แก้วนพคุณ

-

เขียนโดย เวลา

วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.59 น.

  38 บท
  0 วิจารณ์
  25.22K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

28) การบ้านคณิตศาสตร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หลังจากนั่งคุยกันอยู่นาน พวกพริมาถึงได้รู้จักชื่อของสามหนุ่มสามมุม   คนแรกเจ้าของบ้านที่อยู่ถัดไปจากโฮมสเตย์นั้นชื่อจักรินทร์หรือแจ๊ค เขาอายุ 20 ปี กำลังจะจบ ปวส.สามหนุ่มเป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกัน...ที่หลังๆ นอกจากเป็นเพื่อนเรียนแล้วยังเป็นเพื่อนกินเหล้าด้วย แจ๊คคนที่ดูรวมๆ แล้วจะหน้าตาดีกว่าเพื่อน แต่คนหน้าตาดีเมื่อคืนอกหัก และที่เมาโหวกเหวกโวยวายเมื่อคืนนั้นก็ไม่ใช่นิสัยเขา ( อันนี้เจ้าตัวบอก) แต่เพราะโดนแฟนสาวบอกเลิกเมื่อวาน...เขาถึงต้องย้อมใจ และเพื่อนรักของเขาสองคนก็ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน (อันนี้เพื่อนเขาเป็นคนบอก)

            “เมื่อคืนไอ้แจ๊คมันอกหักครับ” พริมาได้ยินแจ๊คเรียกเขาว่าไอ้แดง แดงเป็นหนุ่มผิวเข้มติดอวบเล็กน้อย...บางทีสองหนุ่มที่เหลือ ก็เรียกเขาว่าดำ จนพริมาต้องฟังอยู่หลายรอบถึงจับใจความได้ว่าความจริงแล้วเขาชื่อแดง
            “ช่าย พวกเราก็เลยต้องพาเพื่อนไปปลอบใจ” คนนี้นพคุณจำแม่นเขาชื่อเม่น...หมอนี่ชอบแอบมองพริมา หงุดหงิด!

            “ปกติเรากินที่บ้านครับ” แจ๊คบอกว่าพวกเพื่อนๆ เขาจะชอบมารวมตัวกันที่บ้าน ยิ่งถ้าวันศุกร์ พวกนี้จะต้องมานอนที่บ้านเขาเป็นประจำ เมื่อก่อนแม่เขาก็บ่นอยู่บ่อยๆ แต่เพราะพอเช้าพวกนี้ช่วยที่บ้านเขาทำงาน หลังๆ ถ้าพวกเพื่อนเขาไม่มา แม่เสียอีกที่โทรไปตาม

            “เห็นแมนๆ เถื่อนๆ แบบนี้ พวกนี้ทำขนมเก่งนะ” แจ๊คชี้ไปที่เพื่อน   สองคนของเขา เขาเล่าว่าที่บ้านเขาทำขนมไทยส่งที่ตลาดน้ำ ทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และขนมหม้อแกง

                “ไอ้พวกนี้ช่วยทำจนคล่อง นี่ก็กลัวอยู่ว่ามันจะขโมยสูตรแล้วไปขายแข่ง”

                “ว้าว! ลูกแก้วก็ชอบทำขนมค่ะ แต่ตระกูลทองนี่ยังไม่เคยลองสักที” พริมา ดูสนใจ นพคุณคิดในใจ...ไอ้พวกนี้ช่างบังเอิญมีงานอดิเรกตรงกับความชอบของสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างตัวเขาพอดี อะไรมันจะบังเอิญแบบนี้

            “ไปดูได้ไหมพี่?” คเชนทร์เป็นคนถาม...ไอ้หน้าหมามันจะมาสนใจอะไรกะอีแค่ทำขนม...และเหมือนไอ้หน้าหมาจะเห็นสายตานพคุณ เขาหันมายักคิ้วให้ตามสไตล์

                “จะไปถ่ายรูป” คเชนทร์ตอบคำถามในใจของนพคุณได้หยั่งกะมีหูทิพย์

            “ไปสิ เดี๋ยวพาไป ถ่ายรูปแล้วเอาไปลงโฆษณาให้ด้วยนะ เผื่อร้านแม่จะดัง” แจ๊คขันอาสา

            “กลับมาก่อนเที่ยงนะ เดี๋ยวเราไปแวะสวนยายขวัญกันก่อนกลับ” ภารดีหันมาบอก...หล่อนกำลังคุยไลน์กับใครบางคน นพคุณเดาว่าน่าจะเป็นสาวิช พวกเด็กๆ เดินตามสามหนุ่มไป…บ้านแจ๊คเป็นบ้านไม้สองชั้น หน้าบ้านค่อนข้างรก แต่ที่รกเพราะของเยอะ ไม่ใช่รกขยะหรือว่าสกปรกอะไร

            “รกหน่อยนะ ของมันเยอะไม่มีที่เก็บ” เหมือนเจ้าของบ้านจะรู้ความคิดแขก หนุ่มหน้าตี๋ที่ชื่อเม่นนำทางพาพริมาและยามาไปทางหลังบ้าน     ที่แม่ของแจ๊คกำลังง่วนอยู่กับการทำขนมตระกูลทอง

            “ทางนี้เลยครับสาวๆ” หนุ่มตี๋กุลีกุจอ จนใครบางคนที่เดินรั้งท้าย    อดหมั่นไส้ไม่ได้

                “พี่เขาน่ารักดีเนอะ” คเชนทร์หันมาบอกนพคุณแล้วเดินอมยิ้มตามสาวๆ ไป

            “น่ารักบ้าน่ารักบออะไรวะ” นพคุณพึมพำเบาๆ อย่างขัดใจ         ตอนนี้แม่ของแจ๊คกำลังทำขนมทองหยอด พริมาตรงเข้าไปนั่งข้างๆ หล่อน   ยกมือไหว้คุณป้าแล้วชะโงกหน้ามองอย่างตั้งใจ ป้าเย็นใจเป็นผู้หญิงตัวอ้วนใหญ่ เสียงดัง ตอนแรกหล่อนแปลกใจที่ลูกชายพาคนแปลกหน้าเข้าบ้าน เพราะแขกหน้าตาไม่คุ้นเลยสักคน จะว่าคนแถวนี้ก็ไม่น่าจะใช่

            “เพื่อนไอ้แจ๊คหน้าตาอุบาทว์ ไม่เห็นมีดีสักคน” ป้าเย็นใจบอก         ผู้มาเยือนเสียงดัง

                “อ้าว!” สองหนุ่มร้องพร้อมกัน แต่ไม่มีใครถือสาอะไร...สงสัยจะโดนด่าบ่อย พริมาได้ลองทำขนม และดูหล่อนจะสนุกเป็นพิเศษ

            “พวกตระกูลทองนี่ลูกแก้วเข้าใจได้นะคะ แต่หม้อแกงนี่มันจะดู      ผ่าเหล่าผ่ากอไปหน่อยไหมคะคุณป้า มันไม่เข้าพวกยังไงก็ไม่รู้” เด็กสาวสงสัย เพราะขนมทองหยอดที่หล่อนกำลังลองทำดูสีสวยน่ากิน แต่หม้อแกงนั้น     ถ้าเปรียบเป็นสาวก็ดูจะกร้านดำกรำแดดไปหน่อย ไม่สวยเหมือนสาวๆ ทองหยิบ ทองหยอด หรือฝอยทอง...เหมือนมาจากคนละที่

                “พวกทองๆ พวกนี้น่ะมันใช้ไข่แดงไงหนู คราวนี้ไข่ขาวก็เหลือเต็มไปหมด จะเอาไปทำอะไรได้ล่ะ ทิ้งก็เสียของ ก็มีขนมหม้อแกงนี่แหละที่มันใช้ไข่ขาวเยอะ” ป้าเย็นใจตอบเสียงดัง พวกที่ยืนฟังอยู่ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ เข้าใจ

                “อ๋อ! แบบนี้นี่เอง ถึงจะสวยสู้สาวๆ ตระกูลทองไม่ได้แต่ก็แซ่บได้ใจนะคะ” ยามาออกความเห็น เด็กๆ นั่งดูคุณป้าทำขนมกันอย่างสนุกสนาน ป้าก็ดูจะ   มีน้ำใจ ถึงจะยุ่งยังไงก็ยังหันมาตอบคำถามแขกของลูกชายอย่างใจเย็น พริมาซื้อขนมกลับไปฝากเพื่อนๆ ที่โรงเรียนหลายอย่าง ป้าจะให้ฟรีแต่หล่อนบอกว่าไม่ได้ขอให้ลดราคาให้แทนเจ้าของบ้านถึงยอม

            “ถ้าลูกแก้วมาเที่ยวแถวนี้อีกจะแวะมาหานะคะ” ป้าเย็นใจดูจะถูกใจสาวน้อยเป็นพิเศษ เพราะหล่อนหน้าตาแปลกกว่าเด็กแถวๆ นี้ และพูดจาเรียบร้อยน่ารัก

            “แถวนี้มีแต่พวกทะโมนทั้งนั้นแหละ น่ารักเรียบร้อยแบบนี้ไม่มีหรอก” ป้าเย็นใจหัวเราะเสียงดังนินทาเด็กแถวบ้านให้แขกฟัง

            “ในกลุ่มก็มีนะครับทะโมน” คเชนทร์ขยิบตาไปทางยามา...และไม่พลาดเขาโดนถองไปทีหนึ่ง

            “อ้าว ไอ้เจมส์ตื่นแล้วเหรอมึง จะเที่ยงอยู่แล้วน้ำก็ไม่อาบ ไม่อายแขกบ้างเหรอ?” ป้าเย็นใจหันไปด่าลูกชายคนเล็กโชว์แขก เด็กชายเห็นมีสาวๆ อยู่ในบ้านก็ยิ้มเขิน เขามายืนแอบพี่ชายแอบมองพริมากับยามาสลับกัน

                “ชอบคนไหนล่ะ?” คเชนทร์แซวถาม เจอแซวแบบนี้เด็กชายยิ่งอายม้วน

            “ไอ้นี่มันเจ้าชู้เหมือนแม่ มันเลือกไม่ถูกหรอก…ชอบหมด” แจ๊คพี่ชายเป็นคนตอบ

            “อ้าว! ไอ้นี่เดี๋ยวมึงโดน” ป้าเย็นใจหันไปด่าลูกชายคนโตแทน      พวกเขาอยู่ช่วยป้า ทำขนมอีกพักใหญ่ ลูกชายคนเล็กของป้าหยิบการบ้านมานั่งทำแก้เขิน แต่สายตาเด็กชายคอยแต่แอบมองสาวๆ พริมาหันไปยิ้ม    หล่อนเดินไปนั่งข้างๆ เด็กชาย

            “อยู่ป. ไหนแล้วครับ?” พริมาชวนคุย เด็กชายมองยิ้มๆ กลับมา

            “ป.1” เจมส์ตอบยิ้มๆ ยามาเดินตามมาสมทบ...เด็กนี่น่ารักดีแฮะ

            “ทำการบ้านเหรอครับ? ให้พี่ช่วยสอนไหมครับ?” พริมาอาสาและเด็กชายพยักหน้า คเชนทร์เดินถ่ายรูปขนมต่างๆ อย่างตั้งใจ ส่วนยามานั้น  นั่งลงตรงข้าม ดูพริมาสอนเด็กชายอย่างสนใจ นพคุณได้ยินแล้ว เขาขยับตัวมาใกล้ๆ เพื่อให้ได้ยินชัดๆ

            “ถ้านักเรียนมีส้มอยู่ห้าผล มีเพื่อนมาขอส้มไปสามผล นักเรียนจะเหลือส้มอยู่กี่ผล?” เจมส์อ่านโจทย์การบ้านคณิตศาสตร์ที่เขากำลังทำให้    พริมาฟัง พออ่านจบเด็กชายเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวคนสวยอย่างสงสัยว่าจะตอบอย่างไรดี

            “อืม...เด็ก ป.1 เรียนยากขนาดนี้แล้วเหรอ?” พริมาพึมพำ

            “เจมส์ชอบกินส้ม...” เด็กชายยิ้มบอก เมื่อเห็นหน้าพี่สาวที่ตอนนี้กำลังทำหน้ายุ่งเพราะคิดหนัก

            “พี่ก็ชอบค่ะ” พริมายิ้มตอบ...การบ้านของเจมส์ยากจังเด็กสาวคิดในใจ
            “เพื่อนขี้หวงไม่เคยแบ่งขนมเจมส์กินเลย เจมส์ไม่อยากให้อ่ะ”
                “นั่นสิ! ขอไปตั้งสามผล เหลือไว้กินเองแค่สอง” พริมาทำหน้าสงสารเจมส์ ถ้าเจมส์ให้ส้มเพื่อนแสดงว่าเขาใจดีมาก เพราะเขาให้ส้มเพื่อนมากกว่าเก็บไว้กินเองเสียอีก

            “งั้นเจมส์ไม่ให้ได้ไหมครับ?” เด็กชายขอความเห็น

            “แต่ถ้าไม่ให้เลยเราก็จะดูใจร้าย แล้วครูก็จะว่าเราขี้หวงรึเปล่า?”   พริมาเป็นกังวล หล่อนไม่อยากสอนให้เจมส์กลายเป็นเด็กขี้หวง

            “งั้นเจมส์แบ่งให้เพื่อนลูกหนึ่งนะครับ เก็บไว้เองสี่ลูก...สี่ลูกเจมส์   จะเอามาแบ่งให้แม่กับพี่แจ๊คคนละลูก” เด็กชายยิ้มภูมิใจที่เขาแก้ปัญหาได้

            “งั้นสุดท้ายแล้วเจมส์จะเหลือส้มกินเองกี่ผลคะ ไหนบอกพี่สิ?”

“มีอยู่ห้า” เด็กชายทำมือตาม

                “ให้เพื่อนแค่หนึ่ง...เหลือสี่ ให้แม่หนึ่งพี่แจ๊คหนึ่ง...เหลือสองลูกครับ!”

            “ถูกต้องค่ะ! เขียนตอบไปเลยว่าสองผล” พริมายิ้มกับความสำเร็จที่หล่อนกับเจมส์ช่วยกันแก้ปัญหาโจทย์เลขที่แสนยากได้ ยามาตาเหลือก      แม้คำตอบจะถูก แต่วิธีคิดมันไม่ใช่เลย ให้ตายสิ! หล่อนชะโงกมาดู ดีเท่าไหร่ที่โจทย์ไม่ได้บอกให้แสดงวิธีทำหรือหาที่มาที่ไป แค่ให้เขียนคำตอบเฉยๆ ข้อนี้ได้คะแนนไปเพราะโชคช่วยแท้ๆ แต่หล่อนยังไม่อยากขัด...โอกาส เราต้องให้โอกาส! ลองดูอีกสักข้อสองข้อค่อยตัดสิน

                “มีไก่เจ็ดตัวอยู่ในเล้า ขายไก่ไปสามตัว เหลือไก่ในเล้ากี่ตัว” พริมาห่อปาก หล่อนเลี้ยงไก่และไม่มีทางเด็ดขาดที่หล่อนจะขายไก่กิน

            “เจมส์ยังไม่เคยเลี้ยงไก่เลย”เด็กชายนึกถึงโจทย์การบ้านคณิตศาสตร์ ที่บอกว่ามีไก่และมีเล้า

            “พี่มีค่ะ มันน่ารักมากเลย และฟังภาษาคนรู้เรื่องด้วย” พริมาเล่าถึงไก่แจ้นพคุณของหล่อน พร้อมเอารูปในมือถือให้เด็กชายดู...พูดแล้วก็คิดถึงไก่แจ้ของหล่อนเหลือเกิน

            “น่ารักจัง...งั้นเจมส์ไม่ขายดีกว่าเก็บไว้หมดนี่แหละ” พริมาพยักหน้าเห็นด้วย...เจมส์ช่างเป็นเด็กที่จิตใจดีจริงๆ

            “งั้นคำตอบก็เหลือเจ็ดตัวใช่ไหมครับ?” เด็กชายถามตาใส

            “ใช่ค่ะเหลือครบเจ็ดตัวเลย...ใครจะไปขายลงเน๊อะ” พริมาพยักหน้า การบ้านข้อนี้หล่อนไม่ชอบใจเลย ถ้าหล่อนมีไก่อีก...นพคุณเจ็ดตัว! หล่อนต้องมีความสุขมากแน่ๆ คเชนทร์ที่ตอนนี้ถ่ายรูปจนหนำใจเดินมาสมทบ      เขานั่งลงข้างเด็กชาย...ที่อีกข้างคือพริมาและฝั่งตรงข้ามคือยามา ส่วนนพคุณ...เขายืนฟังอยู่นานแล้ว แต่ผู้มาใหม่นั้นมาไม่ทันสองข้อแรก เขาวางกล้องในมือลงและร่วมฟังพริมาแก้โจทย์เลขข้อที่สาม

            “ขอเงินแม่มาสามบาท ขอยายสองบาท ขอพี่ห้าบาท รวมแล้วมีเงินทั้งหมดกี่บาท” เจมส์อ่านโจทย์

            “โห...น้องเจมส์ เอายังไงดี สมัยนี้ของแพงซะด้วยได้เงินมาสิบบาท   จะพอไหมนะ?” นพคุณเลิกคิ้ว...พริมาคิดคำตอบให้เสร็จสรรพ แต่หล่อนไม่รู้หรือว่านั่นคือคำตอบ!?

            “สิบบาทไม่พอหรอก เจมส์ขอแม่ทีละยี่สิบ ยายก็ตายไปแล้ว...ส่วนพี่แจ๊คก็ไม่ให้หรอก บางทีพี่แจ๊คก็มาเอาตังค์เจมส์ไปด้วย” เด็กชายฟ้องว่าพี่ชายแย่งเงินเขา

            “เฮ้ย! ไอ้เจมส์...ข้าไม่เคยเอาตังค์เอ็งนะเฟ้ย! แถมบางทีข้าก็ให้ตังค์เอ็งกินหนมด้วย อย่ามาใส่ร้าย” แจ๊คที่อยู่แถวนั้นได้ยินพอดี เจมส์แค่ยักไหล่ เขาไม่อยากเถียงกับพี่ชาย เพราะเถียงด้วยทีไรหัวทิ่มทุกที

            “งั้นเจมส์ตอบยี่สิบบาทนะครับ เจมส์จะขอเงินแม่ยี่สิบบาท” เด็กชายหมายมั่น และดูท่าว่าเขาจะไปขอเงินแม่มาจริงๆ

            “แล้วแต่น้องเจมส์เลยจ๊ะ อ่ะ! พี่ให้อีกยี่สิบ” พริมาล้วงเงินในกระเป๋าสตางค์ส่งให้เด็กชาย เด็กชายยิ้มร่ายกมือไหว้หล่อนแล้วรีบรับเงินเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเองอย่างไว เขาลบคำตอบแล้วเขียนใหม่

                “สี่สิบแหน่ะพี่! ขอเงินมาได้ตั้งสี่สิบบาท” เขาหันมาบอกพริมาอย่างสดใส เด็กชายยิ้มดีใจ...วันนี้เขามีเงินไปกินขนมตั้งหลายบาท พริมากับเจมส์นั่งทำการบ้านกันไปจนเสร็จ ยามาต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เพราะหล่อนคันปาก แต่ใจก็อยากดูจนจบ คเชนทร์เอามือปิดปากไม่มองพริมาเลย ตลอดเวลาเขาหันไปทางอื่นแต่หูฟังอยู่ตลอด เขามองไม่ได้ไม่งั้นหลุดแน่ๆ ส่วนนพคุณ...วันนี้เขาทำให้ยามาแปลกใจ เพราะไอ้ขี้เก๊กกำลังยิ้ม...ยิ้มแบบเห็นลักยิ้มชัดเจน    เขายิ้มอย่างเปิดเผย กล้องไอ้เชนก็ปิดอยู่...หยิบมาถ่ายเก็บไว้จะทันไหมนะ?

            “เสร็จแล้ว!!!” เสียงเด็กชายตะโกนดังลั่นบ้านอย่างดีใจ จนป้าเย็นใจต้องหยุดทำขนมหันมามองว่าลูกชายคนเล็กตะโกนเสียงดังดีใจเรื่องอะไร ส่วนสามหนุ่มสามมุมตอนนี้กำลังเอาขนมใส่ถุง...พวกนั้นไม่ได้มาร่วมวงสอนการบ้านด้วย เสียดายจัง...ถ้าไอ้หน้าตี๋มาเห็นว่าสาวน้อยแสนสวยที่มันชอบแอบมองนั้นสวยแต่...นพคุณยังยิ้มไม่หยุดเมื่อคิดถึงตรงนี้

            “นี่มันผิด ผิด ผิด! อ้อ! ถูกข้อเดียว”ยามาเอาการบ้านมาตรวจ พริมากับน้องเจมส์มองยามาเหมือนหล่อนเป็นเด็กเกเรตัวร้ายที่เข้ามาแย่งของเล่นและขนมไปจากมือพวกเขา

            “มันจะผิดได้ยังไง?” พริมายังเถียง หล่อนไม่เข้าใจ การบ้านทุกข้อหล่อนอธิบายได้หมดไม่มีทางผิดแน่นอน

            “ลูกแก้ว...โจทย์นี้มันเป็นเชาว์ไม่ได้ถามความเห็น แค่ต้องตีความออกมาให้ถูกสิว่าที่ถามน่ะบวกหรือลบ ในแต่ละข้อน่ะมันมีแค่บวกหรือลบเท่านั้น ไม่ได้ถามความเห็น ว่าจะให้หรือไม่ให้ได้หรือไม่ได้ ทุกอย่างต้องได้หรือไม่ได้ตามโจทย์เป๊ะไม่ใช่ตามใจเรา” ยามาพยายามอธิบายยืดยาว และหล่อนเห็นด้วยหางตา...ไอ้นพคุณกำลังหัวเราะ

            “ถูกข้อเดียวเองเหรอ?” พริมาครางเสียงแผ่ว หล่อนรู้สึกผิดที่สอนการบ้านน้องเจมส์ผิดเกือบทุกข้อ

            “ข้อเดียว...และบังเอิญด้วย ส่วนวิธีคิดน่ะผิดหมดเลย” ยามายืนยันหนักแน่น หล่อนไม่อยากให้เพื่อนหลงผิด

            “ถ้าพี่เป็นครู...พี่ให้คะแนนเต็มเลย เพราะลูกแก้วมีความคิดสร้างสรรค์ฮ่าๆ” คเชนทร์พยายามปลอบพริมาอย่างเต็มที่ และตอนนี้เขาต้องกลั้นขำอย่างเต็มที่ด้วยเหมือนกัน เอาเข้าจริงหลายข้อพริมาตอบถูก...แต่หล่อนคิดมากไป จนคำตอบที่ได้ออกมานั้นผิดอย่างที่เห็น เจมส์ที่ตอนนี้มีสีหน้าผิดหวังอย่างที่สุด เขาเชื่อพริมาและคิดว่าการบ้านที่ทำนั้นถูกแล้ว แต่มันถูกแค่ข้อเดียว! ดีนะที่พี่คนสวยอีกคนช่วยตรวจให้ไม่อย่างนั้นถ้าเขาเอาการบ้านนี่ส่งครูที่โรงเรียนต้องโดนครูว่าแน่ๆ

                “มาพี่สอนเอง” ยามาขันอาสา และหล่อนเริ่มต้นสอนเจมส์ใหม่ตั้งแต่ข้อแรก พริมานั่งฟังอย่างตั้งใจ บางข้อหล่อนพยักหน้าและพึมพาเบาๆ ว่าหล่อนรู้อยู่แล้ว...ยามาสอนการบ้านให้เจมส์ใหม่ และเด็กชายดูจะเข้าใจได้ดีทีเดียว จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือในมือพริมาดังขึ้น...ปรากฏหน้าจอเป็นรูปภารดี

            “ค่ะแม่...อ่อค่ะ ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” พริมาหันมาบอกว่าภารดีกับ    คุณนพรักษ์กำลังจะเช็คเอาท์ ให้ทุกคนรีบกลับไปเก็บของ พวกหล่อนเลยไปลาป้าเย็นใจและสามหนุ่ม รวมถึงลูกศิษย์คนใหม่ของยามา (คนเก่าของพริมา) สามหนุ่มและเด็กชายเดินมาส่งพวกเขาถึงโฮมสเตย์ (ที่บ้านห่างกันสามหลัง) พวกเขาช่วยกันขนขนมที่พวกพริมาซื้อไว้เป็นของฝาก และขนมที่ป้าเย็นใจแถมอีกถุงใหญ่มาส่งให้ และยังมีน้ำใจช่วยขนไปไว้ที่ท้ายรถอีกด้วย        ภารดีควักเงินหนึ่งร้อยบาทให้น้องเจมส์ เด็กชายยกมือไหว้ยิ้มชอบใจ

            “ตกลงเลือกได้ยังว่าชอบคนไหน?” คเชนทร์ยังแซวเด็กชายอยู่ เรียกเสียงหัวเราะจากพี่ๆ ที่ขำท่าทางเขินอายม้วนของเขาได้ดีทีเดียว

            “คนนี้” เด็กชายชี้ไปที่ยามา ทุกคนแปลกใจเพราะตอนแรกเขาไปยืนแอบดูพริมาด้วยท่าทางเขินอายอยู่ตั้งนาน ไหงมาเปลี่ยนใจเอาตอนสุดท้าย อยู่ๆ ก็มาเปลี่ยนตัวนางเอกแบบนี้...คนดูงงตามไม่ทัน

            “อ้าว! ไอ้เจมส์ ทำไมเปลี่ยนใจวะ?” พี่ชายถาม...น้องชายเขานี่มันเจ้าชู้จริงๆ

            “เจมส์ชอบผู้หญิงสวยและฉลาด...ไม่เอาผู้หญิงสวยแต่โง่” เด็กชายพูดจบก็หัวเราะร่าวิ่งกลับบ้าน พริมาเผลอทำปากยื่น...ตอนนี้หล่อนอยากเอาเงินยี่สิบบาทคืน...เอาคืนมาเลย คนอื่นได้ยินเด็กชายพูดก็ขำกันยกใหญ่        ยามาเหลือบไปมองไอ้ขี้เก๊ก...นพคุณแจกยิ้มอีกแล้ว...เขายิ้มอย่างเปิดเผยและไม่คิดจะปิดบัง ยามาเห็นหมอนั่นเดินยิ้มไปตลอดทาง จนขึ้นไปนั่งบนรถนั่นแหละ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา