กุ่ยสิงเทียนเซี่ย หนึ่งหนู หนึ่งแมว ผ่าคดีปริศนา (ลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ เรือนหอมหมื่นลี้ B2S)

10.0

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.00 น.

  19 บท
  2 วิจารณ์
  24.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 16.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) บทที่ 2 ตอนที่ 2.10 ภูมิหลังและสิ่งที่เห็น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

          “ที่นี่มีกระดูกด้วย”
 
          “กระดูกอะไร”
 
          “มันเล็กและละเอียดมาก” ไป๋อวี้ถังพูดไปก็ใช้ไม้เขี่ยกองเถ้ากระดูกนั้นไป แล้วก็ได้เจอผิวหนังของหนูที่โดนเผาหลายแผ่น
 
          “คือหนู”
 
          “อืม” จั่นเจาผงกหัว “น่าจะเป็นเพราะพวกเด็กๆ ไม่มีอะไรกิน ก็เลยเอาหนูมาย่างกินเป็นอาหารว่างหรือเปล่า”
 
          ไป๋อวี้ถังขมวดคิ้วเล็กน้อย นำฟืนมาเติมลงไปเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ถ้าแมวกินหนูนั้นแล้วตาย”
 
          ไป๋อวี้ถังยังไม่ทันพูดจบ จั่นเจาก็เอ่ยต่อทันที “เด็กก็คงตายแล้ว….. ใช่หรือไม่ ?”
 
          ชั่วขณะนั้นทั้งสองก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในใจ
 
          นิ่งกันไปครู่ใหญ่ จั่นเจาก็พูดขึ้นทันใด “จริงสิ ข้าค้นพบเรื่องๆ หนึ่ง”
 
          ไป๋อวี้ถังหันมามองเขา “อะไร ?”
 
          จั่นเจาใช้นิ้วชี้เคาะเบาๆ ที่คางของตนเอง และเอ่ยว่า “ข้าพบว่าเวลาที่เจ้าพูดกับข้า มักจะไม่เรียกชื่อของข้า”
 
          จั่นเจาเอ่ยประโยคนี้ออกมากะทันหัน ทำเอาไป๋อวี้ถังตอบไม่ออกเลยทีเดียว
 
          “ตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ เจ้าก็ไม่ยอมพูดกับข้า หลังจากนั้นพอคุ้นเคยกันขึ้นมาอีกหน่อย ก็เริ่มเรียก “เอ้ เอ้ย ตอนนี้ก็พูดแบบตรงๆ ห้วนๆ อีก”
 
          ไป๋อวี้ถังอ้าปากค้าง อึ้งไปครู่หนึ่ง ------- เหมือนว่าจะจริง ……
 
          “เจ้าดูนะ เจ้าเรียกเจ้าผู่ก็เรียกว่าเจ้าผู่ตรงๆ เรียกกงซุนล่ะ ก็เรียกกงซุน เสี่ยวซื่อจึ เสี่ยวเหลียงจึ องครักษ์เงา หวังเฉาหม่าฮั่น เจ้าล้วนเรียกชื่อได้หมด มีข้านี่แหล่ะที่เจ้าไม่เรียก” จั่นเจาถามอย่างจริงจัง “ชื่อของข้ามันไม่น่าฟังมากนักรึ”
 
          ไป๋อวี้ถังก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆ จั่นเจาถึงได้สนใจเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ว่าถ้าจะให้พูดก็คือ ชื่อของจั่นเจาเรียกยาก ตนเองมีสหายจอมยุทธ์ไม่น้อย จั่นเจาคือสหายที่พิเศษที่สุดคนหนึ่ง จะเรียกจั่นเจาตรงๆ หรือจะให้ดูสุภาพหน่อย เรียกพี่จั่น ก็รู้สึกจะขัดเขินอยู่เล็กน้อย ก็เหมือนกับที่ตัวเองก็ไม่ค่อยชอบให้เขาเรียกว่าพี่ไป๋ ถ้าหากเป็นคำสามคำยังสามารถเรียกชื่อได้ แต่นี่มันแค่สองคำ พอจะเรียกแค่คำเดียว “เจา” ก็ไม่ได้อีก
ไป๋อวี้ถังคิดถึงตรงนี้ “เจา” ก็ใจสั่นขึ้นมาโดยไม่ทันรู้ตัว
 
          “อืม” จั่นเจาเดินเข้าไปใกล้ขึ้นอีก ถึงแม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่ก็นึกมโนภาพท่าทางของไป๋อวี้ถังในตอนนี้ออก
 
          ไป๋อวี้ถังหันหน้ามา เห็นจั่นเจาทำท่ากลั้นยิ้ม ก็รู้ทันทีว่าเขากำลังแกล้งตนเอง
 
          ไป๋อวี้ถังหลุดปล่อยออกมาคำหนึ่ง “เจ้าแมว…..”
 
          “อ้าว มีเจ้าแมวอีก?” จั่นเจาได้ยินไม่ชัดเจนนัก จึงเอียงหูมาฟังใกล้ๆ
 
          ไป๋อวี้ถังกระตุกยิ้มที่มุมปากนิดๆ พูดเบาๆ “จั่นแมวน้อย”
………..
          ในห้องโถงใหญ่เงียบสงัดกันไปชั่วครู่
 
          “อา……..”
 
          คำที่ไป๋อวี้ถังเรียกเขาคำสุดท้ายนั้นทำเอาจั่นเจาลืมหายใจไปชั่วขณะ กำลังอยากจะต่อปากต่อคำต่อ แต่กลับได้ยินเสียงจากนอกห้องโถงดังเข้ามา ……ฮู่ฮู่……
 
          ห้องโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยความมืดแบบนี้ อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงเหมือนลมหายใจของสัตว์ป่ากำลังนอนอยู่ มันทำให้คนรู้สึกกลัวจนอกสั่นขวัญแขวนได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
 
          ไป๋อวี้ถังก็หมดอารมณ์พูดเล่นแล้วเช่นกัน หมุนตัวจะเดินออก แต่พอนึกได้ก็หันกลับมาจูงจั่นเจาให้เดินไปด้วยกัน
 
          เดินออกมาจากห้องโถงใหญ่ แสงเทียนจากเชิงเทียนยังทำให้สามารถมองเห็นบรรยากาศรอบๆ ได้
 
          ความมืดทอดยาวออกไป มองไปไม่ไกลนักก็เห็นแสงสีเขียวสองจุด ครั้งนี้ไม่ใช่แมวตัวมันใหญ่กว่าแมวค่อนข้างมาก มันคือหมาป่าตัวหนึ่ง
หมาป่าตัวนั้นเห็นมีคนเดินออกมา ก็หมุนตัวแล้ววิ่งหนีไปทันที
 
          “หมาอย่างนั้นหรือ” จั่นเจาถาม
 
          “ไม่แน่ใจ เราตามไปดูกัน” ว่าแล้วมือหนึ่งของไป๋อวี้ถังก็เอื้อมไปคว้าเชิงเทียน อีกมือหนึ่งก็จูงจั่นเจาแล้วเดินไปด้านหลังของศาลบรรพชน
 
          เหนือความคาดหมายของทั้งสอง ด้านหลังยังมีกำแพงสวนที่ดูทรุดโทรมค่อนข้างมาก ด้านนอกกำแพงเห็นเป็นทางเดินลาดลงเขา มองไกลออกไปอีกนิดก็เห็นสุสาน มีหมาป่าหลายตัวกำลังก้มหาอาหารกินอยู่ เดาว่านั่นคือหลุมฝังศพของพวกศพไร้ญาติ
 
          “ข้าได้ยินเสียงน้ำ” จั่นเจาเอ่ยขึ้น
 
          “อืม” ไป๋อวี้ถังมองไปในสวน “ข้างในมีสระน้ำ ใหญ่มากด้วย …….”
 
          พูดได้แค่นี้ ไป๋อวี้ถังก็ต้องชะงักหยุดลง
 
          จั่นเจาได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรหล่นลงกลางน้ำ “ซู่ม ! !”
 
          “เสียงอะไร ?”
 
          “เห็นไม่ชัด” ไป๋อวี้ถังพูดเสียงเบาๆ “ในน้ำเหมือนจะมีอะไร ขนาดของศรีษะไม่เล็กเลย”
 
          “ปลาใหญ่ ?”
 
          “หางปลา ……แต่ทว่าข้าเหมือนเห็นเป็นผมด้วย” ไป๋อวี้ถังยืนนิ่งงงอยู่ที่เดิม เมื่อสักครู่มันเร็วมาก ที่เห็นในสระเมื่อสักครู่มันช่างเหมือนหัวเป็นคนแต่หางเป็นปลา
 
          “ผม ?” จั่นเจารู้สึกว่าเหลือเชื่อ..
 
 
+++โปรดติดตามตอนต่อไป อัพตอนใหม่ทุกวัน จันทร์ พฤหัส และเสาร์ ตอนสองทุ่มครึ่งค่ะ +++
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา