The Phoenix of Andromeda

-

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 10.23 น.

  19 ตอน
  5 วิจารณ์
  15.14K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) สองสิงห์พลิกแผนสู้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
แม้จะอยู่ระหว่างการต่อสู้แบบที่แทบจะไม่อาจกระพริบตา ในที่สุดโรมิยาสก็ยังอุตส่าห์หาโอกาสและช่องว่างจากการประมือกับฝ่ายตรงข้ามเข้าจนได้ ก่อนที่เขาจะคว้าจับร่างของเมราณินทร์และรวบรวมแรงกายแรงใจทั้งหมดเพื่อดีดส่งร่างของตัวเองและเมราณินทร์ให้พุ่งเข้าไปหาผนังห้องรโหฐานของพระตำหนักที่อยู่ทางเบื้องหลัง
แต่เมธานอสก็รู้สึกเอะใจถึงการกระทำอันพิกลของโรมิยาสขึ้นมาทันที และในเสี้ยววินาทีนั้น เขาก็เข้าใจในบัดดลว่า โรมิยาสกำลังจะทำอะไรกันแน่ ?!
"พี่สามพี่สี่รีบสกัดเขาไว้เร็ว !" เสียงของเมทานอสรีบตะโกนบอกทั้งสองที่อยู่ใกล้กับโรมิยาสมากกว่า
แต่ก่อนที่หมาป่ายมราชจะเข้าถึงตัวโรมิยาส พวกมันก็ได้เห็นโรมิยาสใช้ข้อศอกซ้ายกระแทกกับผนังห้องรโหฐานอย่างแรง
มิคาดคิด ผนังตรงนั้นของพระตำหนักถึงกับเปิดเป็นช่องพอๆกับปากโอ่ง แล้วโรมิยาสก็เหวี่ยงร่างของเมราณินทร์เข้าไปทันทีขณะที่เมราณินทร์ก็ร้องออกมาเสียงหลงเพราะไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของเขา
"ไป ไปแทนข้า จงไปช่วยองค์จักรพรรดิ์และพระโอรส !!"
เสียงของโรมิยาสกำชับตามไปขณะที่เมราณินทร์ก็กำลังรู้สึกว่าร่างของตัวเองได้ร่วงหล่นลงไปสู่ความมืดของหลุมลึก
เเละเมื่อส่งร่างเมราณินทร์ไปได้แล้ว โรมิยาสก็รีบใช้เท้ายันผนังข้างๆเพื่อดีดตัวพุ่งเข้าหาร่างของหมาป่ายมราชที่กำลังพุ่งมาทางเขาอย่างรวดเร็ว
หมาป่ายมราชเห็นร่างของโรมิยาสพุ่งกลับมาอย่างเเรงก็รีบเปลี่ยนแปลงท่าร่างของตนเองโดยเร็ว ด้วยการหมุนตัวบิดร่างของตัวเองจนสามารถหลบพ้นจากกรงเล็บของโรมิยาสที่ได้พุ่งเข้ามาจนเจียนจะคว้าจับคอหอยของมันได้อย่างฉิวเฉียด !
ขณะนั้นเอง ราชสีห์โลกันต์ก็บรรลุถึงริมผนังห้องรโหฐานพอดี แต่ก่อนที่มันจะหาทางสกัดไม่ให้ช่องทางลับปิดลง ก็ปรากฏว่ามันยังช้าไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น
ช่องลับนั้นกลับปิดตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว !
และด้วยโทสะ มันจึงได้ใช้ดาบอันหนาใหญ่ของมันฟันฟาดไปที่ผนังนั้นอยู่สามครั้งครา จนผนังนั้นแตกหักเป็นช่องอีกครั้ง แต่ทว่าในตอนนี้ ก็ปราศจากร่องรอยของเมราณินทร์เสียแล้ว
ราชสีห์โลกันต์หันกลับไปที่วงต่อสู้ ก็เห็นโรมิยาสกลับมาโรมรัมพันตูกับพวกของตนอีกครั้งก่อนที่มันจะรีบกระโจนเข้าไปสมทบอย่างเหี้ยมกระหาย
ทางด้านโคแวนที่แทบจะไม่มีโอกาสมองเหตุการณ์ทางด้านโรมิยาส ก็ได้เริ่มแผนการที่จะตัดกำลังของไอรอส สายตาของเขาเหลือบไปมาอยู่ชั่ววูบก่อนที่จะทะยานร่างขึ้นสู่เบื้องบนและเหินร่างเข้าไปหาต้นเสาหลักขนาดใหญ่ต้นหนึ่งของตำหนัก
ไอรอสไม่ได้เหินร่างตามโคแวนไป เพราะคิดว่าโคแวนไม่ได้กำลังหลบหนี แต่มันก็คาดว่า โคแวนคงมีแผนบางอย่างที่จะจัดการกับมันจึงได้ทำอย่างนั้น
และเป็นอย่างที่ไอรอสคิด โคแวนได้หมุนตัวอยู่กลางอากาศอยู่สี่ห้ารอบก่อนที่เขาจะใช้แรงเหวี่ยงของตรีสูรอสุนีบาตฟาดไปที่ต้นเสาหลักต้นหนึ่งจนส่วนปลายของเสาที่อยู่ติดกับเพดานตำหนักถึงกับถูกตัดขาดไปอย่างไม่ยากเย็นก่อนที่เขาจะพริ้วร่างลงมาที่เบื้องล่างและหมุนตัวอีกสี่รอบเพื่อใช้แรงเหวี่ยงของตรีสูรตัดโคนของต้นเสาให้ขาดสะบั้นออกจากฐานข้างล่างทันที
ไอรอสอดจะเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอย่างอดแปลกใจกับการกระทำของโคแวนไม่ได้ ขณะที่ต้นเสาขนาดใหญ่นั้นกำลังล้มลงมาทางโคแวน
'มันจะเอาต้นเสานั่นมาเป็นอาวุธหรืออย่างไร ?' ไอรอสคิดและอดจะยิ้มเยาะขึ้นมาในใจไม่ได้ เพราะหากโคเเวนจะเอาต้นเสาศิลามาเป็นอาวุธหรือเครื่องทุ่นเเรงในการจัดการกับตนก็เป็นที่น่าขันนัก เพราะต้นเสาศิลานั้นคงจะแหลกเป็นผุยผงซะก่อนที่จะได้สัมผัสกับตัวของมันแน่
มิคาด ขณะที่ต้นเสาศิลากำลังล้มลง โคแวนก็ส่งพลังอสุนีบาตผ่านเข้าไปยังตรีสูรและแทงปลายสามง่ามนั้นเข้าไปยังกลางต้นเสาพอดี พริบตานั้น ต้นเสาศิลาก็ระเบิดออกจนเศษศิลากระเด็นฟุ้งกระจัดกระจาย แต่ทว่า...
เมื่อเสาศิลาได้แตกระเบิดออกไปหมดแล้วสิ่งหนึ่งที่ได้ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในของเสาศิลาก็ได้เผยโฉมออกมาให้ไอรอสได้เห็น !
วัตถุที่มีรูปร่างยาวแต่มีความหนาหรือเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าเสาศิลามากแต่มีขนาดใหญ่กว่าด้ามจับของตรีสูรสุนีบาตสองเท่าได้ร่วงลงสู่มือซ้ายของโคแวนที่ได้คอยรอรับไว้ และด้วยน้ำหนักที่น่าจะมากกว่าตรีสูรอสุนีบาตพอควรทำให้โคแวนต้องหมุนร่างรอบหนึ่งเพื่อสลายหรือปรับน้ำหนักนั้นให้เข้ากับร่างกายของตัวเอง จากนั้นเขาก็วางตรีสูรอสุนีบาตลงที่พื้น สองมือของเขาในตอนนี้ก็เปลี่ยนมาจับวัตถุที่ดูจะเป็นอาวุธชิ้นใหม่นี้ไว้อย่างมั่นคง
แล้วสายตาของไอรอสก็ไล่มองตั้งแต่ต้นจรดปลายของวัตถุที่มีสีทองปนสีทองแดงในมือของโคแวนอย่างสนเท่ห์
วัตถุขนาดยาวราวกับไม้กระบองที่มีสีทองผสมกับสีทองแดงนี้ไม่น่าจะมีอะไรพิเศษไปกว่าตรีสูรอสุนีบาตของโคแวน แต่ทำไมโคแวนจึงตัดสินใจทำลายเสาของตำหนักเพื่อนำอาวุธที่ถูกซ่อนไว้นี้ออกมากันล่ะ ?
อาวุธนี้คืออะไรกัน มันต้องมีที่มาและมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออณาจักรแอนโดร่า ไม่เช่นนั้นจะถูกนำมาซ่อนไว้ในเสาศิลาเพื่ออะไรกัน ?
สมองของไอรอสขบคิดอยู่ชั่วครู่ก็ยังไม่เข้าใจ แต่ในเสี้ยววินาทีต่อมา จิตของมันก็ถูกบางสิ่งบางอย่างดึงลากลงไปสู่ส่วนลึกของจิตอีกจิตหนึ่งที่อยู่ลึกลงไป
'เจ้าโง่ สิ่งนี้ก็คืออาวุธสวรรค์ในตำนานของอณาจักรแอนโดร่ายังไงล่ะ จงระวังให้ดี อย่าให้ข้าต้องลงมือช่วยเจ้า !'
เสียงที่ดังมาจากส่วนลึกของจิตนั้นราวกับจะเตือนสติมัน แต่ไอรอสก็เหมือนจะไม่แยแส กระนั้นก็ยังคอยตั้งรับโดยที่ไม่ได้ประมาทไปซะทีเดียว และก่อนที่จะพิจารณาอาวุธนั้นให้มากกว่าเดิม โคแวนก็ทะยานเข้าหามันทันที !
ราวกับมีแรงระเบิดอัดอยู่ในอากาศรอบๆอาวุธที่ดูคล้ายพลองเหล็กสีทองแดงที่ฟาดลงมาปะทะเข้ากับกรงเล็บน้ำแข็งของไอรอส จนเกิดเสียงที่ดังราวกับธารน้ำแข็งในขั้วโลกได้แตกระเบิดอย่างทันทีทันใด !!
และไอรอสก็รู้สึกขึ้นมาอย่างทันทีว่า ฝ่ามือและกรงเล็บน้ำแข็งของมันราวกับจะปริแตกออกมา ความเจ็บปวดที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับมันมาก่อนหลังจากที่ได้พลังขั้นสูงสุดมาก็กลับพุ่งทะลวงเข้าไปในส่วนลึกของร่างกายมันอย่างรวดเร็ว !
'อะไรกัน... อาวุธนี้มันคืออะไรกันแน่ มันทำมาจากสิ่งใด ใยเราจึงเจ็บปวดขึ้นมาได้...?!'
ราวกับจะตื่นตระหนก แต่ไอรอสยังคงไม่แสดงสีหน้าที่ผิดปกติไปจากสีหน้าเดิมๆของมัน สองมือของมันยังคงจู่โจมโคแวนโดยที่ไม่ใช้รับอาวุธประหลาดในมือของโคแวนอย่างตรงไปตรงมา กระนั้นในแต่ล่ะครั้งที่กระทบถูกอาวุธสีทองแดง แรงส่งของพลังงานประหลาดจากอาวุธนั้นก็ยังทำให้มันเจ็บร้าวตั้งแต่ฝ่ามือไปยันทรวงอกของมัน
โคแวนแม้ไม่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของไอรอส แต่ก็ลอบเห็นดวงตาที่เริ่มส่อแววครั่นคร้ามของไอรอสขึ้นมาทีล่ะน้อย อีกทั้งอากัปกิริยาที่เหมือนจะไม่ยอมใช้ฝ่ามือเข้าปะทะตรงๆเหมือนคราแรก ทำให้เขาใช้พลองเหล็กสีทองแดงนี้ทั้งแทงทั้งฟาดไปที่ไอรอสจนฝ่าเท้าของมันก็ถึงกับออกนอกรัศมีเดิมไปช่วงหนึ่ง
'เจ้าบัดซบโง่เง่า ! เจ้ากำลังจะเเพ้แล้ว !" เสียงจิตในส่วนลึกของไอรอสสบถออกมา
'ข้าหาได้แพ้ เพียงแต่พลังอาวุธของมันนั้น ช่างแปลกประหลาดมากนัก ?!' ไอรอสโต้ตอบกับจิตส่วนลึกด้วยจิตของมันทันที
'ฟังข้า พลังของอาวุธในตำนานนั่น เจ้าสามารถจะชนะมันได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ชั่วโมงในการบินของเจ้ายังต่ำ ถอยออกมาก่อน เชื่อข้าสิ !'
'แต่แผนทั้งหมดของเราอาจล้มเหลว ถ้าไม่สามารถจัดการกับอาวุธของมันได้...?' ไอรอสโต้ตอบกับจิตนั้นอย่างดื้อดึง
'ไอ้บัดซบ ! ข้าบอกให้ถอย ก็ถอยสิ !' เสียงในจิตดูจะมีโทสะขึ้นมา แต่ไอรอสราวกับหูอื้อไปแล้ว มันสะกิดเท้าหมายจะทะยานเข้าไปโจมตีโคแวนให้หนักกว่าเดิมโดยไม่คำนึงถึงความเป็นไปของร่างกายตัวเองอีกต่อไป
ทว่า ในสภาวะที่ร่างของมันกำลังทะยานไปข้างหน้า อยู่ๆก็เหมือนมีพลังอันรุนแรงบางอย่างมาดึงรั้งมันไว้อย่างกะทันหัน ทำให้มันถึงกับทรุดร่างลงไประดับหนึ่ง และจากนั้นก็แทบจะควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้อีกต่อไป !
'อย่าทำ... กับข้าอย่างนี้ ?!' จิตของไอรอสพูดกับจิตในส่วนลึกอีกครั้งอย่างรู้สึกขัดใจจนโทสะแทบระเบิด
แต่จิตในส่วนลึกของมันก็ไม่ได้พูดโต้ตอบกับมันอีก
และพริบตานั้น ร่างของไอรอสก็ราวกับถูกดึงลอยถอยหลังออกไป และอยู่ๆก็หายวาบไปในความว่างเปล่าของอากาศอย่างไร้ร่องรอย
โคแวนเห็นความเป็นไปเช่นนั้นก็อดที่จะโห่ร้องด้วยความดีใจอยู่ภายในไม่ได้ หลังจากนั้นก็หันมาพิจารณาอาวุธที่อยู่ในมือตนเอง
'อาวุธวิเศษที่เป็นอาวุธคู่บ้านคู่เมืองแห่งแอนโดร่านี้ทรงพลานุภาพยิ่งนัก เราจะเอามาใช้พร่ำเพื่อไม่ได้ ยิ่งถ้าเมื่อใดตกไปอยู่ในมือของคนชั่วก็ยิ่งจะเกิดความพินาศตามมา ต่อไปเราต้องเอาไปซ่อนในที่ที่มิดชิดอย่างที่สุด'
แต่เมื่อโคแวนเงยหน้าขึ้นก็ได้พบกับสายตาของเมทานอสที่กำลังมองอาวุธที่อยู่ในมือของเขาด้วยดวงตาอันเบิกโพลง
"ข้ารู้จักอาวุธชิ้นนี้..." เมทานอสเอ่ยขึ้น "และข้าก็ไม่นึกว่ามันจะถูกซ่อนอยู่ที่นี่ ตั้งแต่นี้ไป พระโอรสแห่งองค์จักพรรดิ์จะไม่ใช่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทุกอณาจักรต้องการ แต่จะรวมถึงอาวุธชิ้นนี้อีกด้วย..."
เมทานอสกล่าวออกมาด้วยดวงตาเป็นประกาย ขณะที่การต่อสู้ของพวกโรมิยาสกับพวกของเขาที่อยู่ทางเบื้องหลังนั้นก็ยังไม่สิ้นสุด
หัวคิ้วของโคแวนขมวดเข้าหากันและดวงตาของเขานั้นก็หรี่เล็กลงทันที
หรือว่าเขาคิดผิดที่ได้นำอาวุธนี้ออกมาจากที่ซ่อน แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ ครั้งนี้ก็ยากที่จะเอาชัยไอรอสได้
"ปกติข้าไม่ชอบฆ่าคน แต่วันนี้อาจจะต้องฆ่าคนหลายคน เพื่อปกป้องอณาจักรของข้าเอง และเจ้าก็เป็นคนหนึ่งที่ข้าต้องฆ่าทิ้งในวันนี้ให้ได้...!"
เสียงประกาศิตของโคแวนดังฟังชัด แต่ประกายตาของเมทานอสกลับดูเย้ยหยัน
"ไม่ห่วงองค์จักรพรรดิ์ของท่านแล้วรึ บางทีองค์จักรพรรดิ์ของท่านก็อาจจะไม่มีชีวิตรอดจากวันนี้แล้ว..."
ได้ยินดังนั้น ประกายตาอันดุดันของโคแวนก็ฉายฉานขึ้นมาอีกครั้ง แต่มิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก
และในขณะนั้น ที่เบื้องหลังของเมทานอสก็มีเสียงร้อง'โอ๊ย'ดังออกมาจากวงต่อสู่คำหนึ่ง !
และเจ้าของเสียงนั้น ก็กลับเป็นองครักษ์หน้ากลม ที่พลาดท่าเสียทีให้กับราชสีห์โลกันต์เข้าจนได้ โดยที่แขนท่อนล่างข้างขวาของเขานั้นก็ได้มีรอยแผลบาดลึกเลือดทะลักจากการโดนคมดาบของราชสีห์โลกันต์
และบัดนี้ดาบที่อยู่ในมือขององครักษ์หน้ากลมก็กระเด็นหล่นจากมือของเขาซะแล้ว
พริบตานั้น ร่างอันสูงใหญ่ของโคแวนก็ทะยานลอยข้ามหัวเมทานอสไปยังวงต่อสู้ทันที...!
(โปรดติดตามในบทต่อไป เร็วๆนี้นะครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา