กุ่ยสิงเทียนเซี่ย หนึ่งหนู หนึ่งแมว ผ่าคดีปริศนา (ลิขสิทธิ์ สำนักพิมพ์ เรือนหอมหมื่นลี้ B2S)

10.0

วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 16.00 น.

  19 บท
  2 วิจารณ์
  23.72K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561 16.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) บทที่ 1 ตอนที่ 1.8 ตำนานหม่าฟู่แห่งแม่น้ำอี

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
 
          “พี่ชายของเจ้าทิ้งปริศนาอะไรไว้ให้เจ้ากัน?“ ไป๋อวี้ถังถามด้วยความงุนงง ตามหลักแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องทำให้เป็นเรื่องซับซ้อนนี่นา
          เสี่ยวซื่อจึที่นั่งเท้าคางกินอาหารว่างอยู่ข้างๆ รู้สึกว่าบรรยากาศไม่ค่อยจะดี ทำไมสองคนนี้ถึงต้องทำท่าทางเอาจริงเอาจังขนาดนี้คิดเรื่องอะไรกันอยู่ แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่หายากไม่ใช่หรือไงละ เซียวเหลียงกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าที่โรงน้ำชาแห่งนี้เป็นที่รวมตัวกันของชาวยุทธมากมาย พวกเขาสวมใส่เสื้อผ้าดูแปลกตา
          ไป๋อวี้ถังเห็นคนพวกนี้แล้วจึงกล่าวว่า “ คนพวกนี้เป็นพวกศึกษาวิชาที่แปลกกว่าวรยุทธ์ทั่วไป จึงไม่เหมือนกันชาวยุทธธรรมดา”
          “อะไรคือพวกศึกษาวิชาที่แปลกกว่าวรยุทธ์ทั่วไปอ่า” เสี่ยวซื่อจึไม่เคยได้ยินมาก่อน
          จั่นเจาที่กำลังจิบชาพลางเอ่ยถามเสี่ยวซื่อจึขึ้นมาว่า “ท่านพ่อของเจ้ามิใช่สามารถใช้วิชาหยินหยางเสี่ยงทายถามฟ้าดินได้หรอกหรือ”
          “ท่านพ่อบอกว่าพวกนั้นคือการหลอกลวงผู้คนทั้งสิ้น” เสี่ยวซื่อจึพูดอย่างไร้เดียงสา
          จั่นเจายิ้มขันแล้วกล่าวว่า “ยังมีคนที่ศึกษาวิชาพวกนั้นด้วยหรือ ได้ยินว่าทางการประกาศให้เงินรางวัล ดังนั้นทุกคนจึงมารวมกันที่นี่ เพื่อหวังว่าจะจับหม่าฟู่นั่นให้ได้”
          “อ่า” เสี่ยวซื่อจึพยักหน้า
          ดื่มชาเสร็จ ทุกคนก็พากันกลับไปที่โรงเตี๊ยม เพื่อกลับไปหาเบาะแสที่ห้องอีกครั้งหนึ่ง ออกจากโรงน้ำชาแล้ว เสี่ยวซื่อจึก็รีบลากชายเสื้อของเซียวเหลียงออกมา แล้วกระซิบข้างหูเขาว่า
          “เสี่ยวเหลียงจึ เจ้าดูสิ” เซียวเหลียงไม่เข้าใจ รู้เพียงแค่ว่าเสี่ยวซื่อจึลากตนมาเพื่อให้มองดูที่จั่นเจาและไป๋อวี้ถังที่เดินอยู่ข้างหน้า จึงเอ่ยถามขึ้น “มีอะไรหรือ”
          “พวกเขาดูไม่สนิทสนมกันเลย” เสี่ยวซื่อจึดูไม่มีความสุขเลย
          เซียวเหลียงทำได้เพียงแค่ กระซิบที่หูเสี่ยวซื่อจึเบาๆว่า “เด็กน้อย พวกเขาเป็นสหายกันมิใช่หรือ ไม่เหมือนจิ๋วจิ่วกับท่านกงซุนหรอก”
          “แต่ว่าก็เห็นอยู่ชัดๆนี่น่าว่าเมื่อก่อนพวกเขาใกล้ชิดกันมากกว่าตอนนี้” เสี่ยวซื่อจึพึมพำกับตัวเอง “ดูก็รู้แล้วเมี้ยวเมี้ยวทำอะไรไม่ค่อยสะดวก แต่ไป๋ไป๋ยังจะสงวนท่าทีอีกอ่า” เซียวเหลียงรึสึกงุนงง “งั้นเจ้าบอกมาสิแบบไหนกันถึงจะเรียกว่าไม่สงวนท่าทีอ่า ?”
          “เวลาแบบนี้ไป๋ไป๋ต้องเอาใจใส่เมี้ยวเมี้ยวหน่อยนะ เช่น เมี้ยวเมี้ยวทำอะไรไม่ค่อยสะดวก ไป๋ไป๋ก็น่าจะต้องจูงมือเมี้ยวเมี้ยวเดินสิ แล้วก็เช็ดปากให้เมี้ยวเมี้ยว ป้อนน้ำแกงให้เขาด้วย”
          “อะแฮ่ม ๆ” ไป๋อวี้ถังที่อยู่ข้างหน้ากระแอมขึ้นมา เจ้าเด็กสองคนนี้คิดว่าจะไม่มีผู้ใดได้ยินที่พูดหรอกหรือ เขากับจั่นเจาทักษะทางการฟังเป็นเลิศขนาดไหน..ที่เจ้าเด็กสองคนนี้พูดมาพวกเขาได้ยินชัดเจนเลยทีเดียว .แต่เสี่ยวซื่อจึก็หาได้สนใจไม่ ยังคงพูดกับเซียวเหลียงต่อว่า “เสี่ยวเหลียงจึ พรุ่งนี้เช้าพวกเราไม่ต้องไปช่วยเมี้ยวเมี้ยวใส่เสื้อผ้า พวกเราให้ไป๋ไป๋มาทำเนอะ !”
          “อ่า ตกลง” เซียวเหลียงพยักหน้าเห็นด้วย
          “แฮะๆ “ คราวนี้เป็นจั่นเจาที่กระแอมขึ้นมา เขาลองจินตนาการตามที่เสี่ยวซื่อจึพูด ก็ให้รู้สึกแปลกประหลาดชวนขนลุกยิ่งนัก
          ใกล้จะถึงประตูทางเข้าโรงเตี๊ยมแล้ว พลันก็เห็นพวกบ่าวรับใช้หลายคนตีฆ้องวิ่งมาจากทางข้างหน้า ปากก็ตะโกนว่า “อีกประเดี๋ยว หลิวเจินเหรินจะเซ่นไหว้ท่านเทพหม่าฟู่แล้ว ! ในหมู่บ้านมีของอะไรก็เอาไปเซ่นไหว้ท่านเทพด้วยล่ะ”
          ไป๋อวี้ถังถามขึ้น “อะไรคือเซ่นไหว้ท่านเทพ ?“
          คนผู้นั้นลอบสังเกตไป๋อวี้ถังก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “โอ้ ! คุณชายเป็นคนต่างถิ่นสินะ หลิวเจินเหรินบอกว่ามีวิธีทำให้หม่าฟู่ปรากฏตัวออกมา ช่วงนี้น้ำไม่ค่อยเยอะ กุ้ง หอย ปู ปลาไม่เพียงพอให้ท่านกิน ดังนั้นท่านถึงออกมาทำร้ายผู้คน และเพื่อที่ไม่ให้ท่านออกมาทำร้ายผู้คนจะต้องโยนหมั่นโถวลงไป”
          ไป๋อวี้ถังขมวดคิ้วเล็กน้อยแค่โยนหมั่นโถวหรือ ? งั้นเจ้าหม่าฟู่นี่กระจอกขนาดนี้เชียวหรือ
          “ทำพิธีเซ่นไหว้ที่ไหนหรือ”
          “ท่าเรือข้ามฟาก” บ่าวรับใช้คนนั้นตีฆ้องแล้ววิ่งป่าวประกาศต่อไป
          จั่นเจาคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยถามกับไป๋อวี้ถัง “คืนนี้จะไปดูหรือไม่ ?”
          ไป๋อวี้ถังพยักหน้าเป็นคำตอบ ทุกคนกลับมาถึงโรงเตี๊ยม ตอนที่กำลังจะเดินเข้าประตูนั้น เสี่ยวซื่อจึจงใจไม่บอกจั่นเจาว่าข้างหน้ามี ธรณีประตู ด้วยหวังว่าไป๋อวี้ถึงจะช่วยประคองจั่นเจาข้ามไป แต่ไป๋อวี้ถังนั้นกลับเดินตัวปลิวข้ามธรณีประตูไปเลย ส่วนจั่นเจานั้นฟังเสียงการเคลื่อนไหวแล้วจึงยกขาก้าวข้ามธรณีประตูไปอย่างสบายอารมณ์ เสี่ยวซื่อจึที่รีบร้อนตามไปจึงสะดุดเข้ากับธรณีประตูจนเกือบจะล้ม โชคดีที่เซียวเหลียงจับไว้ได้ทัน
เมื่อถึงห้องพักแล้ว จั่นเจาก็เดินมานั่งพักที่โต๊ะ ส่วนไป๋อวี้ถังก็เริ่มสำรวจหาเบาะแสภายในห้อง จากนั้นไม่นาน ไป๋อวี้ถังก็หยุดลงแล้วเคาะที่กำแพงฝาผนังห้อง เคาะอยู่หลายที่เสียงที่ได้ยินเป็นเสียง ตุ๊บๆ สะท้อนกลับมา มีเพียงจุดนี้จุดเดียวที่เคาะแล้วว่างเปล่า จั่นเจาได้ยินจึงเดินมายกมือขึ้นคลำๆ แล้วถามขึ้น “ตรงไหน?”
          ไป๋อวี้ถังจึงคว้ามือจั่นเจาไปแตะตรงจุดที่เขาเพิ่งจะเคาะ เดิมทีมันก็ไม่ใช่การกระทำที่ซับซ้อนอะไร เสี่ยวซื่อจึกับเซียวเหลียงเห็นไป๋อวี้ถังจูงมือจั่นเจาก็ถึงกับสูดลมเข้าไปดัง ซื้ดดดด ไป๋อวี้ถังกับจั่นเจายิ่งรู้สึกวางหน้าไม่ถูกกับความสัมพันธ์เช่นนี้
          “ข้างในน่าจะว่างไม่มีอะไร” จั่นเจาเป็นฝ่ายเริ่มเอ่ยขึ้นก่อน
          ไป๋อวี้ถังพยักหน้าแล้วยื่นมือออกไป ใช้นิ้วเขี่ยก้อนอิฐนั่น มันขยับได้จริงดังที่คาดไว้ เมื่ออิฐเลื่อนออก ปรากฏว่าในช่องด้านในเป็นช่องว่าง ในเวลานั้นเองทั้งไป๋อวี้ถังและจั่นเจายื่นมือออกไปเพื่อที่จะหยิบของพร้อมกัน เสี้ยวเวลานั้นเอง มือของทั้งสองจึงสัมผัสกัน เสี่ยวซื่อจึยิ้มจนหน้าบานเมื่อมองเห็นมือของไป๋อวี้ถังที่จับมือของ จั่นเจาไว้ แล้วยื่นมือของตัวเองเข้าไปในช่องที่ว่างด้านใน หยิบตลับใบเล็กสีดำออกมา
 
+++โปรดติดตามตอนต่อไป อัพตอนใหม่ทุกวันจันทร์ พฤหัส และเสาร์ตอน 2ทุ่มครึ่งค่ะ+++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา