Memory of Tomorrow วันพรุ่งนี้ในความทรงจำ

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.24 น.

  40 ตอน
  0 วิจารณ์
  27.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2563 14.05 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

29) บทที่29 เผชิญเรื่องอันตราย (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่29 เผชิญเรื่องอันตราย (1)

 

“ข้างนอกมีแต่หิมะกับน้ำแข็ง ทำไมยังจะออกไปเที่ยวอีกล่ะ” อี้เป่ยซีมองเพื่อนร่วมหออีกสามคนด้วยความสงสัย พวกเธอไม่กลัวหนาวกันหรือไง? เธอสูดจมูกนั่งอยู่ที่ของตัวเอง

ถังเสวี่ยหัวเราะ “ก็เพราะว่ามีแต่หิมะกับน้ำแข็งนี่แหละถึงได้ออกไป เธอไม่รู้เหรอ นั่นน่ะจุดชมวิวหิมะที่สวยที่สุดของทั้งเมืองB เลย หิมะโปรยปราย ดอกเหมยแดงสง่างาม เธอชอบสถานที่แบบนี้ที่สุดไม่ใช่เหรอ?”

“เธอแกล้งทำเป็นมีภูมิฐานหรือเปล่า” ฟางหมิ่นเล่นกับเล็บของตัวเองที่เพิ่งทำมาใหม่

“พวกเขาเป็นคนใหญ่คนโตกันทั้งนั้น เพื่อนของหลานฉือเซวียนกับลั่วจื่อหาน พวกเราจะกล้าชวนมาได้ยังไงล่ะ” ฉินเยว่เข่อเอ่ยเหน็บแนม

แม้ว่าหิมะกับน้ำแข็งจะไม่ได้ปกคลุมไปทั่วเมือง แต่ใครจะอยากออกไปกับเพื่อนสนิทปลอมๆ อย่างพวกเธอล่ะ อี้เป่ยซีส่ายหัว “ฉันเป็นหวัดพอดี คงไม่เหมาะกับกิจกรรมแบบนี้”

“เสียดายจัง” ถังเสวี่ยผิดหวังเล็กน้อย “ฉันจำได้ว่าจื่อจวีหานซื่อ จิตรกรคนนั้นน่ะ ผลงานชิ้นเอกของเขาก็มาจากวิวตรงนั้นแหละ”

อี้เป่ยซีลุกขึ้นมาจากม้านั่งด้วยความตื่นเต้น “จริงเหรอ? ไป ฉันไปๆ”

“เป่ยซี ร่างกายเธอไม่เป็นไรเหรอ?” ถังเสวี่ยถาม

เธอส่ายหัว แววตาเป็นประกาย “จะปล่อยให้เรื่องเล็กแบบนี้มาขัดขวางการชมวิวได้ยังไง พวกเราจะไปกันเมื่อไร?”

“พรุ่งนี้สิบโมงเช้า”

‘พรุ่งนี้เหรอ เห็นทีต้องผิดนัดพี่เป่ยเฉินซะแล้ว’ อี้เป่ยซีถูผมเล่น ช่างเถอะ พี่เป่ยเฉินไม่โทษเธอแน่นอน เธอพยักหน้า ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว

.......

หลังจากฟังสาวน้อยจนเข้าใจแล้ว อี้เป่ยเฉินถอนหายใจเบาๆ “ตอนนี้เสี่ยวซียุ่งกว่าพี่อีก”

“พี่เป่ยเฉิน” เสียงออดอ้อนทำให้รู้สึกหวั่นไหว อี้เป่ยเฉินหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“กลับเร็วหน่อยนะ บางทีพวกเราอาจจะดูหนังที่เธอชอบทัน”

“ขอบคุณค่ะพี่เป่ยเฉิน” เมื่อรับสาย ความละมุนท่วมท้นอยู่ในดวงตาของทั้งสองคน

จื่อจวีหานซื่อ...อี้เป่ยซีคิดวาดฝันงดงามอยู่ในใจ ‘อีกเดี๋ยวก็จะได้เห็นสถานที่ในผลงานของคุณแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่าทิวทัศน์แบบไหนที่ทำให้คุณวาดชิ้นงานที่น่าอัศจรรย์แบบนั้นออกมาได้’

ภูเขาห่างไกล ลมหนาวเสียดแทงกระดูกเล็กน้อย เพราะไม่ใช่ฤดูกาลท่องเที่ยว ทั้งจุดชมวิวจึงเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด หญิงสาวสี่คนที่สวมใส่เสื้อผ้าหนากำลังเดินอยู่ท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ

อี้เป่ยมองไปรอบทิศด้วยความกระตือรือร้น กลัวว่าจะพลาดจุดเล็กๆ น้อยๆ ไป ในตอนนั้นเขาก็เดินหาไปทั่วจนถึงยอดเขาแบบนี้หรือเปล่า

“อี้เป่ยซี เธอเดินช้าๆ หน่อย” ฟางหมิ่นตะโกนอยู่ข้างหลัง เธอจึงเดินช้าลง

“เธอตามไม่ทันเองต่างหากมั้ง” ฉินเยวี่ยเข่อพูดกัด เธอเดินไปด้านหน้าสุดของทั้งสี่คนอย่างแข็งแรงและคล่องแคล่ว จากนั้นก็มองอี้เป่ยซีด้วยสายตายั่วยุมาก

‘ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ’ อี้เป่ยซีไม่พูดอะไร ไม่สนใจสายตาไม่หวังดีตรงหน้า ก้มหน้าสำรวจของตัวเองต่อไป ต้องสงบจึงจะมองเห็นรายละเอียด

“เป่ยซี เป็นอะไรไปน่ะ?” ถังเสวี่ยมองตามสายตาของเธอไป ก็เห็นถนนเล็กๆ สายหนึ่ง “เธอจะไปเหรอ?”

เธอพยักหน้า “ฉันเคยเห็นที่ตรงนี้ในภาพนั้นของเขา น่าจะเป็นทางที่เขาเลือกวิวมา ฉันอยากไปดูสักหน่อย เธอจะไปกับฉันหรือเปล่า?”

ถังเสวี่ยส่ายหน้า “ไม่ล่ะ อย่าไปจะดีกว่า ดูแล้วไม่เห็นมีใครไปเลย”

“ใช่แล้ว เพราะงั้นก็เลยมีแค่จื่อจวีหานซื่อที่วาดวิวตรงนี้ออกมา งั้นฉันไปเอง ไหนๆ ก็จะถึงยอดเขาแล้ว เดี๋ยวพวกเธอรอฉันตรงนั้นก็แล้วกัน”

“งั้น งั้นก็ได้” ถังเสวี่ยตามอีกสองคนไปด้วยความลังเลเล็กน้อย

อี้เป่ยซีเดินไปข้างหน้าคนเดียว หิมะเกาะตัวกันเป็นชั้น ขาวบริสุทธิ์ไร้ซึ่งร่องรอยใดๆ เสียงฝีเท้าดังสวบๆ กระตุ้นเส้นประสาทท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ คอยปลุกเร้าอยู่เป็นช่วงๆ

ชื่นชมธรรมชาติในหุบเขาห่างไกล แม้กระทั่งหายใจก็ต้องทำอย่างระมัดระวัง ตัวเธอราวกับเป็นส่วนหนึ่งของถนนสายเล็ก ผสานเข้าด้วยกันทีละน้อย เหมือนเกลี่ยสีน้ำ เธอและต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดของที่นี่ไม่มีส่วนใดแตกต่าง

บางครั้งบางคราว ศิลปินเหล่านั้นอาจไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์ความงาม แต่เป็นผู้ที่สัมผัสและบันทึกสรวงสวรรค์ที่งดงามตรงหน้านี้ ปลายพู่กันเหล่านั้นจึงวาดได้อย่างเป็นธรรมชาติ และทำให้ผู้คนยอมรับได้ง่ายถึงเพียงนี้

จู่ๆ เสียงฝีเท้าระคายหูก็ลอยมาจากข้างหลัง ดึงให้หลุดออกจากภวังค์ในทันที อี้เป่ยซีโมโหเล็กน้อย น่ารำคาญชะมัด ทั้งๆ ที่อีกนิดเดียวก็จะรู้สึกได้แล้ว แต่ดันถูกใครดึงออกมาเสียอย่างนั้น

“ทางนี้หรือเปล่า?”

“เมื่อกี้เห็นว่าเธอเดินมาทางนี้”

“หาดูอีกทีซิ”

คนประเทศU? ตาขวาอี้เป่ยซีกระตุกเบาๆ รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกดอยู่บนหน้าอกทันที เธอเป็นโรคหวาดระแวงตั้งแต่เมื่อไรกัน ได้มาจากลั่วจื่อหานหรือไง? เธอเดินไปด้านหน้าแค่ไม่กี่ก้าว

“เจอแล้ว”

อี้เป่ยซีหยุดเดิน วิ่งไปข้างหน้าสุดชีวิต คนข้างหลังก็ไล่ตามมาติดๆ

แม้ความรู้สึกจะช้าก็รู้ว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ใด ทว่าเขาเป็นคนของใครกัน

“อย่าหนีนะ เธอหนีไม่รอดหรอก”

“พวกแกเป็นใคร?” อี้เป่ยซีโพล่งคำภาษาต่างประเทศอย่างคล่องแคล่ว คนที่อยู่ข้างหลังส่งเสียงหัวเราะหยาบคาย

“ดูท่าทางคุณหนูอี้ยังไม่ลืมเรื่องตอนที่อยู่ประเทศ U นะ แล้วทำไมจะไม่รู้ว่าพวกเราเป็นใครล่ะ?”

‘ประเทศU งั้นต้องใช่เขาแน่ๆ’ อี้เป่ยซีกัดริมฝีปากอย่างแรง ‘ที่แท้เขาก็’ …เธอเห็นว่าคนข้างหลังกำลังจะตามมาทันแล้ว ชายร่างกำยำเหยียดแขนคว้าเสื้อของเธอเอาไว้ทันที

“ปล่อยนะ พวกแกลืมแล้วเหรอว่าฉันเป็นใคร? กล้าทำแบบนี้กับฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยพวกแกแน่”

ชายคนนั้นหัวเราะดูถูก พ่นคำพูดแปลกๆ ออกมา “พวกเราไม่เชื่อฟังคุณหนูอี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ พวกแกมัวแต่มองอะไรอยู่ ยังไม่ลงมืออีก ไม่รู้จริงๆ ว่าผู้หญิงที่แม้แต่คุณชายลู่ยังไม่กล้าแตะต้อง เวลาอยู่ใต้พวกเราแล้วจะเป็นยังไง ท่าทางของคุณหนูอี้มันก็ชวนให้คาดหวังซะจริงๆ”

สายตาหยาบคายกวาดอยู่บนตัวเธอ อี้เป่ยซีรู้สึกแค่ว่ากลัวจนตัวสั่น เธอกัดลงไปบนมือใหญ่ของเขาอย่างแรง แล้วอาศัยจังหวะที่ปล่อยมือวิ่งหนีไป

‘ไม่ได้นะอี้เป่ยซี วิ่งเข้าไป วิ่งเข้าไป อย่าให้พวกมันจับได้เด็ดขาด’ อี้เป่ยซีกัดฟัน วิ่งไปได้ไม่เท่าไรก็ถูกจับกลับไปอีก ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าเธออย่างโหดเหี้ยม ไม่ช้าใบหน้าน้อยๆ ก็แดงก่ำ

แววตาเยือกเย็น การเคลื่อนไหวของมือเขาชะงัก จากนั้นก็เพิ่มแรงเข้าไปอีก “ต้องขอบคุณคุณหนูอี้ที่เลือกจุดที่สงบแบบนี้” เสื้อขนสัตว์ถูกฉีกออกเป็นสองส่วน การต่อต้านสุดแรงกลายเป็นเพียงอากัปกิริยาเล็กๆ ที่คันไม้คันมือสำหรับเขา อี้เป่ยซีตาแดงก่ำ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“แกปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย ช่วย…”

“บางทีถ้าคุณเชื่อฟังเราสักหน่อย เราทำให้คุณมีความสุขได้นะ ใช่ไหมคุณหนูใหญ่?” พูดจบคนที่อยู่ข้างหลังเขาก็ส่งเสียงหัวเราะอวดดี

ไม่รู้ว่าหิมะเริ่มตกตั้งแต่เมื่อไร แต่ละเกล็ดๆ ร่วงลงบนตัว แต่กลับไม่มีประโยชน์ใดๆ อี้เป่ยซีถูกสองคนนั้นล็อกตัวเอาไว้ กดอยู่บนพื้นหิมะ เสื้อผ้าที่ขาดวิ่นอุดอยู่ในปาก เศษผ้าชั้นสุดท้ายปกปิดร่างกายเอาไว้ เธอหลับตายอมรับชะตากรรม น้ำตาไหลพราก

แต่จู่ๆ มือของผู้บุกรุกก็หยุดชะงัก น้ำหิมะเย็นเฉียบร่วงลงบนตัว หนาวเหน็บจนเจ็บปวด

“ใครน่ะ?”

------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา