The evil wish ต้นไม้ปีศาจ

-

เขียนโดย Carrotandstick

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 23.18 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,640 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 15.28 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) 2# อาเคย์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เช้าอันสดใสของวันอาทิตย์มาถึง อากาศสดชื่นเย็นสบายกว่าทุกวัน ตะวันลากสิตางศุ์ลงมาจากที่นอนโดยที่อีกฝ่ายไม่เต็มใจ

ทั้งคู่นั่งอยู่ที่โต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ารับประทานอาหารเช้าด้วยกัน เบค่อนทอดกรอบและไข่ดาวส่งกลิ่นหอมกรุ่น สิตางศุ์ที่กำลังสะลึมสะลือเล็กน้อยจิ้มเบคอนเข้าปากอย่างเงียบๆ ตะวันจ้องน้องชายอยู่นาน ทำท่าเหมือนอยากพูดอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ยอมเอ่ยปาก

“กินข้าวเสร็จแล้วเราจะทำสวนกัน!”

“อืม” สวนที่ว่านี่เป็นสวนหน้าบ้านที่ปู่รักและดูแลมาอย่างดีตลอด ปู่ชอบปลูกดอกไม้เล็กๆหลายพันธุ์ไว้ พอถึงเวลามันก็จะเบ่งบานและส่งกลิ่นหอมกรุ่น หน้าที่พวกเขาก็เหมือนกับทุกปี คือปลูกซ่อมดอกไม้ที่ตายไประหว่างหน้าฝน ตัดแต่งต้นไม้ประดับสุดรักของปู่

“วินเทอร์ก็จะมาช่วยด้วย!”

“อืม”

“ซิ่วอิงก็มานะ!”

“อืม”

“นี่ ฉันซื้อดอกไม้มาปลูกซ่อมเยอะเลยนะ! มีแบบที่นายชอบด้วย”

“อืม”

“แล้วก็...อาเคย์...”

มือที่ถือช้อนของสิตางศุ์หยุดกึกเมื่อได้ยินชื่อนั้น แววตาเริ่มฉายแววกรุ่นโกรธ ตะวันยิ้มแหยมองสิตางศุ์อย่างกล้าๆกลัวๆ

“นายบอกว่า...เคย์?” เอ่ยด้วยเสียงเรียบนิ่งพลางกระตุกยิ้มมุมปาก

“ช..ใช่ เขากลับมาแล้ว แล้วก็จะมาชะ..”

“นายให้เขามาทำไม! จะกลับมาทำไม!?” สิตางศุ์ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ กัดฟันกรอด

“ใจเย็นน่า เขาเองก็คงเสียใจ...”

“โกหก! เจ้านั่นหายหัวไปตั้งหลายปี พึ่งจะมาเอาตอนนี้เนี่ยนะ!?”

“สิตางศุ์...”

“นายจะทำอะไรกับเขาก็ทำไป ฉันจะไม่ยุ่งด้วย” สิตางศุ์กล่าวทิ้งท้ายแล้วหันหลังเดินออกบ้านไปตามลำพัง

อาเคย์ หรือ‘เคย์’ เป็นลูกน้องคนสนิทของปู่ คอยช่วยงานปู่ที่เป็นวิศวกรชื่อดังของอาณาจักร ปู่เลี้ยงดูเขามาอย่างดี สั่งสอนวิชาความรู้แขนงต่างๆให้เขาอย่างใจกว้าง รักและเอ็นดูเสมือนลูกแท้ๆ แต่เจ้านั่นกลับทิ้งปู่ไปอย่างไม่ไยดี! เมื่อสามปีก่อนเคย์ได้รับข้อเสนอจากอาณาจักรข้างเคียงให้ไปรับงานบางอย่างที่ตะวันกับสิตางศุ์ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ปู่ทักท้วงสั่งห้ามเคย์ไม่ให้ไป เคย์ดึงดันไม่ยอมฟังคำขอร้องของปู่จนเกิดการทะเลาะกันอย่างหนัก สุดท้ายเขาก็แอบหนีไปจนได้ หลักจากนั้นปู่ก็ป่วยหนัก อาการทรุดลงเรื่อยๆ เซื่องซึมลงอย่างเห็นได้ชัด วันๆเอาแต่ถามถึงเจ้านั่น สุดท้ายปู่ก็จากไปโดยที่เคย์ไม่ได้กลับมาเยี่ยมเลย งานศพปู่เขาก็ไม่ได้มา ทั้งที่ส่งจดหมายไปบอกแล้วแท้ๆ หลังจากนั้นสิตางศุ์ก็โกรธและเกลียดขี้หน้าเคย์ไปโดยปริยาย เขาคิดว่าเคย์เป็นสาเหตุที่ทำให้ปู่ตาย

สิตางศุ์ที่กำลังหงุดหงิดแอบมานั่งจุ้มปุ๊กอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ห่างจากบ้านมาเล็กน้อย นิ่วหน้าเหมือนเด็กที่ไม่ได้ดั่งใจ สายตาเจือความเศร้าทอดมองไปอย่างเหม่อลอย

ทันใดนั้นน้ำเสียงอ่อนโยนหวานละมุนก็ดังขึ้นข้างหู “คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ?” เจ้าของเสียงเป็นหญิงวัยกลางคนร่างอวบท่าทางใจดี เธอคือ‘ป้าแมรี่’ แม่บ้านของพวกเขาเอง “ถ้าป้าจะมาตามล่ะก็ ผมไม่กลับหรอก” สิตางศุ์หน้ามุ่ยกว่าเดิม หันขวับไปอีกทาง ป้าแมรี่จึงย่อตัวนั่งลงข้างเขาพลางลูบหลังปลอบเบาๆ

“คุณหนูเป็นแบบนี้คุณปู่จะไม่สบายใจเอานะคะ”

“...”

“ป้ารู้ว่าคุณหนูยังเสียใจอยู่ แต่จะเอาความโกรธไปลงที่คุณเคย์คนเดียวไม่ได้นะ”

“เพราะเขา ปู่เลยทรุดหนัก”

ป้าแม่รี่พูดไม่ออก ที่สิตางศุ์ว่ามันก็จริง เพราะตั้งแต่ที่เคย์จากไปเจ้านายของหล่อนก็ดูเหมือนจะตรอมใจลงทุกวัน

“แต่คุณหนูก็ไม่ควรแสดงกริยาแบบนี้นะคะ”

“...”

“คุณท่านที่อยู่บนสวรรค์คงอยากให้พวกคุณรักกันไว้มากกว่า”

“ครับ...” สิตางศุ์กล่าวจนใจท่าทางเซื่องซึม ทำไงได้ล่ะ ถึงจะโกรธแต่ก็ต้องทำตัวดีๆ ปู่จะได้สบายใจสินะ...

“กลับกันเถอะค่ะ เดี๋ยวป้าจะทำพายองุ่นปลอบใจให้นะ” ป้าแมรี่ยิ้มปลอบและกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน แววตาของสิตางศุ์เป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ได้ยินแบบนี้ก็น้ำลายสอขึ้นมาทันที ก็พายองุ่นของป้าแมรี่อร่อยที่สุดในโลกเลยนี่นา! ตั้งแต่แม่จากพวกเขาไปก็มีป้าแมรี่นี่แหละที่รู้ใจเขาที่สุด หล่อนจึงเป็นเหมือนแม่อีกคนในสายตาของสิตางศุ์

เมื่อสิตางศุ์กลับมาถึงบ้าน ก็ถูกเพื่อนของเขา 'วินเทอร์' และ 'ซิ่วอิง'วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง“สิตางศุ์มาแล้ว! ไปไหนมาน่ะ พวกเรารอตั้งนาน” ซิ่วอิงเด็กสาวผิวขาวสวยเชื้อสายจีนกล่าวอย่างร่าเริง “อย่างเจ้าหมอนี่ก็มีแต่ไปนั่งเพาะเห็ดแหละ ทำให้คนอื่นเขาเป็นห่วงตลอด” วินเทอร์ทำหน้ามุ่ย แต่ยังไงเขาก็ดูน่ารัก ทั้งผมสีทองที่ส่องประกายกับแสงแดด ดวงตาใสกระจ่างสีทับทิม ทุกอย่างล้วนอยู่บนใบหน้าสวยได้รูปเหมือนผู้หญิงของวินเทอร์

“เฮ้ นายยังน่ารักเหมือนเดิม

“น่ารักกะผีสิ! ใครเขาชมผู้ชายว่าน่ารักกัน! สิตางศุ์หลบกำปั้นที่วินเทอร์ตั้งใจจะทุบหัวเขาได้อย่างเฉียดฉิว

อีกด้านหนึ่ง ตะวันก็เดินนำชายร่างสูงโปร่งมาอย่างอาดๆ พอถึงที่หมายชายคนนั้นก็กล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

“สวัสดีเด็กๆ ไม่เจอกันนานเลยนะ” รอยยิ้มได้รูปฉาบอยู่บนหน้าของชายผู้นั้น แต่นัยน์ตาของเขานั้นกลับอ่านไม่ออก

“สวัสดีครับ อาเคย์” สิตางศุ์จ้องเคย์อย่างไม่วางตา เคย์เองก็จ้องกลับเช่นกัน ระหว่างคนทั้งคู่เหมือนมีสายฟ้าสายหนึ่งคั่นกลาง

“นายไม่โกรธแล้วใช่มั้ย!” ตะวันยิ้มกว้างอย่างไม่ประสีประสาจนสิตางศุ์ทำหน้าตาย ‘เจ้าทึ่ม แค่นี้ก็ดูไม่ออกเรอะ!? เขาคิดในใจอย่างเอือมระอา เดินผ่านตะวันไปอย่างไม่แยแส

 

ทุกคนทำสวนกันมาได้ซักพัก...แต่จะว่ามันเป็นการทำสวนได้รึเปล่า? ตอนนี้มีแค่สิตางศุ์กับเคย์เท่านั้นที่ตั้งใจขุดหลุมดินไว้ปลูกต้นไม้ใหม่ ตะวันกับซิ่วอิงทำสงครามโยนดินใส่กันอย่างกับปาลูกบอลหิมะ วินเทอร์ที่โดนลูกหลงก็เข้าไปร่วมวงด้วย ป้าแมรี่กำลังพยายามห้ามศึกระหว่างพวกนั้นจนเหงื่อตก การให้เจ้าตะวันพาเพื่อนๆมาช่วยมันวุ่นวายอย่างนี้นี่เอง ทำตัวอย่างกับเด็กประถม ความหงุดหงิดของสิตางศุ์พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ พวกนั้นกำลังจะทำสวนเละไปหมด ก่อนที่เขาจะหมดความอดทนและหันไปตวาดพวกนั้นก็มีฝ่ามือใหญ่วางลงบนไหล่อย่างปลอบประโลมซะก่อน เคย์ก้าวออกมาข้างหน้าแล้วตะโกนเสียงดัง

“ใครทำงานส่วนของตัวเองเสร็จก่อนผมจะให้บัตรเข้ามินิพาร์ควีไอพีฟรี!” สิ้นเสียงแล้วทุกคนก็หยุดมือก่อสงครามแล้วทำตาลุกวาวทันที แน่นอนว่าใครๆก็ต้องสนใจข้อเสนอนี้ มินิพาร์คเป็นสวนสนุกชื่อดังที่ล่ำลือกันว่าอลังการและสนุกสุดๆ แน่นอนว่าผู้คนแน่นขนัด คึกคักตลอดทั้งวัน แต่หากมีบัตรวีไอพีก็จะสามารถเล่นเครื่องเล่นได้โดยไม่ต้องต่อคิว

“จริงนะครับ/คะ!” ตะวันกับซิ่วอิงตะโกนด้วยความดีใจ ส่วนวินเทอร์แค่นเสียง“เฮอะ” อยู่ข้างๆ หลังจากนั้นทุกคนก็จัดการเก็บส่วนที่ตัวเองทำเลอะ ตั้งใจทำงานด้วยความเร็วเต็มสปีด สิตางศุ์มองเคย์เงียบๆ

“คิดไม่ถึงรึไงว่าฉันจะจัดการปัญหาได้?”

“ก็ดีแล้วนี่ครับ” เขาตอบแล้วหันกลับไปทำงานของตนต่ออย่างไม่สนใจเคย์ เคย์มองสิตางศุ์ที่หันหลังให้แล้วยิ้มอย่างพึงพอใจ

เมื่อถึงเวลาประมาณบ่ายสองครึ่งงานทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย วินเทอร์เป็นผู้ชนะแต่เคย์บอกว่าจะให้บัตรกับทุกคน ตะวันกับซิ่วอิงดีใจกันใหญ่ ตะวันชวนให้ทุกคนอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับ พวกเขาจึงไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อใหม่ในบ้านของตะวัน หลังทุกคนอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็นั่งล้อมวงเล่นบอร์ดเกมกัน สิตางศุ์ที่ไม่เต็มใจก็ถูกลากเข้าไปเล่นด้วย ป้าแมรี่กำลังเตรียมอาหารเย็น เคย์นั่งบนโซฟามองดูพวกเด็กๆเล่นกันอย่างหย่อนอารมณ์ เขาสวมเสื้อยืดสีขาวบาง เผยให้เห็นรูปร่างสัดส่วนใต้เนื้อผ้าจนดูเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก

“อาเคย์ใจดีเนอะ เซ็กซี่ด้วย!” ซิ่วอิงกระซิบกระซาบกับเพื่อนๆด้วยความปลื้มปริ่มเคย์เป็นอย่างมาก ทุกคนยกเว้นสิตางศุ์ต่างออกเสียงเห็นด้วยกับซิ่วอิง “อือ เมื่อก่อนสิตางศุ์ก็ติดเขาจนตามต้อยๆเลยล่ะ”

“ฉันเปล่า!” สิตางศุ์ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งหงุดหงิด จริงอยู่ที่ตอนเด็กเขาชอบและชื่นชมเคย์มาก แต่ตอนนี้ก็ไม่แล้ว แถมยังเกลียดขี้หน้าคนคนนี้อีก

ไม่นานนักป้าแมรี่ก็เตรียมอาหารเย็นเสร็จ ทุกคนรวมถึงป้าแมรี่นั่งรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน โต๊ะที่ปกตินั่งกันสองคนจึงกรุ่นไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นอ่อนโยน สิตางศุ์เขี่ยอาหารในจานพลางนึกถึงอดีต เมื่อก่อนที่โต๊ะนี้ก็มีทั้งตะวัน แม่ ปู่ และอาเคย์นั่งอยู่ด้วยกัน แต่ทำไมทุกอย่างจึงเหมือนกับค่อยๆสลายหายไปเรื่อยๆล่ะ?

“สิตางศุ์ยังเขี่ยกระเทียมออกอยู่อีกหรือ?” เคย์จ้องเขาและกล่าวด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

“ไม่เกี่ยวกับคุณ”

“คุณแมรี่ครับ เด็กดื้อเลือกกินแบบนี้จะต้องโดนลงโทษให้อดพายองุ่นใช่มั้ย?”

“…!!”

“โฮะๆ นั่นสิคะ คุณหนูต้องหัดกินกระเทียมได้แล้วนะ”

“….” สิตางศุ์ฝืนใจยัดกระเทียมเข้าปากอย่างอารมณ์เสีย เจ้าเคย์นั่นตั้งใจกวนประสาทเขาชัดๆ!

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

ขอความคิดเห็นด้วยค่ะ^^

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา