วุ่นนัก รักคุณผู้จัดการ

-

เขียนโดย Hermione001

วันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 14.43 น.

  20 ตอน
  1 วิจารณ์
  16.16K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 15.33 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) การถ่ายรายการวันแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฉันขับรถมาถึงสถานที่ถ่ายรายการก่อนกำหนด ระหว่างที่ยองวอนกำลังหลับอยู่และเขาก็ยังไม่ได้ทานอาหารเช้ามาด้วย ฉันก็เลยเดินไปที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ๆแถวนั้นเพื่อซื้อช็อกโกแลตร้อนกับขนมปังที่เจ้าอสูรร้ายชอบกินมาให้ และเมื่อเดินมาถึงรถก็เปิดประตูทางด้านหลังคนขับเพื่อปลุกเขา

“ยองวอน! ยองวอน” ฉันสะกิดแขนของเขาเพื่อให้รู้สึกตัว คนอะไรหลับยังหล่อ

“อือ มีอะไร? ถึงแล้วหรอ?” เขาตอบทั้งๆที่ยังไม่ได้ลืมตา คงเหนื่อยมากสินะ อาทิตย์ที่ผ่านมาต้องรีบเคลียงานเพื่อให้ว่างพร้อมจะถ่ายรายการนี้

“ถึงแล้วแต่ยังไม่ถึงเวลาถ่าย นายยังไม่ได้ทานอะไรเลยมาทานก่อนเถอะ” ฉันยื่นถุงขนมกับแก้วช็อกโกแลตร้อนให้ เขาลืมตามามองของที่ยื่นให้ ทำไมหรอ? นี่ของชอบนายไม่ใช่? ก็นายเป็นคนบอกเองนี่ว่าชอบกินช้อกโกแลตร้อนกับขนมปัง นี่นายบอกเองน่ะและฉันก็ไม่มีทางจำผิดแน่

"เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบกิน" ยองวอนมองแก้มน้ำสลับกับมองหน้าของฉัน

"ก็…นายเป็นคนดังใครๆก็รู้ทั้งนั้นแหละ เรื่องแค่นี้เอง รีบกินเถอะเดี๋ยวมันจะเย็นหมด” เจ้าอสูรร้ายรับของจากมือฉันไป แล้วกินจนหมดเกลี้ยงนี่คงจะชอบมากจริงๆสินะ

"เมื่อไหร่จะเลิกเรียกชื่อฉันห้วนๆสักที ฉันอายุเยอะกว่าเธอ2ปีนะ” 

“แล้วจะให้เรียกว่าอะไรละ คุณยองวอน ดีไหม”

“นี่ยัยลูกหมา เธอเป็นผู้จัดการส่วนตัวนะไม่ใช่เซลล์ขายประกัน พูดมาได้แทบจะสำลักขนม”

“ยัยลูกหมาหรอ?” หืม เขาบังอาจเรียกฉันว่ายัยลูกหมาหรอ “แล้วจะให้เรียกอะไร”

“อะไรก็ไรที่มันฟังดูมีมารยาทกว่านี้ อายุก็น้อยกว่าตั้ง2ปี เรียกอยู่ได้ ยองวอน ยองวอน” อะไรก็ได้ของเขานี่มันคืออะไรล่ะ คุณก็เหมือนเซลล์ขายประกันอีกเดี๋ยวก็เรียกเจ้าอาสูรร้ายให้มันจบๆไปเลย

“พี่คะ” ยองวอนหยุดกินขนมทั้งที่มันยังอยู่เต็มปากของเขาและหันมามองฉันที่ยืนพิงรถอยู่ข้างๆ อย่าจ้องฉันแบบนี้สิใจคอไม่ดีเลย ตึกตึก ตึกตึก ตึกตึก หัวใจเต้นแรงเพราะสายตาแบบนั้น ท่องเอาไว้พาราดาเขาคือเจ้าอสูรร้ายนิสัยไม่ดี

"แค่ก...แค่ก” อยู่ๆเขาก็สำลักและไอออกมา “ลืมมันไปเถอะ แล้วอย่าเรียกฉันแบบนี้อีกนะ” พูดจบยองวอนก็เดินลงจากรถทันที ชิ! แค่เรียกว่าพี่หน่อยถึงกับสำลักเลยหรอ ฉันก็ไม่ได้อยากจะพูดนักหรอก

ทำไมไม่มีทีมงานมาคอยต้อนรับเขาเลย อย่างน้อยน่าจะมาบอกสักหน่อยว่าเราต้องเดินไปตรงไหน

ยองวอนยืนนิ่งอยูรกับที่เพราะไม่รู้ว่าต้องเดินไปตรงไหน ทีมงานก็เดินผ่านเขาไปมาแต่ไม่มีใครสนใจหรือคิดจะถามสักคำ  สีหน้าของเขาดูเฉยไม่แสดงอารมณ์อะไรเลยซึ่งมันน่ากลัวกว่าตอนที่เขาทำหน้าหงุดหงิดอีก ฉันเลยรีบโทรหาทีมงานที่ติดต่อเรามาทันที ไม่นานปลายสายก็รับสาย

"สวัสดีค่ะ คือฉันเป็นผู้จัดการของพโยยองวอนค่ะ พวกเรามาถึงแล้วให้เราไปรอที่ไหนคะ"

"รบกวนคุณผู้จัดการพายองวอนเดินมาที่ตึกด้านซ้ายนะคะ ที่ชั้น2 ทางทีมงานจัดห้องไว้รอแล้ว" ก็ยังดีที่จัดห้องพักไว้ให้ ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรเขาก็วางสายไปทันทีไม่มีมารยาทเลยจริงๆ ฉันหันไปมองหน้ายองวอนที่ยืนหนาวอยู่ข้างๆ แล้วก็วิ่งไปเอาเสื้อในกระเป๋าหลังรถมาให้

"นี่ ใส่นี่ไว้ก่อนนะ ที่นี่อากาศหนาวมากเลย" ฉันพูดพรางเอาเสื้อใส่ให้เขา

แล้วก็พายองวอนเดินขึ้นมาตามที่ทีมงานคนนั้นบอก เมื่อมาถึงห้องและเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจกับสภาพห้องที่เขาบอกว่าจัดไว้ให้ นี่หรอห้องที่จัดไว้ นี่มันเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลยนะ นอกจากมาเปิดไว้เฉยๆ ในห้องมีโต๊ะเกะกะเต็มไปหมดแทบไม่มีที่ให้เดิน ห้องก็มืดแล้วก็อับมากด้วย ทำไมพวกเขาทำแบบนี้นะแทนที่จะทำให้มันดีๆหน่อย ฉันเดินไปเปิดหน้าต่างออกเพื่อระบายอากาศจากนั้นยองวอนก็เดินตามเข้ามาและทำท่าเหมือนจะนั่งลงที่เก้าที่มีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด

“เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งนั่ง” ฉันวิ่งไปจับแขนของเขาก่อนที่ก้นจะถึงเก้าอี้ได้ทันเวลาแบบฉิวเฉียด

“อะไรอีก” 

เพราะมองหาผ้าหรือกระดาษเช็ดชู่ไม่เจอ ฉันเลยใช้มือเปล่าๆของตัวเองถูไปที่เก้าอี้ ยองวอนยืนมองฉันนิ่งและเหมือนตอนนี้จะเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมฉันถึงห้ามไม่ให้เขานั่ง ขืนปล่อยให้นั่งไปกางเกงคงเลอะเละเทะแน่ๆ นี่ดีนะที่ฉันเห็นก่อน

“เรียบร้อย คราวนี้นั่งได้ละสะอาดเอี่ยม” เขามองหน้าของฉันก่อนจะขยับและนั่งที่เก้าอี้ตามเดิม จากนั้นยองวอนก็จับมือของฉันทั้งสองข้างขึ้นมา

“มือเธอก็เปื้อนแทนกางเกงฉันสิ” เขามองสำรวจไปทั่วมือทั้ง2ข้างของฉัน ฟวู่! ฟวู่ ก่อนจะเป่าลมจากปากเพื่อให้ฝุ่นที่เปื้อนมือหลุดออก ตึก ตึก ตึก โอ๊ย! หัวใจของฉันเต้นแรงอีกแล้ว ฉันรีบกระชากมือของตัวเองกลับมาทันทีก่อนที่จะเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่

“ดะ เดี๋ยวฉันไปล้างมือเอง” จากนั้นก็รีบวิ่งออกมาจากห้องทันที ทำไมหน้าร้อนแบบนี้นะยัยพาราดา มีสติหน่อยสิ

หลังจากเข้ามานั่งในห้องได้พักหนึ่งก็ไม่เห็นมีทีมงานเข้ามาบอกอะไรเลยจนฉันเริ่มจะหงุดหงิดเพราะนั่งรอมานานมาก ไปถ่ายรายการกับยองวอนมาตั้งเยอะไม่เคยเห็นที่ไหนแย่เหมือนทีมงานที่นี่เลย แต่ยองวอนดูไม่หงุดหงิดหรืออะไรเลยเหมือนจะชินและเจอกับเรื่องแบบนี้มาบ่อย กลับเป็นฉันที่รู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ยองวอนนะ พโยยองวอน ทำไมพวกเขาทำเหมือนเรามาขอเข้าถ่ายรายการเขาล่ะคิดแล้วก็หงุดหงิดเป็นบ้า

แต่ยองวอนกลับนั่งนิ่งเอาหูฟังใส่หูและนั่งฟังเพลงอย่างใจเย็น ทีแบบนี้ไม่เป็นเจ้าอสูรร้ายนิสัยไม่ดีเลยนะ ทีกับฉันยังไม่ทันทำไรก็โวยวายเอาๆ แปลกคนจริงๆ 

เรา2คนนั่งอยู่ในห้องนี้ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง สุดท้ายก็เป็นฉันเองที่ทนไม่ไหว ต้องไปคุยกับพวกเขาสะหน่อย ทำไมปล่อยให้ยองวอนนั่งรอแบบนี้ 

แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องก็มีทีมงาน3คนเดินถือเสื้อผ้า และกระเป๋าใบเล็กๆเข้ามา

"เรามาเตรียมตัวให้คุณยองวอนค่ะ" ทีมงานคนนึงพูดขึ้น

"เชิญค่ะ" ฉันแสร้งยิ้มเก็บความหงุดหงิดแล้วบอกให้พวกเขาเข้ามา

ฉันยืนมองทีมงาน3คนนั้นอยู่ห่างๆ คนหนึ่งจัดเตรียมเสื้อผ้าที่ยองวอนต้องใส่ถ่ายรายการ คนหนึ่งกำลังจับๆที่ผมของเขา ส่วนอีกคนเปิดกระเป๋าใบเล็กที่ข้างในมีเครื่องสำอาง เก่าๆ สภาพดูเน่ามากจนฉันตกใจเลยแหละ แปลงก็เยินสะจน... ควรเอาไปทิ้งได้แล้วนะ นี่มันบ้าไปแล้วรายการนี้เขาไม่มีกำไรเอาไว้เป็นงบในการซื้อเครื่องสำอางดีๆหรือไง ฉันไม่ยอมให้เอาเครื่องสำอางเน่าๆพวกนั้นมาทาหน้ายองวอนแน่

"เอ่ออ ขอโทษนะคะ เรื่องแต่งหน้าฉันขอทำเองนะคะ" ฉันพูดขึ้นมาทันทีที่ยัยช่างแต่งหน้าทำท่าจะทาครีมอะไรก็ไม่รู้ลงบนหน้าเขา ยัยช่างแต่งหน้ายืนนิ่ง ไม่ตอบอะไรและทำสีหน้าไม่พอใจนิดหน่อย

"คือยองวอนติดสัญญาห้ามใช้เครื่องสำอางหรือครีมจากแบรนด์อื่นเลยค่ะ ถ้ามีคนอื่นรู้ก็อาจจะเกิดปัญหาขึ้นทั้งกับทางรายการด้วยกับยองวอนด้วย" ฉันนี่ฉลาดจริงๆ คิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ทันเวลา ความจริงแล้วเขาไม่ได้ติดสัญญาอะไรหรอกแต่อย่าหวังจะเอาของแบบนั้นมาทาหน้าเขาเด็ดขาด

ดีนะที่เคยเข้าคลอสเรียนแต่งหน้ามาด้วย ฉันรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าเครื่องแต่งหน้าที่เตรียมมาใช้ยามฉุกเฉินด้วย และเปิดมันขึ้นมา 

"เธอทำอะไร? ฉันไม่เคยทำสัญญากับแบรนด์เครื่องสำอางที่ไหนทั้งนั้น" ยองวอนกระซิบในขณะที่ฉันยืนอยู่ข้างหน้าเขา เพื่อเตรียมแต่งหน้าให้

"นายไม่เห็นหรอ เครื่องสำอางที่ทีมงานเอามานะยังกับเครื่องสำอางหมดอายุ ฉันจะยอมให้เขาเอาของแบบนั้นมาทาหน้าหล่อๆของนายได้ยังไงล่ะ" ฉันตอบไปพร้อมๆกับที่กำลังละเลงสกินแคร์ลงบนหน้าของยองวอน

อากาศหนาวแบบนี้ต้องทาสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวนุ่มๆของเขาหน่อย

"นายไม่ต้องห่วงนะ ฉันแต่งหน้าเป็น ฉันเคยเข้าคลอสเรียนแต่งหน้าที่บริษัทด้วย แถมหน้าของนายมันก็หล่อสะจนไม่ต้องทาอะไรเลยก็ยังได้" ฉันทาครีมลงไปตามขั้นตอนที่เรียนมา ส่วนยองวอนเขาก็นั่งนิ่งให้ฉันทำแต่โดยดี

พโยยองวอน 

ยัยนี่น่ารำคาญจริงๆ ที่เธอทำเหมือนรู้ใจผมไปสะทุกอย่าง ทั้งช็อคโกแลตร้อนกับขนมปังที่ผมชอบทั้งเครื่องสำอางเน่าๆที่ผมไม่อยากให้มาโดนหน้า "ฉันจะยอมให้เอาของแบบนั้นมาทาหน้าหล่อๆของนายได้ยังไง" ทำไมคำพูดนี้มันติดอยู่ในหัวของผมก็ไม่รู้

เหอะ!ติดสัญญากับแบรนด์เครื่องสำอางหรอ ห้ามใช้เครื่องสำอางของแบรนด์อื่นหรอ เข้าใจหาข้ออ้างนี่ ฉลาดจริงๆเลยนะลูกหมา แล้วไหนจะอาหารกลางวันที่เป็นของโปรดของผมทุกอย่างอีก เธอจะรู้เยอะเกินไปแล้ว พี่มีรันยังไม่เคยทำแบบนี้เลย แล้วไหนจะเพลงในมือถือที่มีแต่เพลงของTrust5อีก 

หรือว่ายัยนี่จะเป็นแฟนคลับปลอมตัวมาเป็นผู้จัดการ แต่ถ้าเป็นแฟนคลับปลอมตัวมาก็โรคจิตนะสิ โอ๊ยยยย ทำไมต้องมากวนใจผมอยู่เรื่อย จะเอายังไงกับเธอดีนะ "พาราดา"

รายการนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยจริงๆ ชอบเอาคนอื่นมาลดคุณภาพเพื่อให้ตัวเองดูมีคุณภาพขึ้น แล้วดูสิ่งที่เขาทำสิน่าเกลียดชะมัด ถ้าข้อแลกเปลี่ยนที่ยัยลูกหมาขาสั้นเสนอให้มันไม่น่าสนใจผมไม่ยอมมาแน่ แต่ไหนๆก็มาแล้วก็ต้องสู้กันสักตั้งจะยอมให้เสียชื่อ Trust5ไม่ได้

•••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••

หลังจากถ่ายรายการเสร็จยองวอนก็หลับอย่างเดียวเลย เขาคงจะเหนื่อยมาก ก็คนพวกนั้นให้เขาแก้ฉากของเขาตั้งหลายรอบ ฉันแทบจะทนดูไม่ได้ที่ยองวอนต้องคอยก้มหัวขอโทษครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยทำไมต้องโดนว่าตลอด ฉันอยากให้แฟนคลับของยองวอนมาเห็นเหลือเกินคนพวกนั้นได้โดนแหกอกแน่ ส่วนฉันน่ะหรอ ก็อยากจะทำนะแต่ว่าตอนนี้ฉันต้องเป็นคุณผู้จัดการก่อน 

เมื่อถึงคอนโดฉันก็ปลุกเขาให้ลงจากรถ เราเดินมาถึงหน้าห้องก็ได้ยินเสียงของฮยอนจุนหัวเราะลั่นห้องเลยแหละ5555 เขานี่น่ารักสดใสตลอดเวลาเลย ไม่รู้ทำไมพลังงานถึงได้เยอะนัก ฉันหันไปมองหน้าคนข้างๆที่ทำท่าแบตจะหมดตลอดเวลาแล้วอดขำไม่ได้ทำไมช่างแตกต่าง ยองวอนค่อยๆกดรหัสและเปิดประตูเข้าห้อง

"เอ้า! ชนนนนนน" คราวนี้ได้ยินเสียงพวกเขาดังขึ้นแต่ทำไมเหมือนจะอยู่กันหลายคน

ฉันเดินตามยองวอนเข้ามาถึงกลางห้องที่เป็นที่ตั้งของโซฟาซึ่งเป็นมุมนั่งเล่นของคอนโดนี้

"ยองวอนเพื่อนรัก นายกลับมาสักที มาฉลองปิดกล้องละครกับฉันเถอะ" นั่นๆๆๆๆ อีจุนโฮ เขาจริงๆด้วย โอ้ยยยยย ทำไมหล่อขนาดนี้พ่อพระเอกของฉัน

ยองวอนเดินตามพี่จุนโฮไปนั่งข้างเขา ส่วนฉันได้แต่ยืนโง่ๆอยู่ตรงนี้ 

"พาราดามานั่งสิ วันนี้เราจะฉลองกันนเเพราะพวกเราเคลียงานเสร็จหมดเรียบร้อย ที่เหลือก็รอcomebackแล้ว" เจ้าชายขี่ม้าขาวของฉันก็อยู่ด้วย เขากวักมือเรียกให้ฉันไปนั่งข้างๆด้วยแหละ แบบนี้มีหรอที่ฉันจะปฏิเสธ ไม่มีทางค่ะ 

"มานั่งสิ" คราวนี้เป็นยองวอนที่พูดเสียงแข็งใส่ฉัน นายนี่ตัวทำลายความฝันของฉันจริงๆเลย ฉันเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆพี่ซองมินที่มันว่างอยู่ อร้ายยยย พี่เขาให้มานั่งตรงนี้เองนะ แต่ทำไมยองวอนมองหน้าฉันแบบนั้น สายตาของเขาเหมือนกำลังจับผิดฉันอยู่ หรือฉันแสดงออกชัดเจนเกินไป คิดได้อย่างนั้นฉันจึงรีบหุบยิ้มทันที

"ดีจัง วันนี้เราอยู่กันครบเลย" ซีโน่พูดขึ้นมา "พี่จุนโฮยังไม่เคยเจอผู้จัดการคนใหม่เลยนี่ เธอชื่อพาราดา เธออายุเท่าผม2คน" ซีโน่แนะนำฉันให้พี่จุนโฮรู้จัก 

"21หรอ งั้นเธอก็ต้องเก่งมากเลยสิถึงเป็นผู้จัดการตั้งแต่อายุยังน้อย ดูพี่มีรันสิตอนนี้ก็30ล่ะ 555555" พี่จุนโฮแซวพี่มีรันจนพี่เขาหันมาทำตาขวางใส่แล้ว โอ้ย! คนอะไรน่ารักจริงๆ

"จะบ้าหรอ พี่แค่26เองนะ" พี่มีรันพูดขณะจัดของกินใส่จาน

"แล้วทำไมชื่อ พาราดา ชื่อแปลกๆหรือไม่ใช่คนเกาหลี” พี่จุนโฮหันมาทางฉันอีกครั้ง

"เอ่อออ" ฉันอ้ำอึ้งเพราะความตื่นเต้น

"เธอเป็นคนไทย เธอชอบพูดภาษาไทยกับซีโน่ด้วย วันนั้นผมก็ได้ยินซีโน่คุยโทรศัพท์เป็นภาษาไทย ต้องคุยกับพาราดาแน่ๆ" คราวนี้เป็นฮยองจุนที่ตอบแทนฉัน

"นี่! พวกนาย2คนให้เธอตอบบ้างได้ไหม" ใช่แล้วค่ะพี่ซองมินของฉัน พี่จุนโฮเขาถามฉันต่างหาก

"แต่ว่าชื่อพาราดามันก็เรียกยากไปหน่อยนะ ถ้าต้องอยู่ที่นี่ด้วยกันน่าจะมีชื่อที่เรียกสะดวกกว่านี้หน่อย อย่างชื่ออังกฤษแบบซีโน่หรือชื่อเกาหลี" พี่ซองมินพูดขึ้นมาอีกครั้ง

"พาราดา ไม่เห็นเรียกยากตรงไหนเลยพี่" 55555 ซี่โน่เรียกชื่อฉันด้วยสำเนียงภาษาไทย นายนี่กวนจริงๆ

"ก็นายเป็นคนไทยด้วยกันนี่" ฮยอนจุนพูดทั้งๆที่อาหารเต็มปาก หมดกันน้องเล็กสุดน่ารักของTrust5

“นายชื่อซีโน่ งั้นเธอชื่อซินดี้ ดีไหม” พี่จุนโฮเสนอขึ้นบ้าง

“ไม่เอาอะ ชื่อมันsexyไปไม่เหมาะกับหน้าตาหวานๆน่ารักๆของเธอ” ฮยอนจุนนายตาดีมาก โอ๊ย!! เขินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

"ก็ให้ชื่อเหมือนนางเอกคนล่าสุดของนายสิ" ยองวอนเสนอความคิดเห็นหลังจากนั่งเงียบมานาน

"นางเองคนล่าสุดของฉันคือ เชวซารัง" พี่จุนโฮตอบ  

"ฉันชอบชื่อนี้ ซารังๆๆๆๆๆ" ซีโน่ตะโกนลั่นห้อง เขานี่ชอบเสียงดังจริงๆ

"โอเคซารังตั้งใจทำงานนะ แล้วพี่ก็ขอโทษแทนยองวอนด้วยที่เขาทำเรื่องแบบนั้นกับเธอ" พี่ซองมินเรียกฉันด้วยชื่อที่พวกเขาตั้งให้ แล้วก็เอามือมาลูบหัวของฉันเวลานั้นภาพของพี่ดลก็เข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง เขาชอบลูบหัวของฉันเวลาเราทะเลาะกันจนฉันร้องไห้

“ซารัง เธอเรียนภาษาเกาหลีที่ไหนทำไมพูดเก่งจัง” ซีโน่ถามฉันเป็นภาษาไทย

“ฉันเรียนที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เรียนอยู่น่าจะประมาณปีกว่าๆ แล้วก็ย้ายมาที่นี่” เราเคยชินกับการคุยกันเป็นภาษาไทย ฉันชอบที่มีคนคอยพูดภาษาไทยด้วยเพราะแบบนี้ฉันกับฟีฟ่าถึงได้สนิทกันมาก

“นี่ๆๆ พวกนายอย่าคุยกันเป็นภาษาไทยสิพวกเราจะรู้เรื่องได้ยังไง” พี่ซองมินหยิบไก่ทอดวางที่จานของฉันและหันไปพูดกับซีโน่ พี่ซองมินของฉันน่ารักจริงๆเลย

“งั้นเราจะพูดภาษาไทยแค่ตอนนินทาพวกพี่แล้วกัน” ซีโน่อมยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่าทางจะมีความสุขที่ได้แกล้งพวกพี่ๆ “ตกลงตามนี้น่ะซารัง” 

“ได้เลย นายว่าไงฉันก็ว่าตาม” ฉันยิ้มแล้วตอบซีโน่

“จะบอกให้นะ ว่าเธอเลือกข้างผิดแล้ว” คราวนี้เป็นพี่จุนโฮที่เอาแต่แกะไก่เข้าปากฮยอนจุนพูดขึ้น เป็นคู่พี่น้องที่ดูแลกันดีมากๆ เรื่องนี้ที่แฟนคลับรู้ก็เป็นเรื่องจริง

“ซารัง แกะไก่ให้หน่อยพี่จุนโฮคงไม่ทำให้ฉันแล้วแหละ” แต่เหมือนซีโน่จะเห็นนะ5555

“นี่นายนินทาอะไรซีโน่” ฮยอนจุนที่ไก่เต็มปากเอะอะโวยวายทันทีที่ซีโน่พูดภาษาไทย

“เขาแค่บอกว่าพี่จุนโฮรักนายมากกว่าเขา เพราะไม่เคยแกะไก่ให้เขาเลย” ฉันดัดแปลงคำพูดของซีโน่นิดหน่อยเพราะตั้งใจจะแกล้งเขา ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน5555555

“ทีนายยังรักยองวอนมากกว่าฉันเลย” พี่จุนโฮเอาคืนซีโน่บ้าง

“ก็พี่ยองวอนชอบตามใจผมนี่ พี่อะตามใจแต่ฮยอนจุน”

ตอนนี้เหมือนฉันกำลังนั่งดูคอนเสิร์ตอยู่เลย พวกเขาเหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าแฟนคลับไม่มีผิด ฉันนี่โชคดีจริงๆเหมือนได้บัตรฟรีมาแฟนมี้ตติ้งเลย

"ซารัง แปลว่า ความรัก" ฉันชอบชื่อนี้จัง ชื่อใหม่ของฉันหวังว่าชีวิตต่อจากนี้จะเป็นชีวิตใหม่ที่ดีนะ”

หลังจากนั้นสาระพัดเรื่องที่พวกเขาขุดมาเล่ามาคุย ทั้งบ่นเรื่องงาน บ่นเรื่องเพื่อนร่วมงาน ทั้งเล่าสิ่งที่ต่างคนต่างเจอมาแต่ละวัน บรรยากาศแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกคิดถึง "บ้าน" มากๆ บ้านที่ฉันเคยมี พวกเขาจะคอยเล่าความทุกข์และความสุขให้กันและกันฟัง เสียงที่ดังเอะอะโวยวายแต่มันดูไม่น่ารำคาญเลยมันกลับสนุกมากกว่า นานแล้วที่ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้ มันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา