สืบสู้ผี ภาค 1-2

8.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 09.18 น.

  73 ตอน
  3 วิจารณ์
  53.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

39) การจากไปของกุสุมา (จบภาค 1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"พี่เชื่อน้องกุสุมาเรื่องกุญแจ 13 ดอกนี่" พี่เมฆพยักหน้าเนิบๆ "เห็นเธอว่า ไอ้ตาไฟมันหามาได้หลายดอกแล้วรึ? "

"ถูกแล้ว ตอนนี้นายท่านของฉันหากุญแจพวกนี้มาได้ถึง 5 ดอกแล้ว" กุสุมาพูดพลางมองดูกุญแจประหลาดในมือตัวเอง "เหลืออีกเพียง 8 ดอก ท่านก็จะสามารถใช้มันเปิดประตูมิตินรกให้เชื่อมต่อกับโลกนี้ได้อย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่โลกนี้เท่านั้น แม้แต่โลกในมิติอื่นๆ ท่านก็สามารถจะเชื่อมต่อประตูนรกเข้าไปหาได้ทั้งหมด"

"หลายๆ ปีที่ผ่านมานี่ มันคงตามหากุญแจมาได้หลายดอกเลยสินะ "พี่เมฆกอดอกครุ่นคิด " มิน่าล่ะ... ว่าทำไมในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มันถึงได้ไม่ก่อเรื่องอะไรใหญ่โตเหมือนเมื่อในครั้งอดีต เออ... แล้วกุญแจดอกนี้ทำไมถึงมาอยู่ที่น้องกุสุมาได้ล่ะ ทำไมมันถึงไม่เก็บไว้กับตัวมันเอง เอามาให้เธอเก็บอย่างนี้ แล้วถ้าเธอเกิดหักหลังมันขึ้นมา มันก็ต้องเสียกุญแจไป 1 ดอกสิ? "

กุสุมาหัวเราะออกมาเบาๆ "นายท่านของฉันน่ะ มั่นใจว่าฉันจะไม่หักหลังท่านอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ก็ในตอนนี้ล่ะ..."

พี่เมฆจ้องหน้าของกุสุมาสลับกับกุญแจในมือเธอ "น้องกุสุมา... กุญแจพวกนี้ดูท่ามันจะอันตรายเกินไป เอามาให้พี่เก็บไว้จะดีกว่านะ? "

ไม่ใช่แค่พูด แต่พี่เมฆได้ใช้ความเร็วเพื่อจะฉกชิงกุญแจในมือของกุสุมาทันที!

แต่กุสุมาก็เหมือนจะรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว จึงถอยร่างออกมาจากพี่เมฆอย่างรวดเร็ว ทำให้พี่เมฆคว้าได้แต่อากาศธาตุ!

กุสุมาหัวเราะอย่างขำๆ ออกมาอีกครั้ง "ของสำคัญขนาดนี้ ฉันให้ใครเอาไปเก็บไว้ไม่ได้หรอกนะ เพราะตอนนี้มันเป็นของนายท่านฉันแล้ว และฉันก็จำเป็นที่จะต้องส่งคืนนายท่านอีกครั้ง หลังจากที่ฉันได้ใช้งานมันเสร็จแล้ว"

"ใช้งาน...? " พี่เมฆขยับเข้าไปหากุสุมาอีกก้าวหนึ่ง กุสุมาก็ถอยไปอีกก้าวหนึ่ง "เจ้านายของเธอเขามอบหมายงานอะไรให้เธออีกล่ะ เขาสั่งให้เธอใช้กุญแจดอกนี้อย่างงั้นเหรอ แล้วแค่กุญแจดอกเดียวมันก็คงจะทำอะไรไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? "

"ตราบใดที่ฉันยังเป็นทาสรับใช้ของนายท่าน ฉันก็ต้องทำตามคำสั่งของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ส่วนกุญแจดอกนี้..." เธอว่าแล้วก็ชูกุญแจขึ้นมาอีกครั้ง "ใครว่ากุญแจดอกเดียวจะทำอะไรไม่ได้? กุญแจดอกนี้ถือได้ว่าเป็นกุญแจดอกที่ 5 ที่นายท่านเพิ่งจะได้มาหมาดๆ และนายท่านก็เพิ่งจะส่งมาให้ฉันเมื่อสักครู่นี้เอง มันเป็นดอกกุญแจที่มีพลังมหัศจรรย์ในตัวของมันเอง และพอนายท่านได้มันมาแล้ว ก็สั่งให้ฉันเปลี่ยนแผนการอะไรๆ หลายอย่างที่เคยได้วางไว้ก่อนหน้านี้ เช่น แผนการที่จะกักขังพวกน้องๆ ของพี่ไว้ในห้องใต้ดินนี้ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะแค่กุญแจดอกนี้ดอกเดียว มันก็จะทำให้อะไรๆ หลายอย่างเปลี่ยนไปอย่างมากมาย! "

ผมและคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ด้านหลังพี่เมฆต่างก็ตกตะลึงกับคำพูดของกุสุมา แค่ได้กุญแจนี้มาดอกเดียว ก็ทำให้บุรุษที่มีดวงตาราวกับไฟนรกนั่นถึงกับยกเลิกแผนการที่จะกักขังพวกเราไว้ที่นี่เลยอย่างนั้นเหรอ... ก็แล้วแผนการใหม่ของมันน่ะ คืออะไรกันล่ะ? ในเมื่อกุสุมาพูดออกมาอย่างนี้ ก็หมายความว่ามันต้องสั่งให้เธอใช้ดอกกุญแจนั่นทำอะไรสักอย่างแน่ๆ?

"ส่งกุญแจนั่นมาให้พี่เถอะน้องกุสุมา... พี่ขอร้อง" พี่เมฆแบมือออกไปเหมือนหวังว่ากุสุมาจะเปลี่ยนใจมอบกุญแจให้เขา "นี่มันเพราะอะไรกันนะ ที่ทำให้เธอต้องตกเป็นทาสของเขาอย่างมัวเมาเช่นนี้ วันหนึ่งพี่คนนี้จะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากการเป็นทาสไอ้ปิศาจร้ายอย่างมันให้ได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นตอนนี้ มอบกุญแจนั่นมาให้พี่เอาไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยก่อนเถอะนะ น้องกุสุมาคนดีของพี่ "

"ไม่มมมม...! " กุสุมาลากเสียงปฏิเสธ และพริบตานั้น ผมก็ได้เห็นว่าที่หางตาของกุสุมาเหมือนจะมีหยาดน้ำตาไหลซึมออกมา และผู้หญิงคนนี้ดูๆ ไปแล้วก็ไม่ใช่คนที่น่ากลัวเหมือนกับที่เห็นในตอนแรก แต่เธอกลับเป็นผู้หญิงที่หัวเราะง่าย และหลั่งน้ำตาง่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ... หรือว่าน้ำตาที่ซึมออกมาในครั้งนี้ จะเป็นเพราะความรู้สึกที่สะกิดใจในคำพูดบางคำของพี่เมฆเรากันนะ?

"ทำไม่ได้หรอก... นายเมฆทำอะไรไม่ได้หรอก มันสายเกินไปแล้วล่ะ..." สิ้นคำพูดของกุสุมาประโยคนี้ เธอก็หันลำตัวไปอีกทาง แล้วพุ่งทะยานไปในทางที่เป็นหน้าประตูห้องใต้ดินทันที!

"กุสุมาหยุดนะ?!! อย่าเพิ่งไป...?!! " พี่เมฆตะโกนตามหลัง แล้วก็หันหลังเหลือบมองพวกเราวูบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะออกวิ่งตามกุสุมาไปโดยไม่พูดอะไร

ผมหันไปสบตากับไอริณและพวกเราที่เหลือ แล้วก็พร้อมใจกันวิ่งตามพี่เมฆไป

พอเราวิ่งตามมาถึงพี่เมฆ ก็เห็นเขากำลังยืนมองกุสุมาอยู่ห่างๆ ในขณะที่กุสุมากำลังใช้กุญแจประหลาดดอกนั้นสอดไปที่รูกุญแจที่อยู่ข้างประตูห้องใต้ดิน

"น้องกุสุมา จะทำอะไร?! " พี่เมฆถามออกไป

แต่กุสุมาไม่หันกลับมาและไม่ตอบอะไร และในจังหวะนั้นเอง สิงห์ที่อยู่ในร่างของนุชก็ทะยานเข้าไปที่ด้านหลังของกุสุมาพร้อมกับพุ่งมือไปหมายจะดึงกุญแจนั้นออกมาทันที!

พวกเราที่เหลือต่างก็ตกตะลึงตาค้าง เพราะไม่คาดว่าสิงห์จะลงมือทำอย่างนั้น แต่ก่อนที่มือของสิงห์จะถึงกุญแจ กุสุมาก็เหวี่ยงแขนกลับหลังโดยไม่หันมามองข้างหลัง!

พริบตานั้น ผมก็เห็นร่างของสิงห์ผงะกระดอนลอยล่ะลิ่วถอยหลังออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ!

ให้ตายสิ...! ผมอุทานในใจ เพราะก่อนที่ผมจะเห็นสิงห์กระเด็นออกมาอย่างนั้น ผมมองไม่ออกเลยว่า แขนที่เหวี่ยงกลับหลังมาของกุสุมานั้น ไปกระทบกับร่างของสิงห์เข้าตอนไหน เพราะมันเหมือนจะมีพลังที่มองไม่เห็นเหวี่ยงร่างของสิงห์ออกมาอย่างแรงซะมากกว่า...?!

พี่เมฆรีบวิ่งเข้าไปประคองร่างของสิงห์ ปากก็ตะโกนไปที่กุสุมา "กุสุมา!! พี่บอกให้....? "

คำพูดพี่เมฆยังไม่ทันจบคำ เสียงคริ๊กจากการไขกุญแจก็ดังให้พวกเราได้ยิน

กุสุมายังคงยืนหันหลังให้พวกเรา จากนั้นประตูห้องใต้ดินก็เลื่อนเปิดขึ้นพร้อมด้วยเสียงที่ดังครืดคราด จากนั้นแสงสีขาวเจิดจ้าก็สว่างวาบขึ้นมาเต็มช่องกรอบประตู

กุสุมาค่อยๆ เหลียวหน้ากลับมาหาพวกเรา แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องอยู่ที่พี่เมฆ และหางตาของเธอในตอนนี้ก็ยังปรากฏคราบรอยของน้ำตาให้เห็น

"กุสุมา... น้อง...? " พี่เมฆดูเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก เขาค่อยๆ เดินเข้าไปหาเธอ

แต่ก่อนที่พี่เมฆจะเดินไปถึงตัว เธอก็พูดขึ้น "ขอโทษด้วยนะ..." สิ้นคำนั้นเธอก็หันหน้ากลับไปทางประตู และวิ่งออกไปข้างนอกทันที

มือของพี่เมฆที่ทำท่าจะยกขึ้นมาสัมผัสร่างของกุสุมา บัดนี้ก็ชงักค้างอยู่กลางอากาศ ส่วนสายตาของพี่เมฆก็ดูเหมือนจะลุกโชนขึ้นด้วยความรู้สึกบางอย่าง ขณะที่มองฝ่าออกไปที่ด้านนอกของประตูห้องใต้ดิน

แล้วพวกเราที่เหลือต่างก็รีบเข้าไปยืนที่ข้างๆ พี่เมฆทันที

ในสีหน้าของพี่เมฆในตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความซีดเศร้าและมัวหมองลงอย่างรวดเร็วขณะที่สายตาของเขานั้นก็ได้มองเหม่อไปที่ด้านนอกของประตู โดยที่ผมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะความรู้สึกที่มีกับกุสุมาในยามนี้ หรือจะเป็นเพราะเขาได้มองเห็นอะไรบางอย่างที่ได้ปรากฏอยู่ทางด้านหน้าของประตูห้องใต้ดินนี้กันแน่

"ตอนนี้... ถ้าจะแย่กันแล้วล่ะ น้องๆ เอ๋ย..." หางเสียงของพี่เมฆในตอนนี้กลับดูจะสั่นๆ เล็กน้อย

"แย่...? " ไอริณทวนคำ "แย่ยังไงคะพี่เมฆ... แล้วนี่มันแสงอะไรกัน? " ไอริณว่าแล้วกวาดตามองไปที่ภายนอก

"น้องริณ? " ผมเรียกเธอ "หน้าห้องใต้ดินนี่สว่างจ้าเลย แต่พี่ยังมองอะไรไม่ออก หรือว่ามันจะสว่างแล้วล่ะนี่... แต่ถึงจะสว่างแล้ว พวกแสงข้างบนนั่นมันจะทะลุลงมาได้ยังไง? "

ไอริณไม่ตอบอะไร เธอกระพริบตาปริบๆ พลางหันไปจ้องหน้าพี่เมฆ ส่วนพี่เมฆเองกลับหันไปมองหน้าสิงห์ในร่างนุชที่ยืนทำตาเศร้า แล้วสิงห์ก็พูดอะไรออกมาอีกสองสามคำโดยไร้สุ้มเสียงเหมือนเดิม แต่พี่เมฆกลับพยักหน้าราวกับเข้าใจคำพูดนั้น

แล้วพี่เมฆก็หันมาทางผมกับไอริณด้วยสีหน้าวิตกกังวล

"ข้างนอกนี่ มันไม่ใช่โลกของเราอีกแล้วล่ะ น้องทั้งสอง..." เขาพูดช้าๆ

ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากกับคำพูดของพี่เมฆ "อะไรนะครับ... ไม่ใช่โลกของเราแล้ว แล้ว... แล้วมันเป็นอะไรกันล่ะครับพี่เมฆ?! "

พี่เมฆหันกลับไปมองทางหน้าประตูห้องใต้ดิน ที่ผมเองก็ยังมองเห็นเป็นแค่แสงสว่างสีขาวอันเจิดจ้า

"ข้างนอกนี้เป็น... โลกมนุษย์ก็ไม่ใช่... และนรกก็ไม่เชิง แต่ที่แน่ๆ มันก็คือส่วนหนึ่งของนรกก็ว่าได้...! "

"ส่วนหนึ่งของนรกเหรอครับ...?!! " ผมทวนคำอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

ไอริณกลับพูดขึ้นมา "ใช้แล้วล่ะ พี่กิต เมื่อกี้ริณก็อ่านปากของสิงห์ เขาบอกพี่เมฆอย่างนั้นล่ะ ถ้าพวกเราทั้งหมดออกไปจะไม่เจอโลกของเราอีกแล้ว...! "

แล้วผมก็ถึงกับอ้าปากค้าง แต่จันนั้นก็ถึงกับล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดแรงทีเดียว "โฮๆ ๆ ๆ แม่จ๋า ผมจะไม่ได้เจอหน้าแม่อีกแล้ว ผมตกนรกซะแล้วแม่จ๋า... โฮๆ ๆ " 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา