กุ่ยสิงเทียนเซี่ย หนึ่งหนู หนึ่งแมว ผ่าคดีปริศนา (ลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ เรือนหอมหมื่นลี้ B2S)

10.0

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.00 น.

  19 บท
  2 วิจารณ์
  24.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 16.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) บทที่ 2 ตอนที่ 2.6 ภูมิหลังและสิ่งที่เห็น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          สิ้นคำพูดของเซียวเหลียง ก็มีเงาสีขาวโฉบมา ไป๋อวี้ถังมาแล้ว เขาไม่พูดไม่จา เอื้อมมือไปดึงจั่นเจาแล้วรีบอุ้มเสี่ยวซื่อจึหนีออกจากฝูงชน เซียวเหลียงรีบขี่สือโถวตามไปทันที ทั้งสี่วิ่งไปหลบอยู่ในซอยๆ หนึ่งเพื่อหลบหนีฝูงชนที่กำลังวิ่งหนีกันอยู่
 
          “เด็กคนนั้นล่ะ” จั่นเจารู้สึกว่าเด็กคนนั้นดูประหลาดยิ่งนัก จั่นเจาให้เซียวเหลียงหาเด็กคนนั้น
 
          เซียวเหลียงมองไปรอบๆบริเวณนั้น แล้วส่ายศีรษะ “ไม่เห็นแล้ว คงจะวิ่งหนีไปแล้วกระมัง”
 
          “เด็กอะไร” ไป๋อวี้ถังไม่เข้าใจ เห็นจั่นเจามีท่าทางวิตกกังวล คิดว่าคงจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่
 
          “เป็นเด็กประหลาดๆ คนหนึ่ง เขาอาจจะรู้เรื่องอะไรก็ได้” จั่นเจาหันกลับมาถามเสี่ยวซื่อจึและเซียวเหลียง “เห็นลักษณะท่าทางของเด็กคนนั้นหรือไม่”
 
          เสี่ยวซื่อจึตอบ “เด็กคนนั้นเหมือนลิงตัวหนึ่ง ข้าเห็นเขามีหางด้วย”
 
          “อะไรนะ?” ไป๋อวี้ถังยิ่งงงเข้าไปใหญ่
 
          จั่นเจาก็จำไม่ได้แล้ว มีหางหรือ ?
 
          “เด็กน้อย” เซียวเหลียงจ้องเสี่ยวซื่อจึอย่างจริงจัง “เป็นหางจริงๆ หรือ”
 
          คิดไปคิดมาเสี่ยวซื่อจึก็เกิดลังเลขึ้นมา
 
          “ไม่รู้อ่า ข้าเหมือนจะเห็นหาง แต่พออยากจะดูอีกที คนก็หายไปแล้วล่ะ”
 
          “ดูไม่ผิดหรอก นั่นคือเจ้าลิงน้อย”
 
          ตอนนี้เองก็ได้ยินเสียงคนที่อยู่ข้างหลังพูดขึ้น ที่แท้ในซอยนี้ก็ยังมีคนอื่นอยู่อีก นั่นก็คือนักเลงหัวไม้ที่ปลอมตัวเป็นขอทาน เมื่อสักครู่ที่ไป๋อวี้ถังไล่ตามพวกนี้มาเพื่อสอบถามแต่พอได้ฟังคำพูดจาโกหกไร้สาระ ไป๋อวี้ถังจึงรีบกลับไปช่วยพวกจั่นเจาก่อน พวกนักเลงบางคนเห็นว่าเขามีเงิน ก็เลยรออยู่ที่นี่ คนที่พูดจาไร้สาระนั่นก็อายุประมาณ สิบสามถึงสิบสี่ปี
 
          “เจ้าลิงน้อยนั่นคือครรภ์ปิศาจ คลอดออกมาแล้วเด็กมีหาง เด็กนั่นอาศัยอยู่กับแม่ที่ริมแม่น้ำอี” นักเลงน้อยนั่นพูดต่อ “เด็กนั่นแปลกประหลาดมาก ไม่สนใจใครเลย แล้วก็ไม่มีใครกล้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาด้วย ว่ากันว่าคือลิงกลับชาติมาเกิด แล้วก็ยังมีคนบอกอีกว่า เขามีแต่แม่ไม่มีพ่อ อาจเป็นเพราะแม่ของเขาไปร่วมหลับนอนกับลิงหรือไม่ก็เป็นเพราะปิศาจทำให้คลอดเขาออกมา
 
          “ผีก็น่าจะเชื่อได้นะ
 
          ขอทานน้อยอีกคนหัวเราะออกมา “ในแม่น้ำอี ไม่มีปิศาจ ไม่มีลิง มีแค่เทพหม่าฟู่เท่านั้น !”
 
          จั่นเจากับไป๋อวี้ถังได้ยินเรื่องราวของเจ้าลิงน้อย ก็อยากจะไปพบพวกเขาเพื่อพูดคุยสักหน่อย จั่นเจารู้สึกสงสัยว่าเจ้าลิงน้อยจะรู้เรื่องที่หลิวเจินเหรินตายหรือไม่ โดยเฉพาะคำพูดที่แฝงได้ด้วยความรู้สึกโกรธแค้นเกลียดชัง “ไปตายซะ” ที่จริงแล้วมันไม่น่าจะหลุดออกจากปากเด็กน้อยขนาดนี้
หลังจากถามนักเลงพวกนั้นก็รู้ว่าบ้านของเด็กคนนั้นอยู่ในหมู่บ้านที่ใกล้กับแม่น้ำอี ในหมู่บ้านมีคนไม่มากนัก ครอบครัวของเขาอยู่ทางใต้สุด หาไม่ยากเท่าไหร่ ในที่รกร้างก็มีกระท่อมหลังเล็กๆ หลังหนึ่งตั้งอยู่ ตรงประตูบ้านมีโลงศพที่เก็บมาจากในแม่น้ำ ส่วนเจ้าลิงน้อยนั้นถูกแม่ใช้ให้ไปตักน้ำใช้งานสารพัด ดูครอบครัวเป็นคนจิตใจโหดร้ายมาก
 
          นอกจากนั้นไป๋อวี้ถังยังถามพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องของพวกขอทาน บางคนเริ่มลังเลที่จะเล่า ไป๋อวี้ถังควักเงินออกมา แล้วบอกว่า “พูดความจริงมาเถอะ ข้าจะไม่บอกผู้ใดว่าพวกเจ้าบอกอะไรกับข้า” พวกนักเลงมองมาที่เงินที่ไป๋อวี้ถังเอาออกมา สุดท้ายก็พ่ายแพ้แก่ความโลภเมื่อได้เห็นเงินก้อนโต ทำให้พูดความจริงออกมาในที่สุด ที่จริงแล้วขอทานทั้งสามศพนั้นไม่ใช่ขอทานจริงๆ แต่เป็นพวกนักเลงปลอมเพราะอยากได้เงินจึงปลอมตัวเป็นขอทานอาศัยอยู่ในศาลร้าง
 
          “อยู่ในศาลร้าง ?” จั่นเจาสงสัย “ไม่มีบ้านหรือ ?”
 
          “เป็นคนป่า อยู่เมืองหนานเฉิง ศาลบรรพชนของหม่าฟู่นั้น พวกชาวประมงได้สร้างให้แก่เทพหม่าฟู่ เดิมทีก็มีธูปกับตะเกียง ต่อมาถูกทิ้งร้าง แล้วก็ยังเป็นสถานที่ฝังศพ โดยปกติคนในเมืองก็ไม่ค่อยจะกล้าเข้าไปอยู่แล้ว แต่มันก็เป็นสถานที่ๆ ดีสำหรับเด็กที่ไม่มีบ้านอยู่ สามารถอาศัยอยู่ได้สามารถหาเงินได้”
 
          “หาเงินได้” ไป๋อวี้ถังไม่เข้าใจหาเงินยังไง
 
          “มีศพมากมายถูกโยนเข้ามาฝังอยู่ที่นี่ พวกเราก็ไปค้นหาที่ตัวศพ ก็จะพบกับของมีค่ามากมาย แล้วยังสามารถตัดผมไปแลกกับอาหารได้อีกด้วย” นักเลงหลายคนให้ข้อมูลเบาะแสได้มากพอสมควร ถามพวกเขาต่อถึงเรื่องที่ศพหายไป ทำไมนายอำเภอถึงเสียชีวิต แล้วศพไปอยู่ที่ไหน ทุกคนล้วนแต่ไม่มีใครทราบข้อมูลแล้ว.
 
          ไป๋อวี้ถังให้รางวัลพวกนักเลง แล้วหันกลับมาปรึกษาจั่นเจา ไปค้นหาต่อที่ไหนดี ?
 
          “ตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้วใช่หรือไม่” จั่นเจาถามไป๋อวี้ถัง
 
          ไป๋อวี้ถังแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “ใกล้มืดแล้วล่ะ”
          “เจ้าลิงน้อยนั่นพรุ่งนี้เช้าพวกเราค่อยไปหาละกัน เผื่อว่าจะได้นั่งคุยกับเขา เราไปศาลบรรพชนของหม่าฟู่กันก่อนดีกว่า” จั่นเจาออกความเห็น
ไป๋อวี้ถังพยักหน้าเห็นด้วย
 
          ทั้งสองจึงพาเสี่ยวซื่อจึและเซียวเหลียงกลับโรงเตี๊ยมกันก่อน เพื่อให้เด็กทั้งสองคนได้พักผ่อน ดึกดื่นเที่ยงคืนพาเด็กไปดูหลุมฝังศพคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก
 
          เมื่อเตรียมการต่างๆ พร้อมแล้ว ไป๋อวี้ถังและจั่นเจาก็พากันออกเดินทาง มุ่งตรงไปยังริมฝั่งแม่น้ำอี...
 
 
++โปรดติดตามตอนต่อไป อัพตอนใหม่ทุกวันจันทร์ พฤหัส และ เสาร์ ตอน2ทุ่มครึ่ง++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา