น้ำตาเพลงพิณ

-

เขียนโดย Radunji

วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 14.57 น.

  4 ตอน
  2 วิจารณ์
  5,103 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2562 15.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ผิดที่ใคร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          "พี่ขอโทษ"

 

          คำขอโทษจากผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้า พร้อมกับกุมมือน้องสาวของเธอที่ยืนก้มหน้าเยื้องอยู่ทางด้านหลังของเขา ท่าทีกางปีกปกป้องเหมือนกับกลัวว่าเธอจะกระโดดเข้าไปขย้ำคอฝ่ายตรงข้าม

 

          "ทำไม.." เสียงแผ่วเบาที่ออกมาจากปากของเธอ ทั้งแหบและสั่นเครือแทบจะไม่ได้ยิน

 

          "ตั้งแต่เมื่อไหร่..."

 

          "....."

 

          "ฉันถามว่า พวกแกแอบทำอะไรลับหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่!!! ทำไมไม่ตอบมา หา!! " จากเสียงที่แผ่วเบาเปลี่ยนเป็นแผดเสียงตะคอกถามสุดเสียง

 

          คนรอบข้างเริ่มหันมามองและซุบซิบกัน พชรที่สีหน้าจืดเจื่อนได้แต่ดึงบุษกรเข้ามากอดไว้

 

          เพลงพิณที่ตัวสั่นเทาสะอื้นไห้น้ำตานองหน้าจ้องมองอีกฝ่ายที่ตระกองกอดกันเหมือนดั่งว่าเป็นเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถ้าเธอไม่เข้ามาหาเขาที่บริษัทมาเห็นกับตาเธอคงจะยังเป็นอีโง่ที่โดนแทงข้างหลังจนพรุน

 

          "อายงั้นหรือ เหอะ! เธอยังเหลือยางอายอยู่อีกหรือ! " เพลงพิณมองบุษกรที่ร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของพชร

 

          "พี่ผิดเอง พิณจะด่าจะว่าพี่ยังไงก็ได้แต่อย่าว่าน้องเลย" พชรพูดด้วยความลำบากใจ บุษกรไม่ผิดเพลงพิณก็ยิ่งไม่ผิด เรื่องทุกอย่างมันผิดที่เขาคนเดียว

 

          พชรมองเพลงพิณที่กำลังร้องไห้เขายิ่งเสียใจเขารักเพลงพิณมากนั่นคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้เขาเลือกแล้วเลือกที่จะปกป้องครอบครัวของเขา

 

          บุษกรกำลังท้อง

 

          ในขณะที่เพลงพิณเอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับเรื่องของงานแต่งงาน ในขณะที่เขากำลังแก้ปัญหาที่บริษัท บริษัทที่เพลงพิณเข้ามาเป็นหุ้นส่วนเขาทุ่มเททุกอย่างเพื่อที่จะสร้างรากฐานความมั่นคงให้ครอบครัวก่อนที่จะแต่งงานและใช้ชีวิตกันเธออย่างมีความสุข แต่เธอกลับวุ่นวายเรื่องไร้สาระ และเขาต้องแก้ปัญหาเพียงลำพัง

 

          ในยามที่เขามีปัญหาคนที่คอยยืนเคียงข้างและคอยปลอบใจ ช่วยให้คำปรึกษาจนผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้กลับเป็นบุษกรน้องสาวคนเล็กของเพลงพิณ ความใกล้ชิดที่ขยับขยายจนกลายเป็นความรัก ถึงแม้จะคอยบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าเธอเป็นน้องสาวของคู่หมั้นแต่เขาก็ยังคงไม่อาจห้ามหัวใจ

 

          เพลงพิณได้แต่คิดซ้ำๆ ว่าทำไม เป็นเธอที่คิดจะผลักดันส่งเสริมให้น้องสาวที่พึ่งจะเรียนจบได้เข้ามาฝึกงานให้เก่ง ให้คนรักของเธอที่เป็นเพื่อนของพี่ชายและเป็นทั้งว่าที่พี่เขยคอยสอนงานให้ เพราะทั้งคู่ก็เปรียบดังครอบครัวเดียวกัน น้องสาวจะได้กลับไปช่วยบริษัทของครอบครัว ผิดที่เธอรักและไว้ใจทั้งคู่มากเกินไป จนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำร้ายเธอได้ลงคอ 

 

          "พี่จะเข้าไปคุยกับทางผู้ใหญ่เอง งานแต่งงานของเรามันเป็นไปไม่ได้ พี่จดทะเบียนฯ กับบุษไปแล้ว" สิ่งที่พชรพูดออกมาทำให้เธอชาไปทั้งร่างเหมือนกับโดนสายฟ้าฟาดลงมากลางศีรษะอย่างจัง

 

          จากสถานะว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์ในเดือนหน้า กับถูกคนทั้งคู่ขยับสถานะให้ใหม่ กลายเป็นส่วนเกินเปรียบดังเธอเป้นเมียน้อยที่เข้ามาแย่งชิงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เธอผิดอะไร

 

          "สารเลวสิ้นดี! "

 

เพลงพิณเบนสายตาไปมองบุษกรที่กำลังใช้สายตาตัดพ้อและอ้อนวอนเธออยู่

 

          "เธอเคยคิดบ้างไหมว่าพ่อกับแม่จะรู้สึกอย่างไรที่พี่กับน้องมีผัวคนเดียวกัน ทั้งๆที่ฉันกำลังจะแต่งงานกับเขาแต่แกก็ยังทำ"

 

          "พี่พิณ ฮึก.. ฮือ" บุษกรน้ำตานองหน้า เธอพยายามหักห้ามใจตัวเองแล้ว แต่ยิ่งถอยห่างกลับกลายเป็นยิ่งถลำลึก

 

          เพลงพิณไม่อยากจะมองคนทั้งคู่อีกต่อไป เธอหันหลังเดินกลับไปที่รถแล้วขับออกไปด้วยความเร็ว

 

          พชรมองตามท้ายรถของเพลงพิณแล้วถอนหายใจ เป็นเขาที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันขมวดเป็นปมจนยากที่จะคลายแบบนี้ พชรพยุงบุษกรไปที่รถ พร้อมกับโทรหาครอบครัวให้ไปที่บ้านรมวดี

 

*****

 

          บ้านรมวดีมีสมาชิกในครอบครัว 5คน คุณพันนพ รมวดี หัวหน้าครอบครัวผู้ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับคุณภานุ พิมพ์เพชร พ่อของพชร ในอดีตทั้งสองครอบครัวต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคจนก่อร่างสร้างบริษัทมาด้วยกันเป็นทั้งเพื่อนรักและหุ้นส่วน จนปัจจุบันที่ครอบครัวของพชรถอนหุ้นออกมาตั้งบริษัทของตัวเองสองครอบครัวก็ยังสนิทสนมไปมาหาสู่กันอยู่ประจำ ทำให้พชรได้ตกลงหมั้นหมายกับเพลงพิณและกำลังจะแต่งงานกันในไม่ช้า

 

          เพลงพิณขับรถกลับมาถึงบ้านก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องทันที  พรรัมภามองตามหลังของลูกสาวคนกลางที่วิ่งผ่านหน้าขึ้นบันไดไป และดูเหมือนลูกสาวเธอกำลังร้องไห้ เธอวางหนังสือลงแล้วเดินตามขึ้นไปเคาะประตูห้องของเพลงพิณ

 

          'ก๊อก ๆ' "พิณลูก พิณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เปิดประตูมาคุยกับแม่หน่อยค่ะ" พรรัมภาพยายามเคาะประตูเรียกเพลงพิณให้เปิดประตูแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ เธอนิ่วหน้ากำลังจะเคาะประตูเรียกลูกสาวอีกครั้งนั้นน้อยก็เดินมาตามบอกคุณผู้ชายเรียกหา และรออยู่ที่ห้องรับแขก พรรัมภาหันมามองประตูแล้วลดมือลงก่อนจะเดินลงไปข้างล่าง

 

          หลังจากคุณผู้หญิงเดินลงไปน้อยมองที่ประตูห้องนอนและค่อยๆแนบหูฟังเสียงข้างใน ได้ยินเสียงเหมือนคนร้องไห้เธอจึงควักโทรศัพท์ออกมาจิ้มพิมพ์ข้อความรายงานสถานะการณ์และความเคลื่อนไหวในบ้านให้คุณภาคทราบทันที

 

          'สถานะการณ์ฉุกเฉิน คุณพิณร้องไห้กลับมาเหมือนจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง คุณผู้ชายรับโทรศัพท์แล้วเรียกคุณผู้หญิงไปพบ...น้อยรายงาน'

 

          ภาคภูมิเป็นลูกชายคนโตของบ้านรมวดี เขาเข้าไปบริหารงานแทนผู้เป็นพ่อได้ปีกว่าและย้ายออกไปอยูคอนโดใกล้บริษัท ถึงจะออกไปอยู่คนเดียวไม่ค่อยได้กลับบ้านแต่ด้วยความเป็นห่วงเขาก็คอยให้น้อยซึ่งเป็นสาวใช้คอยรายงานเรื่องราวต่างๆในบ้านทุกวัน

 

          น้อยพอส่งไลน์เรียบร้อยก็รีบวิ่งลงไปคอยรับใช้ที่ห้องรับแขก คอยเงี่ยหูฟังเก็บรายละเอียดต่อ

 

          เสียงรถที่แล่นเข้ามาในบ้านทำให้พันนพและพรรัมภาหันไปมอง น้อยวิ่งไปดูและรีบกลับเข้ามาบอก

 

          "คุณภานุกับคุณจินดามาค่ะ" น้อยบอกแล้วไปเอาน้ำกับของว่างมารับแขกก่อนจะหลบหลังเสาแล้วส่งข้อความอีกครั้ง

 

          'อัพเดต...คุณภานุกับคุณจินดามาที่บ้านค่ะ สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่...น้อยรายงาน'

 

          ภานุกับจินดาทักทายเจ้าของบ้านก่อนพูดจะเข้าเรื่องด้วยความร้อนใจ

 

          "ที่ฉันมาวันนี้เพราะลูกชายตัวดีโทรให้มารอที่นี่ตามที่โทรมาบอกนายก่อนนั่นแหละ แต่ก็ไม่ได้รู้ว่าเรื่องอะไร ได้แต่พาคุณจินดาขึ้นรถแล้วรีบมากัน" ภานุพูดขึ้น

 

          "แล้วนี่เด็กๆยังไม่มากันอีกหรือคะ" จินดาหันมาถามพรรัมภา

 

          "หนูพิณกลับมาแล้วค่ะแต่อยู่บนห้องเดี๋ยวน้องให้เด็กไปเรียกลงมาค่ะ" พรรัมภาหันไปบอกน้อยให้ไปเรียกเพลงพิณลงมา

 

          เสียงรถที่แล่นเข้ามาเรียกสายตาของทุกคนให้หันไปมองที่ประตูทางเข้าพร้อมกัน เห็นพชรพยุงบุษกรที่ตาบวมเหมือนผ่านการร้องไห้อย่างหนักเข้ามา

 

          "ตายแล้ว! บุษเป็นอะไรคะลูก" พรรัมภาตกใจแล้วรีบเข้าไปพยุงแขนอีกข้างของลูกสาวคนเล็กทันที

 

          บุษกรที่เห็นทุกคนมารวมกันยิ่งร้องไห้ โถมกอดไปที่แม่และสะอึกสะอื้นพูดไม่เป็นคำ พรรัมภาได้แต่พยุงลูกสาวไปนั่งลงที่โซฟาข้างสามี

 

         "นี่มันเรื่องอะไรกันตาพัชน้องเป็นอะไร แล้วนี่โทรให้พ่อกับแม่มาบ้านพิณทำไม" จินดาที่ยังไม่เข้าใจในเหตุการณ์ตรงหน้าได้แต่หันไปถามลูกชายของเธอ

 

          ภานุหรี่ตามองดูบุตรชาย ก่อนจะหันไปมองบุษกรที่กำลังร้องไห้ซบอยู่ที่อกของพันนพ พลันตาเบิกกว้างขึ้นมาเมื่อเขาพอจะเดาเรื่องราวได้เล็กน้อยจึงหันไปมองบุตรชายที่นั่งอยู่ข้างภรรยา

 

+++++

 

          ทางด้านเพลงพิณที่กลับมาถึงห้องแล้วลงมือเก็บเสื้อผ้าและกวาดสิ่งของของเธอลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบแล้วมานอนนิ่งๆอยู่บนเตียง เธอหยิบรูปใบเล็กออกมาจากกระเป๋า

 

          ภาพอัลตราซาวน์ที่มีรูปเด็กตัวเล็กๆนอนอยู่ในภาพ 16สัปดาห์นั่นคืออายุครรภ์ของเธอ ตั้งแต่เตรียมงานแต่งเมื่อต้นปี เธอก็ไม่เคยป้องกันเพราะคิดว่ากำลังจะแต่งงาน และเธอก็อยากจะมีลูกกับเขา เธอไม่เอะใจถึงประจำเดือนที่ขาดหายไปหลายเดือน เพราะคิดว่าพักผ่อนน้อยและเครียดเรื่องการจัดเตรียมงาน

 

          จนกระทั่งเมื่อวานเธอที่เธอรู้สึกเหม็นจนแทบจะเป็นลมเมื่อไปร้านดอกไม้ เพื่อดูดอกไม้ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ประดับในงานแต่ง จนเพื่อนต้องรีบพาไปโรงพยาบาลแล้วเธอก็ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์ หมอถามว่าจะฝากครรภ์เลยหรือไม่แต่เธอก็ปฐิเสธ วันนี้จึงเข้าไปหาพชรเพื่อบอกข่าวดีให้เขาทราบและกะว่าจะไห้เขาพาไปฝากครรภ์แทน

 

          อยากจะเซอร์ไพรส์คนรัก แต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายเซอร์ไพรส์เสียเอง เมื่อเห็นคนรักโอบประคองน้องสาวที่หน้าตาซีดเซียวลงมาจากรถ น้องอาจจะป่วยนั่นคือความคือแรกของเธอแต่ภาพต่อมาความใกล้ชิดที่เกินกว่าว่าที่พี่เขยจะคำคือเขากดจูบลงไปที่หน้าผากของบุษกร

 

          ก่อนที่ทั้งคู่จะเหลือบมาเห็นเธอ และกลายเป็นการปะทะคารมณ์ที่หน้าบริษัทให้อายคน

 

          "คุณพิณคะ คุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ" น้อยซึ่งขึ้นไปตามเพลงพิณได้แต่เคาะห้องเรียกอยู่หน้าประตูด้วยความกล้าๆกลัวๆ

 

          เพลงพิณเดินมาเปิดประตูห้อง และบอกน้อยให้เรียกคนมาช่วยขนกระเป๋าไปไว้ที่รถของเธอก่อนจะเดินลงไป

 

          น้อยมองเข้าไปในห้องที่มีกระเป๋าเดินทางหลายใบวางอยู่ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์มาพิมพ์ข้อความ

 

          'สถานะการณ์ฉุกเฉิน คุณพิณเก็บของลงกระเป๋าหมดเหมือนจะย้ายบ้าน ห้องรับแขกกำลังตึงเครียด...น้อยรายงาน'

 

          น้อยส่งข้อความหาภาคภูมิภาวนาให้ชายหนุ่มกลับมาถึงบ้านเร็วๆ เพราะคงไม่มีใครคลี่คลายปัญหาได้ดีเท่ากับภาคภูมิอีกแล้ว

 

          'กำลังจะถึง'  น้อยมองข้อความที่ตอบกลับมาแล้วได้แต่ถอนหายใจดังเฮือก ก่อนจะลงไปบอกลุงสมัยให้ขึ้นมาช่วยยกกระเป๋า

 

          เพลงพิณเดินลงมาถึงห้องรับแขกด้วยดวงตาที่แดงช้ำจากการร้องไห้ เธอไหว้พ่อแม่ของพชรก่อนจะไปยืนข้างโซฟาที่แม่ของเธอนั่งอยู่ "พิณลูกมานั่งนี่มา" พรรัมภาขยับที่นั่งและตบลงบนโซฟาเบาๆตรงกลางข้างบุษกร 

 

          เพลงพิณปรายตามองบุษกรก่อนเอ่ยปากออกมาว่า "พิณไม่อยากนั่งข้างมัน"

 

          "พี่พิณ...ฮึก" บุษกรหันมามองเพลงพิณแล้วน้ำตาก็ไหลลงมาอีกครั้ง

 

          พันนพที่นั่งอยู่ข้างลูกสาวคนเล็กได้แต่หันไปต่อว่าเพลงพิณที่วันนี้ทำตัวไม่มีมารยาทต่อหน้าผู้ใหญ่

 

          เพลงพิณกวาดตามองทุกคนก่อนจะไปหยุดที่พชร ซึ่งกำลังจ้องมองมาที่เธออย่างรู้สึกผิด พชรคุกเข่ากราบไปที่พ่อกับแม่ของเธอก่อนจะหันกลับไปกราบพ่อกับแม่ของตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า "ผมอยากจะถอนหมั้นกับน้องพิณแล้วแต่งงานกับน้องบุษครับ"

....

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา