สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  52.24K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ฝันสยองของมะลิ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

​"ผมว่าจะไม่เล่าอยู่แล้วนะ ไม่อยากจะเล่าเลย ไม่ว่าพี่กิตจะรู้อะไรหรือไม่รู้อะไร..." จันพูดเสียงหวาดๆ

ผมส่ายหัวพลางมองกลับไปที่ตัวบ้านแฝดสองชั้นนั้น

"ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเรื่องนี้นะพี่กิต " จันเล่าต่อ "แล้วที่จริงผมก็ไม่ใช่คนกลัวผีอะไรนักด้วย แต่พอเมื่อสองสามวันที่ผ่านมามะลิกลับฝันแปลกๆน่ากลัวขึ้นไปอีก แถมยังเห็นชัดด้วย..."

"ฝัน.. ฝันน่ากลัวขึ้นไปอีก.. แล้วเห็นหน้าเขาชัดเลยหรือ ?

"ไม่ใช่พี่..." จันส่ายหัว "มะลิเห็นหน้าเขาไม่ชัดหรอก เพราะหน้าเขาอยู่ในเงามืด แต่ที่เห็นชัดและน่ากลัวมากก็คือ... มะลิน่ะได้เห็นมือที่มาจับขาในความฝันนั้นมีขนขึ้นดกรุงรังยาวไปถึงต้นแขนเขาเลยนะพี่"

"ห๋าาา !" ผมอุทาน แต่จันยังพูดต่อ 

"มะลิตกใจมากๆจนหวีดร้องเสียงดังในความฝัน แล้วก็ตกใจตื่นขึ้นมา เหงื่องี้แตกพลั่กๆเลยล่ะ"

"มือและแขนของผู้ชายในความฝันมีขนขึ้นดกรุงรังรึ..? ผมทวนคำของจัน

ให้ตายเถอะ ในห้วงหนึ่งของความทรงจำอันลางเลือน ในความฝันครั้งหนึ่งของผมที่ไม่ค่อยอยากจะจำนั้น จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า มือของคนที่มาจับขาข้างหนึ่งของผมในความฝันนั้นก็มีขนขึ้นดกรุงรังด้วยเหมือนกัน ถ้าจันไม่เล่าให้ผมฟังว่ามะลิฝันแบบนี้ ผมก็คงลืมเลือนฝันนี้จนจำแทบไม่ได้ไปแล้ว นี่หมายความว่าผมกับมะลิก็ฝันคล้ายๆกันน่ะสิ...

"แต่ว่า.. ทำไมมะลิ..." พอดีผมหันไปเห็นมะลิกำลังกวาดบ้านอยู่ตรงระเบียงชั้นสองของบ้านแฝด "ทำไมมะลิเหมือนกับไม่ได้กลัวอะไรเลยล่ะ ?"

"โอ๊ย ข้างนอกเธอเหมือนไม่กลัว แต่ข้างในเธอกลัวไม่น้อยเลยล่ะพี่ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีหนี้สินที่จะต้องเคลียร์กันอีกเยอะแล้ว ผมกับมะลิก็คงจะเผ่นตามคนอื่นๆไปแล้วล่ะพี่ ผมก็ได้แต่คิดกับมะลิว่า เราสองคนมาดี เขาคงไม่ทำอะไรเราหรอกมั้ง ?" จันว่า

แล้วลมเย็นๆก็พัดกรูเกรียวมาอีกระลอกหนึ่ง และคราวนี้ดูเหมือนจะเยียบเย็นยิ่งกว่าเดิม ในสายลมนั้นๆแว่วๆเหมือนมีใครหัวเราะเสียงต่ำๆปะปนมา

"พี่ได้ยินไรไม๊...?" จันหรี่ตาถามพลางหันไปหันมาล่อกแล่ก

"เสียงลมพัดใส่ต้นไม้น่ะ ดูสิใบไม้ร่วงกราวเลย" ผมว่า

"ลมพัดใส่ต้นไม้เป็นเสียงหัวเราะได้เหรอพี่ ?"

"จัน...!" เสียงของผมดังขึ้นมาอีกโดยผมไม่รู้ตัว

ผมไม่อยากบอกจันเลยว่าผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะนั้นด้วยเหมือนกัน แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ มันอาจจะไม่ใช่เสียงหัวเราะ อาจจะเป็นเสียงลมปะทะกับอะไรจนฟังคล้ายเสียงหัวเราะก็เป็นได้

"นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยินนะพี่กิต มะลิกับผมก็เคยได้ยินเสียงหัวเราะแบบนี้มาแล้วในตอนที่เรากำลังนั่งคั้นน้ำเสาวรสและกำลังคุยกันถึงเรื่องที่มีคนตายที่นี่"

แล้วจันก็ส่ายหัว "ตอนนี้ผมชักจะไม่แน่ใจซะแล้วว่า ออกมาพูดกันอยู่นอกบ้านแบบนี้แล้วเขาจะไม่ได้ยิน"

"เคยมีคนตายที่นี่ด้วยเหรอจัน ?" ผมถาม

"เรื่องนี้ผมก็ไม่แน่ใจนะพี่ ผมกับมะลิก็แค่สันนิษฐานเอาไว้อย่างนั้น"

"ไม่เคยลองไปถามคนข้างบ้านดูบ้างเหรอ เผื่อเขาจะรู้อะไรกันบ้าง ?"

"โอ๊ย พวกผมมันก็แค่คนงานต่างด้าว ไม่กล้าออกไปคุยวุ่นวายกับคนข้างบ้านหรือใครที่ไหนหรอกพี่"

"สรุปคือ จันและมะลิคิดว่า ที่บ้านนี้มีผีแน่นอน"

"ไม่ใช่แค่ผมกับมะลิ แต่พวกคนงานทุกคนที่เคยมาทำงานอยู่ที่นี่ก็รู้สึกได้กันทุกคน เห็นไม๊ล่ะพี่ คนงานกี่รุ่นๆทำงานกันแค่ไม่กี่วันก็เผ่นหนีกันหมด ก็อย่างที่พี่กิตสงสัยนั่นแหล่ะว่า ทำไมพวกเขาถึงอยู่กันไม่ทน"

ผมหันไปมองบ้านแฝดนี้อีกครั้งแล้วก็ขบคิด

ถ้าหากเรื่องที่จันเล่ามาเป็นเรื่องจริงที่ไม่ได้อุปทานกันไปเองแล้ว นี่ก็สามารถตอบคำถามที่ผมสงสัยได้อีกอย่างว่า ทำไมบ้านแฝดหลังนี้ถึงได้มีสภาพรกร้างทรุดโทรมน่ากลัวขนาดนี้...

แต่ผมก็ยังไม่ยินยอมที่จะเชื่อเรื่องที่จันเล่าให้ผมฟังนี้ซะทีเดียว ผมไม่เคยจำได้เลยว่าตัวเองเคยเจอผีหรือวิญญาณอะไรที่ไหนมา เรื่องที่นึกได้ว่าเหมือนฝันแปลกๆก็อาจจะแค่บังเอิญตรงกับที่มะลิฝันเท่านั้นเอง

มันช่างเป็นสิ่งที่เชื่อได้ยากซะเหลือเกิน สำหรับผมที่เป็นคนหัวสมัยใหม่ในยุคนี้

จนกระทั่งวันนั้น... วันที่ผมประจักษ์ได้ว่า... เขามีอยู่จริง... !

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา