สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  53.55K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

31) ทางออกถูกปิด !

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

แล้วหญิงงามผู้ชื่อกุสุมาคนนี้ก็เบนสายตาอันแข็งกร้าวนั้นไปจากไอริณ เธอเหม่อมองขึ้นไปยังด้านบนด้วยอาการเหม่อลอย ราวกับกำลังหวนนึกถึงเหตุการณ์หรือเรื่องราวอะไรบางอย่างที่มีความหมายบางอย่างกับเธอ

แล้วผมก็เอื้อมมือไปจับข้อมือไอริณ เพราะพอผมได้เห็นสายตาแบบเมื่อกี้ของกุสุมาแล้ว ผมก็รู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นดูท่าจะมีปัญหาแน่...?!

"น้องริณ...?" ผมกระซิบออกมาเบาๆ

"ใจเย็นๆค่ะพี่กิต..." ไอริณกระซิบตอบกลับมา "จริงๆมันก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรมากมายนักหรอก..."

"เรื่อง...? เรื่องอะไรกันล่ะ....?" ผมยังกระซิบถามกลับไปเบาๆ

"เรื่องระหว่างเธอผู้นี้กับพี่สาวของริณ... มันเป็นเรื่องเก่าๆน่ะ..."

"หมายความว่า... พวกเขาเคยเจอกันมาก่อนเหรอ ?"

"ใช่แล้ว... พี่สาวของริณเคยเล่าให้ริณฟังด้วยตัวเองเลยล่ะค่ะพี่กิต" ไอริณอธิบายเบาๆ

หลังจากที่หญิงงามที่ชื่อกุสุมานั้นเหม่อลอยและนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งแล้ว เธอก็หันกลับมามองไอริณด้วยแววตาที่ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนัก

"ฉันอุตส่ารู้สึกถูกชะตากับเธอ..." กุสุมาเชิดหน้าพูด "แต่ว่า... สิ่งที่พี่สาวของเธอได้เคยทำกับฉันไว้นั้น ฉันกลับลืมมันไม่ได้เลยจริงๆ แม่สาวน้อย...!"

พอสิ้นเสียงของเธอแล้ว ก็มีเสียงเหมือนมีโลหะบางอย่างเลื่อนครืดคราดอยู่ทางด้านหน้าประตูอันเป็นทางที่เราได้เข้ามากัน

พวกเราทั้งสามจึงรีบหันกลับไปมองทางทิศนั้นด้วยความแปลกใจสุดๆ...?!

"รู้ไม๊... ว่าทำไมฉันถึงปล่อยให้พวกเธอเข้ามาในนี้กันได้ง่ายๆ ?" กุสุมาถามพวกเรา

"ทำไมล่ะคะ พี่กุสุมา ?" ไอริณถามกลับไปด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะดีเท่าไร

"เจ้านายของฉัน มีความต้องการที่จะให้พวกเธอทั้งหมดถูกขังกันอยู่ในนี้ จนกว่าท่านจะกลับมา และเขาก็อยากจะทรมานให้พวกเธอได้อดอาหารกัน ตั้งแต่วันนี้ไปซะด้วยซ้ำนะ..." กุสุมาพูดด้วยรอยยิ้มหยันๆ

"น่าเสียดายนัก..." กุสุมาพูดต่อไป "ที่น้องไอริณกลับเป็นศิษย์ของนังอาคิราห์ ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นศัตรูคนหนึ่งของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันคงจะมีข้าวปลาอาหารมาส่งให้ในระหว่างที่พวกเธอถูกขังกันอยู่ในนี้อย่างน้อยก็วันละหนึ่งมื้อล่ะนะ..."

แล้วเธอก็เดินกลับไปนั่งที่แท่นศิลา ก่อนจะพูดต่อไปอีก "มันช่างน่าเสียดายจริงๆที่สุดท้ายพวกเธอก็จะต้องอดโดยจะไม่ได้อะไรมากินกันอีกเลย นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...!" แล้วกุสุมาก็ส่งเสียงหัวเราะอันแหลมเล็กออกมารอบหนึ่ง

"ถ้างั้นเสียงที่ดังจากหน้าประตูเมื่อกี้นั่น...?" ผมหันไปมองหน้าไอริณ

"เราถูกขังกันซะแล้วล่ะพี่กิต...!" ไอริณตอบด้วยรอยยิ้มแค่นๆ

"อะ... อะไรนะ เรา... เราถูกขังเหรอพี่กิต ? !!" จันที่กำลังเกาะแขนผมอยู่ถามขึ้นมาเสียงดัง พลางหันมามองผมกับไอริณกลับไปกลับมาด้วยสีหน้าอันตื่นตระหนก

แล้วกุสุมาก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างขันๆออกมาอีกครั้งหนึ่ง "ใช่แล้ว... ประตูนั่นยังมีชั้นนอกอีกชั้นนึง ที่พวกเธอคงไม่ทันจะได้สังเกตุกัน เพราะตอนนั้นประตูชั้นนอกได้ถูกเปิดเอาไว้ก่อนแล้ว แต่บัดนี้มันก็ได้ถูกปิดและล็อกไว้จากด้านนอก ด้วยบริวารของฉันเอง... ไม่รู้ว่าพวกเธอจะได้สังเกตุกันมาก่อนบ้างหรือเปล่าว่า แถวๆรอบๆบ้านนี้ มักจะมีแมวมาป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่หลายตัว และพวกมันนั้นต่างก็เป็นบริวารของฉันซะส่วนใหญ่เลยล่ะนะ.... อ้อ... เมื่อตอนหัวค่ำ ฉันก็ได้สั่งให้พวกมันไปสั่งสอนพวกเธอมาซะรอบหนึ่งแล้วนี่นะ เป็นไงสนุกกันมากไม๊ล่ะ... แต่ฉันก็อดจะทึ่งพวกเธอไม่ได้นะ ที่สามารถเอาตัวรอดไปจากคมเขี้ยวคมเล็บของเหล่าบริวารฉันไปได้อย่างหวุดหวิด​น่ะ..!" แล้วกุสุมาก็ส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาอีก

"ก็แล้ว... ก็แล้วเธอล่ะ จะออกไปจากห้องนี้ได้ยังไง... ?" พอผมหลุดปากถามไปยังงั้น ผมก็รู้สึกตัวทันทีว่า มันช่างเป็นคำถามที่โง่เขลานัก ส่วนไอริณเองก็ถึงกับเลิกคิ้วมองหน้าผมทันที

"ฮิฮิ... ที่จริงฉันเป็นแมวเหมียวนะ แถมเป็นแมวปิศาจ และฉันนั้น จะออกไปทางไหนก็ได้นะพ่อรูปหล่อ..." กุสุมายักคิ้วพูดยิ้มๆ แต่ดวงตาของเธอกลับส่องประกายอันน่าขนลุก

ผมหันกลับไปมองไอริณ "ทำไมวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์นั่น ถึงชักนำให้พวกเราลงมาถูกขังกันแบบนี้ล่ะน้องริณ ...?"

"ถึงตอนนี้... ริณก็เข้าใจแล้ว..." ไอริณมองตาผม "ว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงมีสายตาเศร้าๆแปลกๆ ก่อนที่จะนำทางพวกเราลงมาที่นี่..."

ผมจ้องหน้าไอริณอย่างงงๆ "ทำไม... ทำไมล่ะน้องริณ...?"

"ก็เขาถูกควบคุม หรือถูกบังคับให้ทำอย่างนั้นไงล่ะคะพี่กิต...!"

"ห๋า...?!!" ผมอุทานออกมาเสียงดัง

แล้วกุสุมาก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยเสียงที่ดังยิ่งกว่าเดิม ราวกับจะสะใจกับการที่ได้เห็นความโง่เขลาของพวกเราทั้งสามคน

"รู้ไม๊ว่า..." เธอพูดขึ้นหลังจากได้หยุดหัวเราะแล้ว "เจ้าผีขนดกนั่นอาจจะกำลังแอบหลั่งน้ำตาอยู่ในตอนนี้ก็ได้นะ...?"

"แล้ววิญญาณ... ของชายผู้น่าสงสารคนนั้น ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน... รีบบอกฉันมา...?!" ผมถามออกไปด้วยเสียงอันดังลั่น จนเสียงของผมนั้นก้องสะท้อนไปทั่วห้องใต้ดิน เพราะในใจของผมขณะนี้นั้น อดจะเกิดความเวทนาต่อวิญญาณของชายที่ชื่อสิงห์จนถึงขีดสุดไม่ได้

ไอริณนั้นถึงกับตาโตอย่างแปลกใจกับเสียงอันดังสนั่นของผม ส่วนจันก็ถึงปากค้างตาค้างราวกับถูกใครสตั๊ฟไว้ทันที

แล้วผมก็มารู้สึกตัว ว่าเสียงของผมนั้นท่าทางจะโชว์พาวไปหน่อย โดยที่ผมก็ไม่ได้ตั้งใจไว้สักนิด...

กุสุมานิ่งเงียบไปชั่วขณะ หลังจากที่ผมได้ใช้เสียงแบบนั้นถามออกไป

จากนั้น เธอก็ค่อยๆลุกออกมาจากแท่นศิลานั้น และก้าวย่างเข้ามาหาผมอย่างช้าๆเนิบนาบ ด้วยประกายตาอันแสนจะน่ากลัวและน่าขนลุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม..!

ส่วนผมนั้นก็อดจะก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวไม่ได้ และไม่ใช่ว่าผมกลัว... แต่ผมมีความรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกสายตาของเธอสะกดและควบคุม และผมก็ต้องการจะหนีจากการถูกสะกดนั้นไปให้ได้...!!

 

(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้ครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา