ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  46.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) จับกด ขย่ม ขี่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      บุญกอบมองกายเพรียวบางที่สั่นสะท้านตามแรงกระแทก เขารู้สึกสะใจ เวลาต่อมา ก็เลื่อนสายตาไปที่ใบหน้าคมแนวลูกครึ่งของว่าที่นายสาว จึงพบว่าเจ้าหล่อนกำลังเคลิบเคลิ้ม ปากอ้ากว้าง เพื่อครวญครางระบายอารมณ์ 

 

“ อ้า…….ซี้ด……จะไม่ไหวแล้ว ทำไมเธอถึงแรงดีขนาดนี้ ” 

          

 

      อันที่จริง บุญกอบเองก็สุดทนเช่นกัน ทว่าเขาอยากเผด็จศึกขั้นเด็ดขาดมากกว่าการถูไถแบบนี้ และเมื่อความอดทนถึงขีดจำกัด หนุ่มร่างล่ำจึงขัดฝืนคำสั่งด้วยการเอาหัวทรงดอกเห็ดทิ่มพรวดเข้าไปในกลีบกุหลาบ

 

“ อื้อ……” 

         

 

      ว่าที่นายสาวสะดุ้งเฮือก ด้วยอาวุธร้ายที่เพิ่งล่วงล้ำ มีขนาดใหญ่ยักษ์มิใช่น้อย และเมื่อหัวบานเข้าไปนอนสงบนิ่งในถ้ำสวาทอันอุ่นร้อนเป็นที่เรียบร้อย เธอก็เอ่ยถามบุญกอบ สีหน้าดูเหยเก 

 

“ นะ….นายบุญกอบทำอะไรน่ะ ชั้นแน่นไปหมดแล้ว ไหนสัญญาว่าจะไม่แทงเข้ามาไง ” 

 

“ อู้ย…ขอโทษจริงๆครับ ผมทนความเซ็กซี่ของนายหญิงไม่ไหวแล้ว ขอซักทีเถอะครับ ” บุญกอบตอบเสียงสั่น ทั่วกายเปลือยที่ล่ำสันอุดมไปด้วยเม็ดเหงื่อ         

       

 

      ผู้จัดการสาวลูกครึ่งพยายามตีหน้าขรึม แต่ความกำหนัดที่ฝังอยู่ภายในช่างเร่าร้อนและรุนแรง ทำให้ไม่อาจวางตัวได้อย่างที่ตั้งใจ กระนั้น เธอก็ยังแสร้งทำเป็นเห็นใจได้อย่างแนบเนียน 

 

“ เอาล่ะ เห็นแก่ความเป็นคนซื่อของเธอ จัดมาให้สุดกำลัง แต่บอกไว้ก่อนนะ ห้ามเสร็จสมข้างในเด็ดขาด และให้ทำแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เข้าใจมั้ย ” 

 

“ เข้าใจครับ ” บุญกอบรับคำ สีหน้าแลบิดเบี้ยว เพราะอาวุธร้ายถูกผนังถ้ำอุ่นร้อนตอดรัดเป็นระยะ

           

 

      สองหนุ่มสาวขยับกายเล็กน้อย เพื่อจัดท่าให้เหมาะสมแก่การร่วมสุขีสโมสร และเมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง บุญกอบก็เริ่มเดินเครื่องสุดกำลังชนิดที่ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา 

 

“ ปั้บ ปั้บ ปั้บ……” 

          

 

      เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังระงมไปทั่วห้อง ผู้จัดการสาวสวยถึงกับไปเป็น เพราะไม่คิดว่าตนเองจะมาเจอพายุสวาทที่รุนแรงขนาดนี้ 

 

“ โอ้ว……เบาๆ บุญกอบ อย่ารุนแรงนัก อา….” 

          

 

       บุญกอบได้ยินเสียงร้องห้ามของผู้จัดการสาวอย่างชัดเจน แต่เขาหน้ามืดเกินกว่าจะรับฟัง เลยเอื้อมมือไปจับขอบชั้นในราคาแพง ก่อนกระชากออกในทีเดียว  

 

“ แคว๊ก….” 

 

“ ว้าย......”  

          

 

      ผู้จัดการสาวกรีดร้อง เธอตกใจในความป่าเถื่อนที่บุญกอบแสดงออกมา แต่หนุ่มอีสานร่างล่ำหาได้สนใจ เพราะในดวงตามองเห็นเพียงซาลาเปาคู่งามที่ขาวผ่องและกลมกลึง มิหนำซ้ำ บนยอดทรวงยังประดับประดาด้วยลูกเกดสีแดงอมชมพูที่สวยงาม 

 

“ นะ…นี่มัน ” 

         

 

      บุญกอบพึมพำได้สองสามคำ ก่อนทะยานเข้าไปบีบเคล้นสลับดูดเลียปลายติ่งเต้าอย่างเมามัน ทำให้ผู้จัดการสาวครวญดังด้วยความเจ็บเสียว 

 

“ ซี้ด…..อ้า….ยะ….ชั้นเจ็บ ” 

          

 

      แม้บุญกอบจะสาลาวนอยู่กับภูเขาเนื้อคู่งาม แต่ช่วงล่างยังขยับโยกอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับส่งอาวุธร้ายอวบใหญ่ให้ทิ่มแทงเป้าหมายอยู่ตลอด สร้างความเสียวสยิวแก่ว่าที่นายสาวจนต้องร้องเรียกชู้รักอยู่ไม่ขาด สองมือโอบลำคอล่ำสัน

 

“ อ้า…..บุญกอบ บุญกอบ บุญกอบ ” 

          

 

      เสียงครวญครางและเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังประสานกันจนแยกไม่ออกว่าเป็นของใคร ไม่กี่อึดใจ สองหนุ่มสาวต่างวัยก็ใกล้ถึงจุดเดือดของอารมณ์  

           

 

      เมื่อเป็นเช่นนี้ บุญกอบจึงโชว์พลังมหาศาลตามสไตค์ลูกอีสานด้วยการโหมกระหน่ำเข้าไปสุดกำลัง ทำให้โต๊ะไม้ราคาแพงสั่นไหว ราวกับถูกเขย่าด้วยมือยักษ์ที่มองไม่เห็น 

 

“ คึก คึก คึก…..” 

          

 

       ผู้จัดการสาวไม่กลัวว่าตนจะเจ็บช้ำยังไง โต๊ะไม้จะเสียหายหรือไม่ เพราะในยามนี้ อารมณ์ของเธอเตลิดไกลจนกู่ไม่กลับซะแล้ว และเมื่อถึงจุดสุดท้ายของศึกรักที่เร่าร้อน  แม่นางก็ตะโกนดัง 

 

“ โอ้ว……ทนไม่ไหวแล้ว อัดเข้ามาให้เต็มแรงเลย นายบุญกอบ ” 

         

 

      แม้ไม่สั่ง บุญกอบก็ไม่คิดยั้งมืออยู่แล้ว ด้วยเขาเองก็ใกล้ถึงสรวงสวรรค์เช่นกัน และเมื่อเสร็จสมอารมณ์หมาย หนุ่มร่างล่ำก็กดกายลงไปยังร่างงามที่ขาวโพลน เพื่อฝังอาวุธร้ายให้ลึกที่สุด 

 

“ อ้าก……สุดๆไปเลย ” 

          

 

      สิ้นเสียงคำราม ราวกับควายออกลูกของหนุ่มร่างล่ำ กระแสธารรักที่อุ่นร้อนก็กระฉูดเข้าไปในร่างบางของผู้จัดการสาวอย่างรุนแรง มันทำให้เธอกระตุกถี่และเสร็จสมไปพร้อมๆกัน 

 

“ อ้า…..โอมายก็อด โอมายก็อด…..” 

 

…………………..

          

       นายโมทย์ได้แต่ยืนกระวนกระวายอยู่หน้าห้องทำงาน และสิ่งที่เขากลัวที่สุดในยามนี้ก็คือ…… 

 

“ ไอ้บุญกอบจะพากูตกงานไปด้วยมั้ยนะ เพราะอาการรุ่มร่ามที่มันก่อ อาจทำให้คุณเมย่าหันมาเล่นงานกู โทษฐานที่พาคนอุบาทว์แบบนี้มาสมัครงาน ” 

           

 

      นายโมทย์เกิดอาการจิตตก ใบหน้าเครียดขึ้ง แต่หลังจากกลัดกลุ้มได้ระยะหนึ่ง วิทยุสื่อสารที่พกติดเอวก็ส่งเสียงดัง 

 

“ นายโมทย์อยู่รึเปล่า นี่ชั้นเอง ” 

          

 

      นายโมทย์จำได้ทันที เจ้าของเสียงนี้ก็คือ……เมย่า ผู้จัดการสาวสวยของภัตตาคารหรู จึงรีบรับสาย 

 

“ ครับ ผมฟังอยู่ คุณเมย่ามีอะไรให้ผมรับใช้ ” นายโมทย์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนอบน้อม 

 

“ อืม….มีแน่นอน ชั้นอยากให้นายโมทย์เข้ามาในห้องเดี๋ยวนี้ มีเรื่องจะสั่งงาน ” 

 

“ ได้ครับผม ” นายโมทย์รับคำเสียงเข้ม 

 

…………………

 

“ แอ๊ด……” 

          

 

      เสียงประตูแง้มเปิดช้าๆ และเมื่อ ร.ป.ภ.ร่างสูงเข้ามาในห้องเต็มตัว เขาก็พบกับสหายหนุ่มแต่วัยเยาว์ที่ยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ โดยมีผู้จัดการสาวลูกครึ่งนั่งปั้นหน้าขึงขังอยู่ไม่ห่าง 

 

“ เฮ้ย…..ไม่เข้าที บรรยากาศมาคุเหลือเกิน ” นายโมทย์พึมพำเบาๆ ในใจนึกสงสัยว่าสิบนาทีที่ผ่านมา บุญกอบได้ทำอะไรคุณเมย่ารึเปล่า เพราะใบหน้าของนายสาวในยามนี้ดูเคร่งเครียด ราวกับเปาบุ้นจิ้นในศาลไคฟง

          

 

      เมื่อนายโมทย์ก้าวมายืนเคียงเพื่อนซี้ ผู้จัดการสาวก็กล่าวเรียบๆ 

 

“ เอาล่ะ ในเมื่อมาพร้อมหน้าแล้ว ชั้นก็ขอออกคำสั่ง ” 

         

 

      นายโมทย์รู้สึกเจ็บแปล๊บในหัวใจ เพราะจากที่คาดการณ์ คำสั่งนั้นคงจะเป็น….ไล่ออก แต่ในอึดใจต่อมา เขาก็พบว่าสิ่งที่คิด นั้นผิดไปจากความเป็นจริงชนิดคนละเรื่อง 

 

“ ชั้นรับนายบุญกอบเข้าทำงานในตำแหน่ง ร.ป.ภ. และอยากให้เขาประจำจุดเดียวกับเธอไปก่อน เพื่อศึกษางาน ” 

 

“ อะ…เอ่อ…ครับผม ” นายโมทย์ชะงักงัน ก่อนรับคำ 

 

“ ดีมาก ในเมื่อไม่มีปัญหาอะไร รบกวนพาน้องใหม่ไปเบิกชุดที่แผนกเครื่องแต่งกาย จะได้เริ่มงานซะวันนี้เลย มีอะไรขัดข้องมั้ย ” นายสาวออกคำสั่งต่อ 

 

“ ไม่มีครับ ” สองหนุ่มรับคำพร้อมกัน 

 

……………………

          

      นายโมทย์เดินนำไปยังแผนกเครื่องแต่งกายที่ตั้งอยู่ในชั้นใต้ดิน เขายอมรับว่ามึนงงอย่างหนักหน่วงที่เพื่อนซี้ได้งานนี้ เพราะพฤติกรรมที่บุญกอบแสดงออกมา มันสุดแสนทุเรศจนผู้จัดการสาวไม่น่ารับได้ เลยหันไปถามตรงๆ 

 

“ เฮ้ย…..เอ็งทำอีท่าไหน คุณเมย่าถึงรับเข้าทำงาน ” 

          

 

      บุญกอบไม่ยอมเฉลยตามตรง เขาได้แต่อมยิ้มและตอบคำถามแบบกำกวม ให้ชวนสงสัย

 

“ บอกไม่ได้โว้ย ของแบบนี้ มันขึ้นอยู่กับลีลาและความเร้าใจ ”

        

 

       นายโมทย์รู้สึกเคืองนิดๆ แต่เขาก็เก็บอาการและพาเพื่อนสนิทไปยังจุดหมายปลายทาง

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา