Our Love Our Story แด่เรื่องรักนิรันดร์กาล

-

เขียนโดย CherryBlossom

วันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 03.39 น.

  2 chapter
  0 วิจารณ์
  2,409 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2563 03.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) จุดเริ่มต้น-มิถุนายน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

จุดเริ่มต้น-มิถุนายน

 

2 สัปดาห์ผ่านไป เข้าสู่สัปดาห์กีฬาสีโดยสมบูรณ์

 

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2562

 

"ค่ะครูเอ็ม ขาดคนทำคัตเอาท์ใช่ไหมคะ เดี๋ยวไบร์ทจะรีบเคลียร์คำนิยมส่งสำนักพิมพ์แล้วไปช่วยงานที่โรงเรียนนะคะ"

"ไม่เป็นไรไบร์ท ถ้าไม่สะดวกก็จัดการงานตัวเองก่อนนะ"

"โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ"

 

งานเข้าอย่างจัง เดทไลน์คำนิยมวันนี้ งานคัตเอาท์ก็เร่งเหลือเกิน หวังว่างานบอร์ดป๋าเปรมของกรรมการนักเรียนที่ฝากอ้อนไว้คงไม่มีปัญหานะ

 

ไลน์ !

"หายไปไหนกันหมดคะกรรมการนักเรียน ทำไมสภาพบอร์ดเป็นแบบนี้"

"พวกเราออกมาพักทานข้าวค่ะ เสร็จแล้วจะกลับไปนะคะ"

"ผมไปช้าหน่อยนะครับ อาจจะถึงบ่าย ๆ ยายติดธุระ"

 

โอเค เยี่ยมเลย ปัญหาเพิ่มอีกแล้ว เห็นทีต้องไปโรงเรียนเองแล้วจริง ๆ

หลังจากเคลียร์งานให้สำนักพิมพ์เรียบร้อย ป๊าก็รีบพามายังโรงเรียนในเวลาบ่ายโมงของวันเสาร์นี่แหละ

 

จะไปไหนก่อนดีล่ะ ?

คัตเอาท์ที่โรงยิม ?

หรือ

งานกรรมการนักเรียนในตึก?

 

ปวดงิ้งหง่องแฮะ งั้นเข้าไปในตึกงิ้งหง่องสักหน่อย เช็คงานกรรมการด้วย แล้วค่อยกลับมาทำคัตเอาท์ละกัน

เมื่อมาถึงก็แจ็คพ็อตแตก

ประตูห้องน้ำชั้นแรกถูกล็อค

ช่วยไม่ได้ ต้องไปห้องน้ำชั้นสาม

 

ที่บอร์ดกรรมการก็ไม่มีใครสักคนทั้งที่นี่ก็บ่ายโมงกว่าๆแล้ว จะทานข้าวอะไรกันนานขนาดนั้น

"อ๊ะ...จุ้ย เกิดอะไรขึ้น คนอื่นไปไหนหมด ครูนิสล่ะ"

"เราเพิ่งมานี่แหละ มาถึงก็เจอครูยืนหัวร้อนอยู่ แกสั่งให้แกะบอร์ดออกมาทำใหม่หมด"

"แสดงว่าคนอื่นกลับแล้ว ? "

"ไม่รู้สิ"

"ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ หายจ๋อมกันไปหมด เหลืออยู่แค่เนี้ยแหละ"

คำตอบทุกอย่างกระจ่างเมื่อครูนิสปรากฏตัว

แย่

แย่มาก

ทำไมแย่ขนาดนี้

"ยังไงซะก็ต้องทำบอร์ดใหม่ทั้งหมด ให้เสร็จภายในวันนี้ด้วย"

"อะ...อะไรนะคะ !? ทำใหม่หมด แค่พวกเราเนี่ยนะ"

"ก็ใช่ไง ทำไงได้ล่ะ เพราะวันจันทร์นี้บอร์ดต้องโชว์แล้ว มีใครมาอีกไหมล่ะ"

"คิดว่าไม่นะครับ"

"ก็ตามนั้น ตกใจไปก็ไม่ช่วยอะไร"

"งั้นก็มาเร่งมือกันเถอะค่ะ"

และแล้วการทำบอร์ดใหญ่เทิดป๋าเปรมด้วยแรงคน 3 คนก็ได้เริ่มขึ้น

 

จนดำเนินมาจนถึง 16.00

"เดี๋ยวครูต้องไปจัดการเรื่องลูกคนโตก่อน ฝากตัวเล็กด้วยนะ ยังไงก็ทำงานกันไปละกันนะ กลับมาอีกทีคงจะเกือบๆ 5 โมง"

"โอเคค่ะ ขี่รถดีๆนะคะครูนิส เหมือนฝนทำท่าจะตกด้วย"

"โอเค ไปละ"

 

แล้วทีนี้ยังไงล่ะ อยู่กันแค่สองคนอ่ะนะ

ถึงจะมีลูกคนเล็กของครูอยู่ด้วยก็เถอะ แต่น้องก็เอาแต่เล่นคอมในห้องพักครู

แอบเกร็งๆแฮะ

 

"เริ่ิมชินแล้วยังล่ะ มาอยู่ที่นี่ได้ตั้งปีกว่าแล้วนี่"

โอเค เราเปิดประเด็นก็ได้วะ

 

"ก็พอได้นะ ปรับตัวได้แล้ว"

"อ่อ"

"..."

บ้าจริง แล้วก็กลับมาเงียบอีกรอบอ่ะนะ

 

"จริงๆแล้ว เราอยากเข้าเรียนที่นี่ตั้งแต่มอต้นละ"

อ่ะอ่าว เปิดประเด็นก่อนเฉยเลย

"จริงดิ"

"อืม บ้านเราอยู่ใกล้บ้านภู เห็นภูเรียนที่นี่แล้วมันดูเท่ยังไงชอบกล ก็เลยอยากเรียนที่นี่บ้าง แต่ตอนนั้นซิสเตอร์ที่โรงเรียนเก่าขอไว้ให้อยู่ที่เดิมต่อ ก็เลยไม่ได้มาสอบที่นี่น่ะ"

"โห ฮอตพอตัวเนาะ...แล้วเป็นไง พอเข้ามาแล้วมันดีอย่างที่คิดไหมล่ะ"

"อื้ม ดีมากๆเลยด้วย ได้ทำอะไรที่อยากทำจริงๆ"

"ขับเสภาไรงี้อ่ะเหรอ"

ไหน ๆ ก็ขอแซะสักหน่อยละกัน

"นั่นก็ใช่ แต่เราเก่งเรื่องพวกนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว"

อ่ะ จ้า พ่อคนเก่ง

"ยี้ ขี้โม้ แต่เข้ามาก็คงจะรู้ชื่อเสียงเรียงนามของเราล่ะสิ"

"แน่นอนดิ เข้ามาถึงก็ได้ยินแต่ชื่อวริศรา วริศรา วริศรา"

"ก็อ่ะนะ จะว่าไป เราเคยเจอกันตอนมอสี่ใช่ไหม"

"อื้มใช่"

"ก่อนจะรู้จักกันจริงๆ จุ้ยคิดว่าเราเป็นคนยังไงล่ะ"

"อืม...รู้สึกว่าต้องเป็นผู้หญิงแรงๆ"

"ห้ะ ทำไมคิดงั้น"

นี่มันบ้ามาก ถามมาร้อยคนก็บอกว่าฉันดูหยิ่ง แต่นายนี่กลับบอกว่าฉันดูแรง อ่อม...

"ก็ส่วนใหญ่พวกผู้หญิงที่ชื่อนี้ก็นิสัยแรงๆกันทั้งนั้น"

"อย่าเหมารวมดิเห้ย ละเป็นไงพอได้รูัจักจริงๆ"

"ก็...เข้าถึงง่ายดีล่ะมั้ง ช่างพูดด้วย"

"เห็นไหมล่ะ รีบลบภาพแย่ๆแบบนั้นออกไปเลย"

"รู้แล้วๆ ละแกอ่ะ ตอนเจอเราครั้งแรกกับตอนนี้ เห็นเราเป็นยังไง"

มีถามกลับด้วยแฮะ นึกว่าจะเมินความคิดเราซะอีก

"รู้สึกว่าพูดน้อย โลกส่วนตัวสูง แต่พอเอาเข้าให้จริงๆก็ขี้โม้เหมือนกัน ฮ่าๆ"

"ว่าแต่คนอื่น ตัวเองก็ใช่ย่อยนะ"

            “ธรรมดามากบอกเลย”

ตอนทำงาน เขาต้องก้มเยอะมาก ไม่เข้าใจ ทำไมไม่ยอมติดกระดุมเสื้อกันนะ จะโชว์ทำไมหนักหนา

            “จ้องตาเป็นมันเชียวนะ”

            “ใคร...ใครจ้อง!? ใจเย็นนะ จุ้ยไม่พิศวาสเราหรอก”

            “เหอะ ก็ไม่ต่างกันหรอกน่า”

"ช่างเถอะ ว่าแต่...เราบอกคนในกรรมการนักเรียนหน่อยไหมว่าทำงานกันแค่สองคน"

"เอาสิ"

"ปัญหาคือเราไม่ได้เอาสมาร์ทโฟนมา เอามาแต่มือถือพ่ออ่ะ ขอยืมหน่อยได้ป่าว"

ที่ไม่เอามาเพราะรีบออกจากบ้านนี่แหละ งานชนกันหมด

"อื้อ เชิญเลย"

"จะเซลฟี่นะ ยิ้มหน่อย หนึ่ง สอง สาม"

แชะ

บอกตรงๆว่าหัวร้อนนะเนี่ยโดนทิ้งให้ทำงานแบบนี้

 

"เอ่อ ขอโทษที่เสียมารยาทนะ เผลอไปอ่านแชทของตาอ่ะ มันเด้งมาพอดี"

เขาเงียบไปสักพักก่อนจะตอบ "ไม่เป็นไร"

อืม รู้สึกขัดใจนิดหน่อยแฮะ

"นี่อย่าบอกนะว่ากิ๊กกันอยู่"

"เปล่าสักหน่อย เป็นเพื่อนคอยให้คำปรึกษาน่ะ"

"ฮั่นแน่ ชอบเขาก็บอกเถอะ ดูออก"

"ไม่ได้ชอบจริงๆ ว่าแต่คนอื่น แกก็น่าจะฮอตนี่"

ฮู่ว....

แล้วทำไมต้องโล่งใจด้วยวะ เขาจะมีใครก็เรื่องของเขาไหม ...

"ก็ฮอตอยู่นะ เลิกกับแฟนไปได้สัก4เดือน คนคุยปัจจุบันก็หายไปละ มีรุ่นพี่มอหกที่จบไปมาตามตื๊อเป็นพัก ๆ น่ารำคาญเป็นบ้า นี่สินะที่บอกว่าฮอตจริงๆ"

"เอ่อ ขอโทษ เราไม่ได้ตั้งใจ"

"ช่างเถอะ ไม่เป็นไร เพราะยังไงตอนนี้เราก็มีคนใหม่ในหัวใจละ"

"หืม ใครน่ะ"

"ทีชเชอร์แอนเดอร์ ฮิๆ"

"โหยยยยย เล่นของใหญ่"

"ใจเย็นนะพ่อหนุ่ม ฮีแกออกจะน่ารัก หวีดหนักมาก แกค่อนข้างจะสนิทกับเราเลยแหละ"

"น่าภูมิใจจังเนาะ"

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร แต่เรารู้แค่พอได้คุยกับเขามันก็สนุกดี จนอยากคุยกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

 

"กลับมาแล้ว เปียกโชกเลย"

"อ้าวครูนิส โอเคไหมคะ"

"ไม่เป็นไร งานถึงไหนละ"

"จะเสร็จแล้วครับ"

"มาเร่งมือต่อเถอะ"

 

แล้วพวกเราสามคนช่วยกันทำบอร์ดป๋าเปรมจนเสร็จ ตอนที่ต้องเอางานขึ้นบอร์ด เพราะต้องยกแขนและขยับร่างกายด้วยล่ะมั้งเราถึงได้กลิ่นสบู่กับโลออนของเขาอ่อน ๆ

รู้งี้ วันนี้น่าจะฉีดน้ำหอมมาสักหน่อยแฮะ

แต่งตัวก็บ้าน ๆ เสื้อคิตตี้โชว์นิ้วกลางกับกางเกงวอร์มขาสั้นทำดูเห่ยไปเลย

...แล้วทำไมเราต้องคิดเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ด้วย ?

บ้าไปแล้ว ปกติเราไม่เคยสนใจเรื่องการแต่งตัวนี่นา

อีกอย่างที่แต่งตัวแบบนี้เพราะกะจะมาทำคัตเอาท์หรอกนะ

เฮ้อ เลิกคิดดีกว่า...

 

เมื่อนำงานขึ้นบอร์ดเสร็จก็มีการถ่ายเซลฟี่สามคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่านี่เป็นผลงานของพวกเราแค่สามคนเท่านั้น รวมแล้ว4ชั่วโมงพอดี

เหนื่อยบ้าาา

 

17.30 น.

"จุ้ยกลับกับครูก็ได้ บ้านไปทางเดียวกัน ไม่ต้องรบกวนยายหรอก"

"ไม่เป็นไรครับ ผมโทรบอกยายไปแล้ว"

"เอางั้นละกัน แล้วไบร์ทล่ะ กลับยังไง"

"เดี๋ยวพ่อมารับค่ะ"

"โอเค งั้นครูไปละนะ ฝนจะตกอีกรอบด้วย มีแต่มอเตอร์ไซค์เนี่ย"

"ค่ะครูนิส ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับวันนี้"

"อืม ส่วนพวกนั้นค่อยจัดการวันจันทร์"

“สวัสดีครับ”

 

เอาจริงๆ ก็แอบดีใจนะที่เขาอยู่เป็นเพื่อน มันก็เย็นมากแล้วด้วย โรงเรียนไม่ค่อยมีคนอีก

พวกเราไปรอกลับบ้านที่อาคารโฮป นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนเราอยากให้เวลาหยุดอยู่แค่ตรงนั้น

            “บางทีเราก็แอบคิดนะ ว่าหาคนคุยใหม่ดีไหม”

เล่นรุกแรงไปไหมวะ ดูแรดจัง ฮ่า ๆ

            “หืม...สนใจใครอยู่ล่ะ”

            “ก็เห็นคนแถวนี้คุยสนุกดี แต่ดูท่าทางเขามีคนคุยอยู่แล้ว ไม่อยากเอาหัวใจเข้าไปเสี่ยงแฮะ”

ยังไงก็ลองเชิงดูก่อนดีกว่า

            “ไม่มีสักหน่อย บอกแล้วนี่นาว่านั่นแค่เพื่อน ไม่มีเคนคุยเลยสักคน”

            “รีบออกตัวเร็วขนาดนี้แสดงว่าอยากคุยกับเราล่ะสิ”

            “ก็น่าจะรู้ ๆ กันอยู่”

เดี๋ยว ๆ เอาจริงเหรอวะเนี่ย

แล้วทำไมเราต้องรู้สึกดีใจด้วย

            “ชงเก่งเนอะ”

            “ก็ชงเก่งหมดทุกอย่างนะ ชงชาเก่งมากด้วย อยากลองไหมล่ะ เดี๋ยววันจันทร์ชงมาให้”

            “อย่าท้านะ เอาสิ”

            “ให้แล้วต้องรับนะ”

            “แน่นอนอยู่แล้วสิ”

            “ยายเรามาแล้ว เราต้องไปละ ดูแลตัวเองด้วยนะ”

            “อื้ม ขอบคุณมากนะสำหรับวันนี้”

            “เช่นกัน”

อ่า...

แอบเสียดายแฮะที่เขากลับก่อน อยากอยู่คุยด้วยกันอีกสักพัก

 

คืนนั้นเราจึงตัดสินใจส่งข้อความไปขอบคุณที่เขาอยู่ด้วยเมื่อตอนเย็น

ความรู้สึกจั๊กจี้ที่หัวใจมันกลับมาอีกครั้งหลังจากที่เราไม่ได้รู้สึกมาเป็นแรมเดือน

มันต่างกับที่เรารู้สึกกับทีชเช่อร์แอนเดอร์หรือครูจ๊อยส์

 

เราอยากได้เขา

 

บ้าจริง...

อย่าเพิ่งจริงจังก่อนสิ เดี๋ยวก็ได้เจ็บซ้ำซ้อนอีกหรอก

อีกอย่าง เขาอาจจะมีคนคุยหรือคนที่ชอบอยู่แล้วก็ได้

 

แล้วยังไงล่ะ ? ถ้าอยากได้ก็แค่ไปแย่งมาก็พอแล้วนี่

ฮือ ทำไมด้านมืดต้องตื่นตอนนี้ด้วยนะ

เอาเป็นว่า

รับไว้เป็นคนคุย 1 อัตราก็แล้วกัน

เผื่อใจไว้เยอะ ๆ เพราะถ้าพลาดเดี๋ยวก็ตั้งหลักไม่ทันพอดี

 

เช้าวันจันทร์มาถึง ใครมันจะรู้ล่ะวะนั้น ชงชามาให้จริง ๆ ด้วย !!

“ก็บอกแล้วว่าจะชงมาให้”

“บ้าจริง ไม่เห็นต้องทำถึงขนาดนี้เลย”

“สัญญาแล้วนี่ว่าจะรับ อุตส่าห์ตื่นมาชงตั้งแต่เช้าเลยนะ”

“อ่ะ...โอเค ขอบคุณนะ”

แล้วเขาก็วิ่งไปทำภารกิจต่อ ปล่อยให้เรายืนยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าคนไร้สติ

เฮ้อ จุ้ย นายมันบ้า !

ใจเต้นแรงไม่หยุดเลย

 

ตอนขึ้นห้อง ครูพัชรีก็ทักด้วย ว่าทำไมดื่มชา มันไม่ดีต่อสุขภาพ ยาวเลยจ้ะ

ก็เลยแอบแหลไปว่าเป็นของครูศรี แง่ หนูขอโทษค่ะครู แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา

 

หลังจากวันนั้น พวกเราก็เอาใจใส่กันมาขึ้นเรื่อย ๆ

เขาซื้อน้ำมาให้เราทุกวัน ซื้อพลาสเตอร์มาให้เพราะรู้ว่าเราถูกรองเท้ากัดเป็นแผล เราก็ตอบแทนเขาด้วยของเล็ก ๆ น้อย ๆ สลับกันไปมา

เรารู้สึกว่าเขาเทคแคร์เรามาก ๆ

มันเป็นสิ่งที่เราไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลย

 

นี่เราใจง่ายเกินไปไหมนะ ?

ไม่หรอก ทำในสิ่งที่ใจเราต้องการดีกว่า

 

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2562

งานกีฬาสี

เมื่อขบสนเกียรติยศของเราเข้าสู่สนาม และเป็นจังหวะที่ยังไม่ถึงบทพิธีกรของเขา

เราสบตากันเล็กน้อยแล้วต่างยิ้มมุมปากอย่างเหนียมอาย ราวกับสื่อสารกันรู้เรื่องแล้ว

คงใช่...

 

“คุณ...สวยมากเลยนะวันนี้”

“จริง ๆ แล้วก็สวยทุกวันนะ”

“ก็สวยกว่าทุกวันไง ฮ่าๆ”

“...คุณก็ด้วยแหละ หล่อมากเลยนะ เท่ดี”

ทำไมเราถึงไม่กล้าสบตาเขากันนะ ทำไมต้องรู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ ด้วย

อ่า เขินจัง

            “ไบร์ท พี่กำลังหาตัวอยู่พอดีเลย”

การปรากฏตัวของบุคคลที่สามทำเอาเราตั้งสติไม่ถูก

            “พี่ธาม...”

            “...”

คนข้าง ๆ ก็คงไปไม่เป็นเหมือนกัน

            “มาถ่ายรูปด้วยกันสิ ได้ไหม เฮ้ยมึง ถ่ายรูปกูกับน้องให้หน่อย ขอแบบดี ๆ เลยนะเว้ย”

คือกูยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะเว้ย ...

            “เฮ้ยธาม มึงเข้าไปใกล้ ๆ น้องเขาหน่อยดิ ภาพไม่โอ”

            “พี่ขออนุญาตนะ”

ขยับให้ตายก็ไม่ได้ใกล้หรอกจ้า ฉันก็ขยับออกสิ ยากอะไร

            “...”

จุ้ยได้แต่ยืนเงียบ เขาไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรออกมาทั้งนั้น

            “วันนี้ไบร์ทสวยมากเลย พี่จำแทบไม่ได้เลยค่ะ คือไบร์ทพอจะมีเวลาไหม คือพี่...”

            “ขอบคุณที่มาหากันนะ แต่ขอโทษค่ะพี่ธาม ไบร์ทต้องไปแล้วค่ะ คิวเยอะ คนสำคัญรออยู่ด้วย สวัสดีค่ะ”

            “เอ้าไบร์ท! เดี๋ยวสิ ...”

จะอ้อนวอนอะไรก็ไม่ได้ผลทั้งนั้นแหละ เรื่องอะไรจะกลับไปหาคนแบบพี่ล่ะ

ต่อให้ขอโอกาสอีกหลายร้อยครั้งก็ไม่เอาด้วยหรอก

 

            “ขอโทษนะ รอนานไหม เรายังไม่ได้ถ่ายรูปกันเลย”

            “คนเมื่อกี้ พี่ธามเหรอ?”

            “อืม อย่าสนใจเลย มาถ่ายรูปกันดีกว่า อ่ะ! ซ่าน ถ่ายให้หน่อยนะ”

            “โหไบร์ท ยืนคู่กันแบบนี้เหมือนคู่แต่งงานกันเลยอ่ะ ฮิ้ววววว”

            “ฮิ้ววววววว”

เยี่ยมจร้า มีลูกคู่เรียบร้อย หน้าแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศแล้วมั้ง

พอลองเงยหน้าไปดูอีกฝ่ายก็พบว่าเขาก็เขินไม่แพ้กันแหละ ฮ่าๆ

 

นับว่าเป็นกีฬาสีที่ล้ำค่ามาก เราได้เป็นผู้ช่วยในการพากย์กีฬาคู่กับเขา เราดีใจมากจริง ๆ ที่ได้อยู่กับเขาทั้งวันโดยไม่ต้องหาข้ออ้างใดทั้งสิ้น

 

ตอนบ่าย แดดร้อน หน้าเริ่มเยิ้ม อืม...เราก็แต่งหน้าไม่เป็นด้วยแฮะ

            “เห้ย อย่าทำแบบนั้น อยู่นิ่ง ๆ”

            “อ่ะ อืม”

จู่ ๆ เตยที่มาจากไหนก็ไม่รู้ ก็ใช้มือเกลี่ยแป้งให้

จริง ๆ เราก็ไม่ค่อยชอบจริตเขาเท่าไร แต่ทำแบบนี้ก็หวังว่าจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร

            “อ่ะ สวยละ”

            “ขอบคุณนะเตย เหนื่อยหน่อยนะ สู้ ๆ”

            “จ้ะ”

 

ตกเย็น

หลังจบพิธีปิด ทุกคนต่างกลับบ้าน ฝนก็เริ่มตกด้วย เรามีนัดกับพี่มิวและเจ้าเฟรมไปกินราเมงกัน แต่ก่อนหน้านั้น

            “เฮ้ยเตี้ย! พี่หาแกทั้งวันเลยนะเว้ย”

            “ทำไมยังไม่กลับอีก รออะไร”

ผู้น่ารำคาญหมายเลขสอง พี่วิสัยทัศน์ ไอ้นี่ก็เอาแต่ตามเราทั้งวันละ บล็อกเราด่าเราไปสารพัดแล้วนี่ จะมาอาลัยอาวรณ์กันอีกทำไม

            “พี่ขอโทษจริง ๆ พี่ไม่น่าทำแบบนั้นกับแกเลย แกลับมาคุยกับพี่เหมือนเดิมเถอะ”

            “พอเถอะ น้องไม่ชอบ”

            “เตี้ย พี่ต้องทำไงวะ พี่ชอบแกจริง ๆ นะเว้ย”

            “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น กลับไปซะ แล้วก็ ...น้องมีแฟนแล้วด้วย คนนี้ไง”

ว่าพลางก็ชี้ไปที่จุ้ยซึ่งตอนนี้กำลังทำหน้างงเป็นไก่ตาแตก

            “ไม่เชื่ออ่ะ ไอ้นี่อ่ะนะ”

            “อืม จะทำไม เดี๋ยวไม่นานก็เป็นแล้ว”

            “ไม่อ่ะ แกกำลังโกหกพี่ใช่ไหม พี่ขอโอกาสนะ”

            “กลับไปเถอะ ขอตัวไปทำงานละ ไปเถอะจุ้ย”

เราไม่สนใจ จับมือจุ้ยเดินออกมาจากตรงนั้น

ทำไมวันนี้มันเนื้อหอมเป็นพิเศษจัง

 

หลังจากนั้นพวกเราก็เก็บของพวกคัตเอาท์ จุ้ยมาช่วยด้วย แต่เขาดูฉุนเฉียว เผลอโดนตะปูบาดมือด้วย เรารู้สึกผิดมากที่ทำให้เขาบาดเจ็บ

เราจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนที่รักที่สุดพันแผลให้

            “เราขอโทษนะ ไม่น่าชวนคุณมาเลย ทำให้คุณเจ็บตัวจนได้ คุณเจ็บมากไหม”

            “ไม่เป็นไร”

            “ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ เก็บไว้ให้ดีนะ เราให้”

เราแค่หวังว่าจะได้อยู่กับเขาอีกสักพักก็ยังดี แต่ถ้ามันทำให้เขาต้องเจอเรื่องแบบนี้ ...ก็ไม่น่าเลย

 

พวกเราแยกย้ายกันกลับ จุ้ยหายไปไหนก็ไม่รู้ พวกเรายังไม่ได้บอกลากันเลย

            “ไบร์ท ไปกินราเมงกัน พี่เลี้ยงเอง”

            “อ่า...โอเคค่ะพี่มิว”

 

พวกเราสายรหัสไปกินเลี้ยงกันสักพัก ด้วยความที่เป็นห่วงจุ้ย เราเลยส่งข้อความไปหาและรู้ว่าเขายังอยู่ที่เซเว่นเพราะกำลังซื้อร่ม

ตอนนั้นเราไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เราออกจากร้านโดยที่ไม่ได้บอกอะไรใครเลย

            “พี่รหัส! ไปไหน!”

            “ไปเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย!”

 

เราตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง วิ่ง และวิ่ง แม้ว่าฝนจะตกหนักแต่เราก็ไม่สน

เรารู้แค่ เราต้องไปหาเขา...

 

และแล้ว...

 

“แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ เจอตัวแล้ว”

“คะ...คุณ นี่อย่าบอกว่าวิ่งฝ่าฝนมานะ ทำแบบนี้ทำไม”

“แล้วใครล่ะที่ทำให้เราต้องวิ่งมาแบบนี้น่ะ”

 

เราคว้าพลาสเตอร์ไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ก่อนจะยื่นให้เขา

“เอาไปใช้ซะ ขอโทษที่ทำคุณเจ็บ”

“จริง ๆ ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้”

“ต้องสิ ...เราเป็นห่วงคุณ”

“...”

“ห่วงมากจริง ๆ “

“อะ...อื้ม ขอบคุณนะ”

พอเงยหน้ามาดู ก็พบว่าเขายิ้มแก้มปริแล้ว

            “ได้ร่มแล้วเหรอ”

            “อื้ม ไปด้วยกันสิ เดี๋ยวเราไปส่ง”

            “อ่ะ ขอบคุณนะ”

            “เราสิที่ต้องขอบคุณ คุณอุตส่าห์วิ่งฝ่าฝนมาเพื่อเราเลยนะ กลับบ้านอย่าลืมอาบน้ำสระผมล่ะ”

            “ฮ่า ๆ เรารู้ดี มันบ้าคลั่งมากเลย เราไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ”

            “เราดีใจนะ”

            “...หมะ...แหม! คุณนี่มันโชคดีเนอะ ถึงแล้ว...คุณจะเข้าไปนั่งด้วยกันไหม”

            “ไม่เป็นไร เราเพลียพอตัวเลย เดี๋ยวยายเป็นห่วงด้วย ต้องไปพักสักหน่อยแล้วล่ะ”

            “งั้นเหรอ...น่าเสียดายแฮะ แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ”

            “คุณก็ด้วย แล้วเจอกันนะ”

            “อื้อ เจอกันในแชทนะ”

แล้วเขาก็เดินกลับบ้านไป เรากลับมานั่งกินราเมงท่ามกลางเสียงแซวของทุกคน

 

เป็นเดือนที่เหนื่อยเอาการจริง ๆ แต่ก็เป็นการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ประสบการณ์และความรู้สึกที่เราไม่เคยสัมผัส

พอเป็นแบบนี้แล้ว...

 

มันทำให้เราอยากรู้จักเขาไปเรื่อย ๆ

 

ขอบคุณนะ มิถุนายน

 

 

-CherryBlossom

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา