เขาเรียกพวกผมว่าปาร์ตี้มอนสเตอร์สุดกาก...ผมก็ไม่ได้เถียงนี่!

-

เขียนโดย cQMan

วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 18.01 น.

  12 ตอน
  11 วิจารณ์
  10.01K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562 04.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4 ผมได้ความสามารถใหม่ที่ดูมีประโยชน์กว่าคนอื่นๆ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 4

ผมได้ความสามารถใหม่ที่ดูมีประโยชน์กว่าคนอื่นๆ

 

ข่าวดีสำหรับพวกผมก็คือ หลังจากที่พวกผมเลื่อนระดับขึ้นไปเป็นระดับ 2 แล้ว พวกผมก็ได้ความสามารถใหม่กันมาคนละหนึ่งอย่าง ทว่าเมื่อได้อ่านคำอธิบายความสามารถเหล่านั้น ผมก็รู้สึกเหมือนกับผมเพิ่งจะได้ยินข่าวร้ายไป

หลังจากที่พวกผมกินอาหารกันเสร็จ ซึ่งอาหารมื้อที่ผ่านมาคือลูกหมาป่าตัวแสบที่พวกผมล้มได้ ในตอนค่ำ พวกเราก็กลับมาอยู่ในถ้ำซึ่งเป็นที่แห่งแรกที่พวกผมเห็นหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกใบใหม่ ถ้ำแห่งนี้กว้าง และมีรูจากด้านบนขนาดไม่ใหญ่มากปล่อยให้แสงส่องผ่านลงมาได้ ตามพื้นถ้ำมีก้อนหินเล็กใหญ่กระจายอยู่ทั่ว ยิ่งนานวันพวกเราก็ยิ่งรู้สึกว่าที่นี่เป็นเหมือนบ้าน ในระหว่างนั้น ผมซึ่งจำได้ว่ามีเสียงประหลาดดังขึ้นมาในหัวของผม ก็เลยเอ่ยปากถามเพื่อนๆ และพบว่าเพื่อนๆทุกคนก็ได้ยินเสียงแบบเดียวกัน ประโยคเดียวกัน ผมเลยชวนทุกคนเปิดดูความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่ได้เลื่อนระดับ

ความสามารถที่ผมได้เพิ่มขึ้นมาคือความสามารถ “แบ่งตัว” คำอธิบายที่ปรากฏอยู่บนกระดานเวทมนตร์ตรงหน้าบอกว่า เมื่อสั่งใช้งานจะสามารถแบ่งร่างของตัวเองออกเป็นสองส่วนได้ ขนาดและค่าสถานะทั้งหมดจะถูกแบ่งออกครึ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน สามารถกลับมาคืนร่างเดิมด้วยคำสั่ง “รวมตัว”

คือถ้าฟังดูคร่าวๆมันก็ดูเหมือนกับเป็นความสามารถที่มีประโยชน์นะ แยกร่างเข้าต่อสู้เพื่อสร้างความได้เปรียบด้านจำนวน หรือย่อขนาดตัวให้เล็กลงไว้สำหรับหนี แต่คุณลองคิดดูสิ ผมเป็นแค่สไลม์ไง! สิ่งมีชีวิตสุดกระจอกที่มีพลังชีวิตอยู่เท่าๆกับเศษเล็บกระรอก ค่าพลังโจมตี พลังป้องกัน และความเร็วนี่ก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินไม่ต่างกัน ถ้ามันถูกหารออกไปครึ่งหนึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับเพิ่มโอกาสในการถูกกระทืบจนแหลกเหลวเป็นสไลม์บดเลยซักนิด ฆ่าตัวตายชัดๆ!

แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นความสามารถที่หาประโยชน์ไม่ได้เลยหรอกนะ เพราะเมื่อผมทดสอบการแบ่งตัว ผมพบว่าการรับรู้ของผมกับร่างแยกถูกแบ่งออกจากกันด้วย นั่นเท่ากับว่าถ้าผมไปตรวจสอบบริเวณทางซ้ายแล้วกลับมารวมตัวกับร่างแยกที่ไปตรวจสอบทางด้านขวา ผมจะได้รับข้อมูลจากเจ้าตัวร่างแยกด้วยทำให้ผมรู้ทั้งข้อมูลจากฝั่งขวาและฝั่งซ้าย

อย่างน้อยมันก็ยังมีข้อดีอยู่บ้าง อีกอย่างมันก็ยังฟังดูเป็นขยะน้อยกว่าความสามารถของก้อนหินจิลตั้งเยอะ

ก้อนหินจิลได้ความสามารถ “ซัดฝุ่น” คำอธิบายสั้นๆแต่สะเทือนใจบอกเอาไว้ว่า เมื่อสั่งใช้งาน จะทำการซัดฝุ่นบริเวณใกล้เคียงไปยังเป้าหมาย ซึ่งแรงในการซัดฝุ่นเท่ากับการเอาเด็กซนๆซักคนมาเตะฝุ่นขึ้นไปบนฟ้าเท่านั้น ยินดีด้วย! คุณจิลได้รับความสามารถขยะไปครอบครอง!!!

คุณอาจจะบอกกับผมว่า “ใช้ซัดฝุ่นใส่ตาของอีกฝ่ายเพื่อทำลายการมองเห็นไงไอ้เจ้างั่งเอ้ย!” โอเค! มันก็ฟังดูเป็นกลยุทธที่เข้าท่าอยู่ไม่น้อย แต่คุณอาจจะลืมบางอย่างไป ก้อนหินจิลมีความสูงไม่ถึงหนึ่งฟุตวัดจากพื้นดิน เขาไม่มีทางซัดฝุ่นใส่ตาของศัตรูที่มีความสูงมากกว่านั้นได้อย่างแน่นอน ความสามารถนี้น่าจะมีผลกับพวกแมลงหรือมอนสเตอร์ที่กำลังหมอบต่ำแกล้งตายเท่านั้น

เชื่อผมหรือยังว่ามันน่าสะเทือนใจน่ะ

ความสามารถใหม่ของไข่มังกรเดรคคือ “แข็งตัว” เมื่อใช้งานจะเพิ่มพลังป้องกันเล็กน้อยในชั่วระยะเวลาหนึ่ง แม้จะไม่ได้มีความว้าวใดๆ แต่ก็ไม่ได้น่าร้องอี๋เหมือนของเพื่อนก้อนหิน

ความสามารถใหม่ของลูกแก้วฟราน เป็นความสามารถในการ “เรืองแสง” เมื่อสั่งใช้งานจะมีแสงสีทองเรืองรองออกมาจากตัวเขาทำให้เหมือนตะเกียงทรงกลมที่น่ารำคาญกว่าตะเกียงตามบ้านเรือนอื่นๆ ฟรานถูกใจกับความสามารถนี้มาก ดูได้จากที่เขาเรืองแสงแทบจะตลอดเวลาตราบเท่าที่ยังเหลือพลังพิเศษให้ผลาญ

“ฉันนี่มันมีเจิดจ้าออร่าจับจริงจริ๊งงงงงง” ลูกแก้วฟรานหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกลิ้งอวดความเจิดจ้าของตัวเองไปทั่วถ้ำ

อ้อ! ผมเกือบลืมไปแหนะ นอกจากจิลก็ยังมีอีกคนที่ได้ความสามารถใหม่ไร้ประโยชน์ ผมขอแนะนำให้พวกคุณรู้จักกับเพื่อนของเรา กะโหลกเซน! ผู้ครอบครองท่าไม้ตายอันยิ่งใหญ่ ท่า “พ่นควัน!!!”

ท่าที่ไม่อาจสร้างความเสียหายใดๆ ไม่ได้มีหมอกพิษแอบแฝง และไม่มีผลในการฟื้นฟูรักษาหรือเอื้อประโยชน์ใดๆต่อร่างกาย เป็นแค่ควันธรรมดาๆที่ลอยหายไปทันทีเมื่อลมพัดผ่าน นั่นแหละคือสิ่งที่กะโหลกเซนสามารถพ่นมันออกมาจากปากได้

นอกจากความสามารถใหม่ที่น่าผิดหวัง หลังจากเลื่อนระดับ ค่าสถานะบางส่วนของพวกเราก็เพิ่มขึ้นมาอย่างละนิดอย่างละหน่อย ดูเหมือนว่าหนทางการกลายเป็นมอนสเตอร์สุดโหดของพวกผมจะยังอีกยาวไกล แต่ผมก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรหรอก ขอแค่มีชีวิตรอดวันต่อวันก็พอแล้ว

ถึงตอนนี้ผมเริ่มจะทำใจกับสภาพใหม่นี้ได้แล้วล่ะ มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้นี่นา งั้นก็คงมีแต่ต้องชินกับมันให้เร็วที่สุดเท่านั้น

ทางด้านพลังชีวิตคงเหลือของทุกคน คนที่บาดเจ็บก็ได้พลังชีวิตฟื้นคืนพลับมาบ้าง การกินอาหารช่วยทำให้ฟื้นฟูพลังชีวิตที่เสียไปได้ส่วนหนึ่ง และมันจะค่อยๆฟื้นฟูกลับมาทีละน้อยเมื่อเราได้พักผ่อน ตอนนี้ในกลุ่ม คนที่พลังชีวิตเต็มมีแค่ก้อนหินจิลที่ไม่โดนโจมตีเลยซักครั้ง กะโหลกเซนที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยซึ่งผมไม่รู้ว่าเขาไปได้มาตอนไหน กับลูกแก้วฟรานที่กลิ้งไปกลิ้งมาคอยแหกปากทำลายสมาธิและความเยือกเย็นของเพื่อนๆเท่านั้น พลังชีวิตของไข่มังกรเดรคเกือบจะเต็มแล้วหลังจากทีได้กินและได้พัก ส่วนพลังชีวิตของผมกลับมีแค่สองในสามส่วน เพราะผมเป็นคนที่โดนหนักที่สุดในกลุ่ม ทั้งโดนตะปบและตอนที่เจ้าลูกหมาป่าพยายามปัดผมออกจากหน้าของมัน

ผมรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเลยนะเนี่ย นี่ผมต้องขอบคุณเทพเจ้าไหม…ผมคิดว่าถ้าเปลี่ยนเป็นด่า ผมคงจะรู้สึกดีมากกว่า

“พรุ่งนี้เอาไงกันดี” ก้อนหินจิลเอ่ยด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตก “เรื่องอาหารน่ะ”

“ออกล่าเหมือนเดิมไง” ไข่มังกรเดรคบอกอย่างเลือดร้อน ยิ่งพลังชีวิตเขาฟื้นฟู รอยร้าวตามเปลือกไข่ก็ยิ่งน้อยลงราวกับเปลือกไข่กลับมาประสานกันอีกครั้ง “การได้ออกกำลังก่อนกินอาหารจะทำให้ย่อยง่าย”

“ตำราไหนของนายกันเนี่ย” ผมร้องแทรก “อีกอย่างวันนี้ ถ้ามันไม่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว พวกเราไม่มีทางได้แทะเนื้อติดมันกันแน่ๆ”

“แค่แผลเล็กๆที่ขาหลังเอง” ไข่มังกรเดรคบอก เขาคงไม่คิดว่ามันจะมีผลอะไรมากนัก

“ถ้ามันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ คงเป็นฝ่ายเราที่โดนกิน” กะโหลกเซนกล่าวเสียงเย็น ผมเห็นด้วยกับเขา

“ก้อนหินอย่างฉันคงจะย่อยยากเกินไปสำหรับลูกหมาป่า” ก้อนหินจิลเอ่ยอย่างหวาดๆ

“ก็ไม่แน่หรอก ตอนนี้เราเลื่อนเป็นระดับสองแล้วด้วย” ไข่มังกรเดรคยังไม่ยอมแพ้ “ไม่ลองสู้ดูก็ไม่รู้หรอก จริงไหมเพื่อนรัก” เขาพยายามหาแนวร่วม ซึ่งคนที่เขาขอความเห็นดันเป็นลูกแก้วฟราน เพื่อนรักเพื่อนแค้นของเขาเอง

“ถูกต้อง! ถ้าลองได้โดนแสงอันเจิดจ้าของฉันสาดส่องใส่ดวงตาเข้าให้ ไม่ว่าจะเป็นลูกหมาป่าหรือพญามังกรก็เป็นอันต้องโดนฉันกลบรัศมีจดมิด” ลูกแก้วฟรานเอ่ยด้วยความภาคภูมิใจ

“ใช่เลยเพื่อน!” ไข่มังกรเดรคที่กำลังหาแนวร่วมทำเป็นเออออห่อหมกไปตามน้ำ

“แต่การล่าสัตว์เพื่อเลื่อนระดับก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในโลกนี้จริงๆนั่นแหละ” ผมประเมิณสถานการณ์ เป็นไปได้ว่าทุกๆระดับที่เพิ่มขึ้น พวกผมจะได้รับความสามารถใหม่ๆและมีค่าสถานะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมันจะต้องมีซักความสามารถที่เป็นประโยชน์กับผมหรือคนอื่นบ้างแหละ นั่นจะช่วยเพิ่มโอกาสในล่าอาหารรวมถึงการเอาชีวิตรอดในแต่ละวันด้วย

“ใช่ไหมล่ะๆ” ไข่มังกรเดรคร้องอย่างอารมณ์ดี กะโหลกเซนนิ่งเงียบไปเหมือนกำลังใช้ความคิด

“แต่ถ้าให้สู้กันตรงๆเลยก็คงเสี่ยงเกินไป” เขากล่าวอย่างราบเรียบ ไข่มังกรเดรคทำท่าจะโต้แย้ง แต่เพื่อนกะโหลกก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อนว่า “แต่พรุ่งนี้ฉันจะลองคิดหาวิธีวางกับดักสำหรับการล่าสัตว์ดู อย่างน้อยทำให้พวกมันบาดเจ็บก่อนจะโจมตีก็ยังดี บางทีถ้ามันใช้ได้ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องอาหารอีก”

“วางกับดักเหรอ…ก็ได้อยู่นะ เอาเป็นว่าฉันเห็นด้วยตามนี้” ผมเห็นด้วยและดูเหมือนว่าผมอาจจะต้องไปช่วยงานกะโหลกเซนในการวางแผนสร้างกับดัก

“ฉันเอาด้วย” ก้อนหินจิลเอ่ยปาก

“อืม ฟังดูเป็นการล่าสัตว์ที่ชาญฉลาด เหมาะกับคนฉลาดๆแบบฉัน งั้นฉันเห็นด้วย” ลูกแก้วฟรานบอก นั่นทำให้ไข่มังกรเดรคร้องออกมาอย่างขัดใจ แต่เขาก็แย้งอะไรไม่ได้เพราะมันฟังดูเป็นแผนการที่ดีที่สุดแล้วสำหรับตอนนี้

“โอเคๆ จะทำอะไรก็ทำกันไปเลยนะ ไม่ต้องสนใจฉันก็ได้ ชิ!” และนี่คือคำศัพท์ใหม่ที่ผมเพิ่งค้นพบ

ไข่งอน!!!

ทันใดนั้นเองเสียงบางอย่างก็ทำให้พวกผมหยุดพูด เสียงพูดคุยกันของคนอีกกลุ่มหนึ่งทำให้พวกเราเงียบกริบ เสียงฝีเท้ามุ่งหน้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เสียงพูดคุยนั้นทำให้ผมมั่นใจว่ากลุ่มที่กำลังมาเป็นมนุษย์แน่นอน และสิ่งที่แน่นอนกว่านั้นคือหากพวกมนุษย์เจอพวกเรา เราไม่ตายก็ต้องถูกขายทอดตลาด!

โดยไม่ต้องให้ร้องบอก พวกผมกระโดดเข้าไปหลบหลังก้อนหินที่อยู่ใกล้ที่สุดในทันที แต่ก้อนหินจิลยังคงนิ่งอึ้งไม่ขยับเขยื้อนไปไหน บอกได้ยากว่าเขากลัวจนไม่กล้าขยับ หรือว่ากำลังเนียนเป็นก้อนหินก้อนหนึ่งอยู่

แล้วในที่สุด…

“ถึงแล้ว ถ้ำนี่ไงที่ฉันเคยเล่าให้พวกนายฟัง…” เป็นเสียงของชายหนุ่มจากปากถ้ำ เจ้าของเสียงเอาร่างอันใหญ่ล่ำในชุดเกราะหนักและดาบใหญ่หนึ่งเล่มบนหลังเคลื่อนเข้ามาข้างใน พร้อมๆกับสหายของเขาเกือบสิบคน

“ว้าว! รูข้างบนนั้นสวยจัง มองเห็นพระจันทร์ด้วยล่ะ” เด็กสาวถักเปียยาวถึงหลังในชุดจอมเวทย์เอาคทาในมือของตนชี้ไปยังรูโหว่ด้านบน

“งั้นคืนนี้ เราพักกันที่นี่แหละ” หนุ่มในชุดนักรบอีกคนเอ่ยบอกกับเพื่อนๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงไปบนก้อนหินก้อนหนึ่ง…ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิด ก้อนหินก้อนนั้นน่าจะเป็นเพื่อนของรักผมเอง ผมรู้สึกได้เลยว่างานนี้ต้องมีคนเจ็บแน่ๆ และสิ่งที่พวกเราเห็นพ้องต้องกันเป็นครั้งแรกก็คือ…

ซวยแล้วไง!

 

อืม………………………ฉันต้องพูดอะไรไหม : กะโหลกเซน

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตคุณ หลังจากอ่านนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา