The Dark World มหาสงครามออนไลน์กู้ปฐพี

9.7

เขียนโดย Jalando

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562 เวลา 19.53 น.

  174 LV
  22 วิจารณ์
  141.96K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 01.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

163) เฟอรัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เครดิตภาพจาก  https://wallpapercave.com

 

       เหมือนมารร้ายจะอ่านใจของอากิเนะออก จึงดักคอด้วยสำเนียงที่ค่อนข้างเนือย

 

" ก็รู้ว่าคำพูดของข้านั้นเชื่อไม่ค่อยได้ แต่ขอยืนยันว่าทุกสิ่งที่กล่าวคือเรื่องจริง "

        

 

       เด็กสาวมองใบหน้าที่ดูจริงจังของมารร้าย มันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เพราะช่วงเวลาที่ประคารมกัน เธอไม่เคยเห็นอมนุษย์ทำท่าแบบนี้เลย

 

" หรือว่าสิ่งที่เจ้านี่พูดมาจะเป็นความจริง "

       

 

       มารร้ายไม่แยแสว่าเด็กสาวจะเชื่อหรือไม่ แต่มันเริ่มเล่าเรื่องราวต่อ

 

" แน่นอนว่าการแหกคอกของมารตนนั้น ทำให้ผู้ใหญ่ในสภามารเริ่มขัดเคือง แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะนางมีพลังที่เหนือล้ำกว่าอมนุษย์ทุกตนในดินแดน "

       

 

       อากิเนะตีหน้านิ่ว เพราะเพิ่งรู้ว่าแดนมารนั้นรุ่งโรจน์และมีอารยธรรมจนถึงขั้นมีสภามาก่อนมนุษย์นับพันปี แต่มีสิ่งที่ติดใจยิ่งกว่า จึงสวนด้วยคำถาม

 

" จากที่เล่ามา เหมือนจะบอกว่ามารแหกคอกตนนั้นคือเพศหญิง เพราะเจ้าเรียกมันว่า.....นาง "

 

" อืม....ใช่แล้ว มารตนนั้นเป็นเพศหญิง แถมยังมีหน้าตาเหมือนพวกมนุษย์ " มารร้ายตอบทันควัน ดวงตาแดงก่ำจับจ้องอากิเนะอยู่ตลอด มันส่งประประกายแปลกๆ ราวกับพยายามจับผิดบางอย่าง

       

 

      จากทุกสิ่งที่ได้ยิน ทำให้อากิเนะเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวจนพอมองเห็นภาพคร่าวๆ เด็กสาวจึงถึงกับยืนแข็ง เลือดในกายแทบจับตัวเป็นน้ำแข็ง เพราะสิ่งที่คาด ค่อนข้างดารค์และชวนช็อค

 

" เจ้าจะบอกว่าข้าก็คือ.....ทายาทของมารตนนั้น ใช่มั้ย "

 

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า......หลงตัวเองไปแล้ว แม้เจ้าจะเหนือล้ำกว่ามารชั้นสูงหลายตน แต่ก็ยังห่างไกล เนื่องจากนางร้ายกาจถึงขั้นถล่มกองทัพของสภาด้วยตัวคนเดียว มิหนำซ้ำ นางยังมีผมสีทอง ตาสีฟ้า ซึ่งแตกต่างจากเจ้าโดยสิ้นเชิง " มารร้ายหัวเราะลั่น เพราะขบขันที่เด็กสาวหลงตัวเอง

       

 

       แม้จะแอบขุ่นเคืองที่โดนมารร้ายดูถูก แต่อากิเนะก็โล่งอกและยินดีที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับอมนุษย์ตนนั้น ทว่าพอนึกขึ้นมาได้ว่าเรื่องที่เล่าไม่เห็นเกี่ยวข้องกับเธอเลย จึงแปรเปลี่ยนเป็นโมโห

 

" แล้วตกลง พ่อแม่ของเราคือใคร บอกมาเดี๋ยวนี้นะ "

 

" เฮ้ย.....ใจเย็นสิ ข้ากำลังปูพื้นให้เรื่องหลัก เพราะมันเกี่ยวพันกัน เชื่อว่าพอเล่าจบ จะรู้เองว่าต้นตระกูลของเจ้าคือใคร " มารร้ายเบรกแบบไม่คิดกลัวเกรง เพราะรู้ดีว่าเด็กสาวยังไม่คิดฆ่ามันในตอนนี้ ด้วยอมนุษย์มีสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ นั่นก็คือ......รากเหง้าของตัวเอง

       

 

       อากิเนะพยายามทำใจให้เย็นลง เธอนึกสงสัย ทำไมในทรวงถึงรุ่มร้อนขนาดนี้ มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ส่วนมารร้ายก็เริ่มเล่าต่อ

 

" หลังจากถล่มสภามาร นางได้รวบรวมทุกอาณาจักรในโลกมารให้เป็นหนึ่ง แล้วจัดตั้งกองทัพที่เกรียงไกรขึ้นมา เพื่อก่อสงครามครั้งใหญ่ "

 

" เดี๋ยวนะ เจ้าบอกว่านางรวบรวมทุกอาณาจักรในดินแดนมารได้สำเร็จ แล้วยังจะไปรบกับใครอีก มันไม่น่ามีคนให้ปราบแล้วนี่นา " อากิเนะทักท้วง ทำให้มารร้ายแสยะยิ้ม จากนั้นก็ให้ข้อมูลที่สุดสยอง

 

" แล้วใครบอกว่ารบกับหมู่มารด้วยกัน เป้าหมายของนางคือ......เหล่าเทพ "

 

" เทพ......" อากิเนะตะโกนดัง ก่อนจะนิ่งอึ้ง มันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ทุกเรื่องราวที่ได้ยิน เหนือล้ำเกินจินตนาการ

 

" หึ หึ หึ ข้าไม่ได้พูดเกินไปเลย ทุกสิ่งที่เล่ามา อยู่ในบันทึกของสภาแห่งใหม่ที่ครองดินแดนมารในปัจจุบัน " มารร้ายดักคอ เพราะเห็นว่าอากิเนะเริ่มไม่เชื่อ ทว่าเด็กสาวกลับไถ่ถามต่อ ด้วยมีสิ่งที่ยังสงสัย

 

" แล้วผลการต่อสู้ระหว่างมารกับเทพเป็นเช่นไร "

        

 

        มารร้ายได้แต่ยิ้มจางๆ ก่อนหันไปมองทางอื่น มันนิ่งอยู่นานเกือบนาที จึงเริ่มบรรยายด้วยน้ำเสียงที่ดูอาดูร

 

" แม้นางจะเปลี่ยนหมู่มารให้กลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทะเยอทะยาน ชื่นชอบการต่อสู้จนสร้างกองทัพที่เข้มแข็ง แต่เมื่อเทียบกับเหล่าเทพ ช่างห่างไกล ราวกับอยู่คนละโลก ดังนั้น ผลของสงครามจึงจบลงที่พ่ายแพ้แบบยับเยิน "

        

 

       ความโศกเศร้าที่แผ่ออกมาจากมารร้าย ทำให้อากิเนะเริ่มสงสาร แต่ต่อมา เธอก็ได้คิด....เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะถ้าอมนุษย์บ้าสงครามชนะเหล่าเทพได้ ความวุ่นวายน่าจะมากมายกว่านี้ ดีไม่ดี พวกมันอาจจะตรงมาขย้ำโลก The Dark World เป็นรายต่อไป

       

 

      มารร้ายมองตรงไปข้างหน้า ก่อนทิ้งเวลาให้ตนเองพักหนึ่ง เพื่อคลายความเศร้าโศก จากนั้นก็เล่าต่อ

 

" หลังสงคราม นางได้สิ้นชีวิต แต่ก่อนจะสูญสลาย นางให้สัญญาว่าจะกลับมาโลกมาร และจะทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพื่อนำพาเผ่าพันธุ์เราไปสู้รบกับเหล่าเทพอีกครั้ง "     

       

 

       พออมนุษย์พูดจบ มันก็เงียบงัน ส่วนอากิเนะก็ตื้อตันไม่แพ้กัน ในหัวมีแต่คำถาม จึงลองปล่อยข้อสงสัยออกมา เผื่อจะได้ความกระจ่าง

 

" แล้วพวกเจ้าจะไปสู้กับเหล่าเทพที่เหนือชั้นกว่าทำไม หรือว่าพวกเจ้าอยากครองความเป็นใหญ่ "

 

" อืม.....เรื่องนี้ ข้าก็สงสัยอยู่เหมือนกัน เพราะนางเคยกล่าวไว้หลายครั้งว่าสาเหตุที่ไปต่อสู้กับเทพ ก็เพื่อปลดปล่อยบางสิ่งให้เป็นอิสระ อันเป็นผลดีต่อส่วนรวม พอสิ้นสงคราม นางก็จะจากไป ทิ้งให้สภามารปกครองกันเอง " มารร้ายก็งงเหมือนกัน มันเป็นคำตอบที่ย้อนแย้งสุดๆ เพราะถ้าเก่งขนาดปราบเทพได้ แล้วจะทิ้งอำนาจไปทำไม ไหนจะเรื่องเป้าหมายที่ดูกำกวมและแปลกประหลาดอีก

        

 

      อากิเนะมึนงงไปหมด เพราะนอกจากจะไม่ได้รับความกระจ่าง กลับเกิดปมปัญหาที่มากกว่าเดิม ทั้งในเรื่องจุดหมายประหลาดที่มารสาวมุ่งมั่น การสละอำนาจของเจ้าหล่อน ทุกสิ่งที่ว่ามา ช่างดีงามและทรงคุณธรรม อันเป็นสิ่งที่ค้านกับความรู้ที่เธอเคยศึกษามา

 

" เราเคยได้ยินมาว่า.....พวกมารเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชั่วร้าย ชอบสงคราม การทำลายล้าง และออกมาสร้างความวิบัติแก่โลก The Dark World เป็นระยะ แต่สิ่งที่มารตนนี้เล่า กลับดีงาม มีอุดมการณ์ หรือจะจริง เพราะมันพูดเองว่าเรื่องดังกล่าวเกิดในยุคที่มนุษย์ยังไม่รู้จักการบันทึกเหตุการณ์ลงสมุดเสียด้วยซ้ำ ในตอนนั้น พวกเขาอาจทรงคุณธรรมอย่างที่เจ้านี่ว่าก็เป็นได้ "

       

 

      ทั้งสองได้แต่นิ่ง เพราะต่างฝ่ายต่างมีสิ่งที่อยู่ในใจ ไม่นาน อากิเนะก็เริ่มนึกถึงประเด็นสำคัญที่ยังไม่เคลียร์ จึงเอ่ยถามรัวเร็ว

 

" เออ....ใช่ นึกออกแล้ว เจ้ายังไม่ได้เล่าเรื่องชาติกำเนิดของข้าเลยนี่นา "

 

" หึ หึ หึ ยังอุตส่าห์จำได้อีก นึกว่าจะหลงทางไปกับเรื่องที่ข้าเล่าจนลืมไปแล้ว " มารร้ายหัวเราะเล็กน้อย รอยยิ้มที่มีเลศนัยประดับอยู่บนใบหน้าที่ดูกวนๆ

 

" งั้นก็รีบพูดมา ถ้าขืนชักช้า เจ้าได้ตายตอนนี้แน่ " อากิเนะข่มขู่ แต่คำพูดดูมีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิม เพราะจิตของเธอหลุดจากโหมดคลั่งไปแล้ว

       

 

       มารร้ายแสยะยิ้มอีกครั้ง เป็นนัยว่ารู้ทัน จากนั้นก็เริ่มเล่าเรื่องราวต่อ

 

" ถึงข้าเชื่อว่าเจ้าไม่น่าเกี่ยวข้องหรือเป็นทายาทของมารหญิงตนนั้น เพราะมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกัน แต่......กับกลุ่มองครักษ์ของนางนั้นไม่แน่ ด้วยมีมนุษย์หลายคนสืบทอดเชื้อสายจากหมู่มารเหล่านั้น "

 

" นี่เจ้าจะบอก....กลุ่มองครักษ์ของนางมารตนนั้น เอ่อ.....ได้มีลูกกับมนุษย์จนเกิดทายาทลูกครึ่ง ใช่มั้ย " อากิเนะพูดติดขัด เพราะเธอเป็นเพียงเด็กสาวแรกรุ่นที่ไม่ค่อยกล้าสนทนาในเรื่องเพศ

 

" หึ หึ หึ ใช่แล้ว " มารร้ายรับคำ พร้อมแสยะยิ้มชั่วร้าย

        

 

      เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางดวงใจ ทุกคำล้วนเสียดแทงอารมณ์ ถึงตอนนี้ อากิเนะรู้แล้วว่าทำไม ตนเองถึงมีพลังเวทที่สูงเกินมนุษย์ขนาดนี้ และยังเชื่อว่าเชื้อสายนี้น่าจะมาจากทางปู่ เพราะท่านเป็นถึงเทพศาสตราที่มีพลังยุทธ์สูงล้ำเกินบรรยาย

       

 

       รอยยิ้มของมารร้ายฉีกกว้างขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุที่มันสาธยายยืดยาว เพราะต้องการรวบรวมพลัง เพื่อโจมตีครั้งสุดท้ายในขณะที่เด็กสาวเผลอ และตอนนี้ก็ใกล้ถึงฝั่งฝัน

 

" อีกนิดเดียว อีกแค่นาที ข้าก็พร้อมจะปล่อยท่าไม้ตายสูงสุด "

       

 

       ขณะที่อมนุษย์คิดแผนร้าย อากิเนะก็นึกถึงบางจุดที่ยังไม่กระจ่าง จึงออกปากถามโดยเร็ว

 

" แล้วมารหญิงตนนั้นมีชื่อว่าอะไร "

        

 

      คิ้วของมารร้ายกระตุกเล็กน้อย เพราะไม่เชื่อว่ามนุษย์ร่างเล็กจะถามถึงนามของมารในตำนาน แต่เพื่อให้แผนการชั่วช้าสำเร็จโดยสมบูรณ์ มันจึงบอกความจริง

 

" นางมีชื่อว่า......เฟอรัน "

 

" เฟอรัน " อากิเนะรู้สึกหัวหมุน เธอทวนคำเบาๆด้วยอาการเลื่อนลอย และคุ้นเคยกับนามนั้นเอามากๆ ราวกับว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ทันใดนั้นเอง มารร้ายก็ฟื้นตัว

 

" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสร็จข้าล่ะ "

       

 

       มารร้ายปาฝุ่นผงที่แอบกำไว้ในมือใส่ดวงตาของอากิเนะ ส่งผลให้เด็กสาวรีบยกสองมือขึ้นขยี้ พร้อมตะโกนดังด้วยความเจ็บแสบ มันเป็นคำสบถที่เจ้าหล่อนไม่เคยผรุสวาทมาก่อน

 

" โอ๊ย......บัดซบ นี่เจ้าทำอะไร "

     

 

       มารร้ายไม่กล่าวคำใด มันรีบปล่อยออร่าสีดำออกมา จากนั้นก็ใช้วิชาแยกร่างที่ถนัด

 

" แบ่งภาคเป็นสิบตน "

       

 

       มารร้ายสิบตนกระโจนออกมาจากร่างต้น พวกมันมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกัน แถมยังแสยะยิ้มชั่วช้า ไม่ต่างจากแฝดสยองในหนังที่ชวนหลอน ทว่าเหล่าอมนุษย์ไม่ได้โอภาปราศรัยหรือออกปากทักทายกัน แต่กลับรุมล้อมอากิเนะเป็นรูปวงกลม

       

 

        มารร้ายที่เป็นร่างต้นดีดตัวออกห่างประมาณ 30 เมตร พอเห็นว่าพ้นจากรัศมีทำลายล้าง มันก็ตะโกนดัง

 

" ดีล่ะ ทุกตนเผด็จศึก "

      

 

         มารร้ายร่างแยกอีกสิบตนเปล่งออร่าสีดำพร้อมกัน จนดูเหมือนลูกไฟกองโตหลายสิบดวง จากนั้นก็กรูกันเข้าไปเกาะกุมกายบางของเด็กสาว

 

" ไอ้มารบ้า จะทำอะไร ปล่อยนะ " อากิเนะโวยดัง แม้เธอจะหลุดจากวงล้อมนี้อย่างง่ายดายด้วยการปลดปล่อยพลังเวทออกมา แต่ก็ทำได้ยาก เพราะยังรู้สึกเคืองตาจนรวมพลังไม่ได้

 

 

สามารถติดตามงานเขียน ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/Jalando.darksidewriter

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา