ตลกร้ายใต้สะดือ

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 15.03 น.

  45 ตอน
  9 วิจารณ์
  45.86K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

24) เกือบถึงแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 24 เกือบถึงแล้ว

 

        การเบรกกะทันหันในครั้งนี้ ส่งผลให้บุญกอบเสียหลักจนเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่มือขวายังคงจับที่ราวโหน เลยทำให้พอประคองตัวเอาไว้ได้ 

 

“ ฟู่….เกือบไปแล้ว ” 

         

 

         ขณะที่บุญกอบรู้สึกโล่งอก เขาพบว่าคนอื่นไม่ได้โชคดีแบบตน มีหลายคนที่เสียหลัก บางคนก็ถึงกลับร่วงล้มลงไปนอนนับดาว บางคนก็หน้าคะมำไปกระแทกคนข้างหน้า พร้อมกันนั้นก็บังเกิดเสียงโอดโอยและก่นด่าอย่างพร้อมเพรียง 

 

“ โอ๊ย…ก้นกบหักมั้ยเนี่ย ” 

 

“ อู้ย เจ็บจังเลย ” 

 

“ ห่าเอย แม่งจะรีบไปตายที่ไหนฟะ ” 

 

“ คนขับ มันเมายาบ้ารึไงเนี่ย ” 

         

 

        บุญกอบรับฟังทุกถ้อยคำของผู้คนรอบข้างด้วยความรู้สึกที่พูดไม่ออก บอกไม่ถูก วินาทีต่อมา เขาก็พลันนึกถึงสาวหน้าจืดที่ยืนเคียง 

 

“ เอ๊ะ! น้องขิมจะเป็นยังไงบ้างนะ ” 

        

 

         คิดได้ดังนั้น เขาก็มองหาสาวจืดผู้ร่วมทาง เพียงไม่นานเขาก็พบกับบุคคลที่หมายปอง สาวขิมกำลังนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นใต้จุดที่เขายืน สองมือลูบคลำตามกายเพรียวบาง เพื่อบรรเทาความเจ็บปวด แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นที่หนุ่มอีสานร่างล่ำต้องสนใจ เพราะสิ่งที่เขากำลังโฟกัสอยู่ในเวลานี้ก็คือ…..หนองโพขาวผ่องที่ซ่อนอยู่ในปกเสื้อที่เปิดกว้าง  

 

“ เฮ้ย!.....นี่มัน……” บุญกอบกล่าวตะกุกตะกัก สายตาจับจ้องภูเขาไฟคู่งามอยู่ไม่ขาด และเขาก็มองเห็นมันอย่างถนัดตา เพราะกำลังประจำอยู่ในมุมสูงนั่นเอง 

         

 

        บุญกอบรู้สึกเพลิดเพลินกับการมองเอามาก ซาลาเปาคู่งามนั้นทั้งกลมกลึงและขาวปานหยวก มันบิดส่ายไปมาเบาๆตามจังหวะการเคลื่อนกาย สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือการไม่ได้เห็นเม็ดทับทิมที่ยอดภู เนื่องจากถูกชั้นในสีขาวปิดบัง 

 

“ อืม….นี่ถ้าน้องขิมโนบรา จะดีงามเอามากๆ ” 

         

 

         ในขณะที่บุญกอบกำลังยืนชมวิวที่เย้ายวนใจ อารมณ์หื่นกระหายก็ทะยานขึ้นสูงจนส่งผลให้มังกรอวบใหญ่ในเป้ากางเกงเกิดพองตัวขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันดูจะขยายตัวมากกว่าครั้งแรกถึงสองเท่าเลยทีเดียว 

 

“ อู้ย…จะไม่ไหวแล้ว อยากจะควักออกมาสาวให้สาแก่ใจเสียเหลือเกิน ” 

         

 

          บุญกอบนึกชั่วช้า ลามก สุดท้ายเขาก็ไม่กล้ากระทำ เพราะจุดที่เขาอยู่ในเวลานี้คือที่สาธารณะ แต่เขาก็ชมวิวได้ไม่นาน สาวขิมก็พลันลุกขึ้นยืน 

         

 

        ผู้โดยสารทุกคนเริ่มตั้งหลักได้ มีเสียงบ่นพึมพำไม่ได้ศัพท์ ส่วนใหญ่จะเป็นการกล่าวสดุดีวีรเวรของโชเฟอร์ตีนผี ใครที่แค้นหนักก็พร้อมใจกันงัดบรรพบุรุษขึ้นมาสวดส่ง 

 

“ ห่าเอย พ่อมึงตายรึไง ขับรถได้เหี้ยสุดๆไปเลย ” 

          

 

           แม้ผู้โดยสารทั้งคันรถจะพากันคั่งแค้น แต่บุญกอบกลับไม่สนใจ สิ่งเดียวที่เขาอยากกระทำก็คือ…การดอมดมกลิ่นกายที่หอมหวนของสาวขิม 

 

“ อืม…..เพียงแค่ได้กลิ่น ก็ฟินจนชวนขนลุกแล้ว ” 

          

 

           บุญกอบสูดลมหายใจเข้าออกแรงๆ เพื่อรับกลิ่นที่ชวนดมให้มากกว่าเดิม สายตาหื่นกระหายก็เหลือบแลไปทั่วบั้นท้ายที่งอนงาม 

          

 

           บุญกอบนึกอยากเอื้อมมือไปเคล้นคลึงบั้นท้ายงอนๆอีกครั้ง แต่เขาก็กลัวว่าจะมีใครเห็น อีกทั้งยังกลัวว่าสาวขิมจะโกรธเคืองและหันกลับมาด่า แต่เมื่อมองบั้นท้ายงามบิดไปมาได้ระยะหนึ่ง อารมณ์หื่นกระหายก็ทลายความกลัวของเขาอีกครั้ง 

 

“ เอาก็เอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ” 

            

 

            บุญกอบตัดสินใจเด็ดขาด ทว่าสิ่งที่เขากระทำไม่ใช่การบีบเคล้นอย่างที่ควร แต่เป็นการเอามังกรคะนองศึกไปทาบทับเนินเนื้อที่เต่งตึง 

 

“ เอ๊ะ!......” 

            

 

           ทันทีที่ถูกแนบชิด สาวขิมก็พลันสะดุ้งเล็กน้อย คล้ายเจ้าสิ่งที่กระทบถูกจะไปกระตุ้นต่อมสยิวที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ  

            

 

         บุญกอบค้างคาอาวุธร้ายอยู่อย่างนั้น สายตาก็เหลือบมองไปรอบข้าง เพื่อสำรวจผู้คนที่รายล้อม เมื่อเห็นว่ายังไร้ผู้ใดสนใจ เขาจึงเริ่มส่ายท่อนลำไปมาอย่างแผ่วเบา 

 

“ อู้ว…..เสียวท่อนลำดีเหลือเกิน นี่ขนาดยังไม่ได้ควักออกมานะเนี่ย ” บุญกอบพึมพำเบาๆ ใบหน้าเริ่มปรือลอยด้วยอารมณ์ที่เตลิดไกล 

          

 

           บุญกอบรู้สึกผิดคาดเล็กน้อย เพราะคิดว่าสาวขิมจะแสดงอาการขัดขืนออกมาบ้าง แต่ที่ไหนได้เธอกลับยืนนิ่งเฉยให้บุญกอบเสียดสี และถ้ามองไม่ผิด ก็ดูเหมือนว่าสาวเจ้าจะแอ่นบั้นท้ายเล็กน้อย เพื่อให้บุญกอบกระทำกามกิจโดยสะดวก นั่นสร้างความแปลกใจให้แก่หนุ่มอีสานร่างล่ำอย่างมากมาย 

 

“ แปลกชะมัด ทำไมน้องขิมถึงไม่ขัดขืนเลย มิหนำซ้ำยังดูโอนอ่อนผ่อนตามอีกต่างหาก ไม่ได้การล่ะ แบบนี้มันต้องเลื่อนขั้น ” 

           

 

          เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงเอื้อมมือซ้ายไปเคล้นคลึงซาลาเปาคู่งามที่หมายตา และในทันทีที่สัมผัสถูก กาย สาวขิมก็ตอบสนองด้วยการกระตุกเล็กน้อย พร้อมปลดปล่อยเสียงครางออกมาอย่างแผ่วเบา 

 

“ อา…..” 

           

 

           เเม้เสียงนั้นจะเบามากจนแทบไม่ได้ยิน แต่ก็หนีไม่พ้นหูผีของบุญกอบ นาทีนั้นเองบุญกอบก็ตีความได้ในทันที 

 

“ เฮ้ย…..น้องขิมกำลังเสียวอยู่นี่หว่า ” 

           

 

             บุญกอบรู้สึกได้ใจอย่างรุนแรง ความฮึกเหิมนี้ส่งผลให้อาวุธร้ายในเป้ากางเกงพองขึ้นอีกเท่าตัว เขาจึงปล่อยมือขวาออกจากราวเหล็ก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายใหม่ นั่นก็คือ…..เนินนาที่อวบอูม 

 

“ อื้อ……” 

          

 

           ทันทีที่มือขวาของบุญกอบสัมผัสถูก สาวขิมก็ถึงกลับสะดุ้งโหยง เสียงครวญเริ่มดังขึ้นไปอีกระดับจนบุญกอบนึกกลัวว่าจะได้ยินถึงหูคนอื่น เขาจึงหยุดชะงักการลวนลาม พร้อมเหลือบแลไปรอบข้าง แต่สถานการณ์โดยรวมยังคงสงบเรียบร้อย ยังไม่มีใครหันมาสนใจพวกเขา 

 

“ ฟู่……เกือบไปแล้ว น้องขิมครางดังจนเกือบได้เรื่อง แหม…..อยากจะประกบปากจูบ เพื่อเก็บเสียงเสียจริงๆ ทำไมไม่รู้จักเก็บอาการซะบ้างเลย แย่มาก ”  

           

 

          บุญกอบนึกตำหนิสาวจืดนิดหนึ่ง จากนั้นก็หันมาโฟกัสกับฝ่ามือที่โปะแปลงนาผืนโต เขายอมรับว่ามันเต็มไม้เต็มมือเสียเหลือเกิน แถมยังเว้าโค้งเป็นรูปหลังเต่าเสียอีก มันชวนให้เขาหื่นกระหายจนนึกอยากจะเสียบเสียให้มิดด้ามในทีเดียว แต่สุดท้ายเขาก็ยับยั้งการกระทำ 

 

“ ใจเย็นๆ เราจะทำแบบนั้นไม่ได้ ที่นี่มีคนอยู่เยอะเกินไป ” 

           

 

          บุญกอบลวนลามสาวขิมเต็มรูปแบบอย่างไม่คิดจะอายใคร มือซ้ายก็นัวเนียอยู่ที่เรือนกายช่วงบน ส่วนมือขวาก็ปลุกเร้าอยู่ที่เรือนกายช่วงล่าง พร้อมบิดส่ายเอวไปมา เพื่อบังคับอาวุธร้ายให้เสียดสีกับบั้นท้ายที่งอนงาม 

 

“ อื้อ….อา….อืม….”  

           

 

         สาวขิมกระตุกแรงตามจังหวะการทิ่มแทง ปากก็อ้าออกมาเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยเสียงครางเบาๆ ดูเหมือนว่าอารมณ์ของเธอจะเริ่มเตลิดไกล 

            

 

          ถึงนาทีนี้ บุญกอบไม่สนแล้วว่าใครจะลอบมอง เพราะเขาทะยานอยากถึงขีดสุด เขาจึงปล่อยมือที่กำลังลูบคลำแปลงนาผืนโต เพื่อจัดการรูดซิปกางเกงลง 

 

“ เอาล่ะ เตรียมเจออาวุธหนักได้แล้ว น้องขิมจ๋า ” 

           

 

          เหมือนบุญมี แต่กรรมบัง ในจังหวะที่ซิปน้อยกำลังจะถูกรูดลง มันก็ดันติดกับเป้ากางเกงไปซะอย่างงั้น ส่งผลให้มันรูดลงได้เพียงครึ่งเดียว 

 

“ อ้าว เฮ้ย! เป็นหยังวะ ” บุญกอบสบถด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง มือก็เพียรขยับซิปอย่างจริงจัง เพื่อหวังว่ามันจะรูดลงจนสุดทาง แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไง มันก็ยังคงติดอยู่ที่เดิม 

 

“ บ้าฉิบ ทำไมซิปดันมาเสียในเวลานี้ด้วยฟะ ซวยชะมัด ” บุญกอบคำรามในลำคอ ดูท่าทางเขาจะหัวเสียที่อะไรๆมันไม่เป็นไปตามประสงค์ 

          

 

          ขณะที่เขากำลังหมกมุ่นอยู่กับตัวเอง รถเมล์เจ้ากรรมก็พลันเบรกอีกครั้ง คราวนี้มันเบรกไม่แรงเหมือนครั้งแรก เลยทำให้บุญกอบเสียหลักเพียงเล็กน้อย และเมื่อประตูรถเปิดขึ้น บุญกอบก็พบว่า……มันถึงป้ายที่เขาต้องลงแล้ว 

 

“ อ้าว….เฮ้ย ถึงที่ทำงานแล้วนี่หว่า ” 

          

 

          ทันทีที่รถจอดสนิท สาวจืดร่างงามก็เดินตรงไปที่ประตู เพื่อลงจากรถ ภาพดังกล่าวทำให้บุญกอบนึกห่อเหี่ยวที่ต้องคลาดแคล้วจากสวรรค์ชั้นฟ้าที่ใฝ่ฝัน แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกเสียจากเดินตามหญิงสาวไปเนือยๆ 

 

“ เฮ้อ…..พลาดเป้าอีกแล้ว กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มแท้ๆ ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจJalandoนักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณชอบนิยายเรื่องนี้แค่ไหน

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา