นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  19.38K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) ชีวิตต่อจากนี้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“เฮ้ยใจเย็น เดี๋ยวฉันต้องเลือกบ้านให้แกก่อนนะ” เจ้าหมั่นโถวกระโดดโลดเต้นโดยไม่สนใจเธอที่อยู่บนหลังมันแม้แต่นิด ตอนนี้หมั่นโถวพาเธอเกือบจะถึงฐานเธออยู่แล้วแต่เธอต้องห้ามมันไว้ก่อน ถ้าเกิดจู่ๆ มันโผล่เข้าไปเจ้าหน้าที่อาจตกใจและโจมตีอย่างไม่คิดชีวิตแน่ ฐานของเธออยู่ตรงมุมสี่แยกด้านบนซ้ายซึ่งตอนนี้เธออยู่ถนนแยกซ้ายมือ ซึ่งทางที่อยู่ฝั่งเธอมันไม่มีบ้านมันเป็นห้างและร้านขายของชำเล็กๆ แต่บ้านที่อยู่ตรงข้ามกับฐานเธอก็สวยดีนะเป็นบ้าน2ชั้นมินิมอลดี ดูแล้วน่าจะอาศัยอยู่ประมาณครอบครัวหนึ่งได้

“หมั่นโถวแกเห็นบ้านหลังตรงข้ามของฐานฉันไหม แกคิดว่าไงบ้านหลังใหม่ของแกกับเพื่อนแกน่ะ” มันหันไปมองตามที่เธอชี้และดูเหมือนว่ามันจะชอบใจด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องเดียวกันรึเปล่านะ

“ชอบเหรอ ไปสิแต่อย่าให้คนที่เฝ้าประตูเห็นแกนะ555 ไม่งั้นงานเข้าฉันแน่ๆ ” เธอลูบหัวหมั่นโถว ถึงมันจะไม่ใช่สัตว์น่ารักอะไรแต่มันก็มีจิตใจเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์เองก็ตามทุกตัว ทุกสายพันธุ์ ทุกเชื้อชาติก็ต้องการความรักด้วยกันทั้งนั้น เธอไม่ค่อยเกี่ยงเรื่องพวกนี้สักเท่าไรเลยทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะเข้ากับหมั่นโถวได้เร็วกว่าคนอื่น แต่มันก็จริงอย่างที่หัวหน้าเธอพูด ที่เธอเข้ากับหมั่นโถวได้เพราะเธอรับมือมันได้และมันอาจจะยอมรับในฝีมือเธอด้วยเหมือนกัน ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่รู้อะไรมากนักแต่ยังไงก็ต้องหาบ้านและลองศึกษามันดูก่อน

“หมั่นโถวค่อยๆ เข้าบ้านนะอย่าทำอะไรเสียงดังล่ะ เดี๋ยวฉันลงไปเปิดประตูหลังให้” หมั่นโถวมาถึงบ้านที่พวกเธอหมายปองกันแล้ว เธอลงมาจากหลังหมั่นโถวเดินเข้าไปยังประตูหลังก่อนจะเปิดประตูให้หมั่นโถวเข้าไปข้างในไปสำรวจข้างในบ้านให้พอใจ เธอและน้องหมาเลยได้รออยู่ข้างนอกและรอให้มันสำรวจเสร็จ

“โฮ่ง”

“เฮ้ยแกเห่าได้เหรอหมั่นโถว5555”เธอนั่งเล่นที่สวนหลังบ้านกับน้องหมาอยู่เพลินๆ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเห่าที่อยู่ในบ้านก่อนเจ้าหมั่นโถวจะวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วและพุ่งมายังเธอก่อนจะนอนกลิ้งๆ เอาตัวมาถูเธอพร้อมด้วยสหายทั้ง7

“สงสัยบ้านหลังนี้คงถูกใจแกมากเลยนะหมั่นโถวและอีกอย่างที่ฉันจะไม่ลืมเลยคือแปรงสีฟัน และทุกสัปดาห์แกและเพื่อนต้องอาบน้ำนะ เข้าใจไหม” เธอชี้หน้าบอกเพื่อนเธออีกแปดตัวที่นั่งเรียงกันอย่างหง่อยๆ

“แหม่ซึมเลยนะให้ตายเถอะ มาตอนนี้ที่นี่คือบ้านของเราเยยยย้” เธอคุยกับเพื่อนของเธออีกแปดตัวก่อนที่จะเข้าไปในตัวบ้าน สำรวจและทำความสะอาดให้เรียบร้อยเพราะไม่แน่ว่าเธอจะนอนกับเพื่อนเธอด้วย เธอเดินเข้ามาสำรวจบ้านชั้นล่างจะเป็นห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำส่วนรวมและห้องเก็บของส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอนอยู่3ห้องมีห้องน้ำในตัว โดยรวมเป็นบ้านที่น่าอยู่มากแต่ติดตรงที่มีคราบเลือดเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด

“โอเควันนี้ทั้งวันเลยสินะ เฮ้อคราบเลือดยิ่งขัดออกยากด้วย” เธอยืนนิ่งอยู่สักพักก็เริ่มภารกิจของวันนี้ทันทีตอนนี้ก็บ่ายแล้วถ้าไม่รีบทำเดี๋ยวมันจะมืดเอาและดูเหมือนวันนี้จะทำได้แค่ขัดพื้นกับจัดของให้เป็นระเบียบเท่านั้น พรุ่งนี้คงต้องเป็นบริเวณรอบๆ บ้านละนะ หลังจากนั้นเธอก็เดินไปหาอุปกรณ์ทำความสะอาดและเริ่มขัดทีละส่วนๆ จากชั้นบนลงมาชั้นล่าง ส่วนสหายทั้งแปดของเธอก็วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานเหมือนดีใจที่มีบ้านใหม่ เธอทำความสะอาดมาเรื่อยๆ จนเสร็จไปอีกเรื่องและจัดการพวกของที่รกต่างๆ ตั้งแต่ข้างบนทุกห้องยันข้างล่างและตอนนี้ก็เป็นเวลา6โมงเย็นเศษกะว่าจะขึ้นไปข้าวที่ฐานสักหน่อยแต่คงไม่ทันเเล้ว ตอนนี้เธอคงต้องมองหาอาหารที่นี่กินไปก่อนเธอเดินลงมาชั้นล่างเข้าไปยังห้องครัวและลองเปิดลิ้นชักดู

“โห้ ปลากระป๋องกับมาม่า เฮ้อของคุณพระเจ้า” เธอนึกว่าจะต้องทนหิวไปจนถึงพรุ่งนี้เช้าซะเเล้ว ไม่รอช้าเธอรีบจัดอาหารของเธอโดยเตรียมอุปกรณ์พร้อมและจัดการลงมือปรุงอาหารอย่างเชียวชาญ

“เอิ้กก โห้อย่างอิ่มเลยแฮะ” ก่อนที่เธอจะหันไปมองข้างๆ เธอที่มีเจ้าตูบ8ตัวนั่งมองมาปริบๆ

“อ่า จริงด้วยสินะ โอเคงั้นเราออกไปหาอาหารกัน” เธอไม่รอช้าเปิดไฟที่บ้านให้สว่างไว้ก่อนจะเขียนหน้าประตูบ้านว่ามีคนอยู่แปะเอาไว้ เธอสะพายกระเป๋าและขี่หลังหมั่นโถวออกไปโดยไม่ลืมให้ดำกับแดงและลูกๆ ของมันเฝ้าบ้านไว้ก่อน นี่ก็เย็นแล้วต้องรีบหากันสักหน่อย

เธอมาถึงซูปเปอร์มาเก็ตเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลมาก อย่างเเรกคืออาหารหมาสักสองกระสอบและอาหารของหมั่นโถวสักสองตัว เธอเดินดูไปเรื่อยๆ และก็เจอสิ่งที่เธอต้องการเธอเรียกหมั่นโถวมาและเอาอาหารหมาแบกใส่หลัง1กระสอบและถือเอง1กระสอบก่อนจะกลับบ้านไปเตรียมเทอาหารหมาของเธอและปล่อยหมั่นโถวออกไปล่าอาหารของมัน

“กินเยอะๆ นะจะได้แข็งแรง เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันมาใหม่นะนอนค้างที่นี่ไม่ได้น่ะ” เธออดห่วงสหายเธอไม่ได้จริงๆ ถึงจะล็อกประตูแน่นหนาแล้วแต่ก็กลัวมันหิว กลัวมันร้อง

“เฮ้ออออ สงสัยฉันเป็นห่วงแกมากไปมั้งเนี่ย” เธอยิ้มๆ ก่อนจะออกประตูไปและเจอเข้ากับหมั่นโถวที่เอาอาหารมาพอดี ภาพออกจะสยองนิดหน่อยแต่ก็พอรับได้ล่ะนะ

“หมั่นโถวฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาหาใหม่” เธอโบกมือลาเจ้าหมั่นโถวก่อนจะเดินออกมาและล็อกประตูให้เรียบร้อย เธอเดินเข้ามายังฐานกะว่าจะไปอาบน้ำซะหน่อยแล้วเดี๋ยวไปหาเพื่อนเธอด้วยที่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน เธออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วรู้สึกว่าโล่งตัวมากและอยากนอนพักสุดๆ และไม่ต้องสงสัยเลยที่เธอจะเลือกไปนอนพักก่อนจะไปหาเพื่อนเธอ เธอรู้สึกว่าวันนี้เหมือนลุยมาทั้งกองทัพยังไงไม่รู้ตั้งแต่เธอเข้ากับระยะ4ได้ เธอก็ปลีกตัวออกมาไม่ได้เจอใครเลยจนถึงตอนนี้

“อืมขอนอนสักหน่อยแล้วกันนะ”

 

 

“ติ้ดๆ ติ้ดๆ ติ้วๆ ” เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นเธอตื่นด้วยเสียงงัวเงียก่อนที่จะลุกไปทำธุระส่วนตัวและแต่งตัวไปวิ่งในทุกเช้าของทุกๆ วัน เธอเห็นแพรวหลับอยู่เลยไม่ได้ปลุกไปวิ่งด้วยกัน

‘สงสัยคงเหนื่อยมากขนาดเสียงนาฬิกาปลุกตื่นยังไม่ตื่นเลย’

เธอเดินลงมายื่นร่างกายสัก10นาทีก่อนจะออกวิ่งไปตามท้องถนนในยามเช้าตอนตี5โดยที่ไม่ลืมพกมีดระวังตัวไปด้วย ตอนแรกเธอแค่วิ่งในตัวฐานแต่พื้นที่มันค่อนข้างคับแคบเธอเลยตัดสินใจออกมาวิ่งข้างนอกแต่เธอเลือกบริเวณใกล้กับฐานเท่านั้นเพราะบริเวณนะซอมบี้จะไม่ค่อยมีเนื่องจากเรามีเจ้าหน้าที่ออกราดตระเวนตลอดจึงทำให้ตรงนี้เป็นบริเวณปลอดภัยและเธอสามารถวิ่งได้ แต่ก็ไม่ร้อยเปอร์เซนบางทีซอมบี้ก็โผล่มาให้เธอได้เล่นสนุกกับมันบ้างอย่างซอมบี้ระยะ2เธอจะล่อให้มันวิ่งไล่เธอและเธอจะวิ่งหนีมันสนุกสนาน บางทีก็ขำตัวเองทำไปได้ไงไม่รู้

เธอวิ่งมาเรื่อยๆ จาก2เป็นจาก4เป็น6เพิ่มมากขึ้นจนถึง7โมงเช้าเธอยกนาฬิกาข้อมือมาดู นาฬิกาที่เธอดูแลอย่างดีไม่ให้เป็นรอยเท่าที่เธอจะทำได้จนไม่น่าเชื่อว่ามันผ่านมา5ปีเเล้วมันยังใช้ได้อยู่ถึงมันจะโทรมไปบ้างตามกาลเวลาก็เถอะ เธอเดินขึ้นลิฟต์และเดินขึ้นไปปลุกเพื่อนเธอแต่ดูเหมือนว่าเพื่อนเธอจะตื่นและไปไหนไม่รู้เเล้ว

“สงสัยขึ้นไปกินข้าวแหละมั้ง” เธอคิดได้ดังนั้นจึงขึ้นลิฟต์ไปชั้นโรงอาหารเธอเดินออกจากลิฟต์มาและมองหาก็ไม่เห็น

“แพรวมันไปไหนเนี่ย ลองโทรดูดีกว่า” ดีนะที่เธอขอเบอร์แพรวไปเมื่อวันที่เพื่อนเธอมาพอดีไม่อย่างนั้นคงหากันไม่เจอแน่

“ตื้ดดด ตื้ดดด ฮัลโหล”

“แพรวเหรอ แกอยู่ไหนอะฉันหาแกไม่เจอสักที”

“อ้าวรินเหรอ คือฉันอยู่ที่ห้องพยาบาลน่ะ คะ..คือ”

“อ่าวแกไปทำไมที่นั่นเนี่ย บาดเจ็บเหรอให้ฉันเอาข้าวไปให้ปะ”

“มะ...ไม่ต้องๆๆๆ คือมีพี่เจ้าหน้าที่ที่นี่บาดเจ็บอะ ฉันแค่มาช่วยเขาพันแผลเดี๋ยวฉันจะลงไปแล้ว”

“อ่าวเหรอแน่ใจนะ ฉันรออยู่โรงอาหาร เดี๋ยวฉันไปเดินดูข้าวก่อน”

“อาเครๆ ได้ๆ ”

เธอวางหูและเดินไปเลือกดูร้านอาหาร เธอรู้สึกว่าแพรวมันแปลกๆ ยังไงไม่รู้รึว่ามันแอบไปมีกิ๊ก ตายละเพื่อนเธอเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร เอ้ะหรือว่าเพื่อนเธอจะโดนแบบที่เธอโดนและตกหลุมพรางคนพวกนั้น ตายละคนพวกนั้นยิ่งอันตรายอยู่ถ้าเพื่อนเธอเธอคงต้องเตือนสักหน่อยละ เธอได้ดังนั้นก็เดินไปหาอาหารและกินข้าวรอเพื่อนเธอมา

 

 

“แพรวไปกินข้าวเถอะ เราดูแลตัวเองได้”

“แกแน่ใจนะ”

“ไม่เป็นไรหรอกแพรวเราดูแลตัวเองได้จริงๆ ”ไข่หวานยิ้มให้เธอ

“งั้นเดี๋ยวหลังจากที่ฉันกินข้าวเสร็จฉันจะขึ้นมาหาแกนะ”

“อื้มได้เลย”

“อื้มงั้นฉันไปก่อนนะไข่หวาน”

“แพรว เราขออย่างหนึ่งได้ไหม”

“อืมฉันรู้แล้ว ฉันจะไม่บอกรินจนกว่าแกจะพร้อม”

“ขอบใจมากนะ”

เธอเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยและเดินขึ้นลิฟต์มายังชั้นอาหาร ความรู้สึกตอนที่เธอเดินออกมาจากห้องนั้นมันแย่มาก แย่จนเธอร้องออกมาเงียบๆ ถ้าโลกความเป็นจริงมันโหดขนาดนี้เธอยอมให้ไวรัสตัวนี้อยู่ต่อดีกว่าแต่ก็คงไม่ได้เธอจะเห็นแก่ตัวเองไม่ได้ ถ้าเธอตัดสินใจพารินเข้าไปในบ้านหลังจากเกิดเรื่องมันจะไม่เป็นแบบนี้เพราะตอนนี้สภาพร่างกายของไข่หวานขาดแคลนสารอาหารอย่างหนัก ผิวแห้งติดกระดูก ดูแล้วเกือบจะเข้าขั้นโคม่าเพื่อนเธอจะมีชีวิตรอดไหมเธอยังไม่แน่ใจเลยถ้าไม่รีบส่งตัวไปยังฐานเราละก็รินอาจจะไม่มีทางเจอไข่หวานอีกเป็นครั้งที่2 เพื่อรินก็จริงเเต่สภาพตอนนี้ถ้ารินมาเห็นภาพไข่หวานที่ดูเหมือนจะไปจากเราได้ทุกเมื่อภาพของรินเมื่อ5ปีก่อนคงได้กลับเป็นจริงอีกครั้งและครั้งนี้คงจะไปตลอดกาล

“ขอโทษนะไข่หวานแต่ฉันเห็นแกตายไม่ได้จริงๆ และยิ่งไปกว่านั้นถ้ารินมาเห็นเข้ามันคงเสียใจว่าทำไมฉันไม่บอกมัน มันคงเสียใจที่ตลอด5ปีที่ผ่านมามันควรจะได้ใช้ชีวิตกับไข่หวานมากกว่านี้” เธอสบถเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากลิฟต์ไปหารินที่นั่งกินข้าวเหมือนคนเหม่อลอย

“เฮ้ยรินรอแปบนะเดี๋ยวฉันไปเอาข้าวแปบ” แพรวเดินเข้ามาบอกเธอก่อนจะเดินออกไปหาข้าวกินโดยไม่มองหน้าเธอเลยแม้แต่นิด

“อะ..เอ่อโอเคๆ ”

‘นั่นไงที่แพรวเดินมาเศร้าๆ แบบนั่นเพราะว่าอีกฝั่งบอกจบความสัมพันธ์กับไอแพรวแน่ๆ ตายละเห็นไหมทำไมมีอะไรแล้วไม่บอกกัน โถ่ไม่น่าเลยเพื่อนฉันไปหลงกลคนพวกนี้ได้ยังไง’ เธอส่ายหัวไปมา

“เห้ยอยู่ๆ แกก็สายหัวทำไมคนเดียววะ” เพื่อนเธอเดินมาหน้าตรงข้ามเธอก่อนจะมองเธอด้วยสายตาแปลกๆ

“ทำไมแกมีอะไรแล้วไม่บอกฉัน”

‘ห้ะอย่าบอกนะว่ารินรู้แล้วว่าไข่หวานอยู่ที่นี่!! ’

“อะ..เอ่อคือ ฉันขอโทษแกจริงๆ ว่ะที่ไม่ได้บอก”

“เห็นไหมเรื่องมันบานปลายไปกันใหญ่แล้วแล้วคราวนี้แกจะทำยังไง”

“คือฉันไม่ได้กะจะให้เป็นแบบนี้ ฉันไม่รู้นิ”

‘รินรู้เเล้วเหรอว่าไข่หวานถึงมีสภาพแบบนั่น เป็นไปได้ยังไงเนี่ย!! ’

“แกน่าจะปรึกษาฉันก่อนนะแพรว เห็นไหมแล้วคราวนี้อาจารย์จะเป็นยังไงทำไมแกไม่นึกถึงเขาบ้าง!! ”

“ห้ะ…..”

“อะไร แกห้ะอะไรแกก็รู้ว่าฉันไม่ถูกกับเรื่องพวกนี้ เรื่องมือที่สามเนี่ย”

“ห้ะ เดี๋ยวมือที่สามอะไรของแกเนี่ย”

“ห้ะ อ่าวไม่ใช่เหรอก็ที่แกซึมๆ ช่วงนี้ไม่ใช่แอบไปมีใครอีกคนเหรอ”

“บ้าา ฉันจะทำแบบนั้นทำไม แกก็รู้ว่าฉันมีพี่เค้กคนเดียวโถ่ตกใจหมด”

“อ่าวเหรอ5555555 ขอเก็บเศษหน้าตัวเองแปบนะรู้จะแตกเต็มพื้นเลย”

“เออไม่ต้องหรอกฉันมีเรื่องให้เครียดมากกว่านั้นเยอะเลย”

“เรื่องอะไรวะ มีเรื่องแย่กว่านี้อีกเหรอ”

“เออ เรื่อไข่หวานน่ะ”

“ห้ะ ไข่หวาน เรื่องไข่หวานมีอะไรให้เครียดอะ”

“รินเรื่องนี้ฉันซีเรียสนะและฉันไม่ได้ล้อเล่นด้วย”

“อืม โอเคฉันพร้อมแล้ว”เธอสัมผัสถึงความจริงจังของเพื่อนเธอได้อย่างชัดเจนว่าเรื่องต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะรับมือ

“ไข่หวานยังมีชีวิตอยู่! ”

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา