รักหน่อยคอย (อ่อย) นานแล้ว

-

เขียนโดย Little_finger

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2563 เวลา 21.15 น.

  11 ตอน
  1 วิจารณ์
  8,775 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน พ.ศ. 2563 02.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ตอนที่ 6 เพราะบรรยากาศมันพาไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

         ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียม บรรยากาศตกแต่งแบบสวนสไตล์ญี่ปุ่น ห้องรับประทานอาหารมีฉากกั้นแต่ละห้องเพื่อความเป็นส่วนตัว

 

 

          สามสาวคุยกันอย่างสนุกสนาน พราวพรรณบอกว่าเจอประภาศิริโดยบังเอิญจึงชวนมาทานอาหารด้วยกัน และไม่ลืมที่จะ บังคับ ศรันย์ให้มาด้วย

 

 

“คุยกับหนูพุดนี่สนุกทุกที” ประภาศิริ ยิ้มเอ็นดู

“ยายพุดพูดมาก พูดจนลิงหลับ”

“หลับไปหนึ่งคนแล้วค่ะ” พุดพธูยิ้มมองคนตรงข้าม ศรันย์ยังคงคอนเซปเย็นชาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อนคงนึกว่ามากินข้าวกับจ่าเฉย…

 

 

“พึ่งจะทุ่มอยู่เลย ตารันพาน้องไปทานขนมต่อสิลูก” ประภาศิริเปิดประเด็น

 

 

        พุดพธูจ้องเขาอย่างรอคอยคำตอบแววตาเป็นประกายสุกใส ยายนี่ไม่กลัวเลยหรือไง จะไปกับผู้ชายสองต่อสอง เรื่องเมื่อเย็นวนกลับเข้ามาในหัวของศรันย์ ปล่อยให้ผู้ชายแตะต้องตัว ไม่รู้จักระแวงระวังเลยสักนิด ไม่รู้หรือความต้องการของผู้ชายนั้นน่ากล

 

“พี่มีนัดกับเพื่อน ถ้าพุดไม่รู้สึกอึดอัด จะไปทำความรู้จักเพื่อนพี่ก็ได้”

 

 

        สองแม่จ้องตากันแปลกใจในคำตอบ แค่ที่เขายอมโดนบังคับให้มาทานข้าวด้วยว่าแปลกแล้ว นี่ยังจะพาไปแนะนำกับเพื่อนอีก



“เผื่อจะมีสักคนที่พุดถูกใจ”

 

 

        ประภาศิริ ถลึงตามองลูกชาย ก่อนหันไปสบตาขอโทษ พราวพรรณ เพื่อนรักส่งสายตาบอกว่าไม่เป็นไร เธอจะว่าอะไรได้ ขนาดคนที่โดนพูดกระทบโดยตรงยังไม่สะทกสะท้านเลย

 

 

“พุดไปได้ค่ะ” ยิ้มจนเห็นฟัน 32 ซี่

 

 

        เพื่อนของศรันย์เธอรู้จักแค่ ปกรณ์ ด้วยเคยเจอกันบ้างตามงานสังคม นี่น่าจะเป็นโอกาสดี ที่จะได้หาพันธมิตรเพิ่ม

 

 

        รถสปอร์ตจอดในโซนวีไอพีของผับชื่อดัง ศรันย์พาร่างระหงขึ้นไปบนชั้นลอย ด้านบนเป็นส่วนของแขกวีไอพี มองจากระเบียงสามารถเห็นบรรยากาศเบื้องล่างได้ทั่วทุกมุม

 

 

         พุดพธูนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับศรันย์ โซฟาตัวอื่นมีเพื่อนของเขานั่งรออยู่ก่อนแล้วห้าคน เพื่อนคนอื่นของศรันย์เธอไม่เคยพบมาก่อน กลุ่มชายล้วนและใบหน้าเรียบเฉยของพวกเขาทำให้เธอแอบอึดอัดไม่น้อย โชคดีที่มีปกรณ์มาด้วย

 

 

“น้องพุดดื่มเป็นมั้ยครับ” ปกรณ์ถามอย่างสุภาพ

 

 

        หนุ่มร่างสูงท่าทางสะอาดสะอ้าน ส่งแก้วไวน์ให้เธอ ปกรณ์ขึ้นชื่อว่าเป็นหนุ่มสำอาง รักความสะอาดใบหน้าหล่อเหลามักมีรอยยิ้มไว้ล่อตาล่อใจสาวๆ ไหนจะลักยิ้มที่แก้มซ้ายนั่นอีก ไม่แปลกที่เขาจะเป็นอีกคนที่ทรงเสน่ห์

 

 

“ได้นิดหน่อยค่ะ แต่ถ้าเมากลัวจะไปลวนลามคนอื่น” พูดพร้อมกับส่งสายตามองคนข้างๆ อย่างหมายมาดคนถูกกล่าวถึงกลับยกแก้ววิสกี้ขึ้นดื่มอย่างสบายใจ ไม่สนใจไยดีธอเลยสักนิด

 

 

        เพื่อนกลุ่มนี้ของศรันย์เป็นกลุ่มเพื่อนที่คบกันตั้งแต่สมัยมัธยม จนช่วงมหาวิทยาลัยจึงแยกย้ายกันเรียนต่อ มีเพียงศรันย์กับปกรณ์ที่ไปเรียนต่ออังกฤษด้วยกัน บทสนทนาจึงเป็นการเผาศรันย์เป็นส่วนใหญ่

 

 

“ไอ้รันมันโดนลงโทษตอนไปค่าย” ปกรณ์เริ่มเล่า

“ต้องใส่ผ้าขาวม้าตัวเดียวเต้น” แค่คิดภาพตามพุดพธูก็ขำก๊าก

“แต่มันเป็นคุณหนู ใส่ผ้าขาวม้าไม่เป็นหรอกน้องพุด เต้นไปเต้นมาผ้าขาวม้าปลิวติดหน้าไอ้ดิน”

 

 

        ทั้งโต๊ะส่งเสียงฮาครืน เมื่อคิดถึงภาพศรันย์โยกย้ายส่ายเอวจนผ้าขาวม้าปลิวท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเพื่อนผู้หญิงในค่าย ศรันย์ที่วางหน้าเฉยมาตลอดเริ่มคิ้วกระตุก

 

 

“แล้วเวลามันเมานะน้องพุด มันชอบทำตัวเหมือนหมา” มรุตเพื่อนในกลุ่มอีกคนเล่า

“วันเกิดไอ้ดินมันคลานสี่ขาไปเลียหน้าไอ้ดินเลยนะ ยังไม่พอจะอมนิ้วเท้าไอ้ดินอีก ดีนะห้ามไว้ทัน”

 

 

เสียงฮาดังลั่นอีกครั้ง ศรันย์เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าคิดถูกรึเปล่าที่พาพุดพธูมา เขากะจะให้พุดพธูอึดอัดกับกลุ่มผู้ชาย แถมเพื่อนเขายังชอบเล่นมุกใต้สะดือเวลาเมาอีก

 

 

แต่ยายเด็กบ้ากลับเข้ากับเพื่อนเขาได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย กลายเป็นเขาที่ต้องมานั่งโดนเผาอยู่คนเดียว

 

 

“น้องพุดมาดูรูปไอ้รันสมัยเรียนอังกฤษสิ

 

 

        ปกรณ์ยื่นโทรศัพท์สไลด์รูปศรันย์ให้ร่างบางดู พุดพธูตาลุกวาว ภาพศรันย์ใส่ชุดนักกีฬารักบี้ดูเท่มาก ไหนจะภาพแอบถ่ายตอนเขาเล่นกีตาร์อีก

 

 

“พี่กรณ์ส่งให้พุดหน่อยสิคะ”

“แหม… จะหลอกขอไลน์พี่อ่ะดิ”

 

 

        ภาพสองหนุ่มสาวที่โน้มศีรษะก้มดูโทรศัพท์ หัวเราะคิกคักด้วยกัน ทำเอาศรันย์รู้สึกรุ่มร้อนในอก ไวกว่าความคิด เขาดึงร่างบางเข้าหาตัว พุดพธูปลิวมานั่งแนบชิดร่างสูง แก้มเนียนกระแทกกับหน้าอกกว้างของเขา

 

 

“ตลกมากเหรอ” ก้มลงถามเธอ ก่อนเอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์ออกจากมือหญิงสาว

“เมาแล้ว กินน้ำเปล่าไป”

“พุดยังไม่เมานะคะ” คนแก้มแดงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ยู่ปากไม่พอใจ ใช้มือดันตัวเองออกจากอกแกร่ง

“อย่าดื้อ”

 

 

ภาพศรันย์กับพุดพธูเรียกรอยยิ้มจากปกรณ์ ปากบอกไม่คิดอะไร แต่อะไรจะหวงออกนอกหน้าขนาดนั้น

 

 

        เวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน ศรันย์จึงพาพุดพธูกลับ อาการมึนเมาของพุดพธูเริ่มบรรเทาลงบ้างเธอขอให้เขาส่งเธอที่คอนโด เนื่องจากเป็นทางผ่านไปบ้านศรันย์

 

 

“วันนี้สนุกมากค่ะขอบคุณที่ชวนมา” พุดพธูยิ้มร่ามองศรันย์

 

        เขาไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับยืนนิ่งงัน สายตาจับจ้องไปเบื้องหน้า ดวงตาคมเบิกกว้างราวกับเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิด

 

 

        ผู้หญิงผมยาวประบ่า สวมชุดสายเดี่ยวยาวสีดำใบหน้าสวย กำลังโบกมือลากลุ่มเพื่อน ดวงตาสวยคู่นั้นเบิกกว้างเช่นกันยามที่มองเห็นเขา

 

 

“บัว!!!” ศรันย์ตะโกนดังลั่นก่อนรีบวิ่งตรงไปหาเธอ

 

ร่างบางในชุดดำรีบหันหนี ร้อนรนรีบขึ้นแท็กซี่ที่จอดรออยู่

 

 

        ศรันย์วิ่งตามรถแท็กซี่ไป ก่อนที่รถยนต์คันนั้นจะวิ่งเข้าสู่ถนนใหญ่ ร่างสูงหายใจแรงด้วยความเหน็ดเหนื่อย แววตาฉายแววตัดพ้อก่อนแปลเปลี่ยนเป็นโทสะ

 

 

        พุดพธูวิ่งตามศรันย์มาเธอก็ทันเห็นทุกเหตุการณ์ หญิงสาวจ้องมองศรันย์ที่ยืนหอบอยู่ มือสองข้างของเขากำแน่น ดวงตาคุกรุ่นด้วยความโกรธ เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน

 

 

         ตลอดทางไม่มีบทสนทนาเช่นเคย ร่างสูงจดจ้องไปที่ถนนตรงหน้า ดางตาคมฉายแววเคืองขุ่น บางครั้งดวงตานั้นกลับหม่นหมองลง พุดพธูไม่กล้าแม้แต่จะถามถึงผู้หญิงที่ศรันย์วิ่งตาม

ร่างบางจ้องออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างครุ่นคิด

 

 

“พุด…ถึงแล้ว” เสียงทุ้มปลุกเธอให้หลุดจากภวังค์

 

 

         พุดพธูสบตาร่างสูงที่หันมาคุยกับเธอ แววตาขุ่นมัวเมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนไปเป็นความเจ็บปวดเศร้าหมอง ท่าทางเขาดูอิดโรย อ่อนล้าเหลือเกิน เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน พุดพธูจ้องมองเข้าไปในดวงตามคมอย่างค้นหา

 

 

จะมีสักวันไหมที่เธอจะมี ‘สิทธิ์’ ได้รับรู้ความในใจของเขาบ้าง

 

 

        มือเรียวยกขึ้นสัมผัสแก้มชายหนุ่มอย่างลืมตัว ไรหนวดตามสันกรามทิ่มแทงฝ่ามือนุ่มที่ลูบไล้ใบหน้าเขาแผ่วเบา

 

        ศรันย์โน้มตัวเข้ามาใกล้ร่างบาง มือหนากอบกระชับมือนุ่มที่เกาะกุมแก้มเขาอยู่ พุดพธูไม่ได้หลบสายตา ไม่ถอยหนีเมื่อเขาขยับเข้ามาชิดใกล้ ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ

 

 

         คนรุกรานหยุดการกระทำราวกับตั้งสติได้ กำลังจะถอยใบหน้าที่ใกล้ชิดกว่าคราก่อน ไม่ทันได้ทำดั่งใจ ร่างบางกลับเป็นฝ่ายเชิดหน้า ประคองใบหน้าคมเข้าหาตัว

 

 

         ริมฝีปากนุ่มประทับลงบนปากหนา จุมพิตรสหวานแน่นิ่ง ความนุ่มนิ่มทำให้เขาเคลิบเคลิ้มพุดพธูถอนริมฝีปากออก ดวงตาหวานหลบสายตาคนตรงหน้า แต่ไม่ได้ผละห่างไปไกล

 

 

        เมื่อมือใหญ่กระชับต้นคอเธอให้แนบชิดเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นเขาที่เป็นฝ่ายเริ่มจุมพิตอย่างเผลอไผลบดคลึงกลีบปากบางอย่างหยอกเย้าเอาใจ กลิ่นหอมอ่อนจากกายสาวปลุกเร้าอารมณ์ภายใน ศรันย์บดเบียดริมฝีปากรุกไล่เร่าร้อนมากขึ้น

 

 

        พุดพธูใจเต้นไม่เป็นส่ำ เผยอปากบางปล่อยให้ลิ้นหนารุกล้ำเข้ามาภายใน ริมฝีปากบดเบียดแนบชิดดื่มด่ำชิมความหวานจากโพรงปากเล็กอย่างไม่รู้จักพอ

 

 

        ร่างบางอ่อนระทวยไม่อาจหลีกหนีสัมผัสของเขาที่เร่าร้อนรุนแรงมากขึ้น เนิ่นนานกว่าเขาจะยอมผละออกจากริมฝีปากบาง

 

 

“แบบนี้ต่างหาก ที่เรียกว่าจูบ” เสียงทุ้มแหบพร่ากระซิบข้างหู

 

 

         พุดพธู ทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความอาย รีบเปิดประตูรถออกไป ก่อนหันมาสบตาคนเมื่อครู่ รอยยิ้มละมุนของเขาทำเธอแทบละลายกองบนพื้น

 

 

“ขับรถดีๆ นะคะ”

 

 

           บอกลาก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในคอนโด ศรันย์เอนหลังพิงเบาะรถ ความหวานหอมของพุดพธูยังติดตรึงอยู่ที่ริมฝีปากเขา พุดพธูทำให้เขาลืมอารมณ์หงุดหงิดลงได้บ้าง

 

 

ผู้หญิงคนนั้น บัวบูชา ชื่อนี้ที่เขาเกือบลืมไปแล้ว

 

 

………

 

     

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา