เซนต์เซย่า ภาคนักรบคนสุดท้าย Saint Seiya The Last Hope

9.3

เขียนโดย Jalando

วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 เวลา 23.54 น.

  26 ตอน
  13 วิจารณ์
  21.67K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 เมษายน พ.ศ. 2566 11.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทสนทนาของพวกสาวๆ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

……………………

       

     กล้าตื่นขึ้นมา  แม้เขาจะนอนเพียงห้าชั่วโมง  แต่ก็ไม่รู้สึกอ่อนล้า  สิ่งที่ทำในเวลาต่อมาก็คืออาบน้ำ แต่งตัว  แล้วไปโรงเรียน  ซึ่งก็เป็นกิจวัตรเดิมๆ  เด็กหนุ่มพยายามทำใจ  เพราะกว่าจะได้กลับบ้านมานั่งทำหน้าที่แอดมินในเพจที่โปรดปราน  ก็อีกหลายชั่วโมง

 

“ เฮ้อ…..ทนอีกสิบชั่วโมง ” กล้าปลุกปลอบใจ  ก่อนจะก้าวเท้าออกนอกบ้าน 

 

………………….

        

     การเรียนเป็นไปอย่างน่าเบื่อ  กล้านั่งอยู่มุมห้องตามลำพัง  ไม่มีใครเข้ามาคุยหรือทักทาย  ช่วงกลางวันก็ต้องนั่งกินข้าวคนเดียว  พออิ่มก็เปิดมือถือ  เพื่อชมชุดครอธแบบใหม่ที่ลูกเพจดีไซน์ขึ้นมา (มันคือเกราะที่ตัวละครในเรื่องเซนต์เซย่าสวมใส่) 

 

“ อืม…..ไอเดียดี  หมอนี่ท่าจะจบด้านการแบบ ”  เด็กหนุ่มร่างอ้วนพูดกับตัวเองเบาๆ  สายตายลชุดครอธที่ปรากฏบนหน้าจอมือถือ  มันดูโฉบเฉี่ยว  ทันสมัย  ประมาณว่าอยู่ในธีมของหนังไซไฟ  แถมยังดูน่าเกรงขามในตัวเอง  แต่ไม่ทันได้ชื่นชมจนสมใจ  ขาใหญ่ประจำโรงเรียนก็เดินเข้ามา  พร้อมลูกน้องคู่ใจอีกสามนาย 

 

“ เฮ้ย….ไอ้อ้วนแหย  มึงทำอะไรอยู่ฟะ ” 

         

 

      กล้าสะดุ้งโหยง  เพราะตกใจเสียง  นายคนนี้เป็นเด็กวัยเดียวกันที่รูปร่างสูงใหญ่  หน้าตาออกไปในโทนไจแอนด์ในเรื่องโดราเอมอน  ดวงตาฉายแววปีติ  ด้วยคิดจะไถเงินของหนุ่มน้อยแสนประหลาด 

 

“ หวัดดี ตุ่ม ” แม้กล้าจะหวาดกลัว  แต่เขาก็ทำใจดีสู้เสือ  เพื่อเอ่ยถาม 

         

 

     ทันทีที่สิ้นคำ  ขาใหญ่ผู้มีนามว่า “ตุ่ม” ก็บันดาลโทสะด้วยการเข้าขยุ้มศีรษะของกล้า  แล้วกดลงไปติดโต๊ะไม้  พร้อมตวาดใส่อย่างดุดัน 

 

“ ไอ้ห่า  ใครสอนให้เรียกว่าตุ่ม  มึงต้องเรียกกูว่าท่านภูผา(ชื่อจริงของตุ่ม)ต่างหาก  เข้าใจมั้ย ” 

 

“ ขะ…เข้าใจครับ  ท่านภะ…ภูผา  ขออภัยด้วยครับ ” กล้ารีบขอโทษ  ดูเหมือนเขาจะรู้งานพอสมควร  แต่ก็ช้าเกินไป  เพราะขาใหญ่ยังไม่รามือ 

 

“ แค่ขอโทษอย่างเดียวไม่ได้  เอ็งต้องจ่ายค่าเสียหายมา  เพราะการเรียกชื่อเล่นที่ข้าไม่ชอบ  เป็นสิ่งที่ทำให้เสียศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง ” 

      

 

       แม้กล้าจะคิดว่าข้อเสนอดังกล่าวนั้นเยอะเกินไป  แต่ด้วยที่เขาเป็นคนขี้แหย  ไม่สู้คน  จึงยอมทำตามแบบไม่มีเงื่อนไข 

 

“ ดะ…ได้  แม่ให้ค่าขนมมา 100 เราให้นาย  เอ่อ  ให้ท่านภูผาหมดเลย ” กล้าเปลี่ยนสรรพนามของขาใหญ่  เพราะเหลือบไปเห็นใบหน้าที่บูดบึ้งของอีกฝ่าย 

       

 

       หลังจากนั้น  กล้าก็มอบเงินให้ภูผาจนหมดกระเป๋า  ขาใหญ่และพวกพ้องจึงเตรียมจากลา  แต่ก่อนจะไป  จอมเกเรก็ข่มขู่อีกหนึ่งที  เพื่อป้องกันไม่ให้อ้วนแหยไปฟ้องครู 

 

“ ดีมาก  ว่าง่ายๆ  จะได้โตไวๆนะ  ไอ้หนู  แต่ถ้ากระแดะไปฟ้องครู  รับประกันว่าเอ็งต้องเจอไอ้นี่ ” ขาใหญ่พูดจบ  เขาก็เอากำปั้นทุบโต๊ะไปหนึ่งที 

 

“ ปัง….” 

 

“ เหวอ…..” อ้วนแหยสะดุ้งจนตัวโยน  ทำให้ขาใหญ่และเหล่าลิ่วล้อขบขันไปตามๆกัน 

 

“ ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า  ขวัญอ่อนจริงๆเลย  ไอ้อ้วนติ๊งต๊อง ” 

        

 

       พวกเด็กเกเรพากันเดินจากไป  พร้อมเสียงฮาครืนที่ดูสนุกสนาน  เนื่องจากได้ชมจำอวดที่แสนตลก  แถมยังได้เงินมาใช้ฟรีๆอีก 100 บาท  นับว่าอ้วนแหยเป็น ATM ชั้นดีของเหล่าอันธพาล 

       

 

      อ้วนแหยหรือกล้าได้แต่นั่งกัดฟันกรอดๆ  แม้จะมีเพื่อนนักเรียนนั่งอยู่ในห้องประมาณสิบคน  ทว่าไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเลย  ถึงเเม้ไม่ได้หันไปมอง  ก็คาดว่าในสายตาของคนเหล่านั้นคงเต็มไปด้วยแววเหยียดหยาม  เขาจึงลุกขึ้นยืน  แล้วเดินออกจากห้องไปแบบซึมๆ 

 

“ เราต้องอดทน  อีกไม่นาน  ก็จะได้เวลาเลิกเรียนแล้ว ” ระหว่างที่เดินเช็ดน้ำตา  กล้าก็พยายามปลอบตัวเอง  เพราะเพจคนรักเซนต์เซย่าคือสิ่งเดียวที่คอยประคองหัวใจอันบอบช้ำ

       

 

      กล้าเดินไปอย่างไร้จุดหมาย  พอสองเท้านำพามาถึงสวนหย่อม  สายตาก็ประจักษ์กับอัยย์  เด็กสาวที่แอบหลงใหลมาอย่างยาวนาน  เธอกำลังนั่งอยู่ในศาลาหลังเล็กพร้อมเพื่อนสาวอีกสามนาง 

 

“ อึ้ย….นั่นอัยย์นี่  เราต้องหลบ ” กล้ารีบเผ่นไปซ่อนหลังต้นไม้ใหญ่  ในใจนึกภาวนาไม่ให้สาวเจ้าเห็น  ซึ่งก็ได้ผล  เธอไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของเขาเลย  แต่ก่อนที่หนุ่มร่างสมบูรณ์จะย่องหนีไป  หูก็พลันได้ยินเสียงใสๆของดรุณีแรกรุ่น 

 

“ ดีใจด้วยนะที่ยอดติดตามในเพจของเธอขึ้นสูงถึงสามพัน ” 

       

 

       กล้ารู้ทันทีว่านั่นคือเสียงของหนึ่งในเพื่อนสาว  และเพจที่พูดถึงเป็นของอัยย์  เขาจึงเปลี่ยนใจมาแอบฟัง 

 

“ ขอบใจจ้ะ  ก็รู้สึกดีนะที่มีคนติดตามมากขนาดนี้ ” แม้ไม่เห็นหน้า  กล้าก็บอกได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้คืออัยย์  ผู้เป็นยอดดวงใจตั้งแต่เริ่มจำความ 

 

“ แต่เท่าที่ชั้นเคยเข้าไปดู  รู้สึกว่าจะมีหนุ่มคนนึงคอมเมนท์ให้ทุกคราว  ล่าสุดเห็นบอกฝันดีด้วย  หรือที่เธอสตรีมเกมอยู่ทุกวัน  เพราะแอบมีซัมติ้งลองอะไรกับนายคนนี้ ” สาวอีกนางกล่าวขึ้นมาบ้าง  ดูจากสำเนียง  รู้สึกว่าคุณเธอจะก๋ากั่นมิใช่น้อย  แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่กล้าสนใจ  เพราะหนุ่มที่ถูกพูดถึง  นั่นก็คือ…..ตัวเขาเอง 

 

“ ซวยแล้ว  ยัยนี่หมายถึงเรานี่หว่า  เพราะเพิ่งบอกฝันดีกับอัยย์เมื่อคืน ” 

 

“ บ้าน่า  เขาอาจไม่ใช่ผู้ชายก็ได้  และที่บอกฝันดี  คงเป็นแค่การร่ำลาตามมารยาท ” อัยย์บอกปัด  แต่เสียงกลับสูงจนผิดปกติ  บอกให้รู้ว่าเธอกำลังเขินอาย 

 

“ ฮั่นแน่  บอกไม่มีอะไร  แต่ทำไม  ถึงหน้าแดง  ไม่ใช่แล้ว  ต้องมีอะไรเกิดขึ้นนอกรอบแน่ๆ  บอกพวกเรามาซะดีๆ ” เพื่อนสาวคนที่สามเริ่มกระเซ้าเย้าแหย่  เป็นเหตุให้สองคนที่เหลือตามติด 

 

“ นั่นสิ  บอกพวกเรามาซะดีๆ  อย่าหมกเม็ด ” 

 

“ บ้าไปแล้ว  พวกเธอกำลังเข้าใจผิด  ชั้นไม่ได้คิดอะไรเลย  ที่สตรีมเกม ROV  เพราะอยากร่วมสนุกกับคนที่ชอบเกมนี้เหมือนกันเท่านั้น ” อัยย์ชี้แจงยืดยาวด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง  แต่กลุ่มเพื่อนยังไม่ยอมเชื่อ  พร้อมตั้งข้อสังเกตต่อ 

 

“ แต่นายคนที่บอกฝันดี  นั้นมาคอมเมนท์ให้เธอทุกสตรีมเลยนะ  ดังนั้นการจะบอกว่าทุกสิ่งเป็นแค่มารยาท  มันฟังดูแปลกๆนา…..” 

 

“ แล้วเธอมีข้อยืนยันมั้ยว่าไอดีนี้เป็นของผู้ชาย  บางทีเขาอาจเป็นเด็กสาววัยเดียวกับเราที่ชื่นชอบเกม ROV  และอยากศึกษาการเล่นของชั้นก็เป็นได้ ” อัยย์โต้แย้งต่อ  ประเด็นนี้มีน้ำหนักพอสมควร  เพราะเธอมีฝีมือการเล่น ROV ที่ไม่ธรรมดา  ทำให้กลุ่มเพื่อนสาวเริ่มไม่แน่ใจ 

 

“ อืม….ก็น่าคิด ” 

       

 

       บทสนทนาเงียบหายไปนานสองนาน  ท่าทางจะไม่มีใครโต้แย้งในประเด็นนี้  ทำให้กล้าที่แอบหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่  รู้สึกโล่งอก

 

“ ฟู่…..ดีจริงๆที่พวกเธอเข้าใจแบบนั้น  ไม่งั้น  มีหวังต้องอายจนแทรกแผ่นดินหนี ” 

      

 

       แม้รอดจากการจับผิดในวาระแรก  แต่การตั้งข้อสังเกตในวาระสอง  กลับมีดาเมจที่รุนแรงกว่าเดิม  ด้วยน้ำคำที่เพื่อนสาวจอมก๋ากั่นพ่นออกมา  ได้กล่าวถึงนายกล้าโดยตรงแบบไม่เกรงใจ 

 

“ พูดถึงพวกตามตื้อ  ทำให้นึกถึงนายอ้วนแหยนะ ” 

       

 

      หัวใจของกล้าเริ่มเต้นตุ้มๆต่อมๆ  เพราะถูกนินทาซึ่งหน้า  แต่ไม่รู้เลยว่าเด็กสาวนางนี้จะพาดพิงถึงเรื่องอะไร  ในเวลาต่อมา  หนุ่มน้อยก็เข้าใจ  เมื่อเพื่อนสาวอีกคนแถลงไข 

 

“ นั่นสิ  ชั้นเองก็นึกถึงตานั่นเหมือนกัน  อ้วนแหยน่าจะแอบชอบอัยย์มานานแล้ว  เพราะเขาดูเขินอายทุกครั้งที่ได้เจอหน้าเธอ ” 

       

 

        กล้าตกใจสุดขีด  นี่เขาดูออกง่ายเพียงนี้เลยเหรอ  จบกัน  ทุกภาพลักษณ์ที่พยายามวางฟอร์มไม่สนใจ ต้องพังทลาย  จากนี้ต่อไป  ตนจะทำยังไง  แต่ไม่ทันได้ตีจาก  ก็ได้ยินเสียงของอัยย์  สาวน้อยในฝัน

 

“ บ้า  ไม่ใช่หรอก  เขาไม่ได้ชอบชั้น  เขาคง….เป็นคนขี้อาย  ไม่กล้าคุยกับใคร ” 

       

 

       กล้าโล่งอก  เพราะถึงบรรดาเพื่อนสาวของอัยย์จะดูออก  แต่ถ้าเจ้าตัวไม่รับรู้  มันก็ช่วยให้เขาคลายกังวลถึงหลายส่วน  ทว่าสาวก๋ากั่นยังแอบจิกกัด 

 

“ ตานั่นไม่น่าจะขี้อายนะ  แต่ชั้นว่ามันแปลกประหลาดมากกว่า  ดูซิ  วันทั้งวันไม่คุยกับใคร  เอาแต่นั่งเล่นมือถือท่าเดียว  แถมยังขี้ตกใจเกินเหตุจนพวกเด็กเกเรเข้ามารังแก ” 

 

“ แกก็ไม่น่าพูดแบบนี้  นายกล้าไม่แปลกประหลาดหรอก  เขาคงแค่….เอ่อ ขี้อายขนาดหนัก  และเข้าสังคมไม่เก่ง  คุยกับใครไม่เป็น ” อัยย์รีบแก้ให้  เสียงของเธอแข็งขึ้นเล็กน้อย  ท่าทางคล้ายแม่ที่กำลังปกป้องลูก 

        

 

        ถึงกล้าจะรู้สึกแปลกๆ  แต่ก็ดีใจสุดขีดที่นางในฝัน  ถกเถียงแทน  แถมยังไม่เรียกเขาว่าอ้วนแหยเหมือนทุกคน  มันทำให้ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลริน 

 

“ นางฟ้าของเรา  ช่างมีจิตใจดีงามเหลือเกิน ”

 

 

สามารถติดตามงานเขียน  ณ.ปัจจุบันและในอนาคตของผมได้ที่เพจ Jalando นักเขียนดาร์คไซด์ได้ที่ลิงค์ด้านล่างครับ

https://www.facebook.com/jalando.darksidewriter.version2

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา