ASSAULT WALL

Zacterria 

(แซคเทอร์เรีย)

...............................................................................................

15 ปีต่อมา 

"แม่ฉันเคยเล่าว่า ตระกูลวาทัสกี้ อพยพมาที่กำแพงเมื่อร้อยปีก่อน บ้านอันแสนไกลโพ้นจากนอกกำแพงไม่เหลือจากซากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ พวกเขามากันหลายคน แต่มีเหตุร้ายทำให้เหลือแค่ 4 คน สองสามีภรรยาในจำนวนนั้นได้นำทรัพย์สมบัติที่เหลือมอบแก่รัฐบาลแซคเทอร์เรียเพื่อเข้าในกำแพงชั้นใน แต่รัฐบาลอนุญาติให้เข้าไปได้แค่ 2 คน สองสามีภรรยาตัดสินใจให้ลูกสาวและลูกชายวัย 11 และ 15 เข้าไป และทั้งคู่ก็หายเข้าไปในกำแพงชั้นในและไม่ได้ข่าวอีกเลย สองสามีภรรยาอาศัยในกำแพงชั้นนอกมีลูก 1 คน ชื่อ เบน ซึ่งก็คือพ่อ เจคพ่อของเชค เมื่อพ่อและแม่เบนก่อนเสียชีวิตก็ให้ฝากตามหาพี่สาวและพี่ชายให้เจอ จนเบนต้องฝากให้พ่อลูกตัวเองให้เข้าไปในกำแพงชั้นในแต่ต้องมาตายซะก่อนเลยตกมาที่ฉันไง"

" นี่มันบ้ามาก เชค! " ซิลเพื่อนสนิทวัยเดียวกันของเชค ลุกขึ้นจากการหลับหลังแอบอู้งานเก็บฝืนในป่า "นายรู้ไม่ใช่หรอว่าการที่จะเข้าในกำแพงชั้นในได้ นายต้องเป็น ทหาร" " ก็ใช่นะสิซิล เกณฑ์ทหารรอบนี้ฉันกับนายต้องผ่านให้ได้ " เชคลุกตาม " แล้วนายอยากเป็นทหารหน่วยไหนล่ะ " ซิลเอื้อมมือไปเก็บอุปกรณ์ตัดไม้ฝืน "เหมือนพ่อฉันไง" ยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อมองอีกฟากของกำแพงบนยอดเขาในป่าในกำแพงชั้นแรก 

.................................

เขตเมืองชั้นนอกสุด ของกำแพงฝั่งตะวันตก (เมืองเซาท์) เมืองการค้าสินค้าเกษตรในกำแพง เมืองอยู่ใกล้แม่น้ำฝั่งใต้ที่จะมีเรือรับสินค้าจากกำแพงชั้นในมารับอยู่ทุกวัน พ่อค้า แม่ค้า ชาวนา ชาวไร่ ต่างวุ่นวายภายในเมืองที่มีตึกสองชั้นเกือบทั้งเมือง มีทหารกำแพง ตำรวจ และ ทหารนอกกำแพง เดินซื้อสินค้า ทหารนี่แหละ กระเป๋าตังค์หนักสุดแล้ว 

นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เชคและซิลมองดูพวกเขาบนรถขนไม้ฝืน เชคและซิลพลาดการเกณฑ์ทหารมาสองครั้งแล้ว และสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นเมื่อเพื่อนสาวอย่างแคลร์ผ่านการเกณฑ์ทหารมารอบที่แล้ว ทำให้ทั้งคู่น้อยใจมาก เมื่อมองเห็นเธอและเหล่าทหารที่เพิ่งกลับจากการฝึกนอกกำแพงสถานที่ที่เรียกว่าหอคอยแหวนตั้งอยู่ใจกลางเขาฝั่งตะวันออกนอกกำแพงเป็นสถานที่ลับศัตรูไม่รู้ว่ามีสถานที่นี้อยู่ พวกเขาทั้งคู่มองเธออย่างน่าอิจฉา

" เธอไม่มามองพวกเราหรอกมั่ง " ซิลพูด " เธอได้เป็นทหารแล้วนี้ ทหารนอกกำแพงด้วย "

" ทำไมน่าเราไม่ผ่านเหมือนเขามั่ง หรือเรายังไม่เก่ง... " เชคพูดยังไม่จบ รถขนไม้ฝืนที่พวกเขาอยู่ก็ชนเข้าบางอย่างทำให้พวกเขาทั้งคู่กลิ้งตกลงมาจากรถ เจ็บอยู่สักพักก่อนลุกขึ้นมาดูว่ารถชน

" ลุงขับรถยังไงว่ะ ไม่เห็นเหรอว่าข้ากำลังจะจอด " หนุ่มขับรถฝ่ายตรงข้ามลงจากรถแล้วตรงมาหาลุง

" แต่รถของเอ็งมันไม่มีไฟเบรกและไม่ชิดซ้ายละ ผิดกฎเมืองนะ " ลุงคนขับรถกล่าว

" ไอ้แก่.. " หนุ่มเดินตรงเข้ามาจะทำร้ายลุง

เชคและซิลเข้ามาขวาง " เฮ้ย...ผิดกฎแล้วยังไม่ยอมรับเหรอ " เชคจ้องหน้าเตรียมจะหาเรื่องและพร้อมด้วยซิลที่สีหน้ากังวลเพื่อน

" เฮ้ยๆ ที่นี่มันแซคเทอร์เรีย อย่าหาเรื่องให้ตัวเองเดือดร้อนสิ "

หัวหน้าหน่วยที่ 3 ของทหารนอกกำแพงพร้อมทหาร 3 นายหนึ่งในนั้นมีแคลร์อยู่ด้วย 

หัวหน้าตรงมากระซิบที่หูของเชค

" มันหนักเอาการนะ " และกลับพูดให้ทุกคนอีกครั้ง " พอแค่นี่ ไม่งั้นจะจับเขาตารางให้หมด " 

ซิลได้ยินอย่างนั้นก็เขามาบอกกับเชค " เชคฉันมาพอแค่นี่เถอะ ติดตารางมีประวัติไม่ได้เป็นทหารอีกปีทำไง " 

เชคนิ่งครู่หนึ่งก็เดินถอยออกมาจากหนุ่มคนนั้น แล้วหันมาเห็นแคลร์กระซิบกับหัวหน้าอยู่ห่างออกไป 5 ก้าว 

" หัวหน้าคะฉันรู้จัก 2 คนนี้ดีคะ คนแถวบ้านฉันเองค่ะ " เธอกล่าว " งั้นหรอ แล้วดีไหมล่ะ "

เชคได้ยินไม่หมดทั้งคู่ก็เดินออกไป ปากออกเสียงเรียกแบบเบาๆ แต่เดินไม่สนใจ " เชค ! " ลุงเรียก " กลับบ้าน เชคได้ยินเสร็จก็ยังไม่ละสายตาจากเธอและหัวหน้าไม่รู้เขาคุยอะไรกัน

" รับพวกเขาเป็นทหารหรอ " หัวหน้ากล่าว " ใช่ค่ะ ฉันได้ยินว่าเกณฑ์ทหารครั้งนี้เขาต้องการทำสงครามกับฝ่ายชาวนครเลยต้องการทหารอย่างมาก สองคนนี้ฉันเลยเสนอ "

" ได้สิ แต่ต้องดูอีกที เมื่อพวกเขาฝึกเสร็จก็ขึ้นอยู่กับความสามารถที่จะเลือกว่าจะอยู่ ทหารนอกกำแพงหรือไม่ " หัวหน้ากล่าว 

" ค่ะ หัวหน้าทิม " หัวหน้ายิ้มใส่  

" ก็น่ะ แซคเทอร์เรียถึงจุดที่กำแพงการป้องกันสูง แต่.... "

" แต่อะไรค่ะ " 

ทั้งคู่เดินจนถึงจุดศูนย์กลางของเมืองเซาท์ เสียงทุกคนเริ่มเบาลง แคลร์สนใจ หัวหน้าหันมามองช่วเมืองรอบแล้วกลับมามองแคลร์อีกครั้ง หน้าอย่างไร้อารมณ์

" มันไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิดเลย "

ASSAULT WALL