นักรบพันธุ์โหด ตอน ณัชฐานันท์

-

เขียนโดย กนกพัชร

วันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 12.18 น.

  88 ตอน
  15 วิจารณ์
  60.44K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

56) ตอนที่ 56 การตัดสินใจของอัศนัย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บ้านตระกูลแมกซ์เวลล์ เวลา 14.29 น.

อัศนัยนั่งรออยู่ในห้องรับแขกสุดหรูหราของบ้าน ที่จริงเขามาที่นี้ตั้งแต่บ่ายโมงแล้วแต่เนื่องจากว่าเจ้าบ้านมีแขกก่อนหน้านี้ ทำให้ชายหนุ่มต้องนั่งรอนานพอสมควรน้ำชาที่ ฟินน์ มาเสิร์ฟไว้เขาก็ไม่แตะต้องมันเลยสักนิด จากที่มันร้อนๆอุ่นๆบัดนี้กลายเป็นเย็นสนิทแต่อัศนัยก็ไม่ได้สนใจเท่ากับต้องมารอเจ้าบ้าน ใจจริงเขาอยากโวยวายแล้วกลับบ้านตอนนี้เลยแต่ทำไม่ได้ เพราะเขาตัดสินใจมาที่นี้แล้วก็ต้องรอให้ถึงที่สุด ระหว่างที่นั่งรอนั้นชายหนุ่มหันไปเห็นพวกคนใช้พากันซุบซิบนินทาอยู่ไกลๆ แม้จะไม่ได้ยินแต่เขาก็รู้ว่ากำลังพูดถึงเขาอยู่

   มันก็แน่ละเมื่อหลายปีก่อนราวๆ 6 ปี ก่อนหน้านี้อัศนัยได้ทำการฟ้องร้องตระกูลนี้มาก่อน ในเรื่องการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งในตอนนั้นเขาเชื่อว่าการจัดการกับอันเดธ ควรเป็นหน้าที่ของตำรวจไม่ใช่ของนักล่าอันเดธที่เห็นแก่เงินตรา ในตอนนั้นเขาฟ้องร้อง ไวแอตต์ แมกซ์เวลล์ ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ สตีเฟ่น แมกซ์เวลล์ แถมชนะคดีชะด้วยทำให้ไวแอตต์ต้องโทษจำคุกนานมากกว่า 10 ปี นับแต่นั้นตระกูลแมกซ์เวลล์ก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเขาตลอดมา แน่นอนว่าหากการมาของอัศนัยสูญเปล่าเขาก็ต้องเผื่อใจไว้ด้วย

   "ว้าวๆ อยากรู้จังว่าวันนี้เป็นวันอะไร... ไม่ทราบว่าคราวนี้จะมาฟ้องร้องตระกูลพวกเราเรื่องอะไรครับเนี่ยคุณอัยการ"

   คำพูดจิกกัดเหน็บแนมแบบนี้อัศนัยรู้ดีว่าใครถ้าไม่ใช่ โรฮาน แมกซ์เวลล์ ลูกชายอีกคนของสตีเฟ่นและเป็นน้องต่างแม่ของไวแอตต์ โรฮานเป็นลูกชายคนโตของ อารีน่า ภรรยาคนที่สองของสตีเฟ่นและเป็นภรรยาหลวงคนปัจจุบัน เนื่องจาก เจนนิเฟอร์ ภรรยาคนก่อนเสียชีวิตหลังจากที่ไวแอตต์ภูกส่งเข้าเรือนจำไปได้ไม่นาน อย่างไรก็ตามจากสิ่งที่อัศนัยทำกับตระกูลนี้ก็หนักพอสมควร จะไม่ชอบขี้หน้ากันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เขาจะไม่เสียเวลามาเถียงเรื่องราวในอดีตแน่นอน  

   "ผมมาหาคุณสตีเฟ่นไม่ทราบว่าเขาอยู่ไหม" อัศนัยเข้าเรื่องทันที

   "เอาจริงดิ.... หน้าคุณฉาบด้วยอิฐกี่ชั้นว่ะคุณอัยการ ผมอยากรู้จัง" โรฮานไม่ยอมตอบคำถามแต่ยังพูดจิกกัดเชิงหาเรื่องเช่นเดิม แต่ทว่ากลับมีชายหนุ่มรูปร่างสูงผิวขาว ผมทองและดวงตาสีฟ้า ใส่เสื้อคอโปโลสีเขียวและสวมกางเกงสแล็คสีเทา พร้อมกับแสดงท่่าทางที่ต้อนรับมากกว่าที่โรฮานทำเสียอีก และดูโรฮานจะเกรงใจอีกฝ่ายมาก

   "ต้องขอโทษแทนน้องชายผมด้วย คุณคงเป็นอัยการอัศนัยใช่ไหม ผมชื่อ ทอมสัน แมกซ์เวลล์ ยินดีที่ได้รู้จักครับ" อีกฝ่ายกล่าวแนะนำตนเองพร้อมยืนมือออกมา ซึ่งอัศนัยก็จับมือตอบโต้

   "เช่นกันครับคุณทอมสัน ไม่ทราบว่า..."

   "ผมรู้ว่าคุณมาทำไมและต้องขอโทษด้วยตอนนี้คุณพ่อไม่อยู่ ท่านออกไปทำธุระที่ต่างประเทศและเดือนพฤศจิกายนท่านถึงจะกลับมา" ทอมสันพูดตัดบทก่อนที่อัศนัยจะพูดจบ เพราะชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายมาทำไมแต่ดูอัศนัยจะไม่ลดละความพยายาม

   "ถ้างั้นผมขอคุยกับคุณละกัน"

   "คุณต้องการอะไร"

   "ฝึกผมล่าอันเดธได้ไหม"

   เมื่ออัศนัยพูดสิ่งที่ต้องการออกไปนั้นบรรยากาศในห้องรับแขกเงียบขรึมจนน่าอึดอัด ก่อนที่โรฮานจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสะใจแต่อัศนัยต้องข่มอารมณ์ไว้ ในขณะที่ทอมสันนั้นนิ่งเงียบไม่แสดงสีหน้าอะไร เขาจำได้ดีว่าชายตรงหน้านั้นเป็นต้นเหตุที่ทำให้พี่ชายของเขาต้องเข้าเรือนจำเพียงเพราะสร้างผลงานได้ดีกว่าตำรวจ และเหตุการณ์นั้นทำให้แม่ที่สุขภาพไม่ดีอยู่แล้วทรุดลงพร้อมกับตรอมใจตายในเวลาต่อมา

   และทอมสันก็ได้ทราบข่าวเรื่องคดีสะเทือนขวัญของมธุสร ซึ่งอัยการคนนี้ก็ฟ้องร้องให้หญิงสาวถูกประหารชีวิตด้วยเหตุฆ่าคนตาย แต่ไม่ได้ดูเลยว่าไอ้พวกที่ตายไปมันเลวระยำแค่ไหน และข่าวเรื่องน้องสาวของอัศนัยนั้นทอมสันก็รู้เพราะเขามีเพื่อนเป็นหมอที่นั้น ชายหนุ่มผมทองเดาว่าอัศนัยคงแค้นพวกนั้น แต่ไม่มีปัญญาจะหาทางจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียว เพราะทอมสันรู้ดีว่าอัศนัยมีทักษะด้านใช้ปืนแต่ไม่มีประสบการณ์เรื่องอันเดธ ชายคนนี้จะพึ่งใครได้หากไม่ใช่ที่นี้ หึ ! น่าสมเพชยิ่งนัก

   "พอได้แล้วโรฮานให้เกียรติแขกหน่อย...ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดนะคุณอัศนัย ครอบครัวผมล่าอันเดธมาหลายชั่วอายุคนก็จริง แต่ทางเราไม่ใช่โรงเรียนเปิดสอนนักล่าอันเดธ หากแต่คุณจะจ้างพวกผมยินดีรับงาน" ทอมสันกล่าวปฏิเสธทางอ้อม อัศนัยเตรียมใจไว้แล้วว่ามันไม่ง่ายแต่ยังไงเขาก็ไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

   "ไม่ ! ผมต้องการฆ่ามันด้วยมือของผมเอง ไม่ต้องการยื่นมือใครไปทำแทน ได้โปรดสอนผมด้วยเถอะ" อัศนัยยังยืนยันสิ่งที่ตนตั้งใจไว้แต่โรฮานมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดูถูกด้วยการมองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า                

   "คุณจำไม่ได้เหรอคุณอัยการวันที่คุณฟ้องพี่ชายพวกผม คุณพูดอะไรหน้าศาลจำได้ไหมถ้าจำไม่ได้เดียวทวนให้ฟัง... นักล่าอันเดธเป็นอาชีพที่ไม่สุจริตพวกเขาเหล่านั้นทำงานเพื่อหวังผลประโยชน์จากผู้ยากไร้ ในขณะที่ตำรวจเขาทำงานโดยมิได้หวังผลใดๆนอกจากความปลอดภัยของประชาชนเท่านั้น... คุณพูดได้โดนใจมากนะเพราะฉะนั้นไปหาตำรวจชะ เขาน่าจะช่วยคุณได้จริงไหม" โรฮานพูด

   "น้องชายผมพูดถูกนะบางทีตำรวจน่าจะช่วยคุณได้ดีกว่าทางเรา ส่วนเรื่องน้องสาวของคุณผมขอแสดงความเสียใจด้วย แต่อย่างที่บอกไปทางเราไม่รับคนนอกมาเป็นนักล่าอันเดธได้ คุณกลับไปเสียเถอะ..... ฟินน์ส่งแขก"

   ก่อนที่พ่อบ้านจะเดินมาเชิญตัวอัศนัยกลับนั้นชายหนุ่มก็ได้กระทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน นั้นคือการก้มตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทอมสันและโรฮานซึ่งทั้งคู่ต่างพากันอึ้งไปกันไม่เป็น เพราะเท่าที่รู้อัศนัยเป็นคนรักในศักดิ์ศรีมากไม่ยอมก้มหัวให้ใคร แต่ตอนนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว ทางฝั่งอัศนัยเขายอมละทิ้งทุกอย่างขอแค่อย่างเดียวคือ การล้างแค้นให้กับสาน้องสาวของเขาก็พอ อัศนัยไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นเพราะเขาเป็นต้นเหตุที่ทำให้สาต้องรับกรรม และเขาจะชดใช้ด้วยการล่าหัวคนที่ทำกับเธอ

   "ถ้าคุณรู้เรื่องน้องสาวผมแล้วก็น่าจะเข้าใจผมนะ ได้โปรดผมยอมทำทุกอย่างขอแค่อย่างเดียว ให้ผมได้ล้างแค้นให้สาด้วยผมขอร้อง" อัศนัยพูดและเอาหน้าชนกับพื้นปูนโดยไม่อาย ทอมสันหันมามองโรฮานที่ตอนนี้ไม่อยากแสดงความเห็นอะไรทั้งนั้น

   "เมื่อกี้คุณบอกว่ายอมทำทุกอย่างใช่ไหม ผมจะรู้ได้ไงว่าคุณไม่ได้โกหก" ทอมสันถามขึ้น

   "ผมพูดจริงไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เชื่อผมเถอะ" อัศนัยกล่าวหนักแน่น

   ทอมสันหันไปส่งซิกให้กับฟินน์ซึ่งพ่อบ้านเดินหายไปจากห้องรับแขก ประมาณ 25 นาทีฟินน์เดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารหนึ่งใบยื่นให้กับทอมสัน ชายหนุ่มผมทองสำรวจเอกสารอย่างถี่ถ้วนและทำการส่งให้กับอัศนัย ซึ่งอัยการหนุ่มพบว่ามันเป็นเอกสารที่มีอักขระโบราณที่เขาอ่านมันไม่ออก แต่เขารู้ว่าอักขระนี้มันเป็นมนตรที่เก่าแก่มากน้อยคนที่จะอ่านมันออก สักพักฟินน์ก็ยืนมีดเล่มเล็กให้กับอัศนัย

   "อักขระที่คุณเห็นนะมันคือพันธะสัญญา ถ้าคุณพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกเพราะหากทำพิธีไปแล้วมันไม่มีทางแก้ จนกว่าคุณจะทำตามพันธะนั้น" ทอมสันพูดอธิบาย

   "ผมพร้อมแล้ว"

  "หือ ? คุณรู้แล้วเหรอว่าทางพวกเราต้องการอะไร" โรฮานถามขึ้น

   "แน่นอนผมรู้"

   ทอมสันไม่รอช้าเมื่ออีกฝ่ายนั้นยอมตกลงแล้ว จึงทำการท่องร่ายมน ณ ตรงนั้นทันทีและอักขระบนเอกสารก็เรือนแสงสีส้มออกมา อัศนัยต้องเอาปิดบังตาไว้เพราะมันจ้าชะเหลือเกิน 6 นาทีต่อมาแสงบนอักขระก็ค่อยๆหรี่ลง แต่แสงบนอักขระก็ยังคงอยู่แต่ไม่จ้าเหมือนตอนแรก

   "อัศนัยหากทางตระกูลผมฝึกคุณเป็นอันเดธ และได้ล้างแค้นให้น้องสาวตามที่ใจต้องการแล้ว คุณจะทำให้ไวแอตต์ออกจากคุกไหม"

   "ผมจะทำ ผมสามารถนำเขาออกมาได้" อัศนัยกล่าวหนักแน่นเพราะรู้อยู่แล้วว่า ตระกูลแมกซ์เวลล์ต้องการอะไร

   "สาบานสิ" ทอมสันกล่าว

   อัศนัยนั้นคว้ามีดข้างก่อนจะทำการกรีดฝ่ามือเป็นแนวนอน เลือดจากฝ่ามือของชายหนุ่มไหลหยดลงบนตัวอักขระราวกับสายน้ำ จากนั้นเลือดบนกระดาษก็ขยับเปลี่ยนรูปร่าง เป็นลายเซ็นชื่อของอัศนัยจากนั้นแสงบนอักขระจึงหายไป ฟินน์จึงทำการเอาเอกสารและเก็บมีดพร้อมยืนพันธะสัญญาให้กับทอมสัน

   "อาวละทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ฟินน์พาคุณอัศนัยไปทำแผลได้แล้ว... วันนี้คุณพักผ่อนให้เต็มที่พรุ่งนี้ผมจะเริ่มฝึกคุณเอง"

   ฟินน์ได้รับคำสั่งเรียบร้อยก็ได้เชิญอัศนัยออกจากห้องเพื่อไปทำแผล และตอนนี้เหลือแค่ทอมสันกับโรฮานเท่านั้นและชายหนุ่ม.เลือดร้อนก็ยังไม่ไว้วางใจคนที่ส่งพี่ชายตนไปติดคุกอยู่ดี แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทอมสันถึงได้ตัดสินใจรับคนนอกมาฝึก เพราะมันผิดกฏของตระกูลอย่างมาก ซึ่งทอมสันอ่านใจน้องชายออกว่าคิดอะไรอยู่

   "นายไม่ต้องกังวลหรอกเขาสาบานเลือดกับเราแล้ว ยังไงเขาต้องทำตามพันธะสัญญาที่ให้ไว้" ทอมสันพูด

   "เรื่องนั้นผมรู้แต่ถ้าพ่อรู้...."

   "พี่จัดการเองเรื่องนั้นนะแต่พี่เชื่อว่า หากพี่ใหญ่ออกมาจากคุกได้พ่อจะดีใจมากกว่าตำหนิเราสองคนเสียอีก เชื่อพี่" ทอมสันพูดอย่างมั่นใจก่อนจะม้วนเก็บพันธะสัญญาของอัศนัย

                                                

                                          

 

                                                                 

                                                                    ++++++++++++++++++++++++++             

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา