Trap Evil กับดักร้อน กับดักร้าย

-

เขียนโดย Piano_sp

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 08.34 น.

  20 ตอน
  0 วิจารณ์
  13.29K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 08.40 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) Trap Evil : 19

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

19

 

 

หลังจากที่ฉันได้สูญเสียแว่นตาไปแล้วหลายอัน วันนี้ฉันเลยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนไปใส่คอนแทคเลนส์แทน เพราะช่วงนี้ฉันทำแว่นตาพังบ่อยเหลือเกินเลยคิดว่าจะลองมาเปลี่ยนใส่คอนแทคเลนส์น่าจะดีกว่า และตอนนี้ฉันก็ได้ยืนอยู่หน้าร้านขายแว่นตาในห้างชื่อดังแห่งหนึ่งคนเดียว ไม่ใช่ว่าพันแสงหรือภูเบศไม่ว่างอะไรหรอก ที่ฉันออกมาเนี้ยสองคนนั้นไม่รู้หรอกว่าฉันออกมา ฉันแอบออกมาไม่ให้พวกเขารู้เองแหละ บางครั้งที่มีผู้ชายมาเกาะแกะอยู่ด้วยบ่อยๆ มันก็เหมือนฉันโดนขังอยู่กับพวกเขาตลอด วันนี้ฉันถึงได้กล้าที่จะแอบออกมาคนเดียวแบบนี้

แต่ยังเหลืออีกเรื่องหนึ่งที่ฉันยังไม่ไปเคลียร์กับพันแสง ไม่ใช่เรื่องใครที่ไหนหรอกก็เรื่องของภูเบศนั่นแหละ สองคนนี้ฉันไม่รู้จะใช้วิธีไหนที่จะทำให้พวกเขาดีกัน มันยากนะที่จะทำให้ผู้ชายสองคนดีกันเนี่ย ตอนนี้ฉันเลยเลี่ยงไม่ให้พวกเขาเห็นกันโดยที่ฉันต้องแอบนัดเจอกับภูเบศยังไงล่ะ เหมือนฉันกำลังทำเรื่องไม่ดีอยู่เลยที่นัดเจอผู้ชายไม่ให้พี่ตัวเองจับได้เนี้ย

“บุหลัน”

ขณะที่ฉันกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ อยู่หน้าร้านขายแว่นตาอยู่นั้นก็มีเสียงผู้ชายคนหนึ่งเรียกชื่อฉันขึ้นมา ฉันเลยหันไปตามเสียงก็เจอผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่

“ใช่เธอจริงๆ ด้วย”

“อ้าว สิงหา”

ฉันหันไปทักแล้วส่งยิ้มให้เมื่อเห็นว่าคนที่เรียกชื่อฉันนั้นเป็นใคร ฉันยิ้มบ่อยจนติดเป็นนิสัย ไปแล้วแหละ

“มาเที่ยวเหรอ”

สิงหาถาม

“เปล่า มาซื้อคอนแทคเลนส์นะ”

ฉันตอบแล้วก็มองเข้าไปในร้านขายแว่นตา ที่มีคนอยู่ไม่ค่อยมาก

“ฉันซื้อให้น่ะ เพื่อเป็นการไถ่โทษที่ทำแว่นตาเธอแตก”

สิงหาพูดแล้วส่งสายตาเชิงอ้อนวอนมาให้ ฉันเลยพยักหน้าแทนคำตอบแทน ผู้ชายที่ยืนตรงหน้าฉันเลยยิ้มกว้างด้วยความชอบใจ

SINGHA Talk

วันนี้เป็นวันอะไรก็ไม่รู้ดลบันดาลใจให้ผมมาเดินห้างทั้งๆ ที่ผมเป็นคนคนหนึ่งที่ไม่ค่อยชอบเดินห้างซักเท่าไหร่ ส่วนมากที่มาเดินเที่ยวห้างจะมาหาที่ทานข้าวก็เท่านั้น หรือว่าพาสาวๆ มาเที่ยวแค่นั้น ห้างแบบนี้ไม่เหมาะที่จะมาคนเดียวหรอก

ในระหว่างที่ผมกำลังเดินไปเรื่อยๆ อย่างเบื่อๆ สายตาของผมก็ไปปะทะเข้ากับเจ้าของร่างเล็กที่น่าทะนุถนอม ที่ยืนอยู่หน้าร้านขายแว่นตา ผมมองเธอเพียงแค่แวบเดียวก็รู้ว่าเธอเป็นใคร บุหลัน ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนี้มีความสามารถที่ทำให้ผู้ชายเข้าหาเธอได้โดยไม่ต้องทำอะไร เธอมีเสน่ห์แบบไม่ต้องแต่งเติมอะไร ใบหน้าที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นนั้น มันน่ารักมากจนแทบผมอยากได้เธอมาเป็นของตัวเอง

“แล้วนี่จะไปไหนต่อไหม”

ผมถามขึ้นหลังจากที่เราเลือกซื้อคอนแทคเลนส์กันเสร็จแล้วโดยมีผมเป็นคนจ่าย เรื่องที่เราเดินชนกันนั้นเธอไม่ได้เป็นคนผิดหรอกผมตั้งใจเดินชนเธอเองเพราะผมอยากทำความรู้จักกับเธอ และแล้วผมก็ได้รู้จักกับเธอจริง บุหลันเป็นคนน่ารักมากทั้งหน้าตาและนิสัย และมันก็ทำให้ใจของผมที่ไม่เคยคิดอยากจะชอบใครเผลอใจเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นมาได้อย่างง่ายได้

“ยังไม่รู้เลย ว่าจะเดินเล่นต่อสักพักอุตส่าห์แอบหนีมาทั้งที”

บุหลันพูดแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างซุกซน เหมือนเธอกำลังเล่นอะไรอยู่อย่างนั้น การที่ผมได้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเธอแบบนี้แล้วมันทำให้ผมรู้สึกว่าเธอคนนี้คือคนที่ผมคอยเฝ้าตามหามาโดยตลอด

“แอบหนี?”

ผมทวนคำพูดของเธอไปเพราะรู้สึกสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าเธอกำลังทำอะไรของกันแน่

“อ่อ หนีพวกขี้หวงมาอ่ะ”

เธอพูดแล้วก็ยิ้มมาให้ผม บอกเลยว่าผมชอบรอยยิ้มของเธอมากๆ เลยมันทำให้โลกที่ผมอยู่ตอนนี้ดูสว่างขึ้นในพริบตา

“หิวไหมไปกินข้าวกัน”

ผมเอ่ยชวน บุหลันทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่

“ครั้งนี้ฉันเลี้ยงน่ะ เมื่อกี้นายก็จ่ายให้ฉันแล้ว”

“อ่อ ได้ๆ”

ไม่ว่าจะยังไงวิธีไหนก็ได้ที่ทำให้ผมได้อยู่กับเธอนานๆ ผมยอมหมดแหละตอนนี้ บุหลันยิ้มแล้วก็เดินนำหน้าเข้าร้านอาหารแห่งหนึ่งที่บรรยากาศน่ารักเหมาะสำหรับคู่รักที่มาเดตกัน เธอเข้าใจคิดนะหรือว่าบุหลันจะคิดตรงกันกับผม ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีสิอะไรๆ ก็จะได้ง่ายขึ้น

“สั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ”

เธอบอกแล้วก็ยัดเหยียดเมนูใส่มือผมอย่างกระตือรือร้น ผมเลยทำตามที่เธอแนะนำอย่างว่าง่าย หลังจากที่เราสั่งอาหารกันไปแล้วก็เหลือรอแค่ให้อาหารมาเสิร์ฟ

“ไปเข้าห้องน้ำเดียวมาน่ะ ฝากดูของด้วย”

บุหลันรีบลุกขึ้นไปอย่างรวดเร็วสงสัยเธอคงจะปวดหนัก ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับความน่ารักของเธอที่ไม่เคยเห็นจากผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอเป็นคนที่ตรงมากคิดอะไรก็แสดงออกทางสีหน้าหมดเท่าที่ผมสังเกตมาผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่สำหรับผมแล้วจริงๆ

ครืด ครืด

เสียงเหมือนโทรศัพท์ของใครสั่นผมเลยมองดูของตัวเองก็ไม่ใช่ สงสัยจะเป็นโทรศัพท์ของบุหลันที่วางไว้อยู่บนโต๊ะเธอลืมหยิบไปเพราะของรีบของเธอเมื่อกี้ ผมเลยมองดูที่โทรศัพท์ของเธอปรากฏว่ามีคนโทรมาจริงๆ ผมมองดูว่าจะรับสายให้เธอดีไหม เพราะคนที่โทรมายังคงโทรมาอย่างต่อเนื่องอย่างกับว่าธุระเร่งด่วน

ผมเลยหยิบโทรศัพท์เธอขึ้นมาแล้วสายตาผมก็ไปปะทะเข้ากับรูปของคนที่โทรเข้ามา ผมจะไม่แปลกใจอะไรถ้าคนในรูปนี้ไม่ใช่ไอ้พันแสง พันแสงผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจที่สุดของมหาลัยเอกชน K ที่มันอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยผมซักเท่าไหร่ ส่วนมากผมจะเห็นมันแถวๆ ผับ เราเคยมีเรื่องกันนิดหน่อยมันเลยทำให้ผมกับมันไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่ แต่ทำไมมันถึงโทรหาบุหลันกันละ

ผมมองรูปที่สว่างอยู่บนหน้าจอไปพร้อมกับคิดไปด้วย รูปที่ผมเห็นมันเป็นรูปคู่ที่บุหลันถ่ายกับไอ้พันแสงในรูปทั้งคู่ดูสนิทกันมาก พวกเขาทั้งสองคนเป็นอะไรกัน

“ทำไรอ่ะ”

ไม่รู้ว่าบุหลันกลับมาตั้งแต่ตอนไหน ตอนนี้เธอกำลังมองหน้าผมกับโทรศัพท์ของเธอสลับกันอยู่

“อ่อ มีคนโทรมาน่ะ สงสัยจะมีธุระด่วนเห็นโทรมาหลายครั้งแล้ว”

ผมแก้ตัวไป บุหลันก็ทำหน้าเหมือนเข้าใจผมเลยยืนโทรศัพท์คืนให้เธอ เธอมองที่หน้าจอสักพักแล้วก็ทำหน้าเซ็งๆ ออกมา

“ไม่รับสายเหรอ”

ผมทักขึ้นเมื่อเห็นว่าบุหลันวางโทรศัพท์ลงทั้งที่มีสายเข้า

“ไม่อ่ะ รำคาญ”

เธอตอบด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ เหมือนรำคาญคนที่โทรมาหาเธออยู่ตอนนี้ หรือว่าไอ้พันแสงจะเป็นแฟนของบุหลัน แต่ไม่น่าจะใช่เพราะไม่เห็นบุหลันจะทำท่าทีเหมือนกับว่ารักหมอนั่นเลย หรือว่าสองคนนี้เคยคบกันแล้วเลิกกันแล้วแต่ไอ้พันแสงยังคงตามตอแย แบบนี้ไม่ได้แล้วผมต้องรู้ให้ได้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน

“กินกันเถอะ”

บุหลันกล่าวชวนเมื่ออาหารที่เราได้สั่งไปเริ่มทยอยมาเสิร์ฟ เราใช่เวลาในการทานอาหารก็นานพอสมควรมันเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับผม เราได้พูดคุยกันเยอะขึ้น จนตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนว่าผมจะสนิทกับบุหลันแล้ว

“บุหลัน ขอเบอร์หน่อยได้ไหม เผื่อวันหลังฉันอยากเลี้ยงข้าวเธอ”

ผมพูดติดตลกเพื่อไม่ให้บุหลันสงสัยว่าผมกำลังจะจีบเธอ

“ได้ๆ”

บุหลันพูดแล้วก็กดเบอร์ของเธอให้ผม

“แล้วนี่กลับยังไง”

ผมถามบุหลันเมื่อดูเวลาว่านี่ก็เย็นมากแล้วถ้าเธอกลับคนเดียวผมก็กลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายไปอีก

“อ่อ มีคนมารับนะ นั่นไงมาพอดี”

ผมหันไปตามทางที่บุหลันชี้ให้ดูก็ปรากฏร่างของไอ้พันแสงที่เดินมาด้วยความหงุดหงิด เหมือนมันจะยังไม่สังเกตเห็นผม เพราะตอนนี้มันกำลังจ้องหน้าของบุหลันด้วยความหงุดหงิดอยู่

“ทีหลังไปไหนก็บอก อย่าแอบมาแบบนี้”

พอมันมาถึงก็กล่าวตำหนิบุหลันทันที

“ให้มาคนเดียวบ้างเถอะ เบื่อพวกนายจะแย่แล้ว”

บุหลันโต้ตอบไปอย่างไม่สะทกสะท้านกับใบหน้าที่หงุดหงิดของไอ้พันแสงเลยสักนิด

“พวกเหรอ นี่เธออย่าบอกน่ะว่ากลับไปคืนดีกับไอ้เหี้ยนั่นแล้ว”

ตอนนี้ผมงงไปหมดว่าสองคนนี้คุยเรื่องอะไรกัน งงไปหมดว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์อะไรกัน

“ว้า แย่จังความแตกแล้ว”

“เธอนี่น้า บอกก็ไม่เคยจำ กลับไปมีเคลียร์ แล้วไอ้นี่แม่งเป็นใครอีกล่ะ”

ตอนนี้สายตาของไอ้พันแสงกลับจ้องมาที่ผม เหมือนมันจะจำผมไม่ได้

“อ่อ สิงหาเพื่อนฉันเอง”

บุหลันแนะนำตัวผมให้ไอ้พันแสงได้รู้ หลังจากที่เธอกล่าวจบคิ้วของไอ้พันแสงก็ขมวดเป็นปมขึ้นมาทันทีเหมือนมันจะจำได้แล้วว่าผมเป็นใคร ผมเลยหันไปยิ้มให้มันอย่างท้าทาย

“สิงหานี่ พันแสง พี่ชายฉัน”

โอ๊ะโอ๋ เหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคเข้าข้างผมเมื่อผู้ชายที่ผมเป็นอริด้วยไม่ใช่แฟนของบุหลันแต่เป็นพี่ชาย แบบนี้ค่อยสนุกหน่อย

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพี่ชาย”

ผมกล่าวทักทายพร้อมกับส่งยิ้มท้าทายส่งไปให้ไอ้พันแสงเพื่อตั้งใจที่จะยั่วประสาทมัน ส่วนไอ้พันแสงก็เอาแต่จ้องหน้าผมเขม่ง มันแทบจะกระโจนเข้าใส่ผมตลอดยิ่งผมขยับเข้าใกล้บุหลันมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเดือด เอาแล้วไง ผมยิ่งอยากได้บุหลัน ผู้หญิงที่ได้มายากๆ มันยิ่งทำให้ผมคนนี้รู้สึกยิ่งอยากจะได้เธอมาครอบครองเร็วๆ ยิ่งคิดยิ่งอยากได้แล้วสิ หึ

 

 

 

 

 

สิงหานี่เจอแค่พันแสงนะเออ ถ้าภูเบศรู้เรื่องเข้า ตายแน่ๆ

5555

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา