ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  30.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) เรื่องบังเอิญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

ซอร์รี่ด้วยนะคะพี่พล แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญอ่ะเนอะ ควบคุมลำบาก

 

**************************************

“โอ๊ยเหนื่อย! เหนื่อย เหนื๊อย เหนื่อย”

เทพิมพ์ส่ายหน้ายิ้มๆให้คนบ่นกะปอดกะแปดว่าเหนื่อยจนสายตัวแทบขาดตั้งแต่งานเลี้ยงเกษียณอายุราชการของอาจารย์ท่านหนึ่งยังไม่จบ จนกระทั่งตอนนี้ที่เก็บของเสร็จเรียบร้อย เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมพร้อมแยกย้ายกลับบ้านก็ยังไม่หยุดบ่น ข้อดีของงานแบบนี้คืองานจะเลิกไม่เกินเวลา กำหนดการวันนี้คือสามทุ่ม แต่ยังไม่สองทุ่มแขกก็เริ่มทยอยกลับเพราะเริ่มง่วงตามประสาคนสูงวัย

ทว่าได้อย่างก็เสียอย่าง ด้วยความที่แขกที่มาร่วมงานเกือบร้อยชีวิตเป็นผู้สูงอายุ ความต้องการของแต่ละท่านจึงค่อนข้างจุกจิก บางท่านต้องการน้ำอุ่นเท่านั้นตลอดงาน บางท่านอยากดื่มน้ำเย็นแต่ใส่น้ำแข็งแค่ก้อนเดียว พนักงานก็ต้องวิ่งไปหาแก้วใหม่มาให้ หลายๆท่านปวดขาเดินไปมาไม่สะดวกก็ขอให้พนักงานที่มีจำนวนจำกัดช่วยตักอาหารให้ถึงที่ทั้งที่จัดแบบบุฟเฟต์ ทว่าทุกคนก็เข้าใจและบริการด้วยความเต็มใจ แต่ที่ทำให้พนักงานวิ่งกันหัวหมุนคงเป็นฟันปลอมของแขกท่านหนึ่งที่หายไป ไม่มีใครขโมย แต่แขกท่านนั้นห่อฟันปลอมไว้ด้วยกระดาษทิชชูแล้ววางลืมไว้บนโต๊ะ พนักงานไม่ทราบคิดว่าเป็นขยะ ช่วงที่กำลังเคลียร์โต๊ะหลังงานเลิกจึงเก็บไปทิ้งพร้อมจานอาหารใช้แล้ว ความบันเทิงบังเกิด พวกเธอต้องช่วยกันรื้อถังขยะทั้งหมด หาทีละชิ้นๆ จนเหงื่อตกก็ยังไม่เจอ สุดท้ายไปพบที่ถังเศษอาหาร แม้จะเหนื่อย จะแขยงมือจนไม่มีใครแวะกินข้าวที่แคนทีนก่อนกลับบ้านเหมือนทุกครั้ง แต่พอได้เห็นรอยยิ้มดีใจของแขก พวกเธอกับเพื่อนๆก็สุขใจ

“เหมือนได้ยินว่าที่ถนนคนเดินมีงานกาชาดนะ”

“อีกสิบนาทีเจอกัน ทรายจะไปตักไข่ ตู้เย็นต้องเป็นของทราย พิมพ์ไปด้วยกันนะ”

นึกไว้แล้วเชียว เทพิมพ์กลอกตามองคนบ่นว่าเหนื่อยจนหมดสภาพแต่พอได้ยินมีงานกาชาดที่แน่นอนว่าต้องมีร้านค้ามาตั้งขายของมากมาย ดวงตาปรือปรอยของเม็ดทรายก็สว่างวาบอย่างคนมีแรงเหลือเฟือสำหรับเดินเที่ยวเล่นจนน่าหยิก

“เดี๋ยวก็ขนน้ำยาล้างจานมาให้พิมพ์ช่วยใช้อีก ไม่ล่ะ พรุ่งนี้พิมพ์เข้างานเจ็ดโมงเช้า อยากกลับไปพักมากกว่า”

“แน่ะ! กลับไปพักหรือไปนอนคุยโทรศัพท์กันแน่ยะ ทรายเห็นนะว่าวันนี้มีหนุ่มๆมาขอเบอร์พิมพ์หลายคน ฮอตจริงๆเพื่อนเรา โอ๊ย! เอาเรื่องจริงมาล้อเล่นแค่นี้ก็ต้องหยิกแก้เขินด้วย พิมพ์ใจร้าย”

เม็ดทรายแกล้งเอาไหล่ชนกับหัวไหล่ของเทพิมพ์ พลางใช้ดวงตาเจ้าเล่ห์วาววับล้อเลียนสำทับไปอีกทีกับความเจ้าเสน่ห์ของเพื่อนรัก และท่าทางขยุกขยิก ทำตาเล็กตาน้อยนั่นก็น่าหมั่นไส้จนต้นแขนเนียนนุ่มถูกปลายเล็บของคนถูกล้อจิกเบาๆเป็นการลงโทษที่แซวเก่งเหลือเกิน

“ก็ทรายพูดไม่รู้เรื่อง”

“ไม่รู้เรื่องตรงไหน ทรายเห็นเองกับตา เดี๋ยวคนนั้นเรียกน้องพิมพ์ครับ เดี๋ยวคนนี้เรียกน้องพิมพ์จ๋า ทั้งวัน”

“ได้ยินว่าใครฮอตเหรอทราย”

“พิมพ์ค่ะพี่พล หนุ่มๆตามจีบตรึมเลย”

สองสาวหันไปตามเสียงทักทางด้านหลัง ก่อนเป็นเม็ดทรายที่เปิดปากฟ้องให้หัวหน้างานรับทราบว่าเด็กในปกครองของตนเองน่ะเสน่ห์แรงข้ามแผนกไปแล้ว เพราะวันนี้ไม่ว่าจะเทพิมพ์จะเดินไปตรงไหน ก็จะได้รับเสียงชมว่าน่ารักกลับมาจากพนักงานชายที่เดินผ่าน แม้แต่หนุ่มๆในแผนกจัดเลี้ยงที่เห็นหน้ากันจนเอียนยังหันมาให้ความสนใจเทพิมพ์มากกว่าปกติ ซึ่งก็ไม่ผิดจากที่เธอคิดไว้ เพราะเทพิมพ์น่ะเป็นคนหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวก็เนียนเกลี้ยงสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่หญิงสาวเป็นคนแต่งหน้าไม่เป็น แต่งตัวไม่เก่ง ซ้ำยังถูกกรอกหูจากตัวร้ายเอื้อมดาวกับคู่ซี้ว่าหน้าตาจืดชืดไร้เสน่ห์ ทว่าพอได้จัดแต่งเส้นผมให้เป็นทรง บวกกับวันนี้เธอจับเทพิมพ์แต่งหน้าอ่อนๆ แค่นั้นราศีคนสวยก็จับเพื่อนซี้จนสวยเด้งโดดเด่นกว่าใคร ทำเอาคนที่เคยดูแคลนถึงกับขยี้ตากันรัวๆ ว่าสาวน้อยน่ารักคนนี้ใช่ซินเดอเรลล่าที่โดนเจ้าชายสูงศักดิ์สลัดทิ้งหรือเปล่า

“ทรายพูดไม่รู้เรื่อง พิมพ์กลับบ้านดีกว่า สวัสดีค่ะพี่พล พิมพ์ไปแล้วนะยายต๊อง”

ยิ่งเวลาเทพิมพ์เขินจนแก้มแดงก่ำเหมือนตอนนี้ ก็ยิ่งน่ารักน่ามันเขี้ยวจนเม็ดทรายอดยื่นมือไปบีบแก้มเพื่อนเล่นไม่ได้ คนถูกล้อจนหน้าเห่อร้อนชักจะวางตัวไม่ถูกจึงปัดมือเม็ดทรายออกเบาๆก่อนหันไปไหว้ลาพลธวัชที่เดินไปยังลานจอดรถเช่นกัน ขืนอยู่ต่อคงโดนยายเพื่อนจอมแสบล้อเลียนไม่หยุด ทว่าเม็ดทรายยอมเสียที่ไหน เทพิมพ์เดินหนีได้ หญิงสาวก็เดินตามไปล้อได้เหมือนกัน จะล้อไปจนกว่าเทพิมพ์จะยอมรับเสียทีว่าตัวเองน่ะน่ารักมาก

“แน่ะ! เถียงไม่ออกแล้วเดินหนีนี่นา เฮ้ย! ทำไมรถพิมพ์ยางแบนแต๊ดแต๋เลยอ่ะ”

“รถยางรั่วนี่พิมพ์”

พลธวัชยืนยันอีกเสียงว่าเม็ดทรายไม่ได้ล้อเล่น หลังย่อตัวลงนั่งยองๆข้างรถมอเตอร์ไซค์ของเทพิมพ์ แล้วใช้มือบีบที่ล้อหลัง ทำเอาเจ้าของรถยืนหน้าซีดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อตอนกลางวันที่ขี่มายังไม่ทีท่าว่าจะมีปัญหาเลยสักนิด

“แต่เมื่อกลางวันที่พิมพ์ขี่มา มันยังดีๆอยู่เลยนี่คะ ทำไมอยู่ๆถึง...”

“โห! พิมพ์ แกขี่รถฝ่าดงก่อสร้างมารึไง ตะปูตัวเบอเร่อเลย นี่สามทุ่มกว่าแล้วด้วย จะไปปะยางที่ไหนล่ะเนี่ย”

แท่งเหล็กอันน้อยในมือของเม็ดทรายที่ดึงออกมาจากล้อรถชวนให้เทพิมพ์ฉุกคิด ฝ่าดงตะปูคงไม่ใช่เพราะเธอขี่รถมาตามเส้นทางปกติ แต่ถ้าจะเข้าข่ายที่สุดคงเป็นตอนที่รถเสียหลักลงข้างทางจังหวะที่ถูกน้ำจากรถของธรธัญญ์กระเด็นใส่ อาจเป็นไปได้ว่าบริเวณที่เห็นว่าเป็นต้นหญ้าปกคลุมมีตะปูตัวร้ายซุกซ่อนอยู่ คนดวงแย่มองมอเตอร์ไซค์ประจำตัวด้วยความเหนื่อยหนัก ต้องประจันหน้ากับอดีตคนรักในสภาพเละเทะยังน่าสมเพชไม่สาแก่ใจสินะ รถถึงมารั่วให้หาทางกลับบ้านลำบากอีก ซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆเลยเทพิมพ์

“ป่านนี้อู่คงปิดหมดแล้ว เอาเป็นว่าพี่ไปส่งพิมพ์เอง พรุ่งนี้ค่อยโทร.ตามช่างมาซ่อม”

“แต่ว่าพิมพ์...”

“นี่ไม่ใช่เวลามาเกรงใจนะพิมพ์ เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง” พลธวัชใช้น้ำเสียงเข้มๆเข้าข่มจนเทพิมพ์ไม่กล้าปฏิเสธ

“ทรายฝากพิมพ์ด้วยนะคะพี่พล อ้าว! นี่ยางรถพี่พลก็แบนเหมือนกันนี่คะ”

เพราะคนอาสาคือพลธวัช ผู้จัดการแผนกจัดเลี้ยงที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดีมาตลอด คนหวงเพื่อนจึงไว้ใจให้ไปส่งเทพิมพ์ถึงบ้าน ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะพาเทพิมพ์กลับบ้านด้วยตัวเองจะได้ชวนไปเที่ยวที่งานกาชาดด้วยกันเสียเลย ทว่ากลับเหมือนหนีเสือปะจระเข้อย่างไรบอกไม่ถูก เม็ดทรายอุทานออกมาเสียงดังระหว่างเดินไปส่งเพื่อนขึ้นรถของพลธวัช แต่หางตากลับมองเห็นความผิดปกติของตัวรถด้านหลังที่เหมือนจะเอียงๆ แล้วก็ใช่ ล้อรถซีอาร์วีของผู้จัดการสุดหล่อก็ไม่พร้อมใช้งานเช่นกัน

“ว่าไงนะ!”

พลธวัชปราดไปยืนตรงล้อหลังฝั่งคนนั่งข้างที่มีปัญหา เข่าแทบทรุดทันทีที่เห็นว่าล้อแบนแต๊ดแต๋ไม่ต่างจากล้อรถของเทพิมพ์ นาทีนี้ไม่ได้ห่วงเลยว่าต้องเสียเงินซ่อมเท่าไร แต่กำลังสุดเสียดายโอกาสดีๆที่จะได้ใกล้ชิดเทพิมพ์โดยไร้บุคคลที่สาม เจ้าของซีอาร์วีสีขาวยืนเท้าสะเอว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางกัดฟันแน่นเพื่อปิดกั้นคำสบถหยาบคายตามอารมณ์เดือดดาลที่อาจทำลายภาพลักษณ์ผู้ชายแสนดี ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมกวาดดวงตามองซ้ายแลขวาระแวดระวัง

“ทรายว่าคงต้องโทร.ตามช่างทั้งคู่แล้วล่ะค่ะ”

“ก็คงต้องอย่างนั้น” พลธวัชพยักหน้ารับ สภาพนี้อย่าว่าแต่ไปส่งเทพิมพ์เลย ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะกลับบ้านอย่างไร

“งั้นพี่คงต้องฝากทรายไปส่งพิมพ์แทนพี่แล้วล่ะ เรื่องรถ พิมพ์ไม่ต้องเป็นห่วง เอากุญแจไว้ที่พี่ เดี๋ยวพี่ให้ช่างมาซ่อมให้พร้อมรถพี่เลย ส่วนพรุ่งนี้เช้า พี่จะไประ...”

“สวัสดีเด็กๆ ยืนจับกลุ่มทำอะไรกันตรงนี้จ๊ะ”

น้ำเสียงเย็นๆที่เอ่ยทักจากทางด้านหลังเรียกสายตาเป็นกังวลทั้งสามคู่ให้หันกลับไปมอง ก่อนจะพร้อมใจกันพนมมือขึ้นไหว้ทำความเคารพคุณจงจิตต์ เลขาฯสาวใหญ่คู่บุญของธรธัญญ์ ที่ว่ากันว่าขนาดตัวเจ้าของโรงแรมยังให้ความเคารพและไว้วางใจให้เป็นมือขวาที่สามารถชี้เป็นชี้ตายเหตุการณ์เฉพาะหน้าแทนได้ในยามที่ธรธัญญ์ไม่อยู่ ที่กำลังเดินยิ้มปรานีเข้ามาร่วมวงอย่างผู้ใหญ่ใจดี ทว่าในความใจดีนั้นก็ยังแฝงไปด้วยมาดเฉียบขาดจนน่าเกรงขาม ที่แม้จงจิตต์จะใช้คำพูดที่ฟังดูเป็นกันเอง กระนั้นพลธวัชก็ยังไม่กล้าพูดเล่นพูดหัวด้วยอยู่ดี

“คุณจงจิตต์ ยังไม่กลับบ้านเหรอครับ” คนถามอดยกนาฬิกาขึ้นมองไม่ได้ เมื่อเห็นว่าเลยเวลาเข้าออกงานในส่วนพนักงานออฟฟิศทั่วไป

“เลขาฯที่ดี ไม่ควรกลับบ้านก่อนเจ้านายนะจ๊ะ แล้วพลกับสองสาวนี่ล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

จงจิตต์ตอบคำถามของพลธวัชด้วยรอยยิ้ม ทว่าคำตอบนั้นกลับส่งผลต่อความรู้สึกของคนที่ยืนรับฟังอย่างเทพิมพ์เข้าอย่างจัง เรียวปากบางเม้มเข้าหากัน พลันดวงตาหม่นเศร้าก็ลอบมองไปยังหน้าต่างห้องทำงานของเจ้าของนาราแกรนด์โฮเทล นี่สามทุ่มกว่าแล้ว ธรธัญญ์เพิ่งจะเลิกทำงานหรอกหรือ ทำงานลากยาวแบบนี้ ไม่กลัวจะป่วยซ้ำรอยอีกหรือไง ความคิดของเทพิมพ์วนเวียนอยู่แต่กับธรธัญญ์ จนหางตาเห็นว่าคุณจงจิตต์กำลังจ้องมองตัวเองอยู่จึงได้สติ

“ผมกำลังจะไปส่งพิมพ์น่ะครับ รถน้องยางรั่ว แต่โชคร้ายที่รถผมก็ดันมายางแบน เลยว่าจะฝากให้ทรายไปส่งแทน แล้วพรุ่งนี้เช้าผมค่อยไปรับน้องมาทำงาน”

“หนูพิมพ์กลับพร้อมพี่เลยก็ได้จ้ะ บ้านเราไปทางเดียวกัน พรุ่งนี้เช้าพี่ก็แวะรับ ไม่ต้องลำบากพลเทียวไปเทียวมา”

“แต่ว่าผม...”

“พิมพ์เลยทำให้ทุกคนลำบาก ขอโทษด้วยนะคะ”

“ไม่ลำบากเลยจ้ะ ตกลงตามนี้นะ พลมีเบอร์โทร.ช่างแล้วใช่ไหม”

“มีแล้วครับ”

“งั้นพี่พาพิมพ์กลับบ้านก่อนนะ จะได้ไม่ดึก”

สมกับเป็นเลขาฯคู่ใจของธรธัญญ์ จงจิตต์ประมวลผลแล้วตัดสินใจได้กระชับ รวดเร็วซะจนพลธวัชหาช่องทางแทรกขึ้นมาปฏิเสธไม่ทัน แม้ไม่เต็มใจเลยสักนิดแต่ใครเล่าจะกล้าขัดความต้องการของมือขวาเจ้าของโรงแรม อีกทั้งยังไม่มีเหตุผลที่ฟังขึ้นไปทัดทาน พลธวัชจำต้องพยักหน้ารับพลางลอบมองเทพิมพ์ที่ถูกดึงไปยืนข้างผู้อาวุโสตาละห้อย โอกาสทองหลุดลอยไปแบบไม่น่าเชื่อ

“สวัสดีค่ะคุณจงจิตต์ ทรายฝากพิมพ์ด้วยนะคะ”

ตอนเป็นพลธวัชที่อาสาไปส่งเทพิมพ์กลับบ้านก็วางใจ แต่ก็คิดอยู่ว่าหากถึงบ้านเรียบร้อย อย่างไรเธอก็จะรอให้เทพิมพ์โทรศัพท์มารายงานตัวก่อนอยู่ดีจึงจะหายห่วง ทว่าพอบทสรุปเป็นคุณจงจิตต์ที่รับหน้าที่นั้นแทน เม็ดทรายก็ยิ้มกว้าง โล่งใจมากๆ จนไม่รู้สึกพะวงอะไรอีก

“พิมพ์รบกวนด้วยนะคะคุณจงจิตต์”

“ด้วยความยินดีจ้ะ”

เป็นอันว่าปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว เม็ดทรายไหว้ลาจงจิตต์กับพลธวัชแล้วแยกไปยังรถเก๋งของตัวเอง ส่วนเทพิมพ์ก็เดินตามหลังจงจิตต์ไปยังเบนซ์คันงามที่จอดถัดไปไม่ไกล เหลือทิ้งไว้เพียงพลธวัชที่ต้องรอให้ช่างมาจัดการกับรถสองคันที่ประสบปัญหาเดียวกันราวกับลอกเลียนแบบ ร่างสูงมองตามหลังเบนซ์สีบรอนซ์ของจงจิตต์ไปจนลับสายตา ก่อนหันกลับมายืนเท้าสะเอว กระแทกลมหายใจเข้าออกแรงๆอย่างคนไม่สบอารมณ์ระหว่างมองรถสองคันสลับกันไปมา โมโหทุกอย่างที่ทำให้สถานการณ์มันลงเอยแบบนี้ แต่ก็ไม่รู้จะโทษใครได้ในเมื่อมันคือความบังเอิญ

บังเอิญ บังเอิญ บังเอิญ! พยายามทำความเข้าใจแล้ว ทว่าความผิดหวังที่ไม่ได้เตรียมใจรับล่วงหน้ามันพลุ่งพล่านซะจนแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราด หันรีหันขวางหาที่ระบายอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายฝ่าเท้าที่ห่อหุ้มไว้ใต้คัชชูหนังสีดำก็ฟาดไปยังล้อรถเจ้าปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนต้องการลงโทษมันที่ดันมาแบนเอาในวันสำคัญจนผิดแผนไปหมด

“โถ่โว๊ย!”

********************************

ช่วง...ขอความเมตตาจากคนอ่าน

ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่จะมาสารภาพว่าไม่มีเวลาอ่านทวนเนื้อหาก่อนเอามาอัพเลยค่ะ คือว่างปุ๊บ รีบอัพปั๊บ เพราะฉะนั้นถ้าเจอสำนวนแปลกๆ เนื้อหาขาดๆ คำผิดเยอะๆอย่าเพิ่งนอยด์น๊า ขอแก้ตัวด้วยการชูสามนิ้วสัญญาว่าจะอัพให้อ่านวันเว้นวัน ตามกำหนดการ จะพยายามไม่ลืม ไม่ขี้เกียจ ไม่ว่าจะยุ่งขนาดไหน

ให้อภัยเค้าด้วยน๊า...จุ๊บ จุ๊บ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา