สืบสู้ผี ภาค เมฆาคนล่าผี

6.7

เขียนโดย Jintanakorn

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2562 เวลา 04.55 น.

  26 ตอน
  2 วิจารณ์
  18.69K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2562 13.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) สมุดวาดเขียนสั่งตาย Part 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   "เรื่องทั้งหมดก็เป็นอย่างที่ผมเล่านี่แหล่ะครับ" ครูสุนทรผู้เป็นครูใหญ่ของโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหมู่บ้านทับรุ้งในจังหวัดชุมเพชรเล่าเรื่องเสร็จก็มองหน้าเมฆา "คุณเมฆาคงไม่คิดว่านี่จะเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระใช่ไม๊ครับ เพราะยังไงแล้วเหตุการณ์ต่างๆนี้มันก็ดูช่างบังเอิญอย่างน่าแปลกประหลาดนะครับ ?"

 

  เมฆาเคาะนิ้วกับมุมโต๊ะไม้ในห้องสมุดของโรงเรียนอย่างเป็นจังหวะขณะก้มหน้ามองของบางสิ่งที่อยู่บนโต๊ะตรงหน้าอย่างครุ่นคิด แล้วเขาก็ได้ทบทวนถึงเรื่องราวต่างๆที่ครูสุนทรเพิ่งจะได้เล่าให้เขาฟังแล้วก็เปรียบเทียบกับเรื่องที่นิกได้จดไว้ในบันทึกอย่างคร่าวๆจากคำบอกของอาคิราห์เพื่อนเก่าของเขาก็เห็นว่ามีเนื้อหาใจความเดียวกันอย่างไม่ผิดเพี้ยนสักจุดเดียว

 

  เเละรื่องราวอันสุดแปลกประหลาดและน่าขนลุกนี้ มันก็ได้สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับชาวบ้านแห่งหมู่บ้านทับรุ้งนี้มาได้ประมาณสักสามเดือนกว่าแล้ว เมื่อได้เกิดเหตุการณ์ที่มีเด็กนักเรียนประถมในหมู่บ้านแห่งนี้ต้องมาเสียชีวิตในเวลาไล่ๆกันในระยะสามเดือนกว่าที่ผ่านมานี้ถึงสามคนด้วยกัน

 

  เด็กคนแรกที่เสียชีวิตนั้น เป็นเด็กผู้หญิงเรียนอยู่ชั้น ป.4 เสียชีวิตด้วยการจมน้ำตายในบึงขนาดใหญ่ของหมู่บ้านขณะที่ได้ลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆในวัยเดียวกันในช่วงเย็นของวันหยุดสุดสัปดาห์

 

  เด็กคนที่สองเป็นเด็กผู้ชายเรียนอยู่ชั้น ป.5 ในโรงเรียนเดียวกัน เสียชวิตด้วยการตกจากหน้าผาที่อยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านนัก และมีสภาพศพที่น่าเอนจอนาถใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ใช่แค่มีสภาพศพเละเทะจากการที่ต้องตกจากที่สูงจนทำให้กระดูกต้องมาหักเกือบทั่วทั้งตัวเพียงเท่านั้น แต่ทว่าตามเนื้อตัวของเด็กกลับยังถูกสัตว์บางอย่างกัดแทะกินซะจนแทบไม่เหลือเค้าเดิมเอาเสียเลย จนกระทั่งศพก็ได้ถูกพบเจอจากชาวบ้านในเช้าวันต่อมา ซึ่งชาวบ้านนั้นต่างก็สรุปกันว่าคงจะถูกเสือเข้ามากินซากในภายหลังที่ได้ตกจากหน้าผาจนเสียชีวิตแล้ว เพราะจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่เลยไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านเกือบห้ากิโลเมตรซึ่งเป็นจุดที่อยู่ติดกับเขตป่าลึกที่เคยมีเสือมาป้วนเปี้ยนอยู่บ่อยๆ

 

  เด็กคนที่สามเป็นเด็กผู้หญิง เรียนอยู่ชั้น ป.6 เสียชีวิตด้วยการถูกงูขนาดใหญ่รัดจนกระดูกหักเกือบทั่วทั้งตัว และคงจะสิ้นใจในเวลาต่อมาโดยที่คนในครอบครัวไม่ทันได้ล่วงรู้ ในระหว่างที่เด็กกำลังเข้าห้องน้ำที่ถูกสร้างไว้ห่างจากบ้านของครอบครัวตนอยู่ช่วงหนึ่ง(ห้องน้ำในหมู่บ้านชนบทของหมู่บ้านทับรุ้งนี้ หลายๆหลังยังนิยมสร้างให้อยู่เลยตัวบ้านไปเล็กน้อย)

 

  การเสียชีวิตของเด็กทั้งสามคนนี้ต่างก็เกิดขึ้นคนละช่วงเวลาและคนละสถานที่กัน ฟังดูคร่าวๆแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรที่เชื่อมโยงกันได้ นอกจากว่าเด็กทั้งสามคนนี้ต่างก็เรียนอยู่ในโรงเรียนประจำหมู่บ้านแห่งนี้ที่มีอยู่เพียงโรงเรียนเดียวด้วยกัน และคงจะรู้จักและเป็นเพื่อนเล่นกันมาอยู่ไม่มากก็น้อย เพราะจำนวนของเด็กที่เรียนอยู่ในโรงเรียนชนบทแห่งนี้ก็ไม่ได้มีเยอะเหมือนกับโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมือง

 

  แต่ความหวาดกลัวและหวาดผวาของชาวบ้านนั้นมีที่มาจากของสิ่งหนึ่งที่ดูน่าขันและไม่น่าเป็นไปได้สำหรับความรู้สึกของชาวบ้านในตอนแรกๆ จนกระทั่งได้เกิดมีการเสียชีวิตของเด็กคนที่สองนั่นล่ะ ชาวบ้านก็ถึงกับสะดุ้งหวาดผวาจนนอนแทบไม่หลับกันในเวลาต่อมา และต่างก็หวาดกลัวกับของสิ่งนั้นที่เคยคิดว่าน่าขันและไม่น่าเป็นไปได้กันถ้วนทั่วทุกคนเลยทีเดียว

 

  และของสิ่งนั้นก็คือ 'สมุดวาดเขียนของเด็กประถม' ซึ่งขณะนี้ก็ได้ถูกวางและเปิดไว้อยู่ตรงหน้าของเมฆานี่เอง

 

  สมุดวาดเขียนเล่มนี้ดูไม่น่าจะมีอะไรให้น่าสนใจเลยสักนิดสำหรับใครก็ตามที่มาเปิดดูในครั้งแรก เพราะในสมุดเล่มนี้ ก็มีเพียงภาพวาดหรือภาพสเก็ตดินสอที่วาดด้วยดินสอราคาถูกของโรงเรียน แม้ว่าภาพวาดดินสอนั้นจะดูแปลกประหลาดหรือดูมีความรุนแรงปรากฏอยู่ในรูปลักษณ์ของภาพที่วาดนั้น แต่นั่นก็ดูไม่น่าจะมีอะไรผิดปกติสำหรับจินตนาการของเด็กประถมที่จะเขียนจะวาดอะไรก็ได้ตามจินตนาการที่อยู่ในวัยของเขาในช่วงประถม

 

  ถ้าไม่ใช่เพราะว่าภาพวาดที่อยู่ในสมุดวาดเขียนนี้ กลับเป็นดังคำทำนายของเหตุการณ์ที่เด็กๆต้องมาเสียชีวิตในตอนหลังตามเหตุการณ์ที่ได้ปรากฏอยู่ในสมุดวาดเขียนเล่มนี้อย่างแทบไม่ผิดเพี้ยน ?!

 

  รูปที่หนึ่ง เป็นรูปวาดของเด็กผู้หญิงที่กำลังจะจมน้ำตายด้วยใบหน้าที่ตกใจสุดขีด ที่ตอนล่างของภาพนั้นก็ดูเหมือนจะมีมือของอะไรสักอย่างกำลังดึงขาของเด็กที่กำลังจะจมน้ำอยู่ด้วย !

 

  รูปที่สอง เป็นรูปวาดของเด็กผู้ชายที่กำลังร่วงตกจากหน้าผาสูงชันด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจจนอ้าปากค้าง และที่เบื้องล่างของภาพนั้นก็มีรูปวาดของเสือตัวหนึ่งที่กำลังเดินย่องไปทางทิศที่เด็กคนนั้นกำลังตกลงมา !

 

  รูปที่สาม เป็นรูปวาดของเด็กผู้หญิงที่กำลังถูกงูตัวใหญ่รัดรอบตัวและมีสีหน้าที่ตกใจสุดขีดเช่นกัน !

 

  เมฆาพลิกสมุดวาดเขียนกลับไปกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นกับครูสุนทร

 

  "นอกจากภาพสามภาพนี้แล้ว หน้าท้ายๆของสมุดวาดเขียนนี้กลับถูกฉีกทิ้งไปหลายหน้า ผมสงสัยซะจริงว่า ในหน้าของสมุดวาดเขียนที่หายไปนี้ ยังมีเรื่องราวของภาพวาดอื่นๆอีกหรือเปล่า บางทีถ้าเราหาคำตอบจากเรื่องนี้ได้ เราก็อาจจะวิเคราะห์อะไรได้มากกว่านี้อีก..."

 

  "น่าจะมืดแปดด้านนะครับ" ครูสุนทรมองเมฆาเขม็ง "ก็อย่างที่ผมได้เล่าให้คุณเมฆาได้ฟังไปแล้วว่า..."

 

  "เด็กคนที่วาดภาพในสมุดวาดเขียนเล่มนี้ได้ตายไปแล้ว !" เมฆาพูดต่อจากประโยคของครูสุนทร"ผมไม่ได้ลืมที่ครูได้เล่ามาทั้งหมดหรอกครับ... แต่ผมกำลังคิดว่าจะเริ่มสืบจากตรงไหนก่อนดี ?"

 

  "เด็กคนที่วาดรูปในสมุดเล่มนี้ ตายมาก่อนหน้าเหตุการณ์ของเด็กสามคนนั่นมาตั้งเกือบปีแล้วนะครับคุณเมฆา" ครูสุนทรว่า "และเด็กคนนี้ก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครแม้กับพ่อแม่ตัวเอง ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงจะต้องปิดกั้นตัวเองขนาดนั้นด้วย..."

 

  "ผมไม่เชื่อว่าเด็กคนนี้จะปิดกั้นตัวเองโดยสิ้นเชิงหรอกครับ" เมฆาลุกขึ้นยืนราวกับว่าคิดอะไรได้ "อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็น่าจะมีเพื่อนสักคน หรืออย่างน้อยก็น่าจะมีคนสักคนที่เขาไว้ใจ..." และผมจะเริ่มต้นจากพวกเด็กคนอื่นๆในโรงเรียนนี้แหล่ะครับ !"

 

  ครูสุนทรลุกขึ้นยืนตามเมฆา "คุณเมฆามีแผนจะทำยังไงล่ะครับ...?"

 

  เมฆายิ้มในสีหน้าก่อนจะตอบออกมา "ช่วยเตรียมอุปกรณ์การสอนวาดเขียนให้ผมหน่อยครับ ผมอยากจะเป็นครูสอนศิลปะสักอาทิต์สองอาทิตย์น่ะครับ !"

 

 

  (โปรดติดตามตอนที่ 3 ของ 'สมุดวาดเขียนสั่งตาย' เร็วๆนี้นะครับ)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา