I'm BOY : ผมนี่แหละ สตรีมีหาง [Yaoi]​

-

เขียนโดย นนิรา

วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.13 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,279 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562 15.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บทที่ 10 : เลี้ยงฉลอง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 10 : เลี้ยงฉลอง

 


ตอนนี้ผมอยู่ที่ตลาดท้ายหมู่บ้านของพี่เมฆ พวกเรามาซื้อเนื้อหมูสด วุ้นเส้น ผักสด พวกของที่เอาไว้ย่างหมูกระทะกินกันรวมถึงเครื่องดื่มด้วย ถือว่าฉลองการได้รับรางวัลพ่วงกับการฉลองปิดเทอมไปพร้อม ๆ กันเลย

 

“ร้านถ่านอยู่ตรงไหนครับ?” ผมถามพี่สามหลังจากที่ได้รับมอบหมายให้ไปซื้อ แล้วผมก็ได้คำตอบว่าให้เดินไปเกือบสุดซอยจะมีร้านขายถ่าน ลุงแก่ ๆ นั่งเฝ้าอยู่แถวหน้าร้าน เดินไปก็จะเจอเอง และผมก็เจอตามที่พี่สามบอกเอาไว้

 

“ลุงครับผมขอถ่านสองถุงครับ” ผมมองปริมาณถ่านก่อไฟในถุง ถุงเดียวคงไม่พอผมเลยเอาสองถุงแล้วกัน

 

“สองถุงสี่สิบ ถุงละยี่” ลุงบอกผมพร้อมกับหิ้วถุงถ่านยื่นมาให้ผม ผมรับก่อนควักเงินจ่ายไป

 

“นี่ครับลุง”

 

ตอนแรกผมก็สงสัยว่าพวกพี่ ๆ จะให้ผมซื้อถ่านก่อไฟมาทำไม ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าทำไม ผมนั่งมองพี่สามนั่งก่อไฟโดยมีเตาถ่านเป็นภาชนะประกอบในการทำปิ้งย่างครั้งนี้ พี่สามโยนถ่านใส่เตาก่อนจะหาหญ้าแห้งแถวพื้นขึ้นมาจุดไฟแล้วใส่เข้าไปในนั้นหวังให้เป็นเชื้อเพลิงจุดไฟตั้งเตา ใช้เวลาอยู่ประมาณเกือบห้านาทีได้ไฟก็เริ่มลุกโชนขึ้นตามอย่างที่หวังไว้ ถัดจากพี่สามที่กำลังใส่เชื้อเพลิ่งนั้นก็มีพี่หนึ่งที่คอยเอาหนังสือเล่มบางมาพัดเป็นจังหวะเพื่อให้ฟังยังคงติดอยู่ไม่ดับมอดลง แล้วก็ยังมีพี่เมฆที่เป็นตัวสำคัญในการตั้งเตาอีกหน้าที่หนึ่งก็คือ...เป็นคนคอยบังลม

 

ผมมองภาพตรงหน้าทั้งหมดก่อนนั่งถอนหายใจเบา ๆ ชาตินี้ผมจะได้กินไหมเนี่ย ไอ้หมูกระทะเนี่ย

 

“ทำไมพี่ไม่ใช้กระทะไฟฟ้ากันล่ะครับ?” ในที่สุดผมก็ทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วเลยถามขึ้น

 

“มันไม่ได้ฟิวส์” พี่สามที่เป็นคนเงยหน้าขึ้นมาบอกผมและถลกแขนเสื้อก้มหน้าก่อเตาต่อ

 

โอเค คือตอนนี้เรากำลังจำลองเหตุการณ์ใช้ชีวิตอยู่ในป่า

ในที่สุดความพยายามก็ไม่สิ้นค่า เสียง ‘ซู่ ซู่’ คือเสียงของเนื้อหมูที่ถูกความร้อนวางไว้บนตะแกรงเหล็กดังขึ้นเป็นจังหวะ ผมพลิกไปมาเมื่อเห็นว่าสุกแล้วก็ค่อยคีบลงจาน ชิ้นที่หนึ่ง ชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม ชิ้นที่...

 

“เห้ยน้องวิน เหลือให้พวกพี่บางสิทำไมเอาไปใส่แต่จานไอ้เมฆ!” พี่เติ้งเป็นคนขัดขึ้นพร้อมเอาตะเกียบชนตะเกียบของผม เมื่อที่เติ้งพูดคนอื่น ๆ ที่กำลังร้องรำทำเพลงอยู่ก็หยุดหันมามองจานพี่เมฆตามคำพูดของพี่เติ้ง ส่วนผมก็เพิ่งรู้สึกตัวเหมือนกันจึงหันไปมองที่จานบ้าง แล้วผมก็พบกับเนื้อหมูกองโตในจานใบนั้น

 

“เออคือผมย่างเพลินไปหน่อยครับ แหะ ๆ” ผมจึงรีบคีบหมูที่อยู่ในจานพี่เมฆออกเป็นบางส่วนแล้วยื่นใส่จานพี่ ๆ คนอื่น ๆ แทน

 

“ให้พี่แล้วเอากลับไปได้ไง” แต่พี่เมฆก็ค้านขึ้น ส่วนผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ แล้วก็หยิบหมูออกจากจานต่อ เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นแล้วทุกคนคงไม่อิ่มกันแน่

 

“ต้องแบบนี้สิ!” พี่เติ้งพูดขึ้น

 

งานฉลองกันแบบนี้ย่อมมีแอลกอฮอล์ เมื่อเริ่มเมาได้ที่ความสนุกก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณขึ้น

 

“ต่อไปนี้ขอเชิญพบกับนายหนึ่ง นักร้องฝึกหัด แท่น แท๊นนนนน~” พี่บอยทำตัวเป็นพิธีกรเชิญนักร้องเกียรติศักดิ์ขึ้นมายังบนเวทีจำลองที่ทำจากลังไม้เล็ก ๆ พอให้คนขึ้นไปเหยียบได้ ส่วนพี่หนึ่งก็รับกีต้ามาก่อนโค้งคำนับให้แก่ผู้ชมทุกทานประหนึ่งนักร้องดังเช่นกัน และไม่ลืมที่จะเอาหลอดมาเสียบไว้ข้างหูเป็นเหมือนไมค์แล้วก็เริ่มร้องเพลง

 

“ค่ำคืนนี้ยังมีดวงดาวเจิดจ้า

คราบท้องฟ้ายังดูสดใส

สุดส่วนของขอบฟ้ากว้างไกล

ไม่มีวันใดมืดมิดสนิทนาน....

คราบรอยยิ้มยังแต้มเติมตามใบหน้า

สูบกัญชาหลอกหลอนจิตใจ

ชั่วชีวิตคิดสั้นทำไม

เส้นทางสุดท้าย นอนตายใต้ต้นกัญชา”

เพลงกัญชา - คาราบาว

 

ในท่อนแรกพี่หนึ่งก็เริ่มชูไม้ชูมือไปยังบนท้องฟ้า ผมก็เงยหน้าขึ้นไปมองตามมือที่พี่เขาชูขึ้นตามเนื้อเพลง...ไหนดวงดาว? ท้องฟ้าวันนี้สว่างจ้า แต่คนร้องก็ยังคงทำท่าเหมือนเห็นดาวลูกไก่เจ็ดดวงเรียงกันอย่างสวยงามบนนั้นซะอย่างนั้น แต่เมื่อถึงท่อนสุดท้ายของเพลงก็ค่อย ๆ นอนลงกับพื้นและเพลงก็จบลงไปในที่สุดพร้อมกับนักร้องที่นอนหลับสนิทอยู่บนเวทีจำลองนั่น

 

เดี๋ยวนะ! พี่หนึ่งเขาเมาเพราะดื่มเหล้าเบียร์แน่ใช่ไหม? สรุปคืนนี้ผมเป็นคนเดียวที่สติสัมปชัญญะครบถ้วนไม่ขาดไม่เกินอยู่คนเดียว รู้งี้ผมรีบเมาน้ำโค้กดีกว่าจะได้ไม่ต้องมารับรู้เห็นภาพอุจาดตาอะไรแบบนี้ ผมมองไปรอบ ๆ สนามหญ้าหน้าบ้านขวดเขียวขวดน้ำตาลกองเกลื่อนกระจายเต็มพื้นพร้อมด้วยเศษซากของอาหารที่กินไป

 

“เอ้า นักร้องตายซะละ เดี๋ยวพิธีกรขึ้นร้องเองไม่ต้องห่วงว่าเวทีจะว่าง” พี่บอยเดินขึ้นมาสวมแทนนักร้องหนึ่งที่นอนแน่นิ่งทันที พร้อมเอาเท้าเขี่ย ๆ ผลักให้พี่หนึ่งลงจากเวทีด้วย

 

พี่บอยยังไม่ทันร้องเพลงก็มีรถเก๋งคันสีแดงเทียบจอดหน้าบ้าน เจ้าของรถในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้นเดินลงมาก่อนจะเดินเข้ามายังตัวบ้างอย่างชำนาญเหมือนคุ้นชิน

 

“ฟ้ามาแล้วเหรอ? พอดีเลยไอ้หนึ่งมันไปคนแรกซะแล้ว พามันขึ้นไปบนห้องนอนกับเราหน่อย”

 

“อีกแล้วเหรอ? ฟ้าอุตส่าห์บอกไว้แล้วนะว่าอย่าเมามาก” พี่ฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงจิ๊จ๊ะก่อนเดินไปพยุงร่างพี่หนึ่งโดยมีพี่เมฆคอยช่วยอีกแรง

 

ผมมองพี่ฟ้าและพี่เมฆที่กำลังพาพี่หนึ่งเข้าไปยังบนบ้าน...คำภาวนาของผมไม่เป็นจริง พี่ฟ้ามาที่นี่ด้วย ผมคว้าแก้วน้ำขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วแล้วจึงพบว่าผมหยิบแก้วน้ำผิด

 

เมื่อฤทธิ์แอลกอฮอล์แล่นเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เสือดสูบฉีดไปทั่วร่างกาย หน้าผมเริ่มแดงก่ำขึ้นมาทันทีหลังจากที่ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรสชาติของของมึนเมาพวกนี้จึงทำให้ผมไม่มีภูมิต้านทานสักเท่าไหร่ เมื่อผมรู้สึกไม่ค่อยดีจึงรีบหาน้ำเปล่ามาดื่มตามพร้อมจิ้มหมูกินไปด้วย ผมนั่งฟังพี่บอยร้องเพลงสักพักก็เริ่มรู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำ

 

ผมเดินเปิดประตูเข้ามายังตัวบ้าน ผมมองสำรวจภายในคร่าว ๆ ก่อนเดินหาห้องน้ำ ข้าวของในบ้านค่อนข้างเป็นระเบียบนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงกับรกมากนัก เดินเข้ามาเป็นห้องรับแขก มีโซฟ้าเป็นชุดสีน้ำตาลเข้มและมีโต๊ะขนาดพอเหมาะวางอยู่บนพรมหน้าทีวีจอแบน เดินไปอีกหน่อยก็จะเป็นห้องครัวและนั่นห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้ามของห้องครัวนั่นเอง

 

เมื่อผมทำธุระของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็...ผมหาทางออกจากตัวบ้านไม่เจอ มันมึน ๆ หัวไปหมด ผมจึงเดินตามทางไปเรื่อย ๆ กว่าจะรู้ตัวอีกที่ก็มายืนอยู่บนบ้านเสียแล้ว

 

และสิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าผ่านกระจกฝ้าก็คือเงาของคนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่และเงาของอีกคนก็ล้มตัวลงนอนบนเตียง ส่วนอีกคนก็ยังคงนั่งอยู่แต่ก็โน้มตัวลงไปหน่อย ๆ ด้วยเหมือนกัน...หวังว่าคงจะไม่ได้เป็นอย่างที่ใจผมกำลังคิดอยู่หรอกนะ คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก

 

“เมฆ!”

 

“อือ” เสียงพี่เมฆครางเบา ๆ ออกมาจากลำคอเพราะตอบรับเสียงขานเรียกของอีกคน

 

ผมตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติก่อนที่ผมจะค่อย ๆ เดินเข้าไปให้เห็นด้วยสองตาของตัวเอง แต่ไม่ทันไรก็...

 

“อ่าว นั่นวินใช่ไหม? มานี่หน่อยสิ”

 

ผมถูกพี่ฟ้าจับได้แล้ว ผมเดินเข้าไปหาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เมื่อผมเดินเข้าห้องไปก็ทำให้ผมโล่งใจไปเปราะหนึ่งว่าพี่ฟ้าและพี่เมฆไม่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแต่มีพี่หนึ่งที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วย เอ๊ะหรือว่าสะ สามคนนี้จะ... ผมยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปาก

 

“เห็นหมดแล้วใช่ไหม?”

 

พี่ฟ้าถามแบบนี้หมายความว่าผมดันไปรู้ความลับของสามคนนี้เข้าเหรอ? ผมคงจะไม่โดนฆ่าหมกปูนใช่ไหมเนี่ย

 

“เห็นแล้วก็ยืนอยู่ทำไมล่ะ พาเมฆมันไปเปลี่ยนเสื้อหน่อย เนี่ยเสื้อพี่เปื้อนหมดแล้วพี่จะไปล้างตัวก่อน ฝากด้วยนะทั้งเมฆทั้งหนึ่ง” ว่าจบพี่ฟ้าก็เดินออกจากห้องด้วยอารมณ์หัวเสียพร้อมดึงเสื้อไปข้างหน้าเพื่อไม่ให้เปื้อนตัวไปมากกว่าเดิม

 

สรุปผมคิดไปเอง พี่เมฆแค่อ้วกใส่พี่ฟ้า? แล้วเงาที่ผมเห็นคืออะไร? หรือพี่เขาจูบกันก่อนแล้วค่อยแหวะออกมา อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ผมยืนมองพี่หนึ่งที่นอนนิ่งเป็นสักขีพยานให้กับคนทั้งสองที่เพิ่งจูบกัน!

 

แล้วทำไมผมต้องโมโหและรู้สึกไม่ชอบพี่ฟ้าขึ้นมากกว่าเดิมด้วย

 

ผมถือวิสาสะเดินตรงเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าของพี่เมฆก่อนหยิบเสื้อออกมาหนึ่งตัว

 

กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่มปนกับการบูรดับกลิ่นโชยออกมา ทำไมช่วงนี้ผมได้กลิ่นอะไรก็หอมไปหมดแม้กระทั่งกลิ่นของการบูรที่ผมไม่เคยจะชอบมันเลย

 

“พี่เมฆครับ ลุกขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อก่อน” ผมสะกิดบอกพี่เมฆให้รับรู้ พี่เมฆลืมตาขึ้นช้า ๆ มองผม

 

“วินเหรอ?”

 

“ครับ พี่ลุกขึ้นก่อนจะได้เปลี่ยนเสื้อ”

 

“เปลี่ยนทำไม?”

 

“เสื้อพี่เปื้อน” พูดจบผมก็ดึงตัวพี่เมฆลุกขึ้นนั่งก่อนถอดเสื้อออกให้ เผยให้เห็นกล้ามเป็นรอน ๆ หน้าท้องมีซิกแพคหกก้อนเรียงกันอยู่บนหน้าท้องอย่างสวยงามไม่บูดเบี้ยว ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่เมฆจะซ่อนรูปขนาดนี้ ก็พอรู้แหละว่าต้องมีแต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ ผมค่อย ๆ กลืนน้ำลายลงคอเอือกใหญ่ ผมทำไมรู้สึกเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้ อยากจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ใกล้เข้าอีก อีกนิด.....

 

“วินเสร็จยัง”

 

ผมสะดุ้งโหยงออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงพี่ฟ้า

 

“ใกล้แล้วครับ กำลังจะใส่เสื้อให้พี่เมฆ” ถ้าพี่ฟ้าไม่มาเสียก่อนผมก็ไม่รู้ว่าสมองผมจะสั่งให้ส่วนไหนในร่างกายขยับบ้าง

 

“อือ ๆ รีบตามลงมานะ พี่รอข้างล่าง”

 

ผมสวมเสื้อให้พี่เมฆก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไปแต่ทว่าพี่เมฆดึงแขนผมไว้ทำให้ผมเสียหลักแล้วนั่งลงกับเตียงเหมือนเดิม

 

“วินเน่น้อยของพี่” พี่เมฆพูดเสียงยานก่อนปากจะจุ๊บลงมาบนแก้มผมจากนั้นก็ผล็อยหลับลงสู่บนเตียงข้างพี่หนึ่ง

 

 

 

 

MEB จิ้ม ๆ ค่ะ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา