วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ

-

เขียนโดย Hermione001

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.

  20 ตอน
  1 วิจารณ์
  16.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ฉันคิดว่า…ฉันชอบเธอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉันเข้ามาในห้องอาหารพร้อมกับซีโน่ก็เห็นว่ายองวอนกำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่ ตอนนี้อึนบีนั่งที่เก้าอี้ที่ฉันเคยนั่งก่อนหน้านี้อยู่ ยัยคนนี้นี่ฉันยังกินไม่ทันอิ่มเลยด้วยซ้ำ

"ฉันอิ่มแล้ว ไหนยาล่ะ" ยองวอนหันมาถามหายาที่ฉันบอกว่าจะให้เขากิน ดีมากที่ถามขึ้นมาเองไม่ต้องให้บังคับบ่อยๆ

"ขอโทษนะคะ ฉันขอหยิบยาในกระเป๋าหน่อย" เพราะกระเป๋าของฉันวางอยู่ที่เก้าอี้ซึ่งตอนนี้อึนบีนั่งอยู่ เธอยื่นกระเป๋ามาให้ฉัน แต่เดี๋ยวนะ ทำไมยื่นกระเป๋ามาแทนที่จะลุกออกไปล่ะ ฉันรับกระเป๋ามาและล้วงหายาไม่นานก็เจอ

"เดี๋ยวนี้พี่กินยาง่ายจัง แถมเป็นคนขอเองด้วยไม่ต้องให้บังคับแล้วหรอ" อึนบีหันไปถามยองวอนที่กำลังกินยาอยู่

"ฉันพึ่งรู้สึกว่ายามันก็อร่อยดี แถมดีต่อสุขภาพด้วย" ยองวอนวางแก้วน้ำแล้วตอบคำถามของอึนบี

แหวะ! ทำไมรู้สึกจะอ้วกก็ไม่รู้ จะมาเลี่ยนอะไรกันแต่เช้า

"งั้นฉันไปหาพี่มีรันกับพี่อึนจูก่อนนะ" ท่าทางอึนบีคงไม่ลุกจากที่ฉันง่ายๆ และฉันก็คงไม่ได้กินข้าวต่อด้วย ไม่อยากจะอยู่ให้อาหารเป็นพิษหนักกว่านี้

"เดี๋ยวๆๆซารัง ซีโน่ พวกนายมีความลับอะไรกัน" พี่จุนโฮพูดขัดความหวานของข้าวใหม่ปลามันขึ้นมา มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ทำไมต้องเป็นเรื่องนี้ด้วย

"ใช่ อย่ามาทำเนียนเมื่อกี้เธอพูดภาษาไทยใช่ไหม พูดตั้งยาวด้วยนินทาพี่ใช่ไหม" พี่ซองมินนี่ก็ต้องคิดว่าฉันกับซีโน่นินทาเขาอยู่เรื่อยเลยสินะ

"มานี่เลย นายสองคน" คราวนี้ไม่ใช่แค่พูด พี่ซองมินเดิมอ้อมมาจากฝั่งตรงข้ามมาที่ฉันกับซีโน่ เขาล็อคคอของฉันกับซีโน่แน่นแล้วลากออกมาข้างนอก ยังไงก็ดีกว่าอยู่ตรงนั้นแหละ

"โอ๊ยพี่ ผมเจ็บ" เสียงซีโน่โวยวาย

"คอฉันจะหักแล้ววว" ฉันโอดครวญเสียงดังแต่ก็ไม่เป็นผลพี่ซองมินลากเราออกมาจากห้องอาหารแล้ว

"เห้อออ! อึดอัดเป็นบ้า" ทันทีที่ออกมากจากตรงนั้นพี่ซองมินก็ปล่อยฉันกับซีโน่ให้เป็นอิสระ ตอนนี้ฮยอนจุนกับพี่จุนโอก็เดินตามออกมาด้วยเพราะคงไม่มีใครอยากจะอยู่เป็นก้างขวางคอสองคนนั้น

"สุดๆเลยพี่ ผมไม่เข้าใจพี่ยองวอนจริงๆ เขาคิดจะทำอะไรของเขา คงไม่ใช่อย่างที่พวกเราคิดนะ แบบนั้นผมรับไม่ได้จริงๆ" ฮยอนจุนทำหน้าหงุดหงิดขณะที่พูดถึงยองวอน 

"พี่หมายถึงเรื่องที่เราคุยกันว่าสองคนนั้นอาจจะกลับมาคบกันหรอ" ซีโน่ที่กำลังนวดๆคออยู่ทำท่าตกใจ 

"ไม่ใช่หรอกน่า" ดูเหมือนพี่จุนโฮจะเป็นคนเดียวที่คิดต่างจากทุกคน

"ชัดเจนออกขนาดนี้ จะให้คิดยังไง" ตอนนี้พี่ซองมินดูกังวลมากๆ

"ผมว่าไม่ใช่หรอก ยองวอนอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับอึนบีแล้วก็ได้ พวกเราอย่าเดากันไปล่วงหน้าเลย" พี่จุนโฮผู้มองเพื่อนในแง่ดี แก้ตัวให้ตลอดจริงๆ

"เมื่อวันก่อนที่อึนบีมาคอนโด หลังจากเธอกลับไปแล้วฉันขึ้นไปหาเขา ยองวอนถามว่าความผิดแบบไหนที่ฉันไม่สามารถให้อภัยได้" พอพูดถึงตรงนี้ทุกคนดูอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินมาก ใช่แล้วทุกคนคงจะคิดแบบฉัน 

"ถ้าเขากำลังพยายามให้อภัยเธอล่ะ" ไม่มีใครพูดอะไรต่อเพราะตอนนี้พวกเขาก็เริ่มรู้สึกแบบฉันแล้ว ทุกอย่างมันชัดเจนมากๆ ถ้ายองวอนรักอึนบีมากจนยอมให้อภัยล่ะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร แต่ก็ใช่ว่าไม่เคยมีใครให้อภัยคนที่ตัวเองรักมากๆไม่ได้ 

เราไม่ได้คุยอะไรกันต่อตั้งแต่ฉันพูดจบ เพราะไม่นานยองวอนกับอึนบีก็เดินตามขึ้นมาที่ห้องถ่ายรายการ

ตอนนี้รายการก็เริ่มดำเนินการต่อแล้ว พวกเขาถ่ายช่วงเช้าจนใกล้จะเสร็จแล้ว และช่วงบ่ายเท่าที่อ่านรายละเอียดมันทำให้ฉันกังวลนิดหน่อย เพราะเป็นกิจกรรมที่ต้องทำในสระว่ายน้ำของโรงแรม พวกเขาอาจจะต้องแช่น้ำกันอยู่นานเลยทีเดียว ยองวอนก็ยิ่งป่วยอยู่ด้วย ฉันคงต้องเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้เขาเยอะๆซะแล้ว

"วันนี้บรรยากาศดูแปลกๆ ไม่สดใสร่าเริงแบบวันแรกเลย พวกนายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า หรือว่ายังเหนื่อยอยู่" พิธีกรชายพูดขึ้นมาหลังเขากล่าวปิดตอนที่3ของรายการ ซึ่งเป็นช่วงเช้าของวันนี้ ฉันก็รู้สึกนะ พวกเขาดูไม่ร่าเริงไม่เป็นตัวเองเลย

"พักสัก30นาทีแล้วเริ่มถ่ายตอนต่อไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวมืดจะยิ่งหนาวเพราะยองวอนเหมือนจะป่วยด้วยนี่" ทีมงานคนหนึ่งพูดขึ้นมา

"ตอนต่อไปขอสดใสร่าเริงหน่อยนะ ให้มันสมกัมเป็นTrust5หน่อย พวกนายเข้าใจใช่ไหม" 

"ครับ!!!" Trust5ตอบเป็นเสียงเดียวกันจนเสียงดังฟังชัดไปทั่วห้อง

พวกเขากำลังนั่งกินอาหารที่มีรันกับพี่อึนจูซื้อมาให้ ยองวอนเองก็ด้วยเหมือนกัน ตอนนี้เขานั่งอยู่ข้างๆซีโน่ ฉันแอบมองเขาเป็นพักๆเพราะเป็นห่วงเรื่องอาการป่วย

"ซารัง วันนี้ถ่ายเสร็จไปกินข้าวกับพวกพี่อีกไหม" พี่ซองมินหันมาถามฉันที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ไปสิ ฉันว่าคืนนี้ฉันต้องหิวมากๆแน่เลย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้กินข้าวสักเท่าไหร่" ฉันตอบพี่ซองมินขณะที่กำลังหยิบขนมเข้าปาก

"งั้นฉันจะพาเธอไปกินของอร่อยๆเอง วันนี้พี่มีรันกับพี่อึนจูต้องไปด้วยนะ" ฮยอนจุนยื่นหน้าเข้าไปออดอ้อนพี่ๆเต็มที่

"ไปก็ได้ แต่พี่สองคนไม่กินเยอะนะ เดี๋ยวอ้วน" คำตอบของพี่อึนจูเรียกเสียงหัวเราะจากพวกน้องๆได้มากเลย

"พี่ไม่ต้องกลัวแล้ว มันไม่ทันแล้ว555+" ซีโน่ทำเสียงกวนประสาทสุดๆ

"พี่ ช็อกโกแลตร้อนค่ะ" อึนบีเดินเข้ามาหายองวอนทำให้พวกเราต้องหยุดหัวเราะทันที

ยองวอนรับแก้วช็อกโกแลตร้อนไว้แต่ไม่ได้พูดอะไร เขานั่งเงียบมาสักพักแล้ว ตอนถ่ายรายการก็ไม่ค่อยพูด หรือจะรู้สึกไม่สบายอีกแล้ว

"อึนบี มานี่หน่อยพี่ขอคุยเรื่องบทหน่อย" มีทีมงานคนหนึ่งเข้ามาตามอึนบี ทำให้เธอต้องรีบเดินออกไป

"เดี๋ยวฉันมานะพี่" 

ยองวอนเอาแต่นั่งนิ่งไม่หือไม่อืออะไรกับใครเลย ตอนนี้ฉันเป็นห่วงเขามากๆจนต้องลุกเดินเข้าไปดูสะหน่อย เผื่อจะอยากนอนพัก ฉันจะได้ไปคุยกับทางทีมงานได้

"นายหนาวหรือเปล่า?" 

"ฉันไม่เป็นไร" ยองวอนเหมือนจะหงุดหงิดจริงๆหรือเขาจะปวดหัว

"สีหน้านายไม่ดีเลย ปวดหัวหรอ" ฉันเอามือทาบที่หน้าผากของเขาเพื่อวัดไข้ ส่วนอีกมือก็จับที่ข้อมือข้างที่ถือแก้วช็อกโกแลตร้อนอยู่ ตัวเขาก็ร้อนนิดหน่อย

"ฉันบอกว่าไม่เป็นอะไรไง!!!" เขาตะคอกใส่ฉันเสียงดังลั่น พร้อมกับปัดมือของฉันออกจากข้อมือของเขา แต่ดูเหมือนว่ายองวอนจะลืมว่าถือแก้วช็อกโกแลตร้อนอยู่ เพราะตอนนี้ มันหกราดมือของฉันและมือของเขาด้วย

ตอนนี้บรรยากาศในห้องเงียบกริบ Trust5 พี่มีรันพี่อึนจูและทีมงานคนอื่นๆอีกสองสามคน กำลังอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่มีใครกล้าพูดหรือขยับไปไหน

ฉันเองก็ตกใจจนลืมความแสบร้อนที่มือไปเลย ทำอะไรไม่ถูกเอาแต่จ้องหน้าสลับกับมือของยองวอน ตอนนี้มันเริ่มแดงขึ้นมาเพราะความร้อนแล้ว สายตาของยองวอนที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิดและโมโหเปลี่ยนไปเป็นความตกใจเมื่อเห็นว่ามือของเราโดนลวกด้วยช็อกโกแลตร้อนๆ

"ซารัง เธอเป็นอะไรหรือเปล่า" ยองวอนจับมือข้างที่โดนน้ำร้อนของฉันขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไรต่อพี่ซองมินก็ลุกขึ้นมาแล้วกระชากแขนอีกข้างหนึ่งของฉันอย่างแรงทำให้ตอนนี้มือของยองวอนที่จับแขนอีกข้างของฉันอยู่หลุดออกไป

ฉันเดินตามพี่ซองมินที่ลากฉันมาโดยไม่พูดอะไรแบบงงๆ แผลที่มือก็เริ่มรู้สึกแสบร้อนขึ้นมาเรื่อยๆ พี่ซองมินพาฉันมาที่สระว่ายน้ำซึ่งทีมงานได้เตรียมสถานที่ไว้เพื่อการถ่ายช่วงบ่ายแล้ว แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่เลยคงจะไปพักกันหมด

"นั่งลงแล้วเอาแขนจุ่มไว้ จะได้ไม่แสบ เดี๋ยวพี่ไปขอยาจากทีมงานก่อน" 

"ค่ะ" ฉันตอบรับคำสั่งพี่ซองมิน และเขาก็เดินออกไปทันที

พอมาถึงสระว่ายน้ำพี่ซองมินก็สั่งให้ฉันนั่งลงที่ขอบสระพร้อมกับเอามือของฉันข้างที่โดนลวก จุ่มลงไปในสระว่ายน้ำ มันช่วยบรรเทาความแสบร้อนได้ดีมาก ตอนนี้ยองวอนก็คงจะแสบแผลเหมือนกันแน่ๆ เขาโดนเยอะกว่าฉันอีกด้วยซ้ำ

ไม่นานพี่ซองมินก็เดินกลับมาพร้อมกับกล่องประถมพยาบาล เขาดูกระวนกระวายใจมาก และก็ดูรีบร้อนมากด้วย

"โหว! จะเป็นแผลเป็นไหมเนี้ย" พี่ซองมินพูดขณะที่เริ่มละเลงยาลงไปที่แผลของฉัน เขาทายาไปเรื่อยๆจนเริ่มทั่วแผลจากนั้นก็เริ่มเอาผ้าพันรอบๆแผลไม่นานก็เสร็จ เขาเป็นผู้ชายที่ทำแผลได้มือเบามากๆและคอยถามตลอดว่าฉันเจ็บไหม ผิดกับพี่ชายแท้ๆของฉันเลย พี่ดลเองก็ต้องคอยทำแผลให้ฉันตลอดถึงจะทำไปบ่นไปก็เถอะ

"พี่!! มาคุยกับผมหน่อย" ยองวอนเดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้แต่ตอนนี้เขามาหยุดยืนอยู่ข้างๆพี่ซองมิน ฉันมองไปที่แขนของเขา ดีจังที่ทำแผลเรียบร้อยแล้ว

"ฉันไม่อยากคุยกับนายตอนนี้" พี่ซองมินพยายามปฏิเสธที่จะคุยแต่เหมือนยองวอนจะไม่ยอม

"แต่ผมต้องคุยตอนนี้" 

"ยองวอน นายรู้ตัวไหมว่าตอนนี้นายโคตรงี่เง่าและโคตรไม่มีสติเลย" ทำไมคำพูดของพี่ซองมินทำให้ฉันรู้สึกถึงสถานการณ์อันเลวร้ายที่กำลังจะตามมา 

ปึ้ง แกร้ก ซีโน่ พี่จุนโฮ และฮยอนจุนที่เดินตามมาทีหลังด้วยสีหน้าเป็นกังวล เขาล็อคประตูทางเข้าของสระว่ายน้ำด้วย ยิ่งทำให้ใจฉันหวิวๆเหมือนว่านี่กำลังจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีแน่ๆ 

"ยองวอน ใจเย็นก่อน" พี่จุนโฮพูดเพื่อเรียกสติยองวอน แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ฟังใครเลย เพราะขนาดพี่ซองมินที่เขาเชื่อฟังที่สุดตอนนี้ก็ดูเหมือนกำลังรับมือยองวอนไม่ไหว

"พวกนายไม่ต้องมายุ่งเลย" ยองวอนหันมาชี้หน้าทั้งสามคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา

"พี่ทำแบบนี้เพื่ออะไร?" เขาหันกลับมาถามพี่ซองมินหลังจากสั่งห้ามคนอื่นๆเสร็จ ตอนนี้ยองวอนดูเป็นอสูรร้ายที่พร้อมจะฆ่าทุกคนที่ขัดใจเขา

"ฉันทำอะไร ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย มีแต่นายแหละที่ทำอยู่คนเดียว" พี่ซองมินเองก็เหมือนจะเริ่มโมโหแล้วด้วย

"เรื่องอึนบีอีก ฉันไม่รู้น่ะว่านายคิดอะไรแล้วกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้านายคิดดีแล้วฉันก็อุตส่าไม่ยุ่ง ทั้งๆที่นายก็รู้อยู่กับใจว่าเธอทำอะไรไว้บ้าง"

"ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องอึนบี อย่าลากเธอเข้ามาเกี่ยว"

พวกเขาเริ่มตะคอกใส่กันเสียงก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ฉันเริ่มกลัวแล้วนะ ถ้าพวกเขาทะเลาะกันแรงๆขึ้นมาจะทำยังไง พี่มีรันกับพี่อึนจูไปไหนเนี้ยทำไมสถานการณ์แบบนี้ถึงไม่อยู่ล่ะ

"ปกป้องเข้าไป ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้แค่นอกใจนายแต่เธอนอกกายนายด้วย ถ้ามีผู้ชายคนไหนที่คิดจะกลับไปก็มีแต่คนโง่ๆแบบนายนั่นแหละ" 

ว่าไงน่ะ นอกกายหรอฉันไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม นี่หรอที่เขาถามว่าความผิดแบบไหนที่ฉันไม่สามารถให้อภัยได้ นี่หรอที่มาของคำถามนั้น

"พี่ซองมิน!!" ยองวอนเรียกชื่อพี่ซองมินลั่นพร้อมกับก้าวเข้าไปพลักพี่ซองมินอย่างแรงจนเกือบล้มลงกับพื้น

"อย่านะยองวอน" ฉันรีบวิ่งเข้าไปห้ามไม่ให้ยองวอนทำอะไรไปมากกว่านี้ ตอนนี้ฉันยืนอยู่ขอบสระว่ายน้ำซึ่งอยู่ระหว่างกลางของพี่ซองมินกับยองวอน ส่วนคนอื่นๆยืนอยู่ข้างหลังของยองวอน

"ทำไม นายกลัวเธอรู้หรอ" พี่ซองมินชี้มาที่ฉัน "ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้านายยังเอาความโกรธที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุมาลงที่เธอแบบนี้ วันหนึ่งซารังก็ต้องรู้" ฉันจะทำยังไงดี ควรทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ดี

"ครั้งแรกซารังก็เกือบหนาวตาย คราวนี้ก็น้ำร้อนลวกจนแขนแดงไปหมด ครั้งต่อไปจะเอาอะไรมาลงที่เธออีก" คราวนี้พี่ซองมินจับแขนของฉันข้างที่โดนลวกแล้วยกขึ้นเพื่อให้ยองวอนดูแผลที่พันผ้าอยู่

ฉันไม่รู้ว่ายองวอนโมโหเรื่องอะไรด้วยซ้ำ มันเหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา เขามักจะโกรธฉันก่อนที่จะบอกเหตุผลที่เป็นแบบนี้เสมอ คนอื่นๆก็คงจะไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไรกันแน่

"แล้วมันยังไง พี่ก็ดูเป็นเดือดเป็นร้อนเหลือเกินตั้งแต่วันแรกแล้ว ทำไมไม่แลกผู้จัดการกับผมเลยล่ะ" เดี๋ยวนะยองวอน ตอนแรกเป็นเรื่องอึนบีทำไมตอนนี้กลายมาเป็นเรื่องของฉันได้

"ฉันทำแบบนั้นได้หรอ ก็ดี!! ฉันจะดูแลเธอเอง ส่วนนายก็เชิญไปจมปลักกับผู้หญิงที่นอกกายนายตามสบาย แต่อย่าเอาอะไรมาลงที่ซารัง อีกเพราะเธอไม่ใช่ถังขยะที่คอยให้นายเอาเรื่องเน่าๆของคนอื่นมาทิ้ง" นี่ยองวอนเห็นฉันเป็นแค่นั้นจริงๆหรอ ฉันเป็นได้แค่นั้นหรอ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยคิดแบบนี้เลย แต่จนถึงตอนนี้สาระพัดเรื่องราวที่เขาทำมันเริ่มทำให้ฉันคิดแล้ว

"อูซองมิน!!!" ยองวอนเหมือนจะโมโหจนทนไม่ไหวแล้ว เขาเข้ามากระชากคอเสื้อของพี่ซองมินอย่างแรงตอนนี้เหตุการณ์มันชุลมุนวุ่นวายไปหมด ฉันที่ตอนนี้อยู่ตรงกลางได้แต่พยายามดึงมือของยองวอนออกจากพี่ซองมิน แต่เขากำคอเสื้อพี่ซองมินไว้แน่นมากๆ

"ยองวอน หยุดนะ" พี่จุนโฮที่เห็นว่าเหตุการณ์มันเริ่มรุ่นแรงเกินไป รีบวิ่งเข้ามาและพยายามดึงยองวอนออกจากทางด้านหลัง

"พี่ อย่าทะเลาะกัน" ฮยอนจุนวิ่งอ้อมมาทางพี่ซองมินและพยายามแกะมือยองวอนออก ตอนนี้คงจะมีแค่ซีโน่ที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉยๆไม่พูดไม่จาอะไรเลย

เสียงยองวอนกับพี่ซองมินที่ตะโกนเถียงกันไม่หยุด ฉันที่ยืนอยู่ตรงกลางตอนนี้เหมือนจะรับศึกหนักมากๆ พวกเราพยายามดึงทั้งสองคนให้แยกออกจากกันอยู่นาน 

"ยองวอน พอแล้ว"

ฉันโดนเบียดเข้ามาที่ริมสระน้ำเรื่อยๆ เพราะเรื่องกำลังวุ่นวายฉันเลยลืมว่ายืนอยู่ริมสระว่ายน้ำ

"หยุด ห้ามต่อยกันนะ ยองวอนพอเถอะขอร้องล่ะ ยองวอ ว้ายยย ตู๊มมมมม!"

"ซารัง!!!" ฉันไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ใครที่เรียกชื่อฉัน

ฉันพยายามตะกายๆให้ตัวเองโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำ แต่เพราะสระว่ายน้ำนี้ลึกมากๆยิ่งฉันพยายามถีบหรือตะกายเท่าไหร่ มันก็ยิ่งห่างออกไปจากขอบสระเรื่อยๆ

"ชะ ชะช่วย" ฉันพยายามกวักมือและถีบตัวเองให้พ้นผิวน้ำ ตอนนี้สำลักน้ำเข้าไปเยอะมากจนเริ่มหายใจไม่ทัน แรงก็เริ่มจะหมด

ฉันไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น มันน่ากลัวมากๆ ฉันเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นแถมสระนี้ก็ลึกมากๆ ภาพพ่อกับแม่ก็ลอยเข้ามาในหัวของฉัน นี่ฉันกำลังจะตายแล้วหรอ ไม่นะ ช่วยฉันด้วย ฉันยังไม่อยากตาย ฉันตะกุยตะกายจนเริ่มหมดแรงยองวอน ทุกคน ช่วยฉันด้วย ขอร้องละฉันยังอยากอยู่กับพวกนาย

ตู๊มมมม!!!!

"นี่ ตื่นได้แล้วเธอจะนอนนานไปแล้ว" เสียงนี้ พี่ดลหรอ? มันเป็นของผู้ชายที่กำลังพูดภาษาไทยกับฉัน นี่ฉันตายแล้วหรอ

"ซารัง เธอจะขี้เซาไปแล้วนะ ฉันรู้ว่าเธอได้ยินที่ฉันพูด" ทำไมพี่ดลเรียกฉันว่าซารังละ ฉันพยายามลืมตาขึ้นมาแต่ตามันก็หนักมาก ในที่สุดฉันก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาได้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่พี่ดล กลับเป็นซีโน่นี่เอง 

"ซีโน่" ฉันเรียกชื่อเขา พร้อมกับพยายามดันตัวขึ้นมาจากเตียง แอบดีใจที่เป็นเขานั่นแปลว่าฉันยังไม่ตาย

"ตื่นได้สักที" เขาลุกขึ้นมานั่งบนเตียงข้างๆฉัน ตอนนี้ฉันมองอะไรไม่ชัดเลยมันมัวไปหมด ฉันรีบมองหาแว่นตาบนหัวเตียง

"แว่นตาหรอ มันคงจมอยู่ในสระว่ายน้ำแต่ฉันหาไม่เจอ ขอโทษนะ" ฉันเห็นหน้าของเขาไม่ชัดแต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงเขาดูเศร้ามาก

"ขอโทษทำไม สระตั้งกว้างแถมลึกด้วยหาไม่เจอก็ไม่แปลกหรอก" 

"ฉันไม่ได้ขอโทษเรื่องแว่น แต่ขอโทษเรื่องที่ลงไปช่วยเธอช้า" เป็นซีโน่นี่เองที่ช่วยฉันไว้ 

"แค่นายคิดที่จะกระโดดลงมา ฉันก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว"  

"แต่ถ้าฉันลงไปช่วยเธอเร็วกว่านี้เธอก็ไม่หมดสติไปนานขนาดนี้หรอก ฉันกลัวมากเลย ถ้าเธอไม่ฟื้นขึ้นมาฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไง ตอนนอนหมดสติไปฉันแทบจะทำอะไรไม่ได้ หมอก็เอาแต่บอกว่าเธอปลอดภัย แล้วแต่ทำไมถึงยังไม่ฟื้น" เขาคงตกใจมาก

"แต่ฉันก็ฟื้นแล้วนี่ไง ฉันก็แค่นอนขี้เซาตื่นยากแค่นั้นเอง แล้วก็คงเพราะเมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนวันนี้เลยขอชดเชยสะหน่อย555+" ฉันพยายามหัวเราะเพราะไม่อยากให้ซีโน่คิดมาก แค่เขาลงไปช่วยฉันให้ได้มานั่งอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว

"ยองวอนกับพี่ซองมินล่ะ" ฉันพยายามมองไปรอบๆห้องถึงมันจะมองอะไรไม่เห็นเลยก็ตาม

"พวกเขาถ่ายรายการอยู่ เมื่อวานเราต้องยกเลิกการถ่ายแล้วย้ายมาเป็นวันนี้ช่วงเช้าแทน ฉันถ่ายตอนของฉันเสร็จแล้วเลยแวะมาดูเธอ แล้วก็เดี๋ยวจะลงไปอีกเพราะต้องถ่ายปิดรายการ" 

และหลังจากซีโน่ไปฉันก็นอนต่อจนไม่รู้ว่าวันนี้นอนไปกี่ชั่วโมงแล้ว ก็มันเพลียจริงๆนี่นาตั้งแต่มาอยู่ที่นี่พึ่งได้นอนจนสะใจแบบนี้ครั้งแรกเลย

"55555 พี่ไม่ชอบกินอันนี้ไม่ใช่หรอ"

"ไม่ใช่ฉันไม่ชอบ แต่ฉันไม่เคยกินทันนายเลยต่างหากฮยอนจุน ทั้งๆที่เป็นคนซื้อแท้ๆ"

"ก็พี่เอามาแช่ตู้ไว้"

"ข้างกล่องเขาแนะนำให้กินเย็น ฉันถึงแช่ตู้ไง"

"อ่าวหรอ"

"555+"

ฉันรู้สึกตัวตื่นมาเพราะเสียงหัวเราะที่ดังลั่นห้อง เท่าที่นอนฟังมานานน่าจะเป็นฮยอนจุนกับพี่อึนจูที่กำลังนั่งเถียงกันเรื่องของกินอยู่ และเสียงคนอื่นๆที่หัวเราะตามมาทีหลัง

"ซารังตื่นแล้ว" พี่มีรันที่หันมาเห็นฉันกำลังดันตัวขึ้นจากเตียงพูดขึ้น

"ซารังเพื่อนร้ากกก เป็นห่วงแทบแย่" ฮยอนจุนรีบวิ่งเข้ามาที่เตียงทันที ตอนนี้ทุกคนเดินมานั่งที่เตียงรอบๆฉัน ยกเว้นยองวอนกับพี่ซองมินที่นั่งอยู่ที่โซฟา พวกเขานั่งห่างกันนิดหน่อยดูเหมือนจะยังไม่คุยกันสินะ

"เธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง" พี่มีรันถามขึ้น

"ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว แค่ง่วงแล้วก็ขี้เกียจทำงานเลยนอนทั้งคืนไม่ยอมตื่น" ฉันแกล้งตอบเพราะไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง

"นั่นไง ฉันบอกแล้วว่ายัยนี่แกล้งหลับ" ซีโน่ที่เห็นว่าฉันตื่นแล้วตั้งแต่เมื่อเช้าพูดขึ้นมา 

"ทำไมทุกคนดูเป็นห่วงฉันยกเว้นสองคนนั้น" ฉันพูดแล้วเหลือบไปมองพวกเขาที่นั่งอยู่บนโซฟา

"ฉันแค่ไม่อยากจะพูดอะไรถ้าเขายังอยู่ในห้องนี้" พี่ซองมินพูดพร้อมกับหันไปมองยองวอน

"พี่ไม่ต้องพูดบ้างก็ได้ เงียบๆไปเหอะ" ยองวอนตอบกลับมาทันที

นี่พวกเขายังทะเลาะกันอยู่หรอเนี้ย เรื่องมันร้ายแรงจนคุยกันดีๆไม่ได้เลยหรอนี่ขนาดสภาพฉันมันเยินขนาดนี้แล้วนะ

"ถ้าพี่จะทะเลาะกันก็เชิญออกไปข้างนอกเถอะ ฉันขออยู่กับพวกเขาดีกว่า" ฉันประชดเพราะรู้ว่าถึงห้ามไปยังไงเขาก็ทะเลาะกันอยู่ดี 

"พี่ไม่ไป" พี่ซองมินเดินมาที่ปลายเตียง

"ฉันก็ไม่ไป" ยองวอนก็เดินตามมายืนอยู่ข้างๆ เขาเอาแต่จ้องหน้ากัน นี่คงไม่เกิดเดจาวูใช่ไหม ตอนนี้ทุกคนนั่งเงียบบรรยากาศเริ่มน่าอึดอัดอีกแล้วสิ

"ทำไมพวกเราต้องไปด้วย เพราะว่าเรา" พี่ซองมินหยุดพูดแค่นั้นและมองมาที่ฉัน ยองวอนเองก็เหมือนกัน 

"ดีกันแล้ว555+" พวกเขาพูดออกมาพร้อมกันพร้อมกับหัวเราะชอบใจ และคนอื่นๆก็ดูเหมือนจะรู้เรื่องอยู่แล้วเพราะพวกเขาก็พร้อมใจกันหัวเราะออกมาด้วย

"นี่รวมหัวกันแกล้งฉันหรอ" ฉันมุดลงไปในผ้าห่มทันทีเพราะความอาย 

"โอ๋ๆๆๆ ซารัง555+ ขำๆน่ะอย่าโกรธ" ซีโน่ดึงผ้าห่มของฉันออก

"ขำบ้าอะไร ฉันกลัวพวกเขาทะเลาะกันแทบตาย" 

"5555 ซารังผู้น่าสงสาร" ซีโน่เอามือมาลูบหัวของฉัน

ตอนนี้มันอธิบายความรู้สึกออกมาไม่ถูกเลย ความรู้สึกที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะเสียงหัวเราะไม่ใช่เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ ความรู้สึกเวลาที่ป่วยแล้วมีคนมานั่งรอบเตียงเพื่อดูว่าฉันเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้เจอความรู้สึกนี้มา2ปีได้แล้วมั้ง 

"ซารังก็ตื่นแล้ว ทุกคนก็อยู่กันครบ งานก็เสร็จแล้ว เราไปเที่ยวกันเถอะ" ซีโน่เสนอไอเดียที่ฉันก็เห็นด้วย

"แต่ซารังพึ่งหายเอง" คราวนี้เป็นพี่มีรันคัดค้านความคิดของซีโน่

"ฉันอยากไป" ทุกคนหันมามองฉันพร้อมกัน "ก็ฉันนอนมาทั้งวันแล้ว"

"โอเค งั้นไปเที่ยวกัน ยังไงพรุ่งนี้ก็ต้องกลับโซลแล้ววันนี้ก็เที่ยวซะหน่อยดีกว่า" พี่ซองมินของฉันน่ารักมาก

ฉันที่ตอนนี้ไม่มีแว่นตาก็ไม่ต่างอะไรจากคนตาบอด ตอนนี้คนอื่นๆแยกย้ายกันไปแล้วเหลือแค่ฉันกับยองวอนที่กำลังวนรถหาร้านตัดแว่นอยู่ เพราะคนอื่นๆเอาแต่เกี่ยงกันไม่ให้ฉันเกาะไปด้วยเลยต้องมากับยองวอนแบบนี้

"เห็นซีโน่บอกว่าพอกลับโซลจะพาเธอไปทำเลสิค" ยองวอนพูดขึ้นมาทำลายบรรยากาศที่เงียบสนิทในรถ

"ฉันไม่ไปหรอก น่ากลัว" ตอนนี้ได้แต่นอนหลับตาอยู่บนรถถ้าลืมตามองโน้นนี่มันจะยิ่งมึนหัวเลยต้องนอนหลับตาอยู่แบบนี้

"ฉันว่าร้านแถวนี้มันไม่มีหรอก แต่ถึงมีก็ปิดหมดแล้วดึกขนาดนี้" ที่ไม่ใช่ในเมือง ตอนกลางคืนเลยไม่มีผู้คนพลุกพล่านเดินไปเดินมา

"งั้นก็ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้เราก็กลับแล้ว" ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่แว่นตานั่นมันมีความหมายกับฉันมาก เสียใจจริงๆที่ต้องเสียมันไป

ฉันนอนหลับตามาตลอดทาง ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ายองวอนกำลังขับรถไปที่ไหนด้วย แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่ารถกำลังจอดนิ่งๆ

ปึง!! เสียงยองวอนปิดประตูรถฝั่งคนขับทำให้ฉันต้องลืมตามอง ตอนนี้เขากำลังเดินอ้อมมาฝั่งที่ฉันนั่ง

"ลงมาสิ!" พร้อมกับเปิดประตูและสั่งให้ฉันลงจากรถ คงไม่ได้คิดจะแกล้งอะไรฉันใช่ไหมเนี้ย

"นายจะทำอะไร จะแกล้งทิ้งฉันไว้ตรงนี้หรอ" ฉันถามเขาพร้อมกับเอามือจับเข็มขัดนิรภัยเอาไว้แน่น

"ในสายตาเธอฉันร้ายกาจขนาดนั้นเลยหรอ" 

"ฉันมองไม่เห็นนี่ นายจะให้ลงไปไหนล่ะ" 

ยองวอนเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดนิรภัยให้ฉัน ซึ่งมันทำให้หน้าของเขาเข้ามาใกล้กับหน้าของฉันมาก ด้วยความตกใจฉันรีบเอนตัวลงกับเบาะเพื่อเว้นระยะห่างถึงมันจะแค่นิดเดียวก็เถอะ

เมื่อปลดเข็มขัดเสร็จ เขาก็ยื่นมือข้างที่ไม่ได้พันผ้าทำแผลไว้มาให้ฉัน 

ฉันจับมือของยองวอนและค่อยๆเดินลงจากรถอย่างระมัดระวัง สายตาของฉันสั้นมากและนี่ก็เป็นตอนกลางคืนมันยิ่งลำบากที่จะมองอะไรรอบๆตัว แค่ก้มลงไปมองเท้าตัวเองยังไม่เห็นเลย ลำบากจริงๆชีวิตเด็กแว่น

ยองวอนพาฉันเดินมาที่สะพาน เท่าที่จำได้นี่เป็นสะพานทางเข้าซึ่งขับตรงไปเรื่อยๆจนลงสะพานไปไม่ไกลก็จะพบกับชายหาด และโรงแรมที่เราพักอยู่ เพราะเมื่อกี้เราคงจะออกไปหาร้านขายแว่นเลยต้องข้ามออกมาที่สะพานนี้

ข้างล่างเป็นถนนเส้นหนึ่งที่มีรถวิ่งไปมาไม่ขาดสาย แต่ไม่เยอะจนแน่น ริมถนนมีเสาไฟที่คอยให้แสงสว่างตลอดทาง

"ฉันเคยอ่านเจอว่าคนสายตาสั้นจะมองเห็นแสงไฟตอนกลางคืนสวยกว่าคนสายตาปกติ เป็นเรื่องจริงหรอ" ยองวอนถามขึ้นมาเมื่อเห็นฉันยืนจ้องแสงไฟของถนนอยู่นาน

"เรื่องจริงสิ ฉันก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงแต่มันดูสลัวและสีของแสงไฟเข้ากับท้องฟ้าที่มืดมิดได้ดีมาก เหมือนนายกำลังมองภาพวาดสีน้ำมันที่ทำให้ผ่อนคลาย สบายสายตาเหมือนได้พักผ่อนทั้งดวงตาที่ทำงานหนักใต้แว่นหนาๆ ได้พักผ่อนทั้งความคิดของนายด้วย" ฉันพูดพร้อมกับมองไปที่แสงไฟของถนนและรถที่วิ่งผ่านไปมา เรายืนอยู่แบบนี้ไม่รู้นานเท่าไหร่แล้วแต่ฉันเองรู้สึกดีมากๆเพราะไม่ได้พักผ่อนสายตาและมองอะไรสวยๆแบบนี้มานานมากแล้ว

"ซารัง" ยองวอนเรียกฉันพร้อมกับจับมือข้างที่พันแผลและเอาแต่จ้องมันนิ่ง ฉันมองไม่เห็นหน้าเขาไม่รู้ว่าตอนนี้สีหน้าของยองวอนเป็นยังไง ได้แต่เดาจากเสียงที่เขาพูดออกมา

"เธอเจ็บมากหรือเปล่า" ยองวอนถามขึ้น ตอนนี้คงจะรู้สึกผิดสินะ ก็เขาเป็นแบบนี้ทุกทีชอบโมโหใส่ฉันไว้ก่อนแล้วค่อยมาสงสารทีหลัง

"ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว นายเองก็โดนเหมือนกัน" 

"ฉันไม่เป็นอะไร" ตอนนี้ยองวอนก็ยังจับมือข้างที่โดนน้ำร้อนลวกของฉันอยู่ ทำไมมันรู้สึกแปลกฉันอึดอัดที่มองอะไรไม่เห็น อยากเห็นหน้าของเขาตอนนี้ใจจะขาดแล้ว

"ทั้งๆที่เธอไม่เคยทำร้ายฉัน แต่ฉันเอาแต่ทำให้เธอเจ็บตัว" นายก็รู้ตัวนี่ "ฉันไม่กล้าจะขอโทษเธอด้วยซ้ำ" น้ำเสียงของเขาดูอ่อนแอมากๆ ตอนนี้ยองวอนคงจะรู้สึกผิด ก็แน่สิเขาทำฉันเกือบตายมา2ครั้งแล้ว

"นายไม่ต้องขอโทษ ที่นายต้องทำคือแค่บอกฉัน เราสัญญากันแล้วนี่ว่าจะไม่มีความลับ ถ้านายจะกลับไปคบกับอึนบีนายก็แค่พูด ถ้านายโกรธฉันก็แค่พูดว่าเพราะอะไร" ฉันเริ่มพูดสิ่งที่อัดอั้นออกมาเรื่อยๆ 

"ยองวอนฉันเป็นผู้จัดการของนาย เป็นแฟนคลับอันดับ1ของนาย ฉันไม่อยากเห็นนายคนที่อยู่ที่สระว่ายน้ำเมื่อวานอีก เพราะฉันกลัว" พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานน้ำตาของฉันก็ค่อยๆไหลออกมา ถึงเมื่อวานฉันจะพยายามเข็มแข็งแค่ไหนแต่ในใจฉันกลัวจนอยากจะวิ่งหนีออกมาจากตรงนั้น 

"ฉันกลัวว่าถ้านายกับพี่ซองมินมีปัญหากัน ฉันจะเสียนายไป เสียTrust5ทุกคนไป ฉันไม่เหลือใครแล้วนะ ไม่มีพ่อแม่ไม่มีครอบครัว พวกนายเป็นครอบครัวเดียวที่เหลืออยู่ ฉันรู้ว่าไม่ควรคิดแบบนี้ฉันเป็นแค่ผู้จัดการแต่ว่า" ฉันพยายามกลั้นน้ำตาและพูดสิ่งที่อยากพูดต่อให้จบ 

"ฉันชอบการที่ได้อยู่ท่ามกลางเสียงหัวเราะของพวกนาย กินข้าวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน นั่งเถียงกันเพราะเรื่องไร้สาระ ฉันชอบมันมากๆ จนไม่อยากจะเสียมันไปแล้ว" น้ำตาของฉันไหลออกมาไม่หยุด ถึงฉันจะพยายามเก็บความรู้สึกทุกอย่างไว้แค่ไหนแต่ฉันก็คือฉัน คนที่เมื่ออดทนจนไม่ไหวก็จะพูดทุกอย่างออกมาจนหมด

สายตาของฉันจากที่ตอนแรกมองไม่ค่อยเห็นอะไร ตอนนี้มันเต็มไปด้วยน้ำตาจนกลายเป็นมองไม่เห็นอะไรอีกแล้ว 

แล้วในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ที่ยองวอนทำบางอย่างกับฉัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้จนฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง

เพราะดวงตาทั้งสองข้างมันเต็มไปด้วยน้ำตาฉันจึงหลับตาเพื่อให้มันไหลออกมาให้หมด และไม่รู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น มองไม่เห็นยองวอนที่ค่อยๆขยับเข้ามา และก้มลงมาพร้อมกับเอาริมฝีปากนุ่มของเขาประกบที่ริมฝีปากของฉัน

ใช่แล้ว เขาจูบฉัน ฉันตกใจจนลืมหายใจไปชั่วขณะ สมองมันคิดอะไรไม่ออก มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ใจก็เต้นแรงจนจะระเบิด คำถามในหัวตอนนี้คือ ยองวอนทำแบบนี้ทำไม??

ริมฝีปากของเขาเริ่มขยับพร้อมกับเท้าที่ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น มือข้างหนึ่งปล่อยออกจากมือของฉันและเปลี่ยนมากอดฉันพร้อมกับดึงเข้าหาตัวของเขา

ถึงจะตกใจกับเรื่องนี้มาก และสมองสั่งให้ออกไปจากตรงนี้ แต่ร่างกายมันไม่ทำตามเลยสักนิด ฉันเผลอเอามืออีกข้างกอดเอวเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

ยองวอนถอนริมฝีปากออกจากปากของฉัน แต่เขากลับไปได้ถอยห่างออกไปตอนนี้เขากอดฉันไว้ ใจของฉันเต้นแรงมากๆจนทำให้เขารู้สึกได้

"หายใจได้แล้วซารัง" เขากระซิบที่ข้างหูของฉัน 

"หื้อ เห้อ!!" ฉันปล่อยลมหายใจที่กลั้นไว้นานออกมา 

"ใจเธอเต้นแรงมากๆจนฉันกลัว" 

"นะ นะ นายทำอะไรของนาย" ฉันพูดได้แค่นี้จริงๆ ใจของฉันสมองของฉันร่างกายของฉัน เหมือนโดนยองวอนควบคุม เขาไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่ยืนกอดฉัน เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่ 1นาที 2นาที หรือ5นาทีที่ยองวอนกอดฉันแบบนี้

"ฉันคิดว่า....ฉันชอบเธอ พโยซารัง"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา