Demon สัตว์อสูรจอมราชันย์

-

เขียนโดย Dinnsor

วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 16.50 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2562 16.55 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทที่ 3 Begining : ใบหน้าที่มีรอยแผล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 3
Begining : ใบหน้าที่มีรอยแผล
Arthur : แก้ปัญหาต้องแก้ที่ต้นเหตุสิ
 
เจ็บ…
ชายหนุ่ม มองดูบาดแผลบนมือที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กับทารกปีศาจ เลือดหยุดไหลแล้ว การฝึกพลังช่วยเขาได้มาก มันทำให้ปากแผลสมานตัวเร็วขึ้น…เขายังไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าตนเองเพิ่งเผชิญหน้ากับปีศาจมา
 
ริชาร์ดเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูวัดแห่งหนึ่งรอจนแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา แล้วจึงเดินเข้าไปด้านใน
 
…………………………………………………………
 
เสียงดังแกร๊กกรากดังขึ้นจนนาตาลีสะดุ้งตื่น แต่เมื่อหันไปมองทางหน้าต่างก็พบเพียงกระจกใสกับดวงดาวที่คอยส่องสว่างในท้องฟ้ายามค่ำคืนเท่านั้น
 
ืนนี้ เธอนอนไม่หลับ
 
"ผี ไม่สิ มันคือ ปีศาจ…มันต้องเป็นปีศาจแน่ๆ" นาตาลียังคงคิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องราวที่เพิ่งประสบพบพานมา ก่อนจะล้มตัวลงบนผ้าห่มลายผีเสื้อ
 
ในคืนที่ไร้แสงจันทร์เช่นนี้ เด็กสาวนอนกลับตัวไปมาอยู่บนเตียง เมื่อเธอหันไปมองนาฬิกาก็พบว่าเหลือเวลาอีกเกือบหกชั่วโมง กว่าดวงตะวันจะกลับมาทำหน้าที่ตามปกติ
 
กริ๊ก! กริ๊ก!
คราวนี้นาตาลีรีบหันหน้าไปมองทางต้นเสียง ความรู้สึกเดียวกับตอนที่อยู่ในตึกร้างได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้งในจิตใจเธอ
 
"ไม่นะ"
 
กระจกหน้าต่างที่เคยสะอาดใสจนมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้า ได้เกิดรอยแตกร้าวจากกลางบานหน้าต่าง แผ่ขยายกินบริเวณกว้างขึ้นเรื่อยๆ
 
ทันใดนั้นกระจกหน้าต่างก็แตกกระจายพร้อมกับมีบางสิ่งพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว นาตาลีไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว!
 
บนพื้น...มันอยู่บนพื้น สิ่งที่เธอไม่อยากพบเจอที่สุด ใบหน้าที่ดูราวกับหน้ากากตัวตลกแสยะยิ้มยิงฟัน มันค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหาเธอ คราบน้ำเมือกที่ปนไปด้วยกลิ่นคาวเลือดปรากฏบนทุกที่ที่มันสัมผัสถึง
 
ันค่อยๆ คลานขึ้นมาบนเตียงนาตาลีรู้สึกเกร็งไปหมดทั้งตัว เธออยากจะวิ่งหนีไปซะให้พ้นๆ แต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตามคำสั่ง
 
มันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าเธอ ใช้ดวงตาสีเขียวเรืองรองจ้องมองลงไปในดวงตาของนาตาลี
 
ทั้งคู่สบตากัน มันแสยะเขี้ยวอันแหลมคมอ้าปากมากระซิบที่ข้างหู
 
"นาตาลี"
 
…………………………………………………………
 
"มีเรื่องจะถาม" เสียงหยาบกระด้างเย็นชาของชายหนุ่มดังขึ้นจากมุมมืดภายในห้อง แสงจากเทียนไขส่องให้เห็นใบหน้าของเขาเพียงซีกเดียว ใบหน้าซีกขวา…ที่มีรอยแผลเป็น
 
ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเทวรูป
 
"เริ่มแล้วสิ" น้ำเสียงที่แหบแห้ง แต่กลับแฝงเร้นด้วยพลังดังมาจากทางเทวรูป…เทวรูปพูดได้อย่างนั้นหรือ
 
ลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่านหน้าต่างห้องเข้ามาต้องเปลวเทียนสั่นไหววูบวาบ ส่องให้เห็นถึงนักบวชชรารูปหนึ่งนั่งหันหลังให้กับเทวรูปทองเหลือง
 
ริชาร์ดไม่แปลกใจต่อการถูกล่วงรู้ความคิดภายในใจของเขา
 
"ผมต้องทำยังไงต่อ…" ชายหนุ่มถาม
 
"มารเกิดขึ้นจากภายในใจ แต่ปีศาจเกิดขึ้นด้วยน้ำมือมนุษย์ ดับมารต้องดับที่จิตใจ กำจัดปีศาจต้องแก้ที่ต้นเหตุ…..." แสงเทียนดับลงพร้อมกับคำพูดของนักบวชชรา
 
"เมื่อถึงเวลาแล้วจะรู้เอง"
 
…………………………………………………………
 
ไม่นะ!!
 
"โอ๊ย!...แขนฉัน"
 
นาตาลีลืมตาเบิกโพลงมองดูแขนของตัวเองด้วยสีหน้าเจ็บปวด…เธอเรียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จึงพบว่าเธอนอนกลิ้งตกลงมาจากเตียง โดยมีแขนซ้ายผู้รับเคราะห์ถูกร่างอันบอบบางของเธอนอนทับอยู่
 
"ฝันไปเหรอเนี่ย........เฮ้อ"
 
เธอมองบานกระจกหน้าต่างที่ยังคงสภาพปกติอยู่เหมือนเดิม แสงอาทิตย์สีทองสาดส่องกระทบกลุ่มเมฆ ที่เรียงรายอย่างไม่เป็นระเบียบบนท้องฟ้าในเวลาหกนาฬิกาเศษๆ เมื่อมองดูมันผ่านหน้าต่างในห้องนอนแล้วก็ถือว่าเป็นวิวที่มีความสวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว
 
นาตาลีพยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลาย จะได้เตรียมตัวไปรับความรู้ที่โรงเรียนอย่างเต็มที่
 
ค่พยายามเท่านั้น ต่ไม่สำเร็จ
 
…………………………………………………………
 
"ชั้นนอนไม่หลับทั้งคืนเลยล่ะ" จูดี้ เพื่อนสาววัย 18 บ่นให้พวกเพื่อนๆ ของเธอฟังหลังจากผ่านพ้นคืนวันที่เกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยองมา
 
"แนต เธอล่ะเป็นยังไงบ้าง ฉันคิดว่าเครื่อง DC ของเราใช้ได้จริงๆ ล่ะ" จูดี้ยิงคำถามไปยังนาตาลีซึ่งกำลังนั่งมองเหม่อไปทางโต๊ะของริชาร์ดอยู่
 
"อือ" นาตาลีตอบปัดอย่างไม่ใส่ใจนัก จูดี้อึ้งกับคำตอบของนาตาลีไปพักหนึ่ง แล้วหันหน้ากลับไปเล่าเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลร้างให้เพื่อนๆ ฟังต่อ
 
ริชาร์ดไม่มาโรงเรียนวันนี้ นาตาลีรู้สึกไม่สบายใจเลยทั้งเรื่องของปีศาจเด็กทารก แล้วก็เรื่องเกี่ยวกับตัวเขา มันดูลึกลับจนน่ากลัวจริงๆ นาตาลีเหม่อมองดูดวงจันทร์นอกหน้าต่าง ที่ถึงแม้จะเป็นเวลากลางวันแต่จากมุมนี้เธอก็สามารถมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน
 
"แพทริกนายไปไหนมาน่ะ" อาเธอร์เอ่ยทักทายเพื่อนสนิทหลังจากที่เขาได้หายตัวไปเกือบครึ่งวัน
 
" ………เปล่า แค่รู้สึกไม่ดีเลยไปนอนที่ห้องพยาบาลมาน่ะ"
 
อาเธอร์ขมวดคิ้วทั้งสองจ้องมองเพื่อนของเขาที่ค่อยๆ หย่อนก้นลงบนเก้าอี้
 
“แพทริก......นายดูอ้วนขึ้นนะ”
 
“ ……” แพทริกไม่ตอบคำถาม แต่กลับจ้องมองอาเธอร์อย่างมีเลศนัย
 
ไม่นานนักเสียงไซเรนจากรถตำรวจก็เบนความสนใจของทุกคนไปยังนอกหน้าต่าง
 
"นั่นรถตำรวจหนิ"
 
"ตำรวจมาทำไมกันน่ะ"
 
“สงสัยพาลูกมาสมัครเรียนว่ะ”
 
หลากหลายคำถามและความเห็นดังขึ้นในห้องเรียน นักเรียนบางกลุ่มคิดว่าตำรวจมาตรวจสารเสพติด บ้างก็ว่ามาจับพวกที่เล่นการพนัน ตามแต่ที่ความคิดเห็นของเหล่านักเรียนชั้นมัธยมปลายจะคิดได้ นาตาลีรู้สึกสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา จึงหันหน้าไปถามเพื่อนสนิทของเธอ
 
"เธอว่าไงล่ะจูดี้...…" นาตาลีมองไม่เห็นเพื่อนสนิทของเธอเสียแล้ว
 
"ไปดูกันเร็วแนต" เสียงดังมาจากจูดี้ที่ไปโผล่หน้าประตูห้องเมื่อไรก็ไม่ทราบ
 
"สัญชาตญาณนักสืบของฉันมันบอกว่ามีคดีฆาตกรรมล่ะ" พูดจบเจ้าตัวก็เดินออกห้องไป ปล่อยให้นาตาลียืนงงอยู่กับแพทริก และอาเธอร์ นาตาลีหันไปมองหน้าเพื่อนชายทั้งสองเชิงขอความเห็น
 
อาเธอร์ยิ้มน้อยๆ ก่อนพูดกับนาตาลีว่า "ฉันว่ายัยจูดี้คงอ่านนิยายนักสืบมากเกินไปน่ะ นี่มันเรื่องจริง ไม่ใช่นิยายที่จะมาทำตัวเป็นนักสืบ" พอพูดจบเขาก็เดินตามจูดี้ไปอย่างรวดเร็ว
 
"ก็พอๆ กันทั้งสองคนนั่นแหละ" นาตาลียิ้มแห้งๆ พูดกับแพทริกที่ยิ้มออกมาอย่างอิดหนาระอาใจ
น่าเศร้าที่สัญชาตญาณนักสืบของจูดี้นั้นถูกต้อง…เพราะที่โรงเรียนมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นจริงๆ
 
" ……วันนี้ เมื่อ เวลา 11.00 น. ทางตำรวจได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่าพบศพ ของนางสาว A นักเรียนหญิง ของโรงเรียนมัธยมปลายยิ้มแฉ่ง โรงเรียนประจำเมืองมหานครยิ้มแฉ่ง ในบริเวณด้านหลังโรงเรียน ทางตำรวจกำลังพยายามสืบหาตัวคนร้ายเพื่อที่จะมาดำเนินคดี ลิลลาลี่ แมทธิว รายงาน"
 
นักข่าวสาวรายงานข่าวหน้ากล้องด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ตำรวจได้กันพวกนักเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ให้อยู่นอกเขตสืบสวน แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับจูดี้
 
ุ๊บ!
 
"ชู่ววว ระวังหน่อยสิ"
 
"ทำไมฉันถึงต้องมาทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้ด้วยเนี่ย"
 
อาเธอร์บ่นอุบอิบ กับเรื่องที่เขาต้องมาแปลงกายเป็นพุ่มไม้ตามความคิดของจูดี้ ทั้งๆ ที่ค้านเสียงแข็งแล้วก็ตาม แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่รุนแรงจนทนไม่ไหวทำให้เขาต้องจำยอมทำตามข้อเสนอเจ้าหล่อนในที่สุด
 
พุ่มไม้ปลอมอาเธอร์และจูดี้เคลื่อนตัวเข้ามาถึงจุดที่เกิดเหตุได้โดยไม่เผยพิรุธ อาจเป็นเพราะพวกตำรวจกำลังสอบสวนพยานที่พบเห็นเหตุการณ์อยู่ จึงไม่ทันสังเกตเห็นพุ่มไม้ผิดปกติที่เพิ่มเข้ามาในบริเวณแต่อย่างใด
 
"บนหน้าเขามีรอยแผลเป็นค่ะ มันยาวมากเลย"
 
"แล้วพอจะบอกได้ไหมครับ ว่าอยู่ที่ด้านไหน"
 
ภายใต้ท้องฟ้าที่เริ่มถูกเมฆฝนเข้าปกคลุมตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบในชุดสูทสีขาวกำลังทำการสอบสวนเด็กนักเรียนหญิงซึ่งเป็นพยานในเหตุการณ์อยู่ สำหรับใบหน้าของตำรวจหนุ่มผู้สอบถามนั้นอาเธอร์รู้สึกคล้ายกับเคยเห็นมาก่อน แต่เขาเองกลับนึกไม่ออกว่าเป็นที่ไหน
 
"ด้านขวาค่ะ"
 
"ขวา?…เอาล่ะขอบคุณครับ"
 
ตำรวจหนุ่มขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง การสวมแว่นกันแดดในเวลาที่เมฆฝนบดบังแสงอาทิตย์เช่นนี้ทำให้อาเธอร์นึกแปลกใจ หญิงสาวที่เป็นพยานมองหน้าของเขาอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะรีบเดินจากไป
 
ม่ใช่อาเธอร์เพียงคนเดียวที่แปลกประหลาดใจ
 
ปู้ดดดดดดด....เสียงของอะไรบางอย่างดังขึ้นที่พุ่มไม้ข้างกายตำรวจหนุ่ม เขาหันหน้าไปมองตามเสียงแต่ก็พบเห็นเพียงพุ่มไม้เท่านั้น…พุ่มไม้ที่แปลกประหลาด
 
"ผู้หมวดโซอา สารวัตรเรียกพบครับ"
 
ตำรวจในเครื่องแบบนายหนึ่งวิ่งหนึ่งเข้ามารายงาน เบนความสนใจของเขาออกจากเสียงเมื่อครู่ ท้องฟ้าเบื้องบนร้องคำรามเสียงดังลั่นเมฆฝนมืดครึ้มลอยเข้ามาเกาะกลุ่มรวมกันอย่างหนาแน่น
 
ผู้หมวดหนุ่มเหลียวหน้ากลับมามองที่พุ่มไม้ประหลาดอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามนายตำรวจชั้นผู้น้อยไป
 
จูดี้หันมาสบตาอาเธอร์ด้วยความตื่นตระหนก เม็ดฝนเม็ดเล็กๆ เริ่มตกลงมาใส่พุ่มไม้ที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่
 
ผู้หมวดโซอาเขามีความเกี่ยวพันธ์อะไรกับริชาร์ด โซอา! อาเธอร์เริ่มได้กลิ่นทะแม่งๆ แล้ว
 
...เป็นกลิ่นตดของจูดี้
 
 
 
To be continued…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา