โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  113.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

108) ใต้แสงจันทร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ฟิโลโซเฟอร์ตื่นขึ้นกลางดึก   เขาพบว่าดารีลที่นอนข้างๆ นั้นหายตัวไป   แสงจันทร์สีเงินสาดส่องผ่านกรอบหน้าต่างที่เปิดกว้าง   ทาบทับลงบนเตียงที่ว่างเปล่า

 

เด็กชายตัวน้อยมองไปรอบๆ ห้อง   ไฟสีฟ้าจากเวทมนตร์ของดารีลยังสว่างไสว   ทั่วทั้งห้องจึงอบอุ่นอย่างทั่วถึง   ในขณะที่คนอื่นกำลังหลับใหล   คนผู้หนึ่งได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย  

 

ฟิโลโซเฟอร์รู้สึกขุ่นใจ   พ่อมดน้อยคนนั้นหายไปไหนกัน   จริงอยู่คนอย่างดารีลคิดจะไปก็ไปคิดจะมาก็มา   แต่การที่หายไปกลางดึกเช่นนี้   อีกทั้งอาการป่วยก็ยังไม่หายดี   ครั้งนี้จึงดูเป็นการเกินไปหน่อย

 

เด็กชายเดินสำรวจไปรอบๆ บ้านก็ไม่พบแม้เงา   แต่คิดดูดีๆ หนุ่มน้อยคนนั้นจะไปที่ไหนได้   ในเมื่อประตูแห่งโอรีเวียปิดไปนานแล้ว   เขากลับเข้าไปในเมืองเวลานี้ไม่ได้แน่   ต่อให้มีปีกบินก็ตามที   เด็กชายตัวน้อยเดินกลับมายังห้องรับแขกที่ใช้เป็นที่นอนชั่วคราว   คทาของดารีลก็ไม่อยู่ที่นั่น   เขาคงถือติดมือออกไปด้วย  

 

ไฟในเตาที่โหมลุกอย่างสม่ำเสมอ   ทำให้ฟิโลโซเฟอร์อุ่นใจได้บ้าง   พลังของพ่อมดน้อยคงฟื้นคืนมาพอสมควรแล้ว   อย่างน้อยถ้าต้องเจอกับสิ่งไม่คาดคิด   เขาคงพอปกป้องตัวเองได้

 

เด็กชายมองไปที่หน้าต่างที่เปิดกว้าง   แล้วความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัว   ดารีลเคยแอบหลบออกจากบ้านโดยการปีนลงทางหน้าต่าง   บ้าจริง   นี่บ้านของเขาแท้ๆ ถ้าอยากออกไปก็แค่เปิดประตู   ใครจะว่า

 

ฟิโลโซเฟอร์โหนตัวออกทางหน้าต่าง   ห้องที่เขาอยู่มันคือชั้นล่าง   จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร   อากาศข้างนอกนั้นเย็นเยือก   แต่พระจันทร์เต็มดวงที่กระจ่างฟ้าทำให้บรรยากาศไม่ได้มืดมิด  

 

เสียงหอนของหมาป่าดังแว่วมาตามลม   เด็กชายชาวซีนาร์ยนั้นคุ้นชินกับสิ่งเหล่านี้จึงไม่นึกหวาดกลัวอะไร     

เขาเดินไปรอบๆ บริเวณบ้านจนไปถึงบึงน้ำสีเขียว   ใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่น   ร่างเงาสีดำตัดกับแสงจันทร์ดูลึกลับน่าค้นหา

 

“ ดารีล ”

 

ฟิโลโซเฟอร์เรียกพลางวิ่งเข้าไปหา

หนุ่มน้อยทำสัญญาณให้เบาเสียง

 

“ เสียงของเจ้าน่ะ   ดังพอที่จะปลุกมังกรทั้งหุบเขาเลยทีเดียวเชียว ” 

 

“ ใครใช้ให้เจ้าแอบออกมาโดยไม่ชวนข้าล่ะ   ข้างนอกมีหมาป่าเจ้าไม่กลัวหรือ ”

 

เด็กชายขู่

 

ดารีลไม่ตอบว่ากระไร

เขานั่งลงแล้วเอื้อมมือไปในบึง

 

แม้คำสาปจะผ่านพ้นไปแล้ว

แต่อากาศที่เย็นจัดของฤดูหนาวทำให้บึงแห่งนี้คงสภาพเป็นแผ่นน้ำแข็ง

 

“ อยากหาปลาหรือไง   ข้าว่าเวลานี้ไม่เหมาะนะ   กลับเข้าบ้านเถอะเจ้ายังป่วยอยู่ ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ว่า

แต่พ่อมดน้อยกลับก้าวพรวดลงไปในบึง

 

“ หยุดนะดารีลเจ้ากำลังจะตกน้ำ ”

 

เด็กน้อยรู้สึกตกใจมาก

เขาไม่คิดว่าคนอย่างดารีลจะกล้าเล่นพิเรนทร์ได้ขนาดนี้

 

“ แผ่นน้ำแข็งนี่หนามาก   เจ้าจะตื่นเต้นไปเพื่อ ”

 

หนุ่มน้อยย้อน

 

“ ส่งมือมานี่ก่อนที่แผ่นน้ำแข็งจะแตก   ท่านแม่เคยบอกว่าถ้าตกลงไปแล้วหาช่องเดิมไม่เจอ   เจ้าจะต้องตายเพราะติดอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง   หนาวตายมันทรมานมากนะ ”

 

“ มันก็จริงแต่เป็นบางส่วน   ข้าบอกแล้วว่าน้ำแข็งนี่หนาพอ   ดังนั้นไม่มีคนตกน้ำในคืนนี้อย่างแน่นอน ”

 

ไม่พูดเปล่าเขายังถอยหลังลึกเข้าไปเรื่อยๆ

 

“ หยุดเถอะนะดารีล   ข้าน่ะยังว่ายน้ำไม่เป็น   งานนี้คงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ ”

 

เด็กชายอ้อนวอน

 

ดารีลจึงยื่นปลายคทามาให้เด็กชายจับไว้

แต่แทนที่เขาจะกลับเข้าฝั่ง

 

กลับออกแรงดึงฟิโลโซเฟอร์เข้าไปในบึงด้วย

อารมณ์ตกใจทำให้เขาคว้าร่างของดารีลมากอดไว้

 

“ เจ้าเด็กปัญญานิ่ม ”

 

คนอายุมากกว่าทำเสียงดุ

ฟิโลโซเฟอร์จึงนั่งลงลองเอากำปั้นทุบแผ่นน้ำแข็ง

 

“ บ้านเดิมของเจ้าอยู่ซีนาร์ยมิใช่หรือ   ถ้าจำไม่ผิดมันมีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน   ในฤดูหนาวแหล่งน้ำทุกแห่งย่อมกลายสภาพเป็นน้ำแข็ง   อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่เคยลงไปเล่นในแม่น้ำนั่น   มันเป็นเรื่องสนุกที่ใครๆ ก็ทำกัน ” 

 

ดารีลว่า

 

“ ถ้าเจ้าเคยเห็นแม่น้ำครายเจ้าจะไม่พูดแบบนี้   แม่น้ำสายนั้นไหลเชี่ยวกรากมาก   ท่านแม่ไม่ยอมให้เข้าไปใกล้อย่างแน่นอน   ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูหนาวก็ตามที ”

 

พ่อมดน้อยทำเสียงบางอย่าง

ที่ยากจะฟังออกว่าเป็นเสียงหัวเราะหรือเสียงสำลัก

 

เขาถอยออกห่างจากฟิโลโซเฟอร์แล้วเริ่มไถลไปบนน้ำแข็ง

เด็กชายได้แต่ยืนมอง

แสงจันทร์ที่สะท้อนกับเกล็ดน้ำแข็งนั้นส่องประกายงดงามมาก

 

ความเชื่อเกี่ยวกับดารีลนั้นเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย

ตอนแรกเขาคิดว่าดารีลนั้นถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี

 

ฝึกให้อยู่ในระเบียบอย่างเคร่งครัด

ทั้งความคิดและการกระทำต้องอยู่ในกรอบเสมอ

 

แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นได้เปลี่ยนไป

วัยเด็กของพ่อมดน้อยคนนี้คงซนได้เรื่องเลยทีเดียว

 

ดารีลนั้นหมุนตัวอยู่รอบๆ เด็กชาย

เขาทั้งรวดเร็วและมั่นคง

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่เคยลื่นล้ม

 

ฟิโลโซเฟอร์นึกสนุกจึงไถลตามไปบ้าง

จากช้าๆ แล้วจึงค่อยๆ เร็วขึ้น

 

ทั้งคู่เล่นสนุกด้วยกันโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดบนโลก

นอกจากพื้นน้ำแข็ง

แสงจันทร์

และช่วงเวลาดีๆ

 

เด็กชายชาวซีนาร์ยนั้นสนุกจนลืมระวัง

เขาไถลตัวเร็วเกินไปจนเกือบจะล้มหัวฟาด

 

ดารีลพุ่งเข้ามาด้วยความตั้งใจจะคว้าเอาไว้

แต่เด็กชายนั้นเข้าใจผิดคิดว่าเพื่อนรักกำลังจะล้ม

 

จึงกลายเป็นว่าเขาดึงเอาหนุ่มน้อย

ให้ล้มลงมาบนร่างของเขา

 

“ ให้ตายสิ ”

 

คนอายุมากกว่าอุทาน

 

“ ขอโทษที   ข้าไม่ได้ทำเจ้าเจ็บใช่ไหม ”

 

“ ช่างเถอะ   ข้าต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษ   ที่ชวนเจ้าเล่นอะไรแบบนี้   ทั้งที่รู้ดีว่าเจ้าทึ่มแค่ไหน ”

 

ดารีลว่าพลางพลิกตัวลงไปนอนข้างๆ

เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไร

 

“ พระจันทร์คืนนี้งดงามจริงๆ เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาถึงโอรีเวีย   ที่ข้าได้เห็นว่าพระจันทร์ในต่างถิ่น   ก็สามารถเปล่งประกายได้ขนาดนี้ ”

 

หนุ่มน้อยพูด

เขานอนหงายมองดวงจันทร์ตรงๆ

 

“ คงเพราะคืนนี้เจ้าอยู่นอกเมือง ”  

 

ฟิโลโซเฟอร์ว่า

 

“ ที่ซีนาร์ยพระจันทร์ก็สวยงามไม่น้อย   ถ้าเจ้าชอบบรรยากาศแบบนี้เชื่อได้เลยว่า   เจ้าจะต้องชอบบ้านเดิมของข้า   เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน   หากว่าเจ้ายังหาทางกลับบ้านไม่เจอ   ไปอยู่บ้านของข้าก่อนก็ได้ ” 

 

ทันใดก็มีเสียงหมาป่าหอนขึ้นอีก

และมันดังไกล้เข้ามา

 

“ มีคืนหนึ่งเมื่อนานแสนนานมาแล้ว ”

 

ดารีลพูดไปเรื่องอื่น

 

“ ข้านอนชมจันทร์อยู่บนพื้นน้ำแข็ง   ที่ริมตลิ่งของแม่น้ำ   ปรากฏร่างหมาป่าขนาดใหญ่สองตัว   มันนั่งอยู่ตรงนั้นและจ้องมองมาที่ข้า   ขนสีเงินสะท้อนกับแสงจันทร์งดงามยิ่งนัก   ในตอนนั้นข้าตั้งความหวังไว้ในใจ   ว่าโตขึ้นข้าจะต้องเป็นหมาป่าให้ได้ ” 

 

มี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยถึงเรื่องราวในวัยเด็กกับผู้อื่น 

 

“ บ้าไปแล้ว ”  

 

ฟิโลโซเฟอร์อุทานตาโต

 

“ ก็แค่ความคิดของเด็กคนหนึ่ง   เจ้าจะตกใจทำไม ” 

 

“ ไม่มีใครเคยเตือนเจ้าหรืออย่างไร   ว่าหมาป่าน่ะคาบเด็กตัวเล็กๆ ไปฉีกเนื้อกินได้   โชคดีแค่ไหนแล้วที่เจ้ารอดมา ”

 

“ สัตว์ป่ามักจะล่าเมื่อหิว   มันไม่เหมือนมนุษย์หรอก ”

 

คนอายุมากกว่าว่า

 

“ แล้วเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่า   มันไม่ได้หิว   จนอยากกลืนเจ้าลงไปทั้งตัว ”

 

ดารีลไม่ตอบ

เขาหันไปให้ความสนใจกับพระจันทร์เต็มดวงนั้นต่อ

 

พระจันทร์คืนนี้สวยที่สุดอย่างนั้นหรือ

เด็กชายนึก

 

ไม่จริงหรอก

ยังมีสิ่งอื่นที่งามวิจิตรกว่าอยู่ตรงนี้

 

ไม่ไกลเลย

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา