ยองวอนพูดไปหัวเราะไป
"ฉันไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่" เท่าที่จำได้ฉันไม่เคยทำนิสัยแย่ๆแบบนั้นแน่นอน
"ก็ตอนที่เธอหงุดหงิดที่รายการเลื่อนวันถ่ายแต่ไม่บอกเธอไง" เขายิ้มและตอบกลับมา
"อ่อ 5555+" เคยทำจริงๆด้วยสิ "ก็วันนั้นฉันลืมตัวนี่"
"งั้นก็ถือว่าหายกันไป1ครั้ง อีกครั้งหนึ่งฉันก็ติดหนี้เธอไว้ก่อนแล้วกัน" ตอนนี้เขาดูอารมณ์ดีขึ้นมานิดหน่อยแล้วแหละ
"แล้วขึ้นมาไม่กลัวฉันตะคอกใส่อีกหรือไง พวกนั้นยังไม่เคยกล้าขึ้นมาเลย" ยองวอนถามต่อ
"พวกเขาก็ห้ามฉันแล้วแหละ แต่ฉันบอกว่าถ้านายตะคอกใส่ ฉันจะกัดนาย" ตอนที่สายตาของฉันมองไปที่หน้าอกอีกข้าง ยองวอนทำท่าสะดุ้งนิดหน่อยพร้อมกับเอามือกุมที่หน้าอกตัวเองซึ่งมันตลกมาก555+
"5555+" และเราก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน ฉันดีใจที่ทำให้เขาหัวเราะได้ "ฉันมานั่งตรงนี้เพราะอยากทำตามเธอ ฉันเห็นเธอชอบนั่งหลับตรงนี้บ่อยๆ แต่ดูเหมือนจะทำตามไม่ครบสูตรดันลืมเปิดเพลงเลยไม่เห็นจะหลับเลย" ยองวอนพูดขณะที่หยิบมือถือของฉันไปเลื่อนๆดูรายการเพลง
"ขอบคุณนะที่ยอมขึ้นมาหา แล้วก็ขอโทษด้วย" พูดจบเขาก็ทำสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดเลยสักนิด เขาเอนตัวลงนอนบนตักของฉัน ฉันตกใจมากๆนั่งตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกเลยใจก็เต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาอยู่แล้ว สมองคิดอะไรไม่ออก มือก็ยังไม่รู้จะเอาไปวางตรงไหน
"ซารัง" ยองวอนเรียกชื่อฉันในขณะที่นอนหลับตาอยู่บนตัก
"ว่ายังไง" ฉันพยายามตอบเขาโดยไม่ให้รู้ว่าตอนนี้ใจฉันมันเต้นแรงแค่ไหน
"สำหรับเธอความผิดแบบไหนที่เธอไม่สามารถให้อภัยได้" คำถามของยองวอนทำให้ฉันเริ่มเปลี่ยนจากความตื่นเต้นเป็นความสงสัย เริ่มปะติดปะต่อเรื่องแล้ว แต่มันคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากคุณอึนบีกับยองวอนอาจจะเคยรู้สึกดีๆต่อกัน
"สิ่งที่ฉันจะไม่มีทางทำกับเขา" ฉันตอบยองวอนสั้นๆทำให้เขาลืมตามามองหน้าของฉันด้วยความสงสัย เป็นจังหวะเดียวกับตอนที่ก้มหน้าลงไปมองเขา ตอนนี้เราสองคนกำลังสบตากันอยู่ ฉันเริ่มหายใจไม่ค่อยสะดวกแล้วความรู้สึกนี้มันอะไรกัน
"สิ่งที่เธอจะไม่มีทางทำหรอ?" ยองวอนทวนคำพูดของฉันอีกครั้ง
"ใช่ ถ้าเป็นสิ่งที่คิดว่าไม่มีทางทำกับเขาแต่วันหนึ่งฉันเกิดเลือกจะทำมันขึ้นมาก็คงให้อภัยตัวเองไม่ได้ เพราะฉนั้นฉันก็ไม่สามารถให้อภัยเขาได้เหมือนกัน”
"ถึงแม้เขาจะบอกว่าทำไปเพื่อเธอหรอ" เขาถามฉันอีกครั้ง
"นายมีความสุขกับสิ่งที่เขาทำเพื่อนายไหมล่ะ?" ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เขาเข้าใจสิ่งที่พูด
"ไม่เลยสักนิด" ยองวอนละสายตาและมองไปทางอื่น สายตาของเขาดูเศร้ามากๆแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
"ถ้านายไม่มีความสุข แต่ตรงกันข้ามนายกับทุกข์ขนาดนี้มันเป็นไปได้ค่อนข้างมากเลยนะ ที่เขาจะไม่ได้ทำเพื่อนาย แต่เขาทำเพื่อตัวเอง" ยองวอนไม่ได้พูดอะไร เขาเอาแต่นอนมองท้องฟ้านิ่งๆและฟังสิ่งที่ฉันพูด
"ถ้าเขาจะทำเพื่อนาย สิ่งที่ควรจะทำมากที่สุดคือไม่ควรให้นายต้องมานั่งเสียใจอยู่แบบนี้มากกว่า" นี่คือสิ่งที่ฉันคิดได้ทั้งหมดในตอนนี้
"ยองวอน" ฉันเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มที่สุดเท่าที่จะทำได้
"ว่าไง" เขาตอบฉันด้วยเสียงแผ่วเบาและมองมาที่ฉันอีกครั้ง
"ฉันไม่รู้ว่านายเจอเรื่องอะไรมาบ้าง แต่สิ่งที่นายทำตอนนี้มันไม่ถูก การที่นายปล่อยให้คนๆหนึ่งมาทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่ามันไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวนายนะ แต่มันคือการทำร้ายคนที่รักนายด้วย พ่อแม่นาย Trust5คนอื่นๆ แฟนคลับของนาย พวกเขาสมควรต้องมาเห็นนายเป็นแบบนี้หรอ"
ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนเขากำลังจะร้องไห้ น้ำตาเริ่มเอ่อล้นดวงตาของเขา จนในที่สุดเขาก็หลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลผ่านแก้มของเขาไปจนตกกระทบกับตักของฉัน ทำให้รู้สึกเย็นๆที่ขา การที่ต้องมาเห็นเขาร้องไห้แบบนี้มันไม่ใช่ครั้งแรก พวกเขามักจะร้องไห้อยู่บ่อยๆในคอนเสิร์ตต่างๆ แต่มันต่างกันตรงที่ครั้งที่ผ่านมานั้นมันเป็นการร้องไห้เพราะความสุขที่ได้รับ แต่ตอนนี้เขากำลังร้องไห้กับความทุกข์ที่ได้รับ
"ตอนนี้ก็เหมือนกัน นายกำลังทำร้ายฉันอยู่"


เห้อ!! ฤดูหนาวสำหรับฉันมันเคยน่ากลัวเมื่อครั้งหนึ่งเกือบจะต้องหนาวตาย แต่ทำไมวันนี้ถึงรู้สึกชอบมันมากขนาดนี้ก็ไม่รู้ การได้ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มหนาๆกับอากาศหนาวๆมันเป็นสิ่งที่เข้ากันมากๆจนแทบไม่อยากจะลุกจากเตียงเลย
หมับ! หือ นี่ฉันฝันอีกแล้วหรอทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีคนกำลังกอดฉันอยู่ แต่ช่างเป็นฝันที่แสนจะอบอุ่นและเหมือนจริงมากๆ ขอฝันต่ออีกหน่อยนะ ฉันขยับตัวเข้าไปใกล้ๆพร้อมกับเอื้อมมือไปกอดหมอนข้าง แต่เอ๊ะ! ทำไมหมอนข้างวันนี้มันแปลกๆ พอค่อยๆลืมตาขึ้นมาและพบกับแผงอกอันขาวเนียนที่อยู่ภายใต้เสื้อยืดคอกว้าง ฉันค่อยๆเงยขึ้นไปมองหน้าของเจ้าของแผงอกนี้ก็ต้องตกใจจนหัวใจจะหยุดเต้น เพราะที่ฉันกอดอยู่ไม่ใช่หมอนข้างแต่มันคือพโยยองวอนที่กำลังนอนยิ้มมองฉันอยู่ นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ฉันรีบดันตัวให้ลุกขึ้นจากเตียงทันทีที่รู้ว่ากำลังนอนกอดยองวอนอยู่
“นะ นี่ ทำไม นะ นายมานอนอยู่ในห้องฉันได้” เพราะตกใจมากจนทำให้พูดติดๆขัดๆไปหมด
“ห้องเธอที่ไหน นี่ตื่นแล้วจริงๆใช่ไหมเนี้ย555+ นี่ห้องฉันเตียงฉันผ้าห่มฉัน แถมเธอยังนอนกอดฉันอีกด้วย ใช้ทรัพยากรคุ้มจริงๆเลย” ยองวอนหัวเราะชอบใจและทำเสียงล้อเลียนฉันเต็มที่
“ก็แล้วทำไมนายไม่ปลุกล่ะ ทำแบบนี้อีกแล้วนะ ฉันหลับก็น่าจะปลุกสิ” ฉันพยายามพูดแก้ตัวหรือน่าจะแก้เขินสะมากกว่า
“ก็ตอนเธอหลับน่ารักซะขนาดนั้น จะปลุกให้เธอจอมพูดมากเสียงดังกลับมาทำไม” นี่ๆๆๆๆเขาพึ่งชมว่าฉันน่ารักหรอ นี่ตื่นแล้วจริงๆใช่ไหมเนี้ย ฉันเอามือหยิกแก้มตัวเองเพราะคิดว่าน่าจะยังไม่ตื่น
“โอ๊ย! เจ็บจริงนี่หว่า”
“555+ นี่ยังคิดว่าตัวเองฝันอยู่อีกหรอ” ยองวอนหัวเราะลั่นกับสิ่งที่ฉันพึ่งทำไป วันนี้เขาดูแปลกๆไปนิดหน่อย ความจริงก็แปลกไปมากเลยแหละทั้งที่เมื่อวานยังเศร้าอยู่แท้ๆแต่วันนี้กลับหัวเราะร่าเริง ไม่ใช่แค่แปลกไปจากเมื่อวานนะแปลกไปจากทุกวันที่เคยเจอ
“เธอไม่ได้ฝันหรอก นี่เรื่องจริง” เขาขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนตัวเราเริ่มใกล้กันมากขึ้นและดูเหมือนเขาจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น ตอนนี้เราใกล้จนแทบได้ยินเสียงหายใจของอีกคน ฉันหลับตาปี๋เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์นี้ นายกำลังทำให้หัวใจของฉันทำงานหนักนะ
กุกกักๆ เสียงเหมือนเขาหยิบอะไรบางอย่างอยู่และมันก็คือแว่นของฉันเอง ยองวอนหยิบแว่นมาใส่ให้แล้วฉันจะหลับตาทำไมล่ะ แค่ใส่แว่นทำไมหมอนี่ต้องเอาหน้ามาใกล้ขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้
“ไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว วันนี้เรามีถ่ายรายการที่ต่างจังหวัด” ยองวอนถอยตัวออกไปนั่งอยู่ที่เดิม ทำให้ฉันเริ่มหายใจสะดวกอีกครั้ง
“แล้วคนอื่นล่ะ” ฉันหันไปถามเขา
“คนอื่นไปหมดแล้ว เห็นเธอกำลังหลับฝันดีเลยให้นอนต่อ ไม่อยากจะทำลายความน่ารักของเธอตอนนอน”
เขาชมว่าฉันน่ารักอีกแล้ว แถมยังทำหน้าแบบนั้นใส่ฉันอีก โอ๊ย! ไม่ไหวแล้วนะ ใจเต้นแรงจนจะระเบิดทั้งเขินทั้งอายที่ต้องมาเจอเขาในสภาพนี้ทำไมถึงชอบหลับเป็นตายแบบนี้นะ ฉันรีบวิ่งออกจากห้องยองวอนและกลับไปที่ห้องตัวเองทันที นี่มันเรื่องอะไรเนี้ยเขาต้องบ้าไปแล้ว หรือจะเสียใจจนเสียสติไปแล้ว
แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น เท่าที่จำได้ฉันคุยกับยองวอนอยู่ตรงระเบียง เขาเอาแต่ร้องไห้แล้วอยู่ดีๆตื่นมาอยู่บนเตียงของเขาได้ยังไงอย่าบอกนะ ว่ายองวอนอุ้มฉันขึ้นไป โอ้ยยยย!! แล้วทำไมตื่นมาอยู่เตียงเดียวกัน ฉันคงไม่ได้นอนเตียงเดียวกับเขามาทั้งคืนหรอกนะ ยิ่งคิดก็ยิ่งงง ยิ่งคิดใจก็ยิ่งเต้นแรง

ตอนนี้เรานั่งอยู่บนรถขณะที่ยองวอนกำลังขับรถไปที่ถ่ายรายการ ซึ่งคนอื่นรวมถึงพี่มีรันกับพี่อึนจูล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
“คือ เมื่อคืนฉัน..” เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มถามคำถามไหนก่อนดีและไม่รู้ว่าควรถามไหม แต่ก็อึดอัดมากที่ตื่นมาในสภาพนั้น
“ไม่ต้องห่วง เธอไม่ได้ข่มขืนฉันหรอกน่า” ยองวอนยิ้มพร้อมกับตอบกลับมา
“จะบ้าหรอไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น แค่อยากรู้ว่าไปนอนบนเตียงนายได้ไง”
“ฉันก็อุ้มเธอขึ้นไปบนเตียงนะสิ เห็นตัวเล็กๆแต่จริงๆเธอตัวหนักกว่าซีโน่อีกนะ” ฉันหันไปทำหน้างอใส่เขาทันทีทำให้เขายิ่งหัวเราะชอบใจใหญ่เลย นี่นายว่าฉันอ้วนหรอ
“แล้วทำไมตอนเช้านายมานอนอยู่กับฉันล่ะ”
“เธอต่างหากมานอนอยู่กับฉัน นั่นห้องฉันนะ” ยองวอนก็ยังไม่เลิกล้อเลียนฉัน “แต่เราไม่ได้นอนด้วยกันสองคน จุนโฮก็อยู่แล้วฉันก็ไม่ได้นอนเตียงเดียวกับเธอด้วย ฉันไปนอนกับจุนโฮ” แบบนี้นี่เอง ค่อยสบายใจหน่อย คำตอบของยองวอนทำให้ฉันโล่งใจขึ้นมาหน่อยเพราะคงไม่ได้นอนเตียงเดียวกันและเขาคงไม่ได้เห็นฉันนอนน้ำลายไหลหรือทำอะไรน่าเกลียดๆ
งั้นแสดงว่าเมื่อเช้าเขาจงใจแกล้งขึ้นมานอนเตียงเดียวกับฉัน ยองวอนนายนี่มันกวนประสาทจริงๆเลย
เพราะเป็นการขับรถตอนเช้ายองวอนเลยค่อนข้างขับรถได้เร็ว ฉันนั่งรถไม่กี่ชั่วโมงก็มาถึงโรงแรมที่เป็นที่พักของเรา ฉันรีบเดินไปที่ห้องพักตามที่พี่มีรันกับพี่อึนจูบอก ส่วนTrust5 คนอื่นๆก็แบ่งกัน ยองวอนที่มาทีหลังเลยต้องนอนคนเดียวเพราะพี่ซองมินนอนกับพี่จุนโฮไปแล้ว
หลังจากเก็บของเรียบร้อยฉันกับยองวอนก็เดินไปที่ร้านอาหารที่มีคนอื่นๆนั่งคอยอยู่แล้ว จริงสิเรายังไม่ได้กินอะไรตั้งแต่เมื่อคืนเลยตอนเช้าก็ต้องรีบขับรถมาเลยไม่ได้แวะกินข้าวด้วย
“มากันแล้ว” เสียงฮยอนจุนดังขึ้นมาและชี้มาทางที่ฉันกับยองวอนอยู่ทำให้ทุกคนมองตามเขามาเป็นสายตาเดียวกัน
“ช้าจังเลยนะยองวอน” คราวนี้เป็นพี่จุนโฮพูดขึ้นขณะที่ฉันกับยองวอนกำลังนั่งลงที่เก้าอี้
“นายจะเร่งฉันทำไม อีกตั้ง2ชั่วกว่าจะเริ่มถ่าย” ยองวอนตอบพร้อมกับตักอาหารเข้าปาก คงจะหิวมากเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย
“เป็นยังไงบ้างซารัง เมื่อคืนหลับสบายไหม?” ฉันแทบจะสัมลักอาหารที่อยู่ในปากออกมาเพราะคำถามของพี่จุนโฮ
“ก็สบายดีค่ะ” ฉันตอบคำถามพี่จุนโฮสั้นๆและก้มหน้าก้มตากินต่อทันที ตอบน้อยๆแหละดีแล้วไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดให้มันเป็นประเด็นขึ้นมา
เวลาถ่ายรายการคือ 13:00 น. จากตามรายละเอียดที่ฉันอ่านมา แต่ตอนนี้ยังไม่11โมงเลย ออกไปเดินเที่ยวดีกว่า ได้มาต่างจังหวัดทั้งที่ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่า
หลังจากกินข้าวเสร็จคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปเดินเล่นตามที่ๆตัวเองอยากไป แต่สำหรับฉันสิ่งที่คิดไว้ก่อนหน้านั้นพังทะลายลงเมื่อพี่อึนจูกับพี่มีรันสั่งให้ฉันตามยองวอนไป ทำไมต้องทำแบบนี้กับชีวิตผู้จัดการอย่างฉัน ฮืออออ ฉันต้องคอยดูแลยองวอนซึ่งตอนนี้เขากำลังเดินเล่นอยู่ ที่นี่เป็นหมู่บ้านริมทะเลที่สวยงามมากๆ ยองวอนเดินไปเรื่อยๆตามถนนริมชายหาดผู้คนที่นี่มีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน วันนี้อากาศค่อนข้างหนาวแต่ไม่มีหิมะตก ฉันเห็นยองวอนเดินตัวสั่นจึงถอดผ้าพันคอออกเพื่อจะใส่ให้เขา จะถอดเสื้อคลุมให้เขาแทนก็คงไม่ได้
“ยองวอน” พอฉันเรียกเขาก็กลับหลังหันควับกลับมาทันที ทำไมต้องตอบสนองเสียงเรียกของฉันเร็วขนาดนั้น ทีเมื่อก่อนนี่ทำท่ารำคาญจะเป็นจะตาย
“ว่ายังไง” เขาถามฉันพร้อมกับรอยยิ้มและเสียงที่สดใส ทำไมวันนี้ทำตัวแปลกๆตั้งแต่เช้า พูดกับฉันก็ยิ้มแย้มและเหมือนจะอารมณ์ดีตลอดเวลา
“ใส่ไว้สิ ที่นี่หนาวมากแล้วทำไมนายถึงใส่เสื้อสะบางขนาดนั้น ป่วยขึ้นมาจะทำยังไง” ฉันยื่นผ้าพันคอให้เขา
“ฉันไม่อยากเอามือออกมาจากกระเป๋า มันหนาว” เขาไม่รับผ้าพันคอจากมือของฉันแต่กลับย่อตัวลงให้เท่ากับระดับตัวของฉันแทน เพื่อให้ฉันใส่ให้ นายจะอ้อนเก่งเกินไปแล้ว อย่ามาทำตัวน่ารักแบบนี้ใส่ฉันบ่อยๆสิ
หลังจากที่เราเดินเล่นกันอยู่พักหนึ่งก็เดินกลับมาที่โรงแรมเพราะตอนนี้ก็ใกล้เวลาถ่ายรายการแล้วTrust5 ทุกคนก็กลับมาที่โรงแรม เปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าเพื่อเตรียมตัวถ่ายรายการ
พิธีกรในวันนี้ก็คือคู่เดียวกับที่เราถ่ายเทปเปิดรายการไป แน่นอนว่าต้องเป็นคุณโกอึนบีด้วย ฉันเริ่มเกร็งนิดหน่อยหลังจากเกิดเรื่องที่ผ่านมาที่คอนโดของTrust5เมื่อคืน เพราะไม่รู้เรื่องอะไรระหว่างเธอกับTrust5เลยโดยเฉพาะเรื่องของเธอกับยองวอน ถ้าฉันทำอะไรไม่ถูกใจยองวอนอีกจะโดนตะคอกใส่อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้
วันนี้เป็นการถ่ายโดยให้Trust5 เล่นเกมส์และกิจกรรมต่างๆตามที่กำหนดไว้โดยเท่าที่ดูก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยองวอนก็ดูสบายๆ และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เขาดูสดใสร่าเริง เล่นกิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มที่แตกต่างจากวันแรกที่ถ่ายเหมือนเป็นคนละคน คงจะไม่เป็นอะไรแล้วแหละดูเหมือนจะเริ่มมีสติจากที่เราคุยกันเมื่อคืน ถึงวันนี้เขาจะทำตัวแปลกๆตั้งแต่เช้าแต่ฉันก็ดีใจที่ยองวอนเลิกทำหน้าอมทุกข์เวลาเจอคุณโกอึนบีแล้ว
ตอนนี้สายตาฉันไปสะดุดที่ผ้าพันคอของคุณอึนบี มันดูคุ้นตามากๆเหมือนฉันเคยเห็นมาก่อน
“นั่นผ้าพันคอยองวอนนี่นา” ฉันพึมพำกับตัวเองเมื่อแน่ใจว่าผ้าพันคอที่เธอใส่เหมือนกับของยองวอนที่เคยโกรธฉันมากๆตอนเอาของเขามาใส่
สวนยองวอนตอนนี้เขาก็ยังใส่ของฉันที่ให้ไปตอนที่เดินเล่นกันอยู่เลย แต่ที่อึนบีใส่ไม่น่าจะใช่ของยองวอนเพราะเขาไม่ได้เอามาด้วยนี่ อย่าบอกนะว่าเป็นผ้าพันคอคู่ จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้คิดว่ามันจะไม่ใช่ผ้าพันคู่แล้วแหละ มันต้องใช่แน่ๆเขาสองคนต้องเคยคบกันแน่ๆ

การถ่ายช่วงแรกดำเนินไปเรื่อยๆแบบไม่มีสะดุดเลย ฉันเคยแต่นั่งดูรายการของพวกเขาผ่านทางทีวี ไม่เคยคิดว่าจะได้มานั่งดูแบบนี้จริงๆ กล้องเกือบ10ตัวที่รายล้อม พวกเขาดูสนุกและเป็นตัวของตัวเองมากนี่แหละคือเสน่ห์ของTrust5 เขาทำให้ทุกๆ รายการทุกๆ คอนเสิร์ตที่มีพวกเขาอยู่ สนุก มีแต่เสียงหัวเราะ และมันไม่น่าเบื่อเลยสักนิด ทำให้ฉันคอยติดตามพวกเขามาตลอด5ปี ตอนนี้ก็เป็นเวลา1ทุ่มแล้ว อีกไม่นานพวกเขาก็จะได้พักกันแล้ว
“โอเคครับ ทุกอย่างโอเคมากๆขอบคุณทุกคนที่ทุ่มเท ตอนนี้พักกันก่อนนะครับ” ทีมงานคนหนึ่งพูดขึ้นมาเมื่อพวกเขากล่าวปิดตอนที่พึ่งถ่ายไปเสร็จ
ตอนนี้อากาศหนาวมากและทุกคนก็ตัวสั่นกันใหญ่เลย ฉันเดินเข้าไปหายองวอนพร้อมกับเสื้อคลุมตัวหนาๆ และสวมให้เขา
“หนาวไหม นายรู้สึกจะป่วยหรือเปล่า” เมื่อเห็นว่าเขาตัวสั่นมากก็อดกังวลไม่ได้
“หนาวมาก แต่ฉันไม่ป่วยหรอก เธอเห็นฉันอ่อนแอขนาดนั้นเลยหรอ” เขาหันมาตอบฉัน
“แน่นอนสิ นายคือคนที่มีข่าวว่าป่วยบ่อยที่สุดในTrust5นี่” แฟนคลับเป็นห่วงเขามากช่วงที่ป่วยบ่อยๆเพราะพักผ่อนน้อย
“พี่ยองวอน!” เสียงหวานๆที่คุ้นเคยเรียกชื่อยองวอนทำให้ฉันกับยองวอนต้องหยุดบทสนทนาไว้และหันกลับไปมองตามเสียงเรียกทันที และแน่นอนว่าเป็นเสียงของโกอึนบี ที่มาพร้อมกับแก้วน้ำสองแก้วในมือของเธอ ซี่งแก้วหนึ่งต้องเป็นของยองวอนและแน่นอนอีกแก้วไม่ใช่ของฉันแน่ ไม่มีเหตุผลที่เธอจะต้องเอามาให้ผู้จัดการอย่างฉัน
“ช็อกโกแลตร้อน ของโปรดพี่” เธอพูดพร้อมกับยื่นแก้วน้ำให้ยองวอน ตอนนี้ฉันมั่นใจมากๆว่าเธอน่าจะเป็นแฟนเก่าของยองวอน ทั้งเรื่องที่เธอรู้รหัสเก่าคอนโดและไปหายองวอนถึงที่นั่น เรื่องผ้าพันคอที่เหมือนกันยังกับผืนเดียวกันแถมยองวอนยังรักมากขนาดเกือบหักแขนฉันตอนที่เอาของเขาไปใส่ แล้วยังจะของกินที่แสนโปรดปรานของยองวอนอีก เธอเหมือนจะรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับยองวอนและ Trust5
“ขอบคุณนะ แต่ทีหลังไม่รบกวนดีกว่าเพราะเธอกำลังแย่งงานผู้จัดการฉันอยู่ เดี๋ยวซารังจะสบายจนเคยตัว” ยองวอนตอบกลับแบบยิ้มๆแถมยังหันมามองหน้าฉันอีก อย่ามาลากฉันไปเกี่ยวกับเรื่องหัวใจของนายนะ เขายื่นแก้วช็อกโกแลตร้อนให้ฉัน แล้วจะมายื่นให้ฉันทำไมเนี้ยเธอเอามาให้นายต่างหาก
“กินสิ จะได้อุ่นขึ้น” ยองวอนพูดขึ้นเมือเห็นฉันรับแก้วช็อกโกแลตร้อนมาถือไว้เฉยๆ ฉันคิดว่าเขาฝากถือไว้ซะอีกแล้วจะไปกล้ากินได้ยังไงล่ะ อึนบีเอาแต่จ้องฉันกับยองวอนนิ่ง โอ๊ย! สถานการณ์ตอนนี้มันโคตรน่าอึดอัด ฉันอยากออกไปจากตรงนี้
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับพี่” เธอเริ่มพูดขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้ในห้องเหลือแค่Trust5 ยองวอน ฉัน อึนบี ส่วนพี่มีรันกับพี่อึนจูออกไปซื้อของมาให้พวกเขากินเพราะซีโน่งอแงอยากจะกินขนม ส่วนทีมงานตากล้องและคนอื่นๆก็ออกไปพักกันหมด Trust5ที่เหลือกำลังนั่งขดเพราะความหนาวอยู่ที่หลังห้อง
“มีเรื่องอะไรล่ะ พูดตรงนี้ก็ได้ ถ้าเป็นเรื่องงานผู้จัดการของฉันก็ควรรู้ด้วย” ยองวอนตอบอึนบีด้วยสีหน้านิ่ง ตอนนี้ฉันยืนแข็งทื่อไม่กล้าพูดหรือเดินไปไหนเลย
“แล้วถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวละคะ” คราวนี้อึนบีมองมาที่ฉัน ทำไมรู้สึกเหมือนโดนไล่ออกไปจากตรงนี้เลยแต่ยองวอนบอกให้อยู่แล้วฉันจะทำยังไง ฉันหันไปมองคนอื่นๆที่นั่งอยู่ข้างหลังเพื่อส่งสัญญานขอความช่วยเหลือจากพวกเขา และดูเหมือนพวกเขาจะรับรู้เพราะพร้อมใจกันมองมาที่ฉัน
“ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ยิ่งควรอยู่ เพราะผมไม่มีอะไรปิดบังเธออยู่แล้ว” ยองวอนตอบกลับมาทันที
“ซารังมานี่หน่อย" เสียงพี่จุนโฮเรียกชื่อฉันในที่สุดก็มีคนขี่ม้าขาวมาช่วยฉันสักที ฮือออ ฉันหันมามองหน้ายองวอนเพื่อเป็นการขออนุญาต ยองวอนพยักหน้าฉันจึงรีบวิ่งไปหลังห้องทันที ในที่สุดก็หลุดจากเหตุการณ์น่าอึดอัดมาได้

พโยยองวอน
ซารังรีบวิ่งไปหาจุนโฮทันทีที่เขาเรียก ยัยลูกหมาขาสั้นไม่ได้เรื่องเลยจริงๆแค่ให้ยืนอยู่ข้างๆไม่ต้องพูดอะไร ยังทำหน้าเหมือนโลกจะแตก ที่ผมอยากให้ซารังอยู่ไม่ใช่เพราะจะใช้เธอเพื่อเลี่ยงอึนบีหรอกนะ
โกอึนบีดาราและนางแบบดาวรุ่งในตอนนี้ เธอพึ่งกลับมาจากเรียนต่อและเธอเคยเป็นแฟนเก่าของผมเอง แต่เรื่องของเราจบลงพร้อมๆกับการไปเรียนต่อที่เมืองนอกของเธอ ส่วนเหตุผลนั้นมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะแย่มากๆจนไม่คิดว่าเธอจะกล้ากลับมาเจอผม มันทำให้ผมติดอยู่กับความผิดหวัง เสียใจ และที่มากที่สุดคือความรู้สึกผิดมาตลอด2ปี
"เรื่องเมื่อวานฉันขอโทษนะ ฉันแค่อยากจะไปเจอพี่ไม่ได้อยากจะพูดเรื่องเก่าๆ" อึนบีเริ่มพูดขึ้นมาหลังจากเห็นผมเอาแต่ยืนเงียบ
"ไม่เป็นไรหรอก ทีหลังก็อย่าไปอีกแล้วกันถ้ามีคนเห็นขึ้นมาจะลำบากฉันกับซารัง" ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมซารังถึงพาเธอเข้ามาในคอนโด รู้สึกผิดมากๆที่ตะคอกใส่เธอทั้งๆที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรจะนึกถึงผมตลอด
"พี่ดูสนิทกับผู้จัดการคนใหม่มาก ทั้งๆที่เมื่อวานพี่ว่าเธอไปขนาดนั้นแต่ดูเธอจะไม่โกรธเลย" อึนบีมองไปที่ซารังที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยสนุกสนานกับTrust5 คนอื่นๆ ยิ้มฟันขาวเชียว ทีอยู่กับผมไม่เคยเห็นอารมณ์ดีขนาดนี้ ดีใจมากสินะที่ได้อยู่ใกล้ๆพี่ซองมิน
"แน่นอนว่าเธอต้องโกรธอยู่แล้ว แต่เธอคงจะเข้าใจมากกว่า" ผมละสายตาจากซารังกลับมามองที่อึนบี ตอนนี้เธอจ้องหน้าของผมนิ่ง ผมเองก็ไม่ได้มีอะไรจะคุยกับอึนบีอยู่แล้วแต่การต้องมาร่วมงานกับเธอแบบนี้ ทำให้อึดอัดนิดหน่อย แต่งานก็คืองาน ประธานมักเลือกสิ่งที่มีประโยชน์ต่อพวกเราเสมอถึงแม้มันจะทำให้เราต้องเจอกับเรื่องลำบากใจแบบนี้
"ฉันคิดถึงพี่" อยู่ดีๆเธอก็พูดขึ้นมาหลังจากเอาแต่จ้องหน้าผมอยู่นาน
"เธอไม่ควรรู้สึกแบบนั้นอีก" เธอไม่ควรจะมาพูดแบบนี้อีก ทำไมเอาแต่รื้อฟื้นเรื่องเก่าๆความรู้สึกเก่าๆ มันยิ่งทำให้อึดอัดนะ
"ฉันรู้ แต่ฉันคิดว่าพี่ก็รู้สึกแบบฉัน" อึนบีตอบกลับมา
แน่นอนว่าที่ผ่านมาผมต้องคิดเธอมาก แต่ผมสับสนมากกว่าระหว่างความคิดถึงเพราะรักกับความคิดถึงเพราะรู้สึกผิด เธอเป็นผู้หญิงที่ขังผมไว้กับความรู้สึกสับสนมา2ปี ผมกับอึนบีเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ มันยิ่งทำให้ความผูกพันธ์มันมีมากจนทำให้ยิ่งสับสน
"ฉันว่าไม่มีประโยชน์ที่เราจะคุยกันเรื่องนี้นะ คุยกันแค่เรื่องงานก็พอ" ผมรีบตัดบทเพราะไม่อยากให้เธอรื้อฟื้นไปมากกว่านี้ "ขอตัวก่อน"
ระหว่างที่กำลังจะเดินไปหลังห้องที่มีซารังและคนอื่นๆนั่งอยู่ อึนบีก็เข้ามาสวมกอดผมจากทางด้านหลัง ตอนนี้ทุกคนที่นั่งอยู่หลังห้องรวมถึงซารังด้วย หันมามองทางเราเป็นตาเดียวกัน
"ถ้าพี่ไม่กลับมาหาฉัน ฉันจะกลับไปหาพี่เอง" อึนบีพูดออกมาขณะที่กอดผมอยู่จากทางด้านหลัง ผมได้แต่ยืนอึ้งกับการกระทำของเธอ “2ปีที่ผ่านมาที่ไล่ฉันไปที่อื่น พี่ยังลงโทษฉันไม่พออีกหรอ?”
"ยองวอน!" เสียงพี่มีรันที่เพิ่งเข้ามา ตะโกนเรียกชื่อผมด้วยความตกใจ ทำให้อึนบีรีบปล่อยแขนออกจากตัวของผม
"ทำไมนายทำอะไรไม่ระวังเลย" พี่มีรันเดินมาข้างหน้าพร้อมกับทำหน้าดุผมทันที
"ซารัง ทำไมปล่อยให้เป็นแบบนี้ เธอเป็นผู้จัดการนะ แต่นั่งดูเขากอดกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้าจะรับผิดชอบไหวหรอ?" หลังจากนั้นก็หันไปดุซารังที่นั่งอยู่หลังห้องต่อ
"ฉันขอโทษค่ะ" ยัยลูกหมารีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับรีบก้มหัวขอโทษพี่ๆผู้จัดการทันที
ผมหันกลับไปหาอึนบีและจับข้อมือของเธอ พร้อมกับลากให้เธอเดินตามผมไปข้างนอก
"ยองวอน นายจะไปไหน?"
"ผมจะไปคุยกับเธอข้างนอกพี่ไม่ต้องห่วง ผมไม่ก่อเรื่องหรอก แล้วก็อย่าดุซารังอีกเรื่องนี้ผมผิดเอง" จากนั้นก็เดินออกมาจากห้องทันทีพร้อมกับอึนบีที่เดินตามมาข้างหลัง โดยไม่รู้เหมือนกันว่าจะพาเธอไปที่ไหนแล้วทำไมต้องทำแบบนี้

ตอนนี้ผมขับรถออกมาที่หาดใกล้ๆโรงแรม ที่นี่ค่อนข้างมืดและหนาวจึงไม่มีคนออกมาเดินแถวนี้ในเวลาแบบนี้เราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาได้ยินสิ่งที่พูดหรือว่าจะมีคนมาเห็น
“ขอร้อง อย่าทำแบบนี้อีก” ผมเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อนเมื่อรถมาจอดและดับเครื่องลง
“เรื่องมันผ่านมาตั้ง2ปีแล้ว พี่จะลืมๆมันไปไม่ได้เลยหรอ?” อึนบีที่นั่งนิ่งมาตลอดตั้งแต่ออกมาจากโรงแรมพูดขึ้นมา
“ก็เพราะมันผ่านมานานแล้วไงฉันถึงลืมมันไปหมดแล้ว”
“ลืมหมดแล้ว หมายถึงเรื่องของเราด้วยนะหรอ”
“ใช่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องจำ”
“ความสัมพันธ์ตลอด10ปี ไม่ลืมกันง่ายๆขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“อึนบี เธอก็รู้ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันทำให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เธอน่าจะรู้ตั้งแต่เธอเลือกจะทำเรื่องแบบนั้น แล้วตอนนี้ฉันก็กำลังจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอก็ควรจะทำเหมือนกัน”
“พี่ก็พูดมาสิว่าไม่ได้รักฉันแล้ว” คำพูดนี้ของอึนบีทำให้ผมได้แค่หยุดนิ่ง ก็จริงที่ไม่สามารถพูดออกมาได้เต็มปาก แล้วมันสำคัญอะไร ในเมื่อเรื่องของเรามันก็จบไปตั้งนานแล้ว
“พี่ยังพูดออกมาไม่ได้เลย ฉันก็เหมือนกันเราจะเริ่มใหม่ไปทำไมในเมื่อเรายังรักกันอยู่” อึนบีเริ่มพูดต่อเมื่อเห็นผมเงียบและไม่ได้ตอบอะไรเธอ
“ถึงฉันจะรักเธออยู่ แต่เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอก” ผมหันไปมองอึนบีที่ตอนนี้เธอเหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา
“ไม่ลองก็ไม่รู้” พูดจบอึนบีก็ขยับเข้ามาพร้อมกับเอื้อมมือมาจับแก้มของผมและประกบปากของเธอลงมาทันที
นาทีนี้มันยิ่งถึงทำให้มั่นใจว่า ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่มีทางกลับเข้ามาในความรู้สึกของผมได้ ทำให้รู้ว่าที่ผ่านมามันเป็นแค่ความรู้สึกผิดโง่ๆที่ใช้หลอกตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึกที่มีต่ออึนบีเอาไว้
“ตอนนี้ก็เหมือนกัน นายกำลังทำร้ายฉันอยู่” คำพูดของซารังเสียงของเธอสีหน้าของเธอ ตอนนั้นมันเข้ามาในความทรงจำและความคิดของผมตอนนี้ ผมพยายามช่วยอึนบีมาตลอด ครั้งหนึ่งผมเคยพยายามช่วยเธอจนทำร้ายความรู้สึกของพี่ซองมิน จุนโฮ ซีโน่และฮยอนจุน ทำให้พวกเขาผิดหวังในตัวผมมากๆ ครั้งที่สองที่ผมพยายามช่วยอึนบีโดยรักษาความรู้สึกที่มีต่อเธอเอาไว้โดยการทำร้ายซารังและแฟนคลับของผม แต่มันจะไม่มีครั้งที่สามที่ผมจะช่วยเธอทำเรื่องแย่ๆอีก
“พอใจหรือยัง” ผมพูดพร้อมกับดึงตัวของเธอออก “ถ้าพอใจแล้วก็หยุดบ้าสักที”
“พี่คะ” เธอเอามือปาดน้ำตาและจ้องหน้าของผมด้วยสายตาที่ชอบเอาชนะของเธอ “ถ้าพี่จะเมินใส่ฉันแบบนี้ ฉันจะบอกทุกอย่างกับพ่อแม่ของฉัน และคุณลุงกับคุณป้าด้วย”
“อย่าคิดจะทำอะไรแบบนั้นน่ะ พวกท่านไม่เกี่ยว”
“งั้นพี่ก็เลิกเป็นแบบนี้สิ”
“ก็ได้”
“จริงนะ พี่พูดจริงนะ”
“อืม ถ้าเธออยากจะลองก็ได้ แต่เราไม่ได้กลับไปคบกันนะ ฉันแค่ให้เธอลองทำเหมือนก่อนหน้าที่เราจะเป็นแฟนกัน ยังไงพ่อแม่เราก็สนิทกัน ถ้าพวกท่านรู้ว่าเราเป็นแบบนี้หรือต้องมารู้เรื่องทั้งหมด พวกท่านอาจจะมีปัญหากันก็ได้ ฉันแค่อยากให้เธอลองทำให้เรากลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมหรือไม่ก็แค่เพื่อน เพราะฉันไม่มีทางกลับไปคบกับเธอเด็ดขาด” ยิ่งพยายามวิ่งหนีอึนบีก็จะยิ่งวิ่งตาม ผมกับเธอเราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆเลยเห็นเธอเป็นเหมือนน้องสาว แต่ตอนนั้นเธอยืนยันว่าชอบผมและอยากจะคบกันเลยพยายามทุกวิถีทาง จนวันหนึ่งผมก็ใจอ่อนและเริ่มรู้สึกดีๆกับเธอเกินคำว่าพี่น้อง
“ไม่มีทางกลับมาคบหรอ ทำไมล่ะ ในเมื่อพี่ก็รักฉันอยู่”
“อึนบี การที่พี่ไม่พูดว่าไม่รักเธอแล้วมันไม่ได้หมายความว่าพี่ยังรักเธออยู่ ความรู้สึกบางอย่างเราก็อธิบายให้ใครฟังไม่ได้ เธอก็น่าจะเข้าใจดี เพราะพี่คิดว่าเธอก็ผ่านมาแล้ว”
“ฉันเข้าใจแล้ว แค่พี่ยอมคุยกับฉันดีๆก็พอแล้ว” อึนบีตอบรับ เธอไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก ในเมื่อผมยอมให้โอกาสเธอก็ต้องรับมันไว้อยู่แล้ว

Havana, ooh na-na
Half of my heart is in Havana, ooh-na-na
He took me back to East Atlanta, na-na-na
Oh, but my heart is in Havana

เสียงเพลง Havana ซี่งเป็นเสียงเรียกเข้ามือถือดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาดูรายชื่อ ซึ่งมันเป็นชื่อของ
“พโยซารัง” อึนบีที่มองโทรศัพท์ของผมอยู่เธออ่านชื่อที่หน้าจอด้วยสีหน้าที่แปลกใจพร้อมกับมองหน้าผม
“ฮัลโหล ว่ายังไงซารัง” ผมไม่ได้สนใจสีหน้าที่แปลกใจของอึนบี และรีบกดรับสายยัยลูกหมาทันที
“นายอยู่ไหน? กลับมาได้แล้วข้างนอกหนาวมากนะ แล้วรายการช่วงต่อไปก็ใกล้จะถ่ายทำแล้วด้วย” เสียงซารังดูกังวลมาก เธอชอบคิดว่าผมอ่อนแอจนป่วยง่ายประจำเลย
“ฉันกำลังกลับแล้ว ไม่ต้องห่วง” ผมตอบเธอเพื่อจะไม่ให้เป็นห่วงไปมากกว่านี้
“ข้างนอกคนเยอะหรือเปล่า มีคนเห็นนายกับเธออยู่ด้วยกันหรือเปล่า” ซารังยังคงถามต่อเพราะกังวลว่าการที่ผมออกมากับอึนบีสองคนแบบนี้จะทำให้เป็นข่าวไม่ดีได้ และนี่ยิ่งเป็นช่วงโปรโมทอัลบั้มใหม่ถ้ามีข่าวเสียหายพวกเราคงเดือดร้อนกันน่าดู
“ไม่มีหรอก ฉันขับรถอยู่แค่นี้นะ” ถ้าปล่อยให้ซารังถามคงถามไม่หยุดแน่ๆ ยัยนั่นพูดมากแล้วก็ขี้บ่นจะตาย
หลังจากวางสายซารังผมก็รีบขับรถออกจากที่นี่ทันที นี่ก็มืดมากแล้วด้วยดีที่ผมออกมาไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ อึนบีก็เอาแต่จ้องหน้าผมตั้งแต่เห็นชื่อของซารังที่บันทึกไว้ในมือถือ เธอคงสงสัยเรื่องนามสกุลซารังสินะ ผมเรียกซารังว่าพโยซารังจนติดเป็นนิสัยแล้วเลยบันทึกชื่อเธอไปแบบนั้น
“ผู้จัดการคนใหม่เป็นญาติของพี่หรอ” ในที่สุดเธอก็เหมือนจะทนความสงสัยไม่ไหวและถามออกมาจนได้
“เปล่าหรอก” ผมตอบสั้นๆเพราะตอนนี้กำลังใช้สมาธิในการขับรถอยู่
“แล้วทำไมนามสกุลเหมือนพี่เลย” อึนบียังถามต่อเมื่อไม่ได้คำตอบของความสงสัย
“เรื่องมันยาว”
• • • • • • • • • • • • • • • • • • •

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา