จอมใจคาสโนว่า

-

เขียนโดย GUEST1563906409

วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 01.31 น.

  6 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,160 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 01.36 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) เพื่อนสนิท

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทินกรตื่นมาชงกาแฟแต่เช้า กินข้าวต้มที่แม่บ้านยกมาเสิร์ฟให้ที่เรือนพักส่วนตัวที่สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง เสร็จแล้วจึงหยิบกางเกงว่ายน้ำ ชุดคลุมขนหนูและขวดน้ำดื่มเดินตรงไปที่สระว่ายน้ำประจำของรีสอร์ต

ปกติเขาจะออกกำลังกายยามเช้าด้วยการวิ่งครั้งละสิบกิโลเมตร และว่ายน้ำในตอนค่ำที่ไร้แดด แต่วันนี้นึกครึ้มใจอยากว่ายน้ำตั้งแต่เช้า เปลี่ยนกางเกงและล้างเนื้อล้างตัวใต้ฝักบัวที่ตั้งอยู่ริมสระ วอร์มอัพร่างกายก่อนจะกระโดดลงว่ายฟรีสไตล์แบบนับรอบ

45 นาทีต่อมาก็ว่ายกลับขึ้นฝั่ง

ชายหนุ่มเป็นคนดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่เพียงโชคดีที่เกิดมาหน้าตาหล่อเหลา แต่รูปกายที่สูงสง่าของเขายังประกอบไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงอย่างที่ผู้ชายหลายคนอิจฉา และผู้หญิงก็ต้องหลงใหล

“นางเงือกที่ไหนวะ ท่าสวยเป็นบ้า สงสัยเป็นนักกีฬาเสียล่ะมั้ง”

เขาเพิ่งสังเกตว่ามีเพื่อนร่วมสระเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

รวิศาเองก็ไม่ทันสังเกตหรอกว่าคนที่ว่ายน้ำอยู่ก่อนแล้วในเวลาค่อนข้างเช้านี้เป็นใคร เธอคิดว่าเป็นแขกคนหนึ่งของโรงแรม...

จนเมื่อหญิงสาวชะลอจังหวะของตัวเองลงและค่อย ๆ พยุงตัวตีน้ำแบบผ่อนคลายมาที่ขอบสระ ถอดแว่นตาว่ายน้ำออกและลูบหน้าลูบตาตัวเอง

ทินกรจึงเห็นเต็มตาว่าคนที่เขานึกชมว่าท่าว่ายสวย แท้จริงแล้วคือใคร

“ยัยศา...”

ทินกรทักร่าเริง แต่รวิศาสะดุ้ง เงยหน้ามองผู้ชายตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงขอบสระให้ชัด

เนื้อตัวเขายังหมาด น้ำหยดจากเรือนผมสีดำสนิทที่ค่อนข้างยุ่ง ดูเซ็กซี่...

แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือหยดน้ำที่ไล่ลู่ลงมาตั้งแต่หน้าอก...ตามแนวไรขน...ลงสู่ท้องน้อยที่เป็นลอนมัดกล้าม สายตาเธอเผลอมองตามจนมันลับหายเข้าไปในกางเกงว่ายน้ำ...

รวิศาสะดุ้งและรีบดึงสายตาไปทางอื่นก่อนที่ตัวเองจะมองต่ำลงไปกว่านี้

ทินกรหัวเราะเบา ๆ ผู้ชายอย่างเขาอ่านสายตาผู้หญิงไม่ผิด โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไร้เดียงสาแบบนี้

หรือต่อให้ไม่ใช่เขา มาเห็นดวงตากลมที่เบิกกว้าง ปากอ้าค้างและหน้าแดงก่ำ...

มันก็ต้องรู้ล่ะน่าว่าเธอกำลังคิดหรือกำลังรู้สึกอะไร

ทินกรนึกอยากแกล้งขึ้นมาทันที

“พี่นึกว่านางเงือกที่ไหนเสียอีก”

ทินกรย่อกายลงก้มคุยกับเธอที่เกาะขอบสระอยู่

หญิงสาวผงะถอยปล่อยมือฉับพลัน ทินกรไวกว่ารีบคว้าแขนเธอไว้ แต่รวิศาตกใจที่ถูกจับแขนก็ตีมือตีไม้ออกไปทำให้ทินกรเสียหลัก...ที่จริงเขาจะตั้งหลัก ปล่อยแขนเธอก็ยังทัน

แต่ทินกรเจ้าเล่ห์กว่านั้น เขาทำทีเป็นประคองตัวเองไม่อยู่ คะมำหน้าลงสระไป

“ว้าย!!!”

“ตูม!!”

รวิศาตกใจที่จู่ๆ ทินกรก็หล่นตูมลงมา และตกใจยิ่งกว่าเมื่อเขาทะลึ่งพรวดขึ้นจากน้ำประชิดตัวจนศีรษะเกือบจะโขกกัน

“พี่ทิน เป็นอะไรไปหรือเปล่า”

รวิศารีบถามอย่างห่วงใย ทินกรลูบหน้าเสยผม ตีหน้าซื่อ

“ก็เรานั่นแหละ ร้องเสียงดังซะพี่เสียหลักหมด”

ทินกรแกล้งว่า ก่อนจะลอยตัวเข้าไปใกล้รวิศา ใกล้...จน...เอ่อ...

ชายหนุ่มนึกไม่ถึงเลยว่า แม่สาวนักกีฬา...รวิศา...ยัยอ้วนดำที่เขาเคยเรียกเธอในยามเด็ก เมื่อมาเห็นใกล้ๆ จะรูปร่างกินขาดทุกคนที่เขาเคยเจอมา

รวิศารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ กับแววตาคู่นั้น ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเธอคงชกหน้าไปแล้วโทษฐานที่มองเธอด้วยแววตาวาววับ แต่ด้วยสายตาชนิดเดียวกัน ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึกแปลกๆ อย่างที่ทินกรกำลังทำให้รู้สึก รวิศารีบพุ้ยน้ำออกไปห่างจากชายหนุ่มทันที

“อ้าว! จะรีบไปไหนล่ะ ไม่ว่ายน้ำเล่นต่อเหรอ เดี๋ยวพี่ว่ายเป็นเพื่อน”

ทินกรหยอกก่อนจะหัวเราะร่าเริง รวิศาหันมาค้อนขวับ อยากขึ้นจากสระทันทีในตอนนี้ แต่รู้สึกอายสายตาคมเข้มของชายหนุ่มจนต้องย่อตัวให้พ้นน้ำมาแค่คอ

หญิงสาวไม่ได้อายสายตาของผู้ชาย...แต่เจาะจงว่าอายสายตาของทินกร หรือพี่ทิน...แค่คนเดียว

“งั้นพี่ทินขึ้นก่อนล่ะนะ มีนัดต่อ ต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวแล้ว”

ทินกรเป็นฝ่ายสรุปก่อนจะดันตัวขึ้นจากขอบสระ รวิศารีบหันหลังให้ทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่อยากหันไปพินิจเรือนร่างที่เธอประจักษ์แก่สายตาเมื่อครู่ว่ามันแข็งแกร่ง กำยำ และน่ามองมากแค่ไหน

หญิงสาวรอจนแน่ใจว่าชายหนุ่มพ้นไปจากบริเวณนั้นแล้วจึงได้รีบขึ้นจากสระ คว้าผ้าขนหนูพันกายหลวม ๆ วิ่งเข้าห้องแต่งตัวสำหรับผู้หญิง

โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่เดิมลอบมองมาจากมุมลับพร้อมด้วยรอยยิ้มพรายอย่างพึงพอใจ...

 

“วันนี้ตอนบ่ายคุณทินมีนัดกับคุณพลอยณิชชานะครับ ที่...”

ยุทธพิชัยรายงานตารางนัดหมายให้เจ้านายหนุ่มรับทราบ

“จริงด้วยว่ะ ลืมสนิทเลย”

“เป็นไปได้ยังไงครับ ที่ผู้ชายแสนดีอย่างคุณทินจะลืมนัดกับสาวสวยอย่างคุณพลอย”

ยุทธพิชัยแกล้งถามหน้าทะเล้น

“ไอ้เบื๊อกยุทธ แกนี่ชักกำเริบใหญ่แล้วนะ ฉันยังไม่ได้ชำระความกับแกเลยเรื่องที่รู้ว่ารวิศาจะมาทำงานที่นี่แต่ดันไม่รายงานให้ฉันรู้ก่อน”

“ก็คุณนายสั่งห้ามไว้ กระผมรับเงินเดือนจากคุณนาย ก็ต้องทำตามที่ท่านสั่งครับ”

เลขาฯ หนุ่มพูด ยิ้มแฉ่ง ทินกรหมั่นไส้จนต้องยกขาขึ้นตั้งท่าจะถีบ

“แต่ยัยศาก็เป็นสาวขึ้นจนฉันจำแทบไม่ได้จริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปีจะเปลี่ยนไปขนาดนี้ แถมยังเรียนจบกีฬามาซะด้วย...”

“เท่ดีนะครับ”

ยุทธพิชัยออกความเห็น

“ฮื่อ...แปลกดี”

ทินกรตอบก่อนยกกาแฟขึ้นจิบ

คลับคล้ายคลับคลาว่าเจอรวิศาครั้งล่าสุดน่าจะเป็นตอนที่เธอเรียน ม.ปลาย หรือไม่ก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัย...แต่ที่จำได้แจ่มชัดมากกว่ากลับเป็นตอนเด็ก ตอนที่รวิศายังเพิ่งจะ 7-8 ขวบ ตอนนั้นเธอผิวคล้ำเพราะเรียนว่ายน้ำ แต่แทนที่จะผอมเพรียวกลับตัวกลมเป็นปล้อง ทินกรกำลังเป็นวัยรุ่น เสียงเริ่มแตกหนุ่ม แข้งขายืดเก้งก้าง แต่อุปนิสัยยังคึกคะนองเหมือนเด็กๆ เขาเป็นคนแรกที่เรียก (ล้อเลียน) รวิศาว่าเป็ดดำ...

เขาโดนแม่ตีด้วยถ้าจำไม่ผิด ส่วนรวิศาตอนนั้นก็จ้องมองเขาเหมือนว่าถ้ากระโดดทับให้แบนได้ก็คงทำไปแล้ว

ชายหนุ่มนึกถึงวัยเด็กแล้วก็หัวเราะเบาๆ

“หัวเราะอะไรหรือครับคุณทิน”

ยุทธพิชัยยื่นหน้าถาม

“ไม่รู้สักเรื่องนี่จะตายมั้ยไอ้ยุทธ”

เลขาฯ หนุ่มหัวเราะแห้งๆ

“แกไม่จำเป็นต้องสอดรู้สอดเห็นฉันทุกเรื่องหรอกนะเพราะถึงยังไงแม่ฉันก็จ่ายเงินเดือนแกเต็มๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าแกทำหน้าที่ดีเกินไปน่ะสิ...ไม่แน่ว่าฉันจะนึกรำคาญจนอยากเปลี่ยนเลขาฯ ส่วนตัวใหม่ มีสาวๆ มากมายอยากทำงานนี้นะ...”

ทินกรขู่ ยุทธพิชัยทำคอย่น

“โถ่...อย่าถือสาไอ้ยุทธเลยครับคุณทิน ผมไม่เสือ...เอ๊ย ไม่สอดรู้แล้วก็ได้ครับ”

“เออ ดี”

“งั้นให้ผมคอนเฟิร์มนัดกับเลขาฯ คุณพลอยเลยนะครับ”

“ก็เออสิ”

ยุทธพิชัยรีบจัดการหน้าที่ตัวเองอย่างเสร็จสรรพ

การงานของทินกรไม่ได้มากมายก่ายกองอะไรนัก เพราะทายาทคนเดียวของธีระธารรีสอร์ตยังใช้ชีวิตแบบหนุ่มเจ้าสำราญมากกว่าทุ่มเททำงาน

แต่นราวดีจงใจแต่งตั้งให้ยุทธพิชัยมาเป็นเลขาส่วนตัวให้บุตรชายคนเดียว เพราะอย่างน้อยก็จะมีคนเตือนความจำทินกรได้บ้างว่าเขาควรทำอะไร และต้องทำอะไร

ทินกรก็ไม่ได้ดื้อมากนักหรอก เขาออกเป็นคนสบายๆ ใครอยู่ด้วยก็มีความสุขเพราะชายหนุ่มใจกว้างและขึ้นชื่อเรื่องความใจดี

ยุทธพิชัยเป็นบุตรคนเดียวของคนขับรถประจำตัวของพ่อและแม่ของทินกร วิ่งเล่นมาด้วยกันกับลูกเจ้านายตั้งแต่จำความได้ จนเมื่อพ่อของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็ง ยุทธพิชัยก็เรียกได้ว่าไร้ญาติขาดมิตร คุณนราวดีเมตตาให้ที่อยู่ที่กิน ให้ทำงานในรีสอร์ต และยังส่งเสียจนยุทธพิชัยเรียนจบปริญญาตรี

ตลอดเวลาที่เรียน ยุทธพิชัยตั้งใจทั้งเรียนและทำงานเพราะต้องการตอบแทนบุญคุณของคุณนราวดีหรือที่ใครต่อใครเรียกชื่อเล่นของหล่อนว่าคุณนาย...

เขาคิดว่าเมื่อจบปริญญาตรีอาจได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น เงินเดือนมากขึ้นอีกนิดหน่อยซึ่งนั่นก็พอใจมากแล้ว แต่ยุทธพิชัยกลับได้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวของทายาทคนเดียวของธีระธาร...

ชายหนุ่มตื้นตันไม่เพียงเพราะได้รับความไว้วางใจ แต่ความที่คุณทินกรเป็นคนง่าย ๆ สนุกสนานและติดดิน การได้ทำงานกับทินกรจึงถือว่าเป็นความโชคดีที่หาได้ยากยิ่ง

 

 

 

วนอาหารชื่อดังกลางเมืองปราจีนบุรี...

“ขอโทษที่มาช้านะทิน กว่าจะปลีกตัวออกจากห้องประชุมมาได้...ยุ่งจริง ๆ”

พลอยณิชชาเอ่ยเป็นประโยคแรกหลังจากหย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้ที่พนักงานเลื่อนให้

“งานหนักหรือพลอยช่วงนี้” ทินกรถามอย่างสนิทสนม

“ใช่ พลอยกำลังจะขยายสาขาใหม่”

เธอหมายถึงสถานเสริมความงามที่มีเธอเองเป็นพรีเซ็นเตอร์ “พลอยณิชชาบิวตี้” ได้รับความนิยมจากสาวน้อยสาวใหญ่ทั่วเมืองปราจีนฯ และใกล้เคียง

บริการดี ราคาไม่สูง อีกทั้งคุณภาพก็ไม่ต่างจากคลินิกชื่อดังในกรุงเทพฯ

หญิงสาวเป็นคนรักสวยรักงามมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว และก็นำความชอบของตัวเองมาทำให้เป็นธุรกิจ

บวกกับความสวย ขาว และอึ๋มที่ได้มาแต่ท้องพ่อท้องแม่ทำให้ธุรกิจของเธอเป็นที่น่าเชื่อถือและกิจการรุ่งเรืองภายในเวลาไม่กี่ปี

นอกจากสวย และเจ้าเสน่ห์ เธอยังเพียบพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติ

ที่น่าภูมิใจคือเธอหาได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ผู้ชายเป็นสะพานเหมือนที่คนทั่วไปชอบซุบซิบนินทา

“ขยันจังนะพลอย มีเวลาพักผ่อนหรืออย่างนี้”

“แหม...ก็พลอยไม่ได้รวยเหมือนทิน ก็ต้องงกกันหน่อย"

พลอยณิชชากับทินกรรู้จักกันมาตั้งแตสมัยเรียนเพราะต่างเป็นคนท้องถิ่นทั้งคู่ ทั้งคู่จีบกันไปเกี้ยวกันมาแต่ไม่เคยคบหากันจริงจัง

จนกระทั่งเมื่อสามปีก่อนที่พลอยณิชชาแต่งงานกับเพื่อนร่วมรุ่นอีกคนที่ทินกรก็รู้จักดี... ร.ต.อ.ชเยนทร์ คฑาพิสุทธิ์ นายตำรวจหนุ่มหล่อหน้าเข้มอนาคตไกล

และเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็เป็นข่าวใหญ่ในวงสังคมเล็ก ๆ ของจังหวัดเมื่อทั้งคู่หย่าขาดจากกัน โดยไม่มีใครรู้สาเหตุ

ได้แต่ใส่สีตีไข่กันไปสารพัดตามแต่ความคะนองของปาก

ทินกรก็ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว แม้ทั้งคู่จะถือได้ว่าเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมา...

“ที่อยากคุยกับทินวันนี้ก็เรื่องธุรกิจนี่ล่ะค่ะ พลอยอยากขอเช่าพื้นที่โรงแรมของทิน แล้วก็อยากจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น พักที่ธีรธารารีสอร์ต ได้บัตรส่วนลดคอร์สความงามของพลอยณิชชาบิวตี้...ดีไหมคะ”

“ก็น่าสนใจนะฮะ ไว้ผมจะนัดฝ่ายการตลาดให้มาคุยรายละเอียดอีกที”

“ง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือคะ”

พลอยณิชชาเลิกคิ้ว

“ก็ไม่มีอะไรยากนี่ฮะพลอย...ผมเบื่อจะคุยเรื่องงานจะตาย เจอคุณทั้งที่อยากคุยเรื่องอื่นมากกว่า”

ม่ายสาวอมยิ้ม ส่ายหน้า

“ทำไมชอบทำตัวเหลวไหลนักคะ คุณทินกร”

“เฉพาะเวลาอยู่กับพลอยเท่านั้นแหละ”

ทินกรหยอดอีก...

แต่ใครจะเชื่อว่าเธอกับคาสโนว่าอย่างทินกร จะยังไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน

ได้เพียงจีบกันไป หยอดกันมา ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว

“ทินรู้จักคลับพาลาสโซ่มั้ยคะ ที่เพิ่งเปิดใหม่ ที่นั่นบรรยากาศดีมาก อาหารก็อร่อย ดนตรีก็ไพเราะใช้ได้ทีเดียว”

“เคยได้ยินเหมือนกัน คงต้องให้พลอยพาไป วันนี้เลยเป็นไง”

โทรศัพท์มือถือดังขึ้นขัดจังหวะ ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษพลอยณิชชาตามประสาคนมีมารยาทก่อนจะรับสาย

“คุณทินครับ ผมยุทธเองครับ”

เสียงทะเล้นดังมาตามสาย

“เออรู้แล้ว มีอะไรว่ามา”

“ขอโทษนะครับที่ต้องขัดความสุขของคุณทินกะทันหัน”

“ไอ้นี่...มีอะไรก็รีบๆ ว่ามาสิวะ พูดมากอยู่ได้”

“คุณนายให้ผมบอกคุณทินว่า เย็นนี้อย่าลืมกลับไปกินข้าวเย็นที่บ้าน...ผมหมายถึงที่โรงแรมของเรานะฮะ”

“ทำไม? แม่มีธุระอะไรกับฉัน”

ทินกรแปลกใจ เพราะร้อยวันพันปีแม่ไม่เคยมีคำสั่งอะไรแบบนี้กับเขา เขาจะกินข้าวที่ไหน ค้างคืนที่ไหน ยังไง กับใคร...ไม่เห็นแม่เคยก้าวก่ายสักที

“ก็วันนี้คุณนายไม่อยู่นี่ฮะ เข้ากรุงเทพฯ”

“แล้วยังไง?”

“คุณนายไม่อยากให้คุณศากินข้าวคนเดียวฮะ กลัวเธอเหงา”

ทินกรอึ้งไป...

เขาลืมไปเลยว่าตอนนี้ที่รีสอร์ตของเขามีสาวน้อยมาเป็นสมาชิกใหม่...

เขานี่เป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องจริงๆ อยู่กับผู้หญิงอีกคน ก็ลืมอีกคนเสียสนิท

กระนั้นก็ยังตอบกลับไปว่า

“แล้วยังไงล่ะ ยัยศาโตแล้วนะไม่ใช่เด็กแปดขวบเหมือนเมื่อก่อน แกก็เฝ้ารีสอร์ตอยู่นี่หว่า ก็ไปกินข้าวเป็นเพื่อนน้องสาวฉันหน่อยละกัน เท่านี้นะ กำลังยุ่ง”

ว่าแล้วก็ตัดสายอย่างไม่มีเยื่อใย

“ถ้าวันนี้ทินไม่สะดวก เป็นคราวหน้าก็ได้นะคะ”

พลอยณิชชาเอ่ยเรียบ ๆ ใบหน้าสวยงามด้วยเครื่องสำอางชั้นเลิศยังคงระบายยิ้มอ่อน ๆ

“คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะครับ ไอ้ยุทธนี่ยุ่งจริงๆ” ทินกรแกล้งบ่น ทั้งคู่รับประทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยก็พากันกลับ

เมื่อกำลังจะเดินพ้นประตูร้าน ลูกค้าคู่ใหม่ก็เดินสวนเข้ามาพอดี

ไม่แปลกหากเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ลูกค้าที่มาใหม่จะเป็นคนรู้จักกับทั้งพลอยณิชชาและทินกร

เพียงแต่บังเอิญไปสักนิด ที่แขกคู่ใหม่ที่เดินสวนเข้ามานั้น คนหนึ่งเป็นหญิงสาวท่าทางน่ารักที่ไม่คุ้นหน้า แต่อีกคนคือ ร.ต.อ.ชเยนทร์ อดีตสามีของพลอยณิชชา

ม่ายสาวรีบสอดแขนควงทินกร เมินหน้าไม่ทักทายอดีตสามี ขณะที่ทินกรทักทายพอเป็นพิธี...ชายหนุ่มสังเกตว่านายตำรวจหนุ่มหน้าเข้มก็ไม่ปรายตาไปทางอดีตภรรยาเช่นกัน

เพิ่งรู้ว่าทั้งคู่เลิกรากันแบบไม่ค่อยดีนัก ไม่อย่างนั้นคงไม่หมางเมินกันถึงเพียงนี้...

แต่สิ่งหนึ่งที่ทินกรพอจะเดาได้จากอากัปกิริยาของพลอยณิชชา ถ้าเขาเดาไม่ผิด ก็คือเธอน่าจะยังมีเยื่อใยให้ชเยนทร์อยู่เหมือนกัน...


#########

มีจำหน่ายในรูปแบบอีบุ๊คส์แล้วค่าา
โหลดได้แล้ววันนี้  Link: http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNjczODExIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiOTk3ODUiO30

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา