นรกบนดิน(yuri)

-

เขียนโดย themockingjay

วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.54 น.

  29 ตอน
  0 วิจารณ์
  19.37K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2563 14.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ฝึกวันแรก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากเธอที่เดินย้ายออกมาเธอก็มาเดินสำรวจบริเวรโกดัง9-10 เพราะเธอจะต้องมาฝึกที่นี่ในอีก20นาทีข้างหน้า

'นานเเล้วนะที่เรื่องมันเกิดขึ้น ' เธอมองทอดออกไปเห็นกำแพงที่ยาว5เมตรปิดวิวหลังกำแพงจนหมดสิ้น เธอหยิบสร้อยที่ห้อยแหวนน่ารัก2วง คู่กัน มาดูและกำอย่างเบาๆ

'ไข่หวาน เราเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัดเเล้วนะ เราจะตั้งใจฝึกและช่วยเหลือคนที่อยู่ข้างนอกกำแพงนั้น ไข่หวานเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะ ' เธอคิดในใจ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เธอจะตายเมื่อไรก็ไม่รู้อย่างน้อยเธอก็อยากจะมีประโยชน์และทำอะไรไว้ให้กับโลกนี้บ้าง เธอไม่อยากตายโดยไม่มีประโยชน์ทั้งที่เธอสามารถทำได้

พอเธอตั้งสติและกลับมายังเหตุการณ์จริงทำให้เธอพึ่งรู้ว่าเธอมาจนสุดกำแพงประตูฝั่งทิศเหนือ

'ให้ตายเถอะ เธอจะเดินเหม่อลอยแบบนี้ไม่ได้นะเนี่ย'

เธอเดินกลับมายังโกดัง9ก็มีเสียงเรียกประกาศให้เจ้าหน้าที่มารวมตัวกันที่โกดัง9ที่เธออยู่ เธอเดินหาแพรวสักพัก็เจอกันและทักทายกันนิดหน่อยก่อนจะเข้าแถวและโดนแบ่งเป็น4กลุ่มในการฝึกความแข็งแรง คือ1.กลุ่มที่เน้นเฉพาะแขน 2.กลุ่มที่เน้นเฉพาะขา 3.กลุ่มที่เน้นเฉพาะหน้าท้อง และ4.กลุ่มที่เน้นทั้งร่างกาย โดยที่แต่ละกลุ่มจะวนให้ครบ4เดือน เดือนละกลุ่ม ซึ่งเธอและเเพรวอยู่ในกลุ่มแรก

"ฉันไม่ถนัดกลุ่มนี้เลยอะ"

"แกยังดีที่ไม่ถนัดกลุ่มนี้ ดูฉันดิแค่วิ่งช่วงเช้าไส้จะลากแล้ว"

"5555555น่าสงสาร"

"เอาล่ะ รู้แล้วใช่ไหมว่าตัวเองอยู่กลุ่มอะไร เจ้าหน้าที่แต่ละกลุ่มจะยืนโบกธงเป็นหมายเลขกลุ่มอยู่ เพราะงั้นตอนนี้แยกย้ายได้!! "

ทุกคนต่างวิ่งไปยังกลุ่มของตัวเอง ซึ่งในกลุ่มเธอนั้นจะสอนการฝึกทุกอย่างที่เกี่ยวกับแขน การต่อสู้ เช่นมวย ยิปมัน เป็นต้น

พอหลังจากที่พวกเธอฝึกครบเรียบร้อยและครูฝึกแต่ละกลุ่มก็ปล่อยให้ไปกินข้าวได้ เพราะอีก5นาทีจะกินข้าวรอบมื้อกลางวัน เธอแยกกับแพรวและไปเดินดูอาหารจนไปราดหน้าหมี่กรอบที่เธอชอบมากิน และเพื่อนเธอก็ได้กระเพราะไก่ไข่ดาวเช่นเคย จากนั้นอาจารย์ก็มานั่งกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ เธอและเเพรวก็เล่าให้อาจารย์ว่าฝึกอะไรมาบ้าง บ่นว่าเมื่อยแขนแค่ไหนและคุยสัพเพเหระไปเรื่อยๆ จนได้เวลาฝึกภาคบ่ายอีกครั้ง

"พี่เค้กแพรวไปก่อนนะคะ"

"จารย์หนูไปก่อนนะคะ"

"ตั้งใจนะฝึกนะ" อาจารย์ก็เดินแยกตัวออกไปและก็มีเสียงมาประกาศเช่นเคยว่าให้รวมตัวกันที่โกดัง9เพราะเราจะไปด้านหลังของโกดังหรือไปประตูทิศตะวันตกนั้นเอง ทำให้มีเสียงฮือเฮกันใหญ่ในหมู่เจ้าหน้าที่ฝึกหัดที่พึ่งเข้ามาเพราะพวกเขาไม่เคยผ่านกำแพงที่สูงพอๆ กับกำแพงค่ายที่อยู่หลังโกดัง เป็นกำแพงยาวจากเหนือไปจรดใต้โดยมีที่เว้นว่างให้ทำประตูเข้าออกนั้นมาก่อน ซึ่งจะมีประตูเข้าออกที่ปิดเอาไว้ให้เจ้าหน้าที่เท่านั้นถึงจะเข้าออกได้ ซึ่งทั้งสองด้านคือประตูที่อยู่ทางเหนือและประตูที่อยู่ทางใต้ พอกลุ่มพวกเธอเดินเข้าไปหลังกำแพงโดยเดินเข้าไปประตูทิศเหนือ พวกเธอมองด้วยความตื่นเต้นและชื่นชมความอลังการให้การสร้างฐานฝึกให้กับทหาร หลังกำแพงนั้นคือ ที่กระโดหอสูงมากจากพื้นถึงปลายยอดประมาณ5กิโลเมตรได้ และมีสระน้ำที่ใหญ่พอที่จะฝึกทหารเกือบพันคนในไปอยู่ในนั้น จากนั้นก็มีเครื่องบินเเละสนามบิน เอาไว้ออกรบ เสบียงอาวุธต่างๆ คืออยู่ในนี้ครบไม่ต้องหาซื้อช้อปปี้หรือลาซาด้าเลย เจ้าหน้าที่ที่เป็นไกด์นำทางได้บอกว่าค่ายของเรายังมีฐานด้านล่างเพื่อที่จะฝึกพวกปืน ระเบิดทุกชนิด เพราะถ้าฝึกข้างบนเเล้วเสียงคงจะดังไปรบกวนซอมบี้ที่กำลังหิวข้าวอยู่เป็นแน่ เวลาทำอะไรจึงต้องรอบคอบ นอกจากนั้นยังมีการฝึกอีกหลายอย่างจนสาธยายไม่หมด เธออยากรู้จริงๆ ว่าหมดเงินไปเท่าไรถึงจะมีขนาดนี้ แต่เธอก็ได้แค่คิดละนะ ถ้าถามไปน่าจะโดนตบหัวและโดนให้ลุกนั่ง200รอบแน่ๆ

หลังจากพวกเธอเดินชมด้านหลังของค่ายนี้กันอย่างสนุกสนาน ก็ถึงเวลาที่พวกเธอจะได้โดดหอกันสมใจอยากกันเเล้ว

"บ้าหรอใครจะไปอยากโดดกัน"

"ทำไมต้องให้โดดด้วยล่ะ"

"สูงขนาดนั้นโดดลงมาช็อกตายกันพอดี"

เสียงบ่นพึมพำๆ ดังขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ไกด์ได้หมอบหมายงานให้อีกคนซึ่งเป็นครูฝึกประจำการที่จะสอนพวกเราในการโดดหอ

"อะไร!! จะพูดเสียงดังทำไม เก็บปากเอาไว้กินข้าวพอแล้ว!! "

"........." เงียบกริบ ฝีปากดุได้ใจเธอจริงๆ

"ดี! พวกคุณก็ไม่ใช่เด็กอายุ10ขวบกันแล้ว พูดรอบเดียวคงเข้าใจกันใช่ไหม!! ทราบไม่ทราบ!! "

"ทราบ!!! "

"จากนี้ไปเป็นเวลา1เดือนผมจะเป็นคนสอนพวกเธอ ถ้าใครกลัวก็เชิญออกได้! ผมไม่ได้รั้งขาพวกคุณไว้ เพราะถ้าหากแค่นี้พวกตุณยังขี้ขลาดตาขาว!! ถ้าถึงสถานการณ์จริงคงไม่ยืนฉี่ราดบนเครื่องบินรึไง!! ทราบไม่ทราบ!! "

"ทราบ!! "

"ครูฝึกคนนี้ดุจังแฮะ" เพื่อนเธอกระซิบ

"ปกติของทหารละมั้ง"

 

"เอาล่ะจากนี้ไปเรียกผมว่าครูฝึกก็พอ ถามว่าทำไม่ไม่บอกชื่อ มันเรื่องของผม! อย่าเรื่องมาก พวกคุณมาฝึกมีหน้าที่ฝึก ผมก็มีหน้าที่สอน ไม่ได้มีหน้าที่ให้มายุ่งเรื่องของผม เข้าใจไหม ทราบไม่ทราบ!! "

"ทราบ!! "

"ดี เข้าแถวตอนเรียง15 "

"........."

"ทวนคำสั่ง!! ไม่มีใครสอนคุณรึไง!! เขาแถวตอนเรียง15! "

"ข..เข้าแถวตอนเรียง15! "

"แค่พูดยังไม่พร้อมกันเลย แบบนี้มันจะรอดไหม พูดใหม่!! "

"ทวนคำสั่ง"

"......"

"พูดตามสิ!!! "

"ทวนคำสั่ง! "

" เออจะให้สอนหมดรึไง! รู้เองซะบ้าง! ทวนคำสั่ง! "

" ทวนคำสั่ง! " เจ้าหน้าที่ฝึกหัดมาหน้ากันแป๋ว

" คำสั่งผมว่าอะไรล่ะ!! เรื่องแค่นี้ยังจำกันไม่ได้ก็กลับบ้านไปดูดนมแม่นู่นไป! เอาใหม่! " และพวกเธอก็ฝึกพูดกลางแดดร้อนๆ อยู่ประมาณ2ชั่วโมงและโดนด่าจนหูชาไปไม่รู้กี่รอบก่อนจะได้เข้าไปเรียนภาคทฤษฎีอีก2ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะได้กินข้าวครูฝึกก็ปล่อยก่อนเพราะบอกว่าให้กลับไปทวนสิ่งที่เรียนมาและพรุ่งนี้จะมีการเรียกรายบุคคลเพื่อไปทดสอบว่าสิ่งที่เรียนไปวันนี้เข้าหัวสมองพวกเธอบ้าวรึเปล่า ซึ่งก่อนกลับมีเจ้าหน้าที่แจกชีสที่หนาประมาณสองร้อยกว่าหน้าให้กลับไปทวนเพราะกลัวว่าพวกเราจะจำเนื้อหาที่เรียนวันนี้ไม่ได้

พวกเธอเดินกลับหอกันมาอย่างเหนื่อยล้า เธอที่เดินกับแพรวมาตลอดทางจนแยกเข้าห้องของตัวเองยังไม่พูดสักคำเพราะเหนื่อยเกินไป เธอที่นอนฟุบลงไปกับเตียงกะว่าจะงีบสักหน่อยดันเผลอหลับ แต่ยังดีที่ยังมีอาจารย์และเพื่อนเธอมาปลุกเพราะเห็นยังไม่ออกจากห้องจนพวกเธอเดินไปกินข้าวกันอย่างเพลียๆ

"กินน้ำกระเจี๊ยบกันก่อนจะได้สดชื่น" อาจารย์ที่ดูสภาพพวกเธอเเล้วคงไม่น่ารอดแน่ๆ เลยต้องหาอะไรมากระตุ้นหน่อยหลังจากพวกเรากินข้าวเสร็จกันเรียบร้อยเเล้ว

"ขอบคุณนะคะพี่เค้ก"

"ขอบคุณค่ะจารย์"

"รีบไปอาบน้ำแล้วค่อยมานอนกันดีกว่า พวกเธอจะได้มีเวลาเหลือในการพักผ่อนด้วย"

"จริงด้วย รินไปกัน"

"อ่าได้ๆ "

" พี่ไปก่อนนะพอดีเอาจักรยานมาน่ะ"

"เหอะๆ อิจฉาเลยคนที่ได้จักรยานขี่จังเลยแฮะ"

"นั่นดิชีวิตดูสดใสจังเลย" สภาพเธอไม่ต่างอะไรกับศพเดินได้เลย พวกเธอสองคนเดินจนมาถึงที่พักของตัวเองจากนั้นก็จัดทำธุระของตัวเองให้เรียบร้อย รินอาบน้ำเสร็จและเตรียมใส่ชุดทหารไว้เเล้วเพราะเธอจะงีบสักชั่วโมง แล้วค่อยให้เพื่อนเธอมาปลุก

ส่วนฝั่งเพื่อนเธอหลังจากเเยกกับเธอเสร็จเเล้วก็อาบน้ำและเตรียมใส่ชุดทหารเอาไว้เพื่อความรวดเร็วเวลาโดนเรียก

"ก๊อกๆๆ พี่เข้าไปได้ไหมแพรว"

"ค่าแปบนึงนะคะ" เธอที่พึ่งใส่เสื้อเสร็จจึงเดินไปเปิดประตูให้คนรักได้เข้ามาข้างใน เค้กเดินมาจูงมือแพรวเข้ามาข้างในและนั่งลงบนเตียง แต่ให้เจ้าตัวเล็กของเธอนั้งคร่อมตักที่หันหน้าเข้าด้วยกันแทน

 

"พี่เค้กมีอะไรรึป่าวคะ"

"พี่มาเติมพลังให้แฟนพี่เฉยๆ ค่ะ"

"บ้า คนอะไรพูดไม่รู้เรื่อง" แพรวเขินจนตีแขนเธอไป1ที

"โอ้ยตีพี่ทำไมคะ พี่ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย"

"คนบ้า" จากนั้นแพรวก็ก้มลงไปกอดเธอเองก็รู้ว่าเจ้าตัวเล็กเหนื่อยขนาดไหนเลยไม่ได้อะไรมากสักพักจึงค่อยผละออกจากกัน

"สู้ๆ นะคะ พี่กำลังใจให้อยู่นะ"

"ขอบคุณนะคะ พี่เค้ก" แพรวที่ยิ้มจนตาหยี่และท่าทางที่นั่งทำให้เธอรู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาเลยแฮะ

"แพรว พี่ขอจูบหน่อยได้ไหมคะ"

"บ้าพี่เค้กพูดอะไรแบบนั้นคะ"

"นะคะ"

"ก.. ก็ได้ค่ะ" จากนั้นเธอก็ประกบริมฝีปากเธอกันแพรวอย่างนุ่มนวล หอมหวานและลึกซึ้ง ทั้งกลิ่นที่พึ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ

หรือกลิ่นที่มาจากเจ้าตัว เธอหลงจนไม่รู้จะหลงยังไงเเล้ว

" อื้ออออ" มือเธอที่เริ่มเข้าไปข้างในเสื้อค่อยๆ ลูบผิวกายอย่างถะนุถะหนอมและค่อยๆ เลื่อนขึ้นไปยังหน้าอกอันอวบอิ่มพอดีมือ เธอค่วยๆ นวดเคร้าครึงอย่างช้าๆ ทำให้ไปกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

"1ชั่วโมงทันอยู่นะคะ แพรว"

"อ่าาห์ พ.. พี่พูดถึงอะไรคะ" แพรวที่กอดคอเธออยู่หน้าแดงจนถึงปลายหูเพราะรู้ว่าเค้กพูดถึงอะไรแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ

"แพรวอยากลองจูบแบบพูดใหญ่ไหมคะ"

บ้า ใครจะไปอยา.... อื้ออออ"เธอไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดจบก็เข้าไปประกบริมฝีปากที่เธอหวงแหนและจากนั้นเธอค่อยๆ สอดลิ้นเข้าไปในปากของแพรว ทำให้แพรวกระตุกเล็กน้อยเพราะตกใจและยังไม่ชินกับการจูบแบบนี้

"อื้มมมม" เมื่อเธอสอดลิ้นเข้าไปได้เรียบร้อยทำให้จากจูบที่ค่อยบรรจงกลายเป็นจูบที่เร้าร้อนไปโดยปริยาย

"อื้ออ อ่าาห์" เสียงครางหลุดออกมาเป็นระยะๆ เธอที่เหลือบไปเห็นนาฬิกาว่าคงถึงเวลาที่เธอจะต้องพอแล้ว เธอจึงค่อยๆ เบากิจกรรมนั้นลงและพละออกจากกันในที่สุด

"อ่าาห์ เป็นยังไงบ้างคะ พี่จูบได้ดีรึเปล่า"

"แห่กๆ แห่กๆ ค่ะดีมากเลย แต่ทำไมพี่ถึงหยุดละคะ"

"ติดใจหรอคะ"

"ก... ก็นิดหน่อยค่ะ" แพรวมุดหน้าเขินลงบนไหล่ของเธอทั้งที่ยังกอดคือเธออยู่

"พี่อยากทำต่อเหมือนกันค่ะแต่ว่าเวลาใกล้หมดเเล้วนะคะ"

"จริงด้วย พี่เค้กคะตอนนี้กี่โมงเเล้วคะ! "

"18.48ค่ะ"

" เดี๋ยวแพรวแต่งตัวแปบนะคะ แพรวฝากพี่เค้กเรียกรินให้หน่อยนะคะ"

"ได้ค่ะงั้นเดี๋ยวพี่ออกไปรอข้างนอกนะคะ เดี๋ยวพี่ไปส่งหน้าโกดังค่ะ "

"อ๋ออค่ะ" แฟนเธอนี่น่ารักจริงๆ เลยยยยยยยยยย

"ก๊อกๆ รินทำไรอยู่ ตื่นยัง เขาจะเรียกเเล้วนะ"

"อือออ ค่าไปเเล้วค่า"

หลังจากที่อาจารย์เดินมาส่งพวกเธอก็แยกตัวกลับไปห้องตัวเอง พวกเธอเองก็ต้องเตรียมตัวเรียนภาคค่ำอันมหาโหด ไม่มีเวลาพักเลย

เมื่อผบ. ประกาศให้เข้าแถวและไปรับชีสหน้าสำนักงานทางด้านขวาของค่ายทหารถัดจากโกดัง

"เดี๋ยว อันนี้ชีสหรือตำรากฎหมาย"

"ห้าร้อยกว่าหน้า กะว่าจะเรียนเดือนหนึ่งเลยหรอไง"

"เลิกบ่นเเละเดินเข้าไปได้เเล้ว ใครยังไม่ได้หยิบปากกาก็หยิบซะ เร็วเข้าคนไม่ได้มีแค่คนเดียวที่ต่อแถวรอพวกคุณบ่นเสร็จนะ"

ประโยคด่าของผบ.ลอยมาอีกเเล้ว เธอเองก็นึกขำ พวกเราชอบทำอะไรที่ให้ผบ.ด่ากันจังเลยแต่เธอเชื่อว่าเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้นหรอกเพราะดูจากเจ้าหน้าที่รอบข้างต่างกลั้นขำเวลาเตือนเจ้าหน้าที่ใหม่ เล่นเอาเธอขำไปด้วย

 

วันนี้เรียนวันแรกครูฝึกที่สอนโดดหอก็มาสอนความรู้พื้นฐานต่างๆ นาๆ และสถานการณ์คร่าวๆ ทั่วโลกและประเทศเราให้ฟังคร่าวๆ เธอเองก็พึ่งรู้ว่าสถานที่ที่พวกเธออยู่ตอนนี้คือฐานลับของหน่วยอินทรีที่อยู่ในจังหวัดลำปาง อยู่ในป่าลึกจนแทบไม่มีใครพบเห็น สถานะภาพของพวกเราตอนนี้เหมือนเข้ามาเป็นหน่วยอินทรีโดยที่ไม่ต้องผ่านการคิดเลือกใดๆ เลย มันอาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อย มั้งนะ และสถานการณ์โลกตอนนี้แย่พอสมควร ประชากรโลกลดลงเกือบครึ่ง เชื้อไวรัสแพร่กระจายเร็วมาก ตอนนี้หน่วยอินทรีก็ได้เข้าไปแทรกซึมเกือบทุกจังหวัดและช่วยเหลือคนได้บ้าง แต่ตอนนี้จังหวัดที่ดูแล้วควรจะได้รับกำลังเสริมมากที่สุดคือกรุงเทพ เพราะมีเจ้าหน้าที่ประจำการเพียงสิบกว่านายที่ตอนแรกส่งไปถึงร้อยกว่านาย ซึ่งในจำนวนซอมบี้ทั้ง3ระยะ ในกรุงเทพมีระยะ2และระยะ3มากที่สุด อันตรายที่สุด เธอคิดว่าอีกไม่นานคงต้องส่งไปอีกเจ้าหน้าที่ไปอีกแน่ๆ

"อ่า ชักหวั่นใจเเล้วแฮะ'

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา