เมียนอกสายตา

-

เขียนโดย Natthaphan

วันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 22.55 น.

  25 ตอน
  3 วิจารณ์
  18.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 23.00 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

21) ศึกชิงนาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ร่างบางได้แต่ยิ้มแห้งๆ รับอาหารมากมายที่สองพี่น้องเป็นคนดักประเคนมาให้จนเกือบจะท่วมจานข้าวที่วางอยู่ตรงหน้า ส่วนคนอื่นๆ ก็ได้แต่นั่งมองเหตุการณ์นั้นด้วยท่าทางงุนงงไม่ต่างอะไรกับฑิฆัมพรเลย

"กุ้งครับ อร่อยมากเลยนะขอบอก"

กุ้งที่ถูกแกะเรียบร้อยถูกวางลงบนจานให้เธอโดยวราธรผู้ที่พึ่งจะได้สถานะเป็นน้องสามี

นัยน์ตาสีน้ำตาลมองวราธรสลับกับกุ้งอยู่หลายหน ก่อนจะยิ้มแหย่ๆ ให้เขาเมื่อชายหนุ่มนั่นยังคงเชียร์ให้เธอลองชิมให้ได้...

แล้วเธอจะบอกกับเขาอย่างไรว่า...เธอนั้นแพ้กุ้ง

แต่ดูเหมือนว่าผู้เป็นมารดากำลังจะเอ่ยบอกแทนเพราะเห็นท่าทางขี้เกรงใจของบุตรสาว คงจะกลัวอีกฝ่ายเสียน้ำใจจึงไม่กล้าเอ่ยบอก

จึก!!

แต่...คนข้างๆ เธอใช้ช้อนซ้อมจิ้มไปเสียก่อน พร้อมเคี้ยวตุ้ยๆ ด้วยสีหน้าระรื่นจนวราธรนั้นทำได้แค่เหลือกตาใส่พี่ชาย

ริมฝีปากบางแอบยิ้มขบขัน...เขาช่วยเธอได้ทันเวลาทุกทีเลย

"ลองทานนี้ดูนะ ซุปเผือก คุณย่าท่านทำอร่อยมากเลยนะ"

ตักให้พร้อมรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ดูจริงใจไม่ได้เสแสร้ง หญิงสาวได้แต่นึกแปลกใจในท่าทางใจดีของเขา แววตานั้นมันไม่ได้จับผิดเธออย่างเมื่อวาน

"ขอบคุณค่ะ"

ในขณะที่กุ้งของเขา เธอทำท่าทางเหมือนไม่อยากกินแต่พอเป็นซุปเผือกของเวหาเธอกลับตักเข้าปากด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยจนวราธรนั้นอดนึกเศร้าใจไม่ได้...เขากลับมาช้าไปสินะ

เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนดูจะไปได้สวยก็พลอยทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่นั้นยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูคงจะมีเพียงวราธรคนเดียวกระมังที่ทอดมองภาพตรงหน้าด้วยความเจ็บปวด

เวหายักคิ้วใส่ผู้เป็นน้องชายอย่างเหนือกว่า...

หญิงชราสวมกอดหลานสาวก่อนที่เธอจะกลับ เป็นอย่างนี้ทุกครั้งไปแม้จะเจอกันเกือบทุกวัน

ก็ต้องล่ำลากันราวกับจะไม่ได้เจอกันเป็นปีๆ

"คุณฟ้ากลับคนเดียวหรอครับ เดี๋ยวผมขับรถไปเป็น..."

"ไม่ต้องอ่ะ ฟ้าเขาก็ต้องกลับกับพี่สิ นี้เมียพี่นะจะให้กลับคนเดียวได้ยังไง เดี๋ยวลุงพลช่วยขับรถอีกคันไปส่งที่บ้านด้วยนะครับ"

วราธรถึงกลับต้องยืนนิ่งเมื่อเจอเจ้าพ่อแผนการเอ่ยสวนขึ้นเสียก่อน

ฑิฆัมพรได้แต่เหล่ตามองคนที่ยื่นมือมาโอบเอวเธอไว้ด้วยท่าทางไม่ไว้ใจ

อยู่ๆ มาทำดีใส่ เขากำลังคิดอะไรนะ...

มองสองพี่น้องสลับกันไปมา พลันฉุกคิดขึ้นได้ว่าพี่น้องสองคนนี้ต้องมีอะไรกันแน่ๆ และลางสังหรณ์มันก็กำลังบอกกับเธอว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเธอเต็มๆ

แล้วเรื่องอะไรกัน???

"ผมกลับนะครับ"เอ่ยลาผู้หลักผู้ใหญ่ก่อนจะกระชับเอวบางให้แน่นกว่าเดิมพลางกระตุกยิ้มที่มุมปากให้ผู้เป็นน้องชายที่กำลังยืนมองตาเขียวปั้ด

ไม่รู้ว่าทำไมสมองถึงสั่งให้ทำแบบนี้แต่หัวใจมันบอกว่าหากไม่ทำเช่นนี้เขานั่นแหละที่จะเสียเธอไป...

"เอ่อ...หนูกลับก่อนนะคะ"

มือบางยื่นไปดึงมือของสามีออกเมื่อรู้สึกว่ามันแน่นเกินไปแต่ดูเหมือนมือปลาหมึกนั้นจะดึงออกยากเสียเหลือเกิน หญิงสาวหันไปตีหน้าดุให้คนข้างๆ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่เกรงกลัวเลยสักนิด ก่อนที่มือนั้นจะดันเธอให้เข้าไปนั่งในรถของเขา ส่วนรถอีกคันที่หญิงสาวนั้นขับมาก็ถูกคนขับรถประจำบ้านขับออกไปนานแล้ว เธอจึงไม่มีทางเลือก...

ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมต้องให้กลับรถคันเดียวกัน ทีตอนแรกล่ะชอบบอกว่าไม่อยากให้ใครมานั่งเบาะรถคันนี้ กลัวว่ามันจะเป็นรอย ทีตอนนี้ล่ะยัดเธอเข้ามาอย่างกับยัดปลาใส่กระป๋องไม่กลัวว่ากระเป๋าของเธอจะขูดเบาะราคาแพงของตัวเองบ้างเลยสักนิด...เห็นขัดๆ ถูๆ ดูหวงยิ่งกว่าเมียซะอีก

หรือตอนนี้จะหวงเมียมากกว่ารถ...

ในระหว่างทางกลับมีเพียงความเงียบที่เข้ามาปกคลุม คนที่ได้ชื่อว่าสามีภรรยาไม่ได้เอ่ยพูดอะไรกันต่างฝ่ายต่างอึดอัดอยากจะพูดคุยด้วยแต่ก็กลัวอีกฝ่ายจะไม่เอ่ยตอบ

"เดี๋ยว"เอ่ยรั้งเมื่อร่างบางกำลังจะเดินเข้าบ้านไป

"เธอชอบฝึกงานกับฉันหรือไอ้ธรมากกว่ากัน? "

คิ้วบางขมวดมุ่นเมื่อนึกสงสัยในประโยคที่เขาเอ่ยถาม

"ไม่รู้สิคะ มันไม่เหมือนกัน"

"ไม่เหมือนกันยังไง มันใจดีกว่าฉันใช่ไหม? "คาดหวังคำตอบแบบสุดๆ

"เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วค่ะ ท่านรองใจดีจะตาย แต่ที่ฉันบอกว่ามันไม่เหมือนกันคือการทำงานค่ะ"

"ออ แล้วเธอฝึกงานกับไอ้ธรมันนานเท่าไหร่แล้ว ก่อนที่จะมาฝึกกับฉันน่ะ"เริ่มเก็บข้อมูลเพื่อไปวางแผนอะไรบางอย่าง

"ประมาณเกือบเดือนค่ะ มีอะไรจะถามอีกไหมคะ ฉันจะไปอาบน้ำ"

"ไม่มีแล้ว ไปเถอะ"

พอหญิงสาวเดินลับสายตาไปแล้ว ริมฝีปากหนาก็ฉีกยิ้มออกมา ยิ้มที่ดูชั่วร้าย หากใครมาเห็นก็คงสงสัยว่าเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่ ภายในใจคงจะคิดเรื่องไม่ดีๆ อยู่แน่นอน

 

นารีรัตน์ทอดมองเจ้านายด้วยสีหน้าสงสัยเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลน เอาแต่ชะเง้อคอมองประตูตลอดเวลา เอกสารที่ยื่นให้เมื่อครู่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจอ่านอย่างที่ควร

ท่าทางจะลืมเขย่าขวดยาก่อนดื่มกระมัง...นึกแซวเจ้านายในใจ

"คุณรี"กำลังจะเดินออกไปแต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะถูกเอ่ยเรียก

"บอกฟ้า...เอ่อ...คุณฟ้ามาหาผมหน่อย"

"คะ...ฟ้าหรอคะ? "

ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แต่ก่อนรุ่นน้องฝึกงานของเธอ กว่าจะเข้ามาในห้องนี้ได้ก็เกือบเป็นเกือบตาย เพราะเจ้าของห้องไม่ชอบใจที่เธอเข้ามา แต่ไหงวันนี้กับเรียกหา...บ้าบอ

ร่างบางในชุดนักศึกษาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะผู้บริหาร ก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าเพื่อรอรับคำบัญชาว่าเขานั้นเรียกมาด้วยเหตุใด เพราะปกติแล้วเขาไม่เคยบอกให้เข้ามาเลยสักครั้ง มีเพียงเธอที่ดื้อเข้ามาเองแต่ก็ไม่ได้อยู่ให้เขารกหูรกตานาน หากเอกสารวางลงบนโต๊ะเรียบร้อยเธอก็จะเดินออกไปทันทีเพราะรู้ดีว่าเจ้าของห้องไม่ยินดีนักที่เธอเข้ามา

"ต่อไปนี้คุณเข้ามาในนี้ได้ตามปกตินะ"

"คะ? "เอียงคอถามกลับด้วยความสงสัย

นี้เมื่อเช้าลืมแคะหูจนมันรวนแล้วได้ยินอะไรแปลกๆ หรือเปล่านะ...

"ก็...การเป็นเลขาก็ต้องเข้าห้องเจ้านายได้อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติ...จริงมั้ย? ผมไม่อยากให้อาจารย์ของคุณมาตำหนิทีหลังว่าบริษัทของผมไม่ได้เรื่อง ฝึกงานเด็กจบไปแบบไม่มีประสิทธิภาพ"

ยังไม่เชื่อสนิทใจ รู้สึกว่าประโยคนั้นมันกำกวมแปลกๆ คล้ายว่าคนพูดนั้นกำลังโกหกอยู่ แต่ช่างเถอะ ขี้เกียจใส่ใจ แค่เขาให้เข้ามาเธอก็ดีใจมากพอแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกผลักไสเหมือนแต่ก่อน

"ออ...ค่ะ"

"แล้วก็ขอกาแฟกับของว่างหน่อยนะ ผมรู้สึกง่วงๆ น่ะ"

"ค่ะ"

"เอาะ! เดี๋ยว ชงเองด้วยนะ เอาเข้ามาให้ด้วยไม่ต้องใช้ใคร เพราะนี้ก็คือการฝึกงานเหมือนกัน"

"ค่ะ"

พอร่างบางนั้นเดินพ้นประตูห้องไปรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ลอยมาปรากฏบนใบหน้าคมเข้มทันที

ผ่านไปประมาณสิบนาทีเห็นจะได้ ฑิฆัมพรก็ถูกเจ้านายเรียกเข้าไปพบอีกครั้งด้วยเหตุผลที่ว่าขอกาแฟอีกหนึ่งแก้ว ทั้งๆ ที่โทรสั่งก็ได้แต่กลับให้เธอเดินเข้ามาหา

เพราะอยากเจอหน้า???

"กาแฟค่ะ"

แก้วสีขาวที่ยังคงมีควันอ่อนๆ ลอยอยู่ด้านบนถูกวางลงบนโต๊ะของชายหนุ่ม เขาหันไปยิ้มให้เธออย่างขอบคุณ

แววตานั้นสั่นไหวเมื่อทอดมองรอยยิ้มแสนอบอุ่นนั้น มันเป็นรอยยิ้มที่เธอไม่ได้เห็นมานานมากแล้ว นานมากจริงๆ

น้ำสีดำอ่อนๆ ถูกเทลงถังขยะทันทีที่หญิงสาวนั้นเดินออกไป ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินหรอกนะ แต่เพราะยังจุกจากกาแฟแก้วแรกและของว่างเมื่อสิบนาทีก่อนอยู่เลย ทว่าที่สั่งเพิ่มเพราะอยากเห็นหน้าคนชงมากกว่า และเธอจะได้ไม่มีเวลาว่างไปคุยกับใครบางคนที่คอยเดินผ่านไปผ่านมา จะใครซะอีกล่ะ...วราธร น้องชายของเขาเอง

"ขออีกแก้ว"

คิ้วบางขมวดมุ่นแต่ก็ยอมทำแต่โดยดี กลัวว่าถามมากแล้วจะโดนดุ

แก้วที่หกผ่านไป...

"ขอ..."

"พอแล้วค่ะ เยอะเกินไปแล้วนะคะ"กดเสียงต่ำจนคนฟังหน้าจ๋อย แต่ก็รีบกลับมาตีหน้าเข้มเหมือนเดิม เดี๋ยวคนตรงหน้าจับได้

"ก็ฉันง่วง"

"ถ้าง่วงมากก็ไปเดินเล่น พักผ่อนสายตาสิคะ กินขนาดนี้ไม่นอนมันเดือนหน้าเลยหรอคะ ถึงมันจะทำให้ไม่ง่วงและทำให้คุณทำงานได้ แต่กินมากไปมันก็ไม่ดีนะคะ ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงคะ"

ริมฝีปากหนาแอบอมยิ้มเบาๆ ที่เธอนั้นพูดเหมือนเป็นห่วงกลัวว่าเขานั้นจะเป็นอะไรไป

"สวนสาธารณะในบริษัทท่านประธานสร้างมาเพื่ออะไรคะ ทำไมไม่ลองไปพักสมองที่นั้นบ้าง"ยาวเหยียด!!! จนคนฟังนั้นเกือบจะสำนึกไม่ทัน

"ฉันไม่ชอบไปคนเดียวอ่ะ ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"

"ฉันต้องทำงานค่ะ"

"นี้ก็งาน"

"งานยังไงคะ? "นึกงงๆ การเดินเล่นกับเจ้านายคืองานหรือเธอก็พึ่งรู้

"มันคือคำสั่งของเจ้านายเพราะฉะนั้นมันก็คืองาน"เอ่ยออกมาหน้าตาย แถจนสีข้างถลอกก็ยังไม่เลิกแถ

สุดท้ายเธอก็ต้องยอมเขาเพราะอำนาจที่มีเยอะกว่าและมันคือคำสั่งของเจ้านาย หากเขานั้นชวนเธอมาเพราะอยากชวนไม่ใช่เพราะคำสั่งเธอคงจะมีความสุขมากกว่านี้เป็นล้านเท่า

"นี้ไปนั่งอะไรไกลขนาดนั้น"

เขาหันไปทักคนที่กำลังจะหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ห่างจากเขาพอสมควร

"ฉันคิดว่าคุณอยากจะนั่งคนเดียว"

กลัวว่าถ้านั่งตามอำเภอใจจะโดนด่าเอาจึงเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ยาวอีกตัวที่วางถัดออกมา

"ฉันไม่ชอบนั่งคนเดียว มานี้"

ตบเก้าอี้เบาๆ เพื่อเรียกร่างบางให้มานั่งลง

พอหญิงสาวนั่งลงแขนแกร่งที่อยู่ฝั่งเธอก็ยกขึ้นไปวางไว้บนขอบที่พิง ราวกับว่ากำลังจะประกาศให้โลกรู้ว่านี้...คนของเขา...อย่ายุ่ง

 

คิ้วหนาขมวดเป็นปมเมื่อจู่ๆ เจ้าน้องชายตัวดีก็เดินดุ่มๆ เข้ามาภายในห้อง ราวกับว่ากำลังจะยกพวกมาตีพี่ตัวเองอย่างไงอย่างงั้น

"ผมมารับนักศึกษาฝึกงานผมคืน"

"เธอฝึกกับฉันแล้ว จะทำเรื่องให้มันยุ่งยากทำไมวะ? "

ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก กับคำพูดของน้องชาย

"แต่เธอเป็นเด็กที่ผมรับเข้ามาฝึกงาน ผมแค่ฝากพี่ไว้เฉยๆ แล้ววันนี้ผมก็กลับมาแล้ว ผมมารับเธอกลับ"

"เขาฝึกกับแกยังไม่ถึงเดือนเลย แต่ฝึกกับฉันเกือบจะสองเดือนแล้วนะ เพราะฉะนั้นงานที่เขาถนัดในตอนนี้ก็คืองานฝั่งฉัน"

วราธรนึกแค้นใจตัวเองที่ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของพี่ชาย นึกว่าจะยอมคืนง่ายๆ แต่ไหงเป็นงี้ไปได้ก็ไม่รู้

"และในฐานะประธานบริษัท ฉันขอสั่งว่าไม่ต้องย้ายนางสาว...เอ้ย...ไม่สิ นางฑิฆัมพร กลับไปฝึกงานที่เดิมอีก ฝึกมันที่นี้แหละ ยังไงซะก็จะฝึกจบอยู่แล้ว หากมัวแต่ย้ายไปย้ายมาคงจะฝึกรู้เรื่องหรอก"

"เอางี้ งั้นมาถามเจ้าตัว ว่าเธออยากฝึกกับใคร"

ใบหน้าคมเข้มเงยขึ้นมองน้องชายเขม็ง กลัวว่า ฑิฆัมพรจะเลือกจากเขาไปเพราะ...

'เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วค่ะ ท่านรองใจดีจะตาย'

เขานั้นมันคนใจร้าย...เธอจะอยากอยู่ด้วยหรือ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา